บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 18

ตอนที่ 18

ตอนที่ 18 ขอท่านอ๋องได้โปรดให้อภัย

หลังจากที่มือของนางหายปวด กุ้อ้าวเวยก็สงบลงเล็กน้อย ชิงหยางพานางกลับไปยังด้านในห้อง และจำเป็นต้องรู้ว่าชั้นที่สองมีหนังสืออยู่หลาย 10,000 เล่ม ถึงแม้ว่าจะมิล้ำค่าแต่ก็มีความซับซ้อน มีโรคหลายประเภทที่รักษายาก ที่ได้ถูกบันทึกไว้

หยุนชิงหยางเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับกุ้อ้าวเวยฟังและขอให้นางศึกษาตำราโบราณที่อาคารแห่งนี้ แม้แต่แผ่นป้ายของตระกูลหยุน เขาก็ส่งมันให้นาง อีกทั้งยังรีบร้อนส่งนางออกไป

ลานบ้านนั้นสงบลงอย่างฉับพลัน ชิงหยางเบิ่งตาโพลง ใบหน้าที่มักจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มของหยุนฟู่กลับเดินเข้ามาและเอ่ยเสียงเบา “นานหญิงไปแล้วเพคะ มิได้ยินมาถึงครู่หนึ่งแล้ว”

“เช่นนี้ก็ดี” ชิงหยางหัวเราะออกมาก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งและเตรียมตัวที่จะงีบหลับ

ในขณะเดียวกัน ก็มีเงาหนึ่งเข้าไปในห้องของซ่านจินจื๋ออย่างเงียบเชียบ แม้ในท้องฟ้าในวันธรรมดา เขาก็แต่งองค์ทรงเครื่องในชุดนอน เพียงแค่ปรากฏดวงตาคู่หนึ่งออกมา เขาก็คุกเข่าลงบนพื้น “ถวายบังคมฝ่าบาท ในลานของหยุนชิงหยาฝมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ข้าน้อยไม่กล้าพรวดพราดเขาไป”

“ซ่านจินจื๋อกระแทกถ้วยในมือของเขา ดวงตาของเขาเย็นชา หลิ่งหนานตระกูลหยุนอยู่ทำกลางนักบุญทางการแพทย์ในหมู่พลเรือน อย่างไรเสียในสายตาของราชวงศ์โดยเจ้าหน้าที่ที่ปีนขึ้นไป หลิ่งหนานตระกูลหยุนเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสิ่งลึกลับ แม้ว่าจะอาศัยอยู่ที่หลิ่งนาน แต่กลับมิมีผู้ใดรู้จักครอบครัวเขา ว่าอยู่ที่ใด แต่ทว่าหลาย 100 ปีมานี้ ลูกหลานของตระกูลกลับได้ติดต่อกับจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ ในปัจจุบันไม่มีผู้ใดรู้ข้อเท็จจริงนอกจากจักรพรรดิ

คิดไม่ถึงว่าจวนเล็กๆแห่งนี้ ของชิงหยางจะถูกปกป้องอย่างแน่นหนา พื้นที่ใหญ่อย่างมาก!

กุ้อ้าวเวยนำเลือดมังกรและถุงน้ำดีหงส์วางไว้ในกองยาสมุนไพร ให้หยุนฟู่ดูแลมันระหว่างทาง นางเพียงแค่ขมวดคิ้วและจ้องมองทั้งสอง มือเพียงแค่ออกแรงมือทั้งสองของนางก็จะสั่นเทา เข็มนี้ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง

ผิดนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เร่งด่วน แม้ว่ามันจะแพร่กระจายไปทั่วร่างกายแต่มันก็จะใช้เวลานานถึง 10 ปีและนางมั่นใจว่านางสามารถทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อระงับพิษชั่วคราวได้ ตราบใดที่นางใช้ยาก่อนการฝังเข็ม มือของนางก็จะมิสั่นนี่คือแผนระยะยาว

กุ้อ้าวเวยยังก้มศีรษะลงมองฝ่ามือของตน แต่ผู้ใดจะคิดว่าศีรษะของนางจะชนเข้ากับกำแพงเนื้อหมู

“โอ้ย” นางส่งเสียงร้องออกมาก่อนจะถอยหลังไปกี่ก้าวเลยศรีศักดิ์ขึ้นและกรมศีรษะก็มองเห็นใบหน้าที่เย็นชาของและเขายืนอย่างมั่นคงนะนวดครึ่งศีรษะที่รู้สึกเจ็บปวดของตน ก่อนจะเอ่ยอย่างเย็นชา “ท่านอ๋องท่านมายืนรอข้าอยู่ที่นี่ แต่ก็มิจำเป็นต้องมิส่งเสียงมิใช่หรือ”

“นำถุงน้ำดีหงส์และเลือดมังกรมาให้ข้า” ซ่านจินจื๋อคว้าข้อมือของนางไว้อย่างแน่นหนา เมื่อกุ้อ้าวเวยคิดว่าพ่านเอ๋อไม่ได้ป่วยเป็นอันใด ถ้าหากว่านำยาสองชนิดนี้ให้เขาไปก็จะเป็นการสิ้นเปลือง ดังนั้นในใจของนางจึงต่อต้าน “ถุงน้ำดีหงส์และเลือดมังกรมิใช่วัชพืชพื้นดิน สมุนไพรสองชนิดนี้ยังอยู่ในหลิ่งหนานตระกูลหยุน ถ้าหากว่าข้าต้องการได้มันก็จะต้องแก้พิษในตัวของตนเองเสียก่อน และไปนำมาด้วยตัวเอง”

“ข้าว่าเจ้าเพียงแค่มิอยากนำสมุนไพรมาให้ข้า” ซ่านจินจื๋อยกมือขึ้นบีบคอของกุ้อ้าวเวย นางหายใจไม่ออก นางจ้องมองเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ สายตาของนางจ้องมองเขา “ถ้าหากพระองค์มิเชื่อ ก็ให้เมี่ยวหารจับชีพจรของข้าดูเถิด”

จินจื๋อสะบัดมือของเขาออก กุ้อ้าวเวยกุมรอบคอที่เจ็บปวดของนางและไออย่างรุนแรง นางประคองต้นเองกับต้นไม้และลึกขึ้นมา ที่หน้าอกของนางเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น

เมี่ยวหารรีบวิ่งเข้ามา ภายใต้สายตาอันตรายของชิงหยางและจับชีพจร คิ้วของเขายกขึ้น เขาจับชีพจรของนางอีกครั้งด้วยไม่อยากจะเชื่อ ข้ามิเคยเห็นพิษชนิดนี้มาก่อนเลย มันคือพิษอันใดกัน”

ซ่านจินจื๋อเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นเมี่ยวหารจับชีพจรของนางอยู่หลายครั้ง เขาจึงฝืนที่จะเชื่อนาง “เพลานี้ท่านคงจะเชื่อแล้วใช่หรือไม่สี? หน้าของกุ้อ้าวเวยซีดเชียว นางนั่งอยู่บนมานั่งก่อนจะเอ่ย “ท่านถูกเอ่ยว่าตั้งแต่ต้นจนจบข้าคือผู้ที่มีชื่อ ต่างจะต้องรอจนกว่าข้าจะได้รับเสื้อคลุมของตระกูล ถึงจะสามารถนำมันมาได้”

“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้ายังต้องช่วยให้เจ้าสืบทอดเสื้อคลุมของตระกูลอยู่อีกหรือ ดวงตาของซ่านจินจื๋อนั้นน่ากลัวราวกับนกอินทรีย์ เมี่ยวหารเพียงแค่ก้มศีรษะลงและถอยหลังไปหลายเก้า ก่อนจะขมวดคิ้ว

“ มิจำเป็นต้องให้ท่านช่วยเรา เพียงแค่ต้องรู้ว่าตอนนี้พระองค์สามารถช่วยคนรักพ่านเอ๋อของพระองค์ในปัจจุบันนี้มีเพียงลูกหลานของตระกูลหยุนเท่านั้นค่ะในเมื่อรับปากว่าจะช่วยท่านก็รักษาสัญญา ท่านผู้นี้ต้องทุกข์ทรมานครั้งแล้วครั้งเล่า กุมหน้าอกของนาง เมี่ยวหารเดินขึ้นมาด้านหน้า ราวกับว่ายังอยากจะจับชีพจรของนางอีกครั้ง แต่นางกลับยิ้มเบาเบาก่อนจะโบกมือให้เขา ยังเพียงแค่อยากจะรับประกันกับซ่านจินจื๋อเท่านั้น

นางจะปล่อยให้ท่านผู้นี้รังแกนางทุกเมื่อเชื่อวันมิได้ละมั้ง

ซ่านจินจื๋อช่างน้ำหนักความลึกลับของตระกูลหยุน และสิ่งที่ปรากฏแก่เขาตอนนี้มีเพียงกุ้อ้าวเวยและหยุนชิงหยาง ถ้าเขาสูญเสียพ่านเอ๋อไปจริงๆ เขาจะมิไว้ชีวิตผู้ใดทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากอาการเจ็บป่วยที่ร่างกายของพ่านเอ๋อเป็นเช่นนี้ ถ้ารอให้ถึงปีหน้าก็มิสามารถเป็นไปได้

เพียงแต่น่าเสียดาย ที่มิสามารถให้ฐานะใดกับพ่านเอ๋อได้

“ตกลง ข้ารับปากเจ้า” ซ่านจินจื๋อพยักหน้า

“ถ้าเช่นนั้นก็ยิ่งดี” คืนวันเหล่านี้ข้าต้องศึกษาวัสดุยาทุกชนิด แม้ว่าสูตรลับจะไม่ได้อยู่ในมือของข้า แต่แพทย์หลวงเมี่ยวหารก็รู้วัสดุยาอยู่แล้ว ข้าสามารถลองใช้ยาจากวัสดุยาชนิดอื่นได้ก่อน ข้าหวังเพียงว่าท่านอ๋องและหญิงสาวพ่านเอ๋อจะอภัยให้ข้า พิษของข้าในเวลานี้มิสามารถรอได้อีกแล้ว นางยิ้มอย่างนอบน้อม สีหน้าของนางซีดเผือด

ท่านปู่ไม่รู้ว่าหน้าอกของนางได้รับบาดเจ็บ เมื่อถูกพิษนี้เข้าไป เพลานี้หน้าอกของนางจึงยิ่งเจ็บปวดราวกับไฟไหม้ เมื่อเห็นนางยืนขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาพุ่งเข้าไปประคองนางจากจิตใต้สำนึก “พิษนี้….”

“พิษนี้ข้าจะถอนมันให้เร็วที่สุด จะดีกว่าถ้าได้รับเสื้อคลุมของตระกูหยุน พระองค์ออกอย่าเร่งรัดข้าเลย” กุ้อ้าวเวยบอกว่านางจะกลับไปสืบทอดเสื้อ เขาก็ให้นางกลับไปอีก ทั้งยังจูงมือของนางเพื่อให้ยืนขึ้น ในทางกลับกันก็รู้สึกสบายใจ เขาจึงค่อยค่อยปล่อยมือออกก่อนจะเอ่ยเบาๆด้วยรอยยิ้ม เวลาใกล้จะถึง ท่านอ๋องก็ควรจะพาข้าน้อยไปบอกลาท่านพ่อและท่านป้าแล้ว”

รู้สึกว่าอุณหภูมิที่ข้อมือของกุ้อ้าวเวยยังคงอยู่ในฝ่ามือของเขา แท้จริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการจะเร่งรัดนาง. “ท่านพี่” เสียงอ่อนโยนและนุ่มนวลดังมาจากที่ด้านหลัง ซ่อนจินจื่อลืมไปเสียสนิทเขาทำเพียงหมุนศีรษะกลับไปประคองผู้ที่อ่อนแอเช่นพ่านเอ๋อ บนใบหน้าของพ่านเอ๋อแฝงไปด้วยรอยยิ้ม แต่กลับมองท่าทีของกุ้อ้าวเวยและซ่านจินจื๋อออกอย่างชัดเจน ในดวงตาของนางเย็นชา นางไอเบาเบา พวกเราควรจะกลับจวนแล้วใช่หรือไม่เพคะ?”

“อีกประเดี๋ยวก็กลับแล้ว ซ่านจินจื่อตบบ่าของพ่านเอ๋ออย่างเจ็บปวดหัวใจ คิดมิถึงว่าเพียงแค่ออกมาหนึ่งรอบก็อ่อนแอเช่นนี้เขาเอ่ยกำชับเจ้าดูแลให้ดี”

นำซ่านจินเจ๋อมาส่งให้แล้ว เขาก็มายังหน้าห้องโถงและบอกลากลับ เมื่อกู้จิ้งเหวยที่ด้านข้างเห็นทั้งสองคนมีความสัมพันธ์อันดี ในใจของนางก็มิพอใจถือโอกาสที่คนเยอะเดินขึ้นไปด้านหน้าและแสร้งทำเป็นย่ำฝ่าเท้าและชนเข้าหนักๆที่ไหล่ของนาง เดิมทีก็เจ็บปวดจนยากที่จะทน เมื่อถูกชนเข้าที่ไหล่ของนางก็แทบจะทำให้น้ำตาของนางไหลออกมา ดวงตาของนางดำสนิทและล้มลงไปข้างหน้าอย่างไม่อาจควบคุมได้ แต่ทว่าก็มีมือข้างหนึ่งที่ประคองนางไว้อย่างแน่นหนา

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท