ตอนที่736
แต่ว่าในฐานะะผู้ใหญ่เขาก็แก้ปัญหาแบบผู้ใหญ่ไม่ใช่เพราะเรื่องแบบนี้แล้วจะไม่สนใจเธอ
โมรีบอก “ตอนที่คุณธามนิธิโกรธมันคงน่ากลัวมากเลยสินะ? ฉันเห็นหน้าตาเขาเหมือนโหดๆมากล้าไปพูดด้วยเลย”
“……” ปาณีนึกถึงคุณอา “ไม่ใช่มั้ง? เขาดูโหดขนาดนั้นเลย?”
เธอรู้สึกว่าธามนิธิถือว่าคุยง่ายมากแต่ว่าแค่บางครั้งก็จะโหดหน่อย
โหด…….ที่ไหน?
โมรีบอก “ฉันได้ข่าวว่าที่เวทัสไปต่างประเทศเพราะคุณธามนิธิ”
“คุณอาก็ทำเพื่อเขานั่นแหละ” ถ้าเวทัสยังอยู่ก็มีแต่ทำให้ทุกคนไม่สบายใจ
ธามนิธิตัดสินใจแบบนั้นมันก็ไม่ได้ไม่ดีอะไร
ปาณีก็ไม่ได้รู้สึกว่าเขาทำผิดอะไร
โมรียิ้ม “แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าเขากลัวถ้าเวทัสยังอยู่แล้วไปแย่งเธอกับเขา?”
“…….” ปาณีชะงักแล้วบอก “ฉันไม่ได้ชอบเวทัสสักหน่อยถึงแม้เขาไม่ออกต่างประเทศฉันกับเขาก็ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกก็เลยเวทัสออกไม่ออกมันก็เหมือนกัน”
ไม่ว่าคนอื่นจะคิดยังไงแต่ปาณีก็รู้สึกว่าธามนิธิทำถูกแล้ว
ถึงแม้อาจจะทำเพราะเธอ!
ถึงแม้เวทัสไปต่างประเทศเพราะเธอแล้วมันจะมีปัญหาอะไร?
ก็แค่เพราะธามนิธิเป็นห่วงเธอมากกว่า
โมรีพูดกับปาณี “แล้วช่วงนี้เธอได้ติดต่อกับเวทัสไหม?”
ถึงแม้เขาอยู่เมืองนอกแต่เวทัสก็ติดต่อกับคนในทีมตลอด
ปาณีเขย่าหัว “ไม่อ่ะ”
หลังจากที่เวทัสไปเธอก็ไม่ได้ไปถามเรื่องของเขาอีกเลย
ถึงแม้ตอนนั้นที่เขาอยู่เมืองชยุตปาณีก็ไม่ค่อยสนใจเขาอยู่แล้ว
เธอกับเวทัสเป็นคนละโลกตั้งนานแล้วเธอไม่อยากเสียเวลากับเขาอีก
ใครให้เธอเป็นคนขี้แค้นแบบนี้ล่ะ!
คนที่เคยทำร้ายเธอ เธอจำได้ตลอด
“ดูเหมือนเธอไม่มีเยื่อใยอะไรกับเขาจริงๆแล้ว” โมรีถอดหายใจ
ปาณีพูดอย่างนิ่งๆ “เรื่องความรู้สึกพอมันผ่านไปนานๆเธอก็จะลืมได้เองตอนนี้เธอมีชยรพพอผ่านไปสักพักเธอก็จะลืมเวทัสแล้วแหละ”
คำพูดของปาณีทำให้โมรีชะงักแล้วนึกถึงเวทัส……
อาจจะเป็นเพราะเธอไม่เหมือนปาณีทำเลยให้จนถึงตอนนี้เธอก็มักจะนึกถึงเขาบ่อยๆ
วันนี้นลิน มีสุวรรณ์ก็มาโรงเรียนหลังจากที่แต่งงานกับปิยพนธ์เขสก็จับตามองเธอตลอดขนาดเธอแค่ออกไปข้างนอกแป๊บเดียวเขาก็คิดว่าเธอไปมีคนอื่น
เธอเลยจำเป็นต้องใช้ข้ออ้างว่าไปทำงานจะได้ออกมาบ้าง
ตอนนี้เธอนั่งอยู่ในห้องทำงานมีอาจารย์ที่ไม่ได้เจอเธอมานานก็มาถาม “อาจารย์นลินมาโรงเรียนแล้วหรอ?”
นลิน มีสุวรรณ์พยักหน้า “อือ”
ช่วงที่นลิน มีสุวรรณ์ไม่ได้มาโรงเรียนในโรงเรียนมีข่าวด้านลบของเธอเยอะพอตอนนี้อาจารย์พวกนี้มาเจอหน้าเธอก็ยิ้มอย่างมีนัย
นลิน มีสุวรรณ์ทำงานที่โรงเรียนนี้ก็นานพอสมควรแล้ว
อาจารย์ที่รู้จักเธอก็มักจะอิจฉาเธอเพราะเธอทั้งสวยทั้งรวย
แต่ว่าช่วงนี้ได้ข่าวว่านลิน มีสุวรรณ์แต่งงานกับลูกชายบริษัทบลูบิค
ปิยพนธ์ทุกคนก็รู้จักหน้าตาธรรมดาแต่ปกติก็หลายใจอีก
มีแฟนเยอะแยะแถมยังมีข่าวลือไม่น้อย
ตอนนั้นนลิน มีสุวรรณ์เกือบได้แต่งเข้าบ้านวิสิทธิเวชแต่ตอนนี้กลับอยู่กับปิยพนธ์ทุกคนก็รู้สึกมันตลกดี
“อาจารย์นลินไม่เลี้ยงลูกอมลูกกวาดมงคลหน่อยหรอ”
คำว่า ‘ลูกอมลูกกวาดมงคล’ ทำเอาหน้านลิน มีสุวรรณ์อึ้ง
ตอนนี้ในใจเธอคิดแต่จะหย่าจะไปมีอารมณ์เลี้ยงเขาได้ยังไงกัน?
ตอนที่737
ในสานตาเธอปิยพนธ์ไม่เหมาะที่จะเป็นสามีเธอเลยด้วยซ้ำ
เธอปฏิเสธ “วันหลังค่อยว่ากัน”
“อะไรคือวันหลังค่อยว่ากัน? ในชีวิตก็แต่งงานแค่ครั้งเดียวจะไปมีวันหลังได้ไง?”
นลิน มีสุวรรณ์ลุกขึ้นอย่างน่ารำคาญ “ฉันมีธุระ”
แล้วเดินออกจากห้องทำงาน
ในห้องทำงานก็มีแต่คนปากร้ายตอนนี้นลิน มีสุวรรณ์ไม่อยากไปตีสนิทกับเขาเธอรู้สึกว่าเธอเป็นแบบนี้มีแต่คนค่อยหัวเราะเยาะเธอ
เธอพึ่งออกจากห้องทำงานก็ได้รับข้อความจากปิยพนธ์ “กลางคืนไปกินข้าวกับพ่อแม่ฉันเดียวฉันไปรับเธอ”
เห็นน้ำเสียงราวกับคำสั่งของปิยพนธ์ นลิน มีสุวรรณ์ก็รู้สึกรำคาญ
เธอเดินออกมาแล้วมองทางเดินบันไดอย่างสับสนมองลงไปชั้นล่าง
ก็เห็นปาณีพอดี
ปาณีกำลังคุยกับผู้ช่วยปรึกษาใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
นลิน มีสุวรรณ์นึกถึงก่อนหน้านี้ที่เธอรู้สึกว่าปาณีดูไม่เด่นแต่ตอนนี้สถานการณ์ของเธอและปาณีต่างกับราวกับฟ้ากับดิน
เธอนึกถึงธามนิธิแล้วนึกถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นเริ่มตั้งแต่ที่ไปทำผิดใส่เขา……
แล้วรู้สึกจะให้ตัวเองอยู่ต่อไปแบบนี้อีกไม่ได้แล้ว
ปาณีพค่งคุยกับผู้ช่วยปรึกษาก็เห็นนลิน มีสุวรรณ์ยืนอยู่ตรงนั้น
ปาณีชะงักแล้วมองไปรอบๆนลิน มีสุวรรณ์ก็ไปแล้ว “ไม่ต้องมองแล้วฉันมาหาเธอเอง”
ปาณีมองเขาอย่างระแวง “เธอมาหาฉันทำไม?”
มาจนถึงป่านนี้อย่าบอกนะว่านลิน มีสุวรรณ์ยังอยากมาหาเรื่องเธออีก?
ถึงเป็นแบบนั้นปาณีก็ไม่กลัว
เมื่อก่อนก็ไม่กลัวตอนนี้ก็ยิ่งไม่กลัว
เธอกลับหวังอยากรู้ว่านลิน มีสุวรรณ์จะทำเรื่องอะไรขึ้นอีกถึงตอนนั้นคงได้รับผลกรรมเอง
นลิน มีสุวรรณ์มองปาณี “น่าเบื่ออยากคุยกับเธอสักหน่อย”
ถึงแม้วันนี้นลิน มีสุวรรณ์จะแต่งหน้าแต่ปาณีดูจากสายตาเขาก็ดูออกว่าเขาเหนื่อยมาก
เธอยืนอยู่กับที่รอนลิน มีสุวรรณ์เดินมาหา
นลิน มีสุวรรณ์พูดกับปาณี “ช่วงนี้กับธามนิธิเป็นยังไงบ้าง?”
“……เธอก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ?”
ความสัมพันธ์ของเธอและคุณอาเธอไม่เขื่อว่านลิน มีสุวรรณ์จะไม่รู้
ข่าวของนลิน มีสุวรรณ์มาเร็วตลอดแถมยังรู้เรื่องบ้านวิสิทธิ์เวชดี
ก็เลยเขาถามแบบนี้ก็แค่ถามมากไปหน่อย
นลิน มีสุวรรณ์มองปาณีอย่างเย็นชา “ปาณีเห็นเธอแบบนี้ฉันก็อิจฉาเธอนะ”
“ไม่กล้า” ปาณีพูดอย่างเกรงใจ “ก่อนหน้านี้อาจารย์นลินเคยว่าอะไรฉันบ้างฉันจำได้หมดคุณเป็นคุณหนูของบ้านมีสุวรรณ์แถมสวยขนาดนี้ฉันเอาอะไรไปเทียบกับคุณ?”
เมื่อนลิน มีสุวรรณ์เคยว่าอะไรเธอบ้างปาณีจำได้หมด
แล้วตอนนี้มาพูดแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกประชดมาก
นลิน มีสุวรรณ์บอก “เมื่อก่อนฉันไม่ดีเองฉันผิดไปแล้วเธอดูฉันตอนนี้สิได้รับผลกรรมแล้ว”
ทีแรกอยากแต่งงานกับคนที่ดีที่สุดในโลกสุดท้ายเป็นยังไงล่ะ?
ขนาดคนในบ้านยังไม่ยอมช่วยเธอ
ปาณีไม่ได้ตอบ
เธอไม่รู้สึกว่านลิน มีสุวรรณ์ได้รับผลกรรมอะไร
สำหรับปาณี ปิยพนธ์ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
น้านลินมาพูดแบบนี้เป็นเพียงเพราะเขาวางกำหนดสูงเกินไป
นลิน มีสุวรรณ์ก้มหัวลงมองเงาตัวเอง “ฉันอยากหย่ากับปิยพนธ์
“อันนี้ก็เป็นเรื่องของเธอเธอมาพูดกับฉันทำไม? เหมือนพวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นนะ?” ปาณีรู้สึกยุ่งเหยิง
นลิน มีสุวรรณ์มองปาณีแล้วขอ “ฉันสัญญาว่าคราวหลังฉันจะไม่มาหาเรื่องเธออีกและไม่ไปทำเธออีกเธอช่วยไปคุยกับธามนิธิหน่อยได้ไหม? ฉันอยากหย่าตอนนี้เขาทำแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายมาก”
ตอนที่738
“เธอไปพูดกับคุณอาเอง” ปาณีไม่อยากไปยุ่งเรื่องของพวกเขาและเธอก็ไม่มีสิทธิ์
คุณเกลียดนลิน มีสุวรรณ์มากเธอไม่อยากไปทำให้คุณอาไม่สบายใจ
และอีกอย่างเธอจะช่วยนลิน มีสุวรรณ์ทำไม? ช่วยคนที่เคยดูถูกเธอและคุณอางั้นหรอ?
“ปาณี” นลิน มีสุวรรณ์มองเธอ “หรือจะต้องให้ฉันตายเธอถึงจะมีความสุข? พวกเธอต้องบังคับให้ฉันไปสุดทางแบบนี้เลยหรอ?”
พูดถึงตรงนี้นลิน มีสุวรรณ์น้ำตาก็ไหลลงมาราวกับโดนเอาเปรียบมาก
ปาณีมองเขาที่เป็นแบบนี้ก็รู้สึกถึงนลิน มีสุวรรณ์ตายเธอก็คงไม่มีความสุข
ชีวิตเป็นของที่มีค่าที่สุดในโลกนี้ปาณีไม่อยากเห็นใครตายสักคน
แต่เธอไม่ได้โง่จนถึงขั้นที่ฟังคำพูดพวกนี้แล้วไปช่วยนลิน มีสุวรรณ์
เธอมองนลิน มีสุวรรณ์ “ฉันให้เธอไม่ตายหรือไง? ไม่ใช่สักหน่อย!”
“แต่ว่าตอนนี้ฉันทรมานมากเลยนะ” นลิน มีสุวรรณ์พูดอย่างเศร้า “เธอรู้ไหมว่าใช้ชีวิตกับคนที่ไม่รักมันทรมานขนาดไหน?”
”อาจารย์นลินเคยชอบใครจริงจังตอนไหน?” ปาณียิ้ม “เธอเป็นคนที่หวังผลดีก่อนไม่ใช่หรือไง? ยังไงในใจเธอก็ไม่เคยชอบใครอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?”
เวลาแบบนี้มาพูดเรื่องความรัก? ฟังแล้วตลอกจริงๆ
นลิน มีสุวรรณ์มองปาณีแล้วยกยิ้ม “ฉันรู้แล้ว”
ยิ้มของเธอดูซับซ้อนปาณีเลยไม่ได้สนใจ
คุยกับนลิน มีสุวรรณ์เสร็จปาณีก็ไปแล้ว
โมรีเห็นปาณีแล้วเป็นห่วง “ไม่เป็นไรใช่ไหม? เขามาหาเรื่องเธอหรอ?”
รู้สึกว่านลิน มีสุวรรณ์ไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่
ปาณีบอก “ไม่ใช่”
ตอนบ่ายปาณีก็ไปที่พักของทีมแข่งพร้อมโมรีแล้วฝากเอาของให้นภันต์แล้วค่อยกลับบ้าน
เธอก้มลงเปลี่ยนรองเท้าหน้าประตูธามนิธิก็เข้ามาจากด้านนอกยืนอยู่หลังเธอ “ปาณี”
ปาณีเอารองเท้าเก็บเข้าไปในตู้แล้วมองเขา “วันนี้คุณอากลับเช้า?”
ธามนิธิบอก “กลับมาเอาของเดียวกลางคืนจะออกไปอีกเธอกินข้าวที่บ้านคนเดียวนะวันนี้อยู่เป็นเพื่อนไม่ได้”
“อือ” ปาณีรู้ว่าเขางานยุ่ง “ที่จริงคุณอาไม่ต้องสนใจฉันก็ได้”
ธามนิธิเอามือวางที่กำแพงแล้วกั้นเธอไว้ “ฉันก็ไม่อยากสนใจเธอแต่ว่า…….ตอนที่ฉันทำงานทุกวันเธอก็มาวิ่งไปมาที่หน้าฉันจะไม่ให้สนใจอยากยากเลย”
“ฉันไปสิ่งไปมาหน้าคุณอาตอนไหน?” ปาณีรู้สึกตลก
ธามนิธิยกคิ้ว “สงสัยเพราะคิดถึงเธอเกินไปเลยมีภาพหลอน?”
“……”
เขามากอดเธอแล้วหอมแก้มเธอหนึ่งที “ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนะ”
ปาณีโดนเขาหอมทีก็แก้มแดงหมด “อือ”
เขายื่นมือมาเอากระเป๋าเธอแล้วช่วยเธอเอาขึ้นไปชั้นบน
ปาณีเข้าไปล้างมือในห้องครัววันนี้น้าลำมุงลางานเธอเลยต้องทำกินเองแป๊บเดียวธามนิธิก็ลงมาแล้ว
เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมองปาณีที่ทำอาหารอยู่ “วันนี้น้าไม่อยู่หรอ?”
“คุณน้าลางาน”
ธามนิธิมากอดเธอจากด้านหลัง “จะออกไปกินที่ข้างนอกไหม?”
เห็นเธอทำอาหารคนเดียวกินข้าวคนเดียวเขาก็รู้สึกเป็นห่วงเธอ
แต่วันนี้เขามีนัดกับคนอื่น
ปาณีบอก “ไม่ต้องแป๊บเดียวก็ทำเสร็จแล้วอีกอย่างถ้าฉันไปกินข้าวข้างนอกคนเดียวก็ยุ่งยากอีก”
เธอยกหัวขึ้นมองเขาแล้วหอมแก้มเขา “คุณอารับๆไปสิฉันอยู่คนเดียวได้ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
ตอนที่ 739
การทำกับข้าวกินเองคนเดียว สำหรับปาณีแล้ว แทบจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลย
เพราะเเบบนี้เอง ธามนิธิถึงขาดเธอไม่ได้
ธามนิธิพูดว่า : “คืนนี้หนูนอนให้เร็วหน่อย เพราะอาอาจจะกลับดึกหน่อย”
”อืม”
หลังจากที่ธามนิธิพูดจบ ก็จากไปเลย
-
กลางคืน เวลาสี่ทุ่มกว่า หลังจากที่ธามนิธิกินข้าวกับเพื่อนเสร็จ เขาก็เตรียมตัวกลับ ขณะที่คิดว่าจะโทรหาปาณี เพื่อถามว่าเธอนอนหลับหรือยังนั้น เขาก็ไม่กล้า เพราะกลัวว่าจะโทรไปรบกวนเธอเวลานอน
หลังจากขึ้นรถ และให้คนขับรถขับกลับบ้านนั้น จู่ๆทัดธนก็โทรมาหาเขาพอดี
เขารับสาย “ฮาโหล”
เสียงหนาใหญ่ของทัดธนดังขึ้นจากโทรศัพท์ว่า : “นลิน มีสุวรรณ์ฆ่าตัวตายแล้ว”
ธามนิธินึ่งอึ้งสักพัก และดวงตาก็ทอดมองออกนอกหน้าต่าง ขณะเดียวกันทัดธนก็พูดต่อว่า : “เข้ากินยานอนหลับมากเกินไป ตอนนี้ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลแล้ว ผมเลยโทรมาแจ้งให้คุณทราบ”
นลิน มีสุวรรณ์ถือว่าเป็นคนร่าเริง การกระทำดังกล่าว ทำให้คนรู้สึกเกินคาดมาก
ทุกคนล้วนคิดไม่ถึง
ที่จริงธามนิธิก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน
เขาคิดอยู่ตลอดว่า คนเห็นแก่ตัวอย่างนลิน มีสุวรรณ์ ทำไหมถึงทำเรื่องประเภทนี้ได้
เขานิ่งเงียบ และวางสายของทัดธนอย่างเงียบๆ
ในโรงพยาบาลมีเสียง”เฟียะ”ดังขึ้น ชัยพรตบหน้าปิยพนธ์อย่างแรง “เจ้าสัตว์เดรัจฉาน แกทำอย่างนี้กับเธอได้ยังไง? ถ้าหากวันนี้เธอตายไป ฉันจะคอยดูว่าแกจะทำยังไง?”
หลังจากที่นลิน มีสุวรรณ์ถูกส่งเข้าโรงพยาบาล หมอก็ได้ตรวจร่างกายของเธอ และทราบเรื่องที่เธอถูกปิยพนธ์ข่มเหงรังแก
เธอเป็นถึงคุณมีสุวรรณ์ของบ้านมีสุวรรณ์ และมีชลธีที่เป็นที่พึ่งบารมี ดังนั้นเลยไม่มีใครหน้าไหนของตระกูชนาทันเลิศกล้ารังแกเธอได้
แต่การกระทำที่ปิยพนธ์ทำลงไปนั้น ทำให้พ่อของเขาโกรธแทบเป็นแทบตาย
ถ้าหากนลิน มีสุวรรณ์ตายจริงๆ ถึงตอนนั้นตระกูลของพวกเขาก็คงหลุดไม่พ้นจากความผิดนี้แน่ๆ
ปิยพนธ์เอาแต่ก้มหน้าก้มตา ปิดปากเงียบ เขาคิดไม่ถึงว่านลิน มีสุวรรณ์จะทำเรื่องแบบนี้ได้
ในใจของเขารู้สึกเคว้งคว้าง ถูกพ่อตัวเองตบหน้า แล้วยังไม่มีโอกาสแก้ตัวให้ตัวเองอีก
-
เมื่อธามนิธิถึงบ้าน ก็พบว่าปาณียังไม่ได้นอน เธอนั่งดูละครในโทรทัศน์อย่างตั้งอกตั้งใจอยู่ เขาเดินเข้ามา และปลดกระดุมเสื้อข้างบนสุดออก และถามว่า : “ทำไหมหนูถึงยังดูโทรทัศน์อยู่?”
”แปบหนึ่งสิ” ปาณีมองหน้าธามนิธิที่กำลังเผยใบหน้าเคร่งเครียดอยู่ “หนูเพิ่งได้ยินมาว่า น้านลินเข้าโรงพยาบาล อารู้เรื่องนี้หรือยัง?”
ปาณีทราบข่าวมาจากชยรพ เขาเป็นคนที่รับรู้ข่าวสารได้เร็วมากจนรู้ไปเสียทุกอย่าง
ธามนิธินิ่งอึ้งสักพัก และมองหน้าปาณี “นี่เป็นเรื่องของเธอ ไม่เกี่ยวอะไรกับหนู อย่าคิดมากเลย”
”ที่จริงวันนี้ที่โรงเรียน เธอมาหาหนู” ปาณีนึกถึงบทสนทนากับนลินออก แต่ในตอนนั้นนึกว่าเธอพูดลอยๆ คิดไม่ถึงจริงๆว่าเธอจะทำเรื่องแบบนั้นขึ้นได้ “เธอขอให้หนูกับอายกโทษให้เธอ เพราะต่อไปเธอจะไม่มารบกวนหนูอีก เธอบอกว่าตอนนี้เธอทุกข์ใจมาก เธอถามหนูว่า ถ้าเธอตายไปหนูจะดีใจ ใช่ไหม ตอนนั้นหนูนึกว่าเธอจะขู่ขวัญหนูเฉยๆ หนูเลยไม่ได้สนใจอะไรเธอ”
ใครจะรู้ว่าเธอจะฆ่าตัวตายจริงๆ
ถึงแม้ยังไม่ตาย แต่ปาณีก็รู้สึกเสียขวัญ
เธอเป็นแค่คนธรรมดา และไม่อยากให้ตัวเองแบกรับความผิดไปตลอด
ธามนิธิเดินเข้ามา และมองใบหน้าของปาณีที่ดูโศกเศร้า จากนั้นเขาก็กอดเธอไว้ในอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัย ทำให้ในใจของปาณีรู้สึกอุ่นใจขึ้นเรื่อยๆ
ธามนิธิพูดว่า : “ไม่เป็นไรนะ อย่าคิดมาก รีบไปนอนเถอะ!”
เขารู้ดีว่าปาณียังอายุน้อย ถ้าหากนลินตายจริงๆ คงส่งผลกระทบต่อจิตใจเธอแน่
อีกทั้งยังกังวลและกลัวว่าเธอจะคิดมากเกินไป
ปาณีนิ่งเงียบ จากนั้นธามนิธิก็ปิดโทรศันท์ แล้วพาเธอเดินขึ้นบันได
ตอนที่ 740
ขณะที่เพิ่งจะเข้าห้อง สายจากชลธีก็โทรเข้ามา “ท่านประธานครับ คุณนลินของตระกูลพวกเราเข้าโรงพยาบาลแล้วครับ”
ธามนิธิพูดอย่างเย็นชาว่า “มีธุระอะไรหรอ?”
”ลูกสาวคนเดียวของผม ถ้าหากเธอตาย ผมก็คงไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้ว” น้ำเสียงของชลธีแฝงความขุนเคือง เขารู้สึกเสียใจภายหลังมาก ก่อนหน้านี้นลิน มีสุวรรณ์เคยบอกว่าอยากหย่า แต่เขาไม่ยอม และบีบบังคับให้เธออยู่กับปิยพนธ์ต่อไป
คิดไม่ถึงว่าเจ้าสัตว์เดรัจฉานปิยพนธ์จะทำกับเธอเกินไปขนาดนี้
ธามนิธิขมวดคิ้ว “แล้วยังไงต่อ?”
”ดังนั้นผมอยากถามว่า พอจะสามารถให้เธอหย่าร้างกับปิยพนธ์ได้ไหม เธอเคยมาหาผมเพื่อคุยเรื่องนี้แล้ว” ชลธีพูดอ้อนวอน : “ท่านประธาน ต่อไปผมจะเลี้ยงดูสั่งสอนลูกสาวของตัวเองให้ดีกว่านี้ ผมขอแค่คุณช่วยปล่อยเธอไปสักคนนะครับ”
”….” ธามนิธินิ่งเงียบ และวางสายเลย
ตอนที่ทัดธนโทรมาหา ธามนิธิก็พอจะคาดเดาออกว่าชลธีจะโทรมาหาเขา
แต่พอได้ยินสิ่งที่ชลธีพูด เขาแทบจะไม่รู้สึกตกใจอะไรเลย
-
ปาณีนอนพิงอยู่บนเตียง และกอดหมอนอยู่ หลังจากเห็นธามนิธวางสาย เธอก็ถามด้วยความสงสัยว่า : “ใครโทรมาค่ะ?”
”พ่อของนลิน” ธามนิธินอนพิงลงข้างตัวเธอ “รีบนอนเถอะ”
ปาณีมองดวงตาของชายอันหล่อเหลาเบื้องหน้า ” เขาโทรมาหาคอาทำไหมค่ะ”
”บอกว่าอยากให้นลิน มีสุวรรณ์กับปิยพันธ์หย่าร้างกัน” ธามนิธิก้มหน้าลงจูบหน้าผากของเธอ และหลับตาลง
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากคุยเรื่องนี้
ปาณีเองก็ไม่ซักถามต่อ แต่นอนซบบนอกของเขา
-
ตอนที่นลิน มีสุวรรณ์ตื่นขึ้นในห้องผู้ป่วยนั้นก็เป็นช่วงเวลาเที่ยงคืนแล้ว ปิยพนธ์เฝ้าเธออยู่
บนใบหน้าของเขามีรอยเขียวช้ำหลังจากเขาโดนพ่อตบ เขามองที่นลินด้วยท่าทางที่อ่อนโยน “คุณตื่นแล้วหรอ?”
เมื่อนลินเห็นเขา เธอก็สะบัดหน้าไปอีกด้านอย่างเย็นชา
ปิยพนธ์กุมมือเธอไว้ “นลิน ผมผิดไปแล้ว แต่ต่อให้คุณจะเกลียดผมมากเท่าไหร่ ก็ไม่ควรทำเรื่องโง่เขลาแบบนี้นะ”
เขายอมรับว่าสิ่งที่เขาทำกับนลิน มันมากเกินไป แต่ เพราะเธอทำร้ายจิตใจเขามากเกินไปเหมือนกัน
นลินพูดกับปิยพนธ์ว่า : “เราหย่ากันเถอะ”
เธอรู้ว่าถ้าตัวเองพูดเวลานี้ คนข้างๆก็จะได้ยินด้วย
ต่อให้ต้องตาย เธอก็ไม่อยากให้ครึ่งชีวิตของเธอต้องทนอยู่กันปิยพนธ์อีก
จนถึงตอนนี้เธอก็ยังรู้สึกว่า ปิยพนธ์ไม่คู่ควรกับเธอเลย
ปิยพนธ์พูดว่า : “แต่ผมจะไม่ยอมหย่า เราสองคนจะได้แต่งงานกันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ…”
”คุณรู้สึกว่าฉันยังโดนทรมานไม่พออีกหรอ?” นลินจ้องมองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “ต้องให้ฉันตายก่อนใช่ไหม ถึงจะพอใจ?”
ต่อให้ไม่มีทางเลือกแล้ว เธอก็จะไม่มีทางกลับไปบนเส้นทางนั้นอีก
เธอไม่เชื่อว่า ธามนิธิในเวลานี้จะยังกล้ามาบีบบังคับเธออีก
ปิยพนธ์มองเธอด้วยสีหน้าความเคืองโกรธ และตะคอกว่า : “ก็ได้ แต่รอให้ออกจากโรงพยาบาลก่อน แล้วพวกเราค่อยมาคุยเรื่องนี้อีกที”
”…” นลินหลับตาลง และพูดกับปิยพนธ์ว่า : “ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ”
ขอเพียงมองเห็นเขา เธอก็จะนึกถึงเหตุการณ์ที่ถูกเขาข่มเหงรังแก ดังนั้นเธอเลยอยากอยู่ห่างจากเขา
เมื่อเห็นท่าทีของนลิน เขาก็เดินออกไปอย่างจำใจ
หลังจากนั้นวันที่สอง ทัดพรก็มาอยู่เป็นเพื่อนนลินที่โรงพยาบาล เมื่อรู้ว่านลินต้องการหย่า ทัดพรก็ปลอบใจเธอ
เมื่อนึกถึงธามนิธิที่บีบบังคับนลิน ทัดพรก็รู้สึกโกรธเป็นผืนเป็นไฟ
-
สุดสัปดาห์ ตอนเช้า ปาณีเพิ่งตื่นนอน เธอเดินออกจากห้องนอน และเห็นเมธชนันยืนอยู่ตรงหน้าต่างกำลังมองข้างนอกอยู่
เธอถามอย่างสุภาพว่า : “คุณเป็นอะไรหรอค่ะ?”
เมธชนันหันหน้ามามองปาณีที่มีสภาพเพิ่งตื่นนอน และยิ้มแย้ม : “อรุณสวัสดิ์”