บทที่28 โชคดี
“จริงหรอเนี้ย!”ฉีหลินรีบโยนยาในมือออกไปไกลๆ
กุ้อ้าวเวยก็รีบรับไว้ทันที มองเขาตาขวางและพูดว่า: “ยาพิษนี้ต้องผสมกับน้ำถึงจะใช้การได้ เจ้ากลัวอะไรเนี้ย?”
“แต่ก็เป็นยาพิษนี้”ฉีหลินรีบล้างมือในน้ำสะอาด
กุ้อ้าวเวยก็วางของลงไปที่เก่า จากนั้นก็จัดการปริมาณ ต้มยามาสองครั้งก็ยังแตกต่างกัน นางกำลังเครียดกับเรื่องนี้อยู่ ฉีหลินที่อยู่ข้างๆกลับมองดูจนฟ้าใกล้สว่าง เขาห่าวง่วงอยู่ตลอดทั้งวัน ก็เลยฟุบนอนลงไปเลย
นางตั้งใจต้มยา กุ้อ้าวเวยกลับรู้สึกว่าสูตรยาขาดอะไรไป หันกลับไปหาก็ได้ยินเสียงตกใจจากด้านหลัง
รีบหันกลับไปดู กุ้อ้าวเวยเห็นสมุนไพรที่เก็บมาจากบนดอยหายไป และฉีหลินก็พึ่งตื่นและพูดว่า: “เมื่อกี้ข้าง่วงนอนก็เลยแตะโดนยาพวกนั้นไป……”
“ไม่เป็นไร ก็ถือเสียว่าลองแล้วกัน”กุ้อ้าวเวยรีบคิดว่ายานั้นวางไว้ไหน ลังเลสักพักก็เอาที่เหลือโยนลงไปในหม้อยาเลย จากนั้นก็เต็มสมุนไพรลงไปอีก ต้มช้าๆ เห็นฉีหลินทำหน้ารู้สึกผิดยืนข้างๆ ยิ้มให้เขาและพูดว่า: “ครั้งหน้าถ้าง่วงก็หลับห้องไปนอนได้นะ ข้าทำนเดียวจนชินแล้วล่ะ”
“ปกติเจ้าก็ทดลองยาที่นี้ทั้งวันเลยเหรอ?”ฉีหลินไม่ไป เอาเก้าอี้มานั่งข้างๆ
“อืม ข้าชอบมากเลยนะ”
“เช่นนั้นเจ้าก็เก่งจัง ดูท่าทางเจ้าเหมือนคนไม่ชอบออกจากบ้าน เหมือนกับคุณหนู แต่ข้าไม่คิดว่าคุณหนูจะไม่หลับไม่นอนมาต้มยาทดลองยาเช่นนี้ เอาเป็นว่าเดี๋ยวข้าพาเจ้าออกไปเล่นไหม?”ฉีหลินไม่ง่วงนอนแล้วก็เลยพูดเรื่องออกไปเล่นเลย
กุ้อ้าวเวยฟังอย่างตั้งใจ รีบตอบตกลงไปเลยว่า: “ได้สิ ถึงเวลาก็พาหยินเชี่ยวกับชิงต้ายไปด้วยแล้วกัน”
“ได้!”ฉีหลินยิ้มดีใจเหมือนเด็ก
ตะวันขึ้นสาดส่องมาทางหน้าต่าง ฉีหลินนอนที่เก้าอี้ยาวไปแล้ว เฉิงยีเฉิงเอ้อเห็นนางไม่หลับตลอดทั้งคืนก็ไม่กล้าเตือน ก็เลยต้องเข้าไปช่วย
กุ้อ้าวเวยรู้สึกร่างกายดีขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่กล้าทำอีก ทำได้แค่เอาเลือดทดลองยา เอายาหยดลงไปบนเลือดนาง และเอาเข็มเงินทดลอง ตาสว่างขึ้นมากะทันหัน
ไม่มีพิษ!
นางไม่สนใจเฉิงยีเฉิงเอ้อห้าม ดื่มยานั้นลงไปทันที
ร่างกายก็สบายขึ้นมาเยอะมาก นางก็เอายาเม็ดที่ตัวเองทำกินเข้าไป ตาสว่างขึ้นมาทันที อารมณ์ดีแต่กลับไม่พูดอะไร ทำยาสมุนไพรต่อไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งผ่านไปสามชั่วยาม นางก็ทำยาเสร็จใส่ลงในขวดแก้วไว้ในกระเป๋าตัวเอง เอาไว้เผื่อเหตุฉุกเฉิน
ฉีหลินก็ขยี้ตาตื่นขึ้นมา พอลงมา กุ้อ้าวเวยก็รีบเดินไปหาเขา ทำหน้าดีใจและยื่นยาต้มไปให้เขา: “ข้าทำสำเร็จแล้ว เพราะความผิดพลาดของเจ้า ข้าจะตอบแทนโดยการเลี้ยงข้าวเจ้าแล้วกัน”
เฉิงยีเฉิงเอ้อถึงรู้ตัว เมื่อกี้ที่นางไม่พูดเพราะฉีหลินกำลังหลับอยู่
“จริงเหรอ?”ฉีหลินดูยาต้มสีดำนั้นก็ทำหน้ารังเกียจ
“แน่นอนสิ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ”กุ้อ้าวเวยพยักหน้าอย่างจริงจัง หันกลับไปดูเฉิงยีเฉิงเอ้อและพูดว่า: “พวกเจ้าก็ไปเตรียมตัวสิ เดี๋ยวก็จะออกไปแล้ว”
กุ้อ้าวเวยทำอะไรก็รีบร้อนตลอด
เวลาแค่สองนาที ทั้งหกก็มานั่งพร้อมเพรียงกันในร้านอาหารแล้ว หยินเชี่ยวชิงต้ายก็ชินกับนิสัยของนางแล้ว ฉีหลินกลับห่าวออกมาอย่างขี้เกียจ มองนางและพูดว่า: “เจ้าไม่ได้นอนทั้งคืนแล้วไม่ง่วงเหรอ?”
“ยังได้อยู่ ข้านอนไม่เยอะอยู่แล้ว”กุ้อ้าวเวยพูดและคิดว่ายังไงตัวเองก็สามารถชะลอพิษตัวนี้ได้ ต่อไปถ้าฝังเข็มก็จะดีขึ้นมาอีก นางทำหน้าดีใจและพูดว่า: “โชคดีที่มีเจ้า เจ้าเป็นตัวนำโชคของข้าหรือเปล่าเนี้ย”
“เจ้าเป็นคนแรกที่ชมข้าเลยนะ”ฉีหลินทำตัวไม่ถูก ปกติเขาไม่ชอบเรียนหนังสือต่อสู้ก็ไม่เก่ง ทำงานในร้านก็มีแต่คนไม่พอใจเขา คิดว่าเขาเป็นตัวถ่วง นี้เป็นครั้งแรกเลยนะ
“เพราะเจ้าเป็นตัวนำโชคก็เลยโชคดีอย่างไรล่ะ”หยินเชี่ยวเห็นคุณหนูชมตัวร้าย ก็เลยรู้สึกไม่พอใจ
“โชคก็สำคัญเหมือนกันนะ”กุ้อ้าวเวยยิ้มขึ้นมา ฉีหลินเริ่มไม่พอใจ รีบทะเลาะกับพวกเขาขึ้นมา แม้เฉิงยีเฉิงเอ้อจะพูดน้อย แต่ชอบกินเนื้อ กุ้อ้าวเวยก็สั่งเนื้อผสมผักมาด้วย เฉิงยีเฉิงเอ้อก็ดีใจมาก
วันนี้เป็นวันดี แต่กลับได้ยินเสียงชั้นสองมีคนตะโกนขึ้นมา: “นั้นเป็นท่านชายกว่างนี้!พอดีเลยท่านชายฉีก็อยู่ตรงนี้ พอดีเลยนะ!”
ฉีหลินที่ทะเลาะกับพวกนางอยู่ก็เงียบลง หยินเชี่ยวกับชิงต้ายก็เงียบลง กุ้อ้าวเวยก็ไม่เข้าใจ ยังดีที่เฉิงเอ้อมากระซิบให้นางว่า: “กว่างเสียนเป็นลูกชายคนโตของหู้ปู้เซ่อหลาง พ่อแม่ตามใจทุกอย่าง ในจวนมีภรรยาน้อยอยู่มากแต่ไม่มีภรรยาใหญ่ เป็นหัวหน้าใหญ่ของตัวร้าย ครั้งก่อนก็เป็นเขาที่พาท่านชายรุมกระทืบท่านชายฉี”
ฟังจบ กุ้อ้าวเวยก็เปลี่ยนสีหน้า ตอนนี้พอออกมาจากพวกยาสมุนไพร นางถึงนึกขึ้นว่าเฉิงยีเฉิงเอ้อเป็นคนที่ซ่านจินจื๋อส่งมา ถึงว่าข่าวถึงได้เร็วเช่นนี้ แต่ทั้งสองทำท่าชำนาญการมาก นางก็ไม่พูดอะไรมาก ก็เลยสั่งเหล้ามาและพูดว่า: “เจอศัตรูแล้วอย่างไร ยังไงก็เจ้าก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย”
ฉีหลินนิ่ง: “เมื่อก่อนข้ากับพวกเขา……”
“เจ้าก็บอกแล้วว่าเป็นเมื่อก่อน ต่อไปช่วยข้าทดลองยา ข้าจะสอนเจ้าเรื่องแพทย์ เจ้าก็จะได้ช่วยผู้คนเป็นการไถ่โทษ ไม่รู้ว่าเทียบกับพวกเขาที่ไม่พยายามแก้ตัวอะไรเลยดีแค่ไหน”กุ้อ้าวเวยรินเหล้าให้เขา: “ในโลกนี้มีคนชั่วยังสามารถกลับตัวกลับใจได้ มีคนยอมวางดาบเพื่อจบการฆ่าคน แต่เจ้าเป็นประการแรก”
ฉีหลินเถียงไม่ออก ก็เลยไม่พูดเลย
“ไม่คิดว่าเจ้าจะไม่มีความกล้าเช่นนี้”หยินเชี่ยวยิ้มดูถูก
“เจ้าไม่ต้องมาสนหรอก”ฉีหลินมองตาขวาง ยังไงสุดท้ายเขาก็ยังกลัว
กุ้อ้าวเวยส่ายหัว หันไปก็เห็นท่านชายใส่ชุดสง่างามหรูหราเดินมา คนที่เป็นหัวหน้าก็คือกว่างเสียน ตาเขาเล็กตี่ แต่มองไปแล้วก็รู้สึกอนาถใจมาก
“ฉีหลินไม่ใช่เหรอเนี้ย?วันนี้กลับไปที่จวนอีกแล้วเหรอ จะไปอยู่บ้านขี้เกียจสันหลังยาวหรือไง?”กว่างเสียนเดินเข้ามาใกล้ มองไปที่กุ้อ้าวเวย
กุ้อ้าวเวยเกิดมาสวย ผิวขาวอมชมพู ตากลมโต จมูกเป็นสันได้รูป ปากกระจับได้ทรง ใบหน้าเรียวยาว กลับเป็นหน้ายิ้ม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนรินเหล้า มือขาวอมชมพูที่ออกมา เป็นนิ้วมือเรียวยาวที่ดูดีมาก
กว่างเสียนเห็นแล้วก็ตาเป็นประกาย เดินเข้าไป เชยคางนางขึ้นมา มองลงไปเรื่อยๆ: “สาวงาม กลับจวนกับข้าไหม”