บทที่ 64 กองทัพทหารเรือโล่เสีย
พอมาถึงอำเภอโล่เสีย พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว
รอบด้านมีแต่ภูเขา มองไปไกลๆก็ได้วิวทัศน์ที่สวยงาม ซ่านจินจื๋อกับเซียวไห่พาคนเข้าไปพักในโรงเตี๊ยมแล้ว มีแต่กู้อ้าวเวยที่ขี่หยินเอ่อข้างลำคลอง มองดูรอบๆกายก็ไม่มีผู้คน นางเลยหาที่นั่งลง
นางนั่งบนหญ้าเขียวขจี จนท้องฟ้ามืดลง ไฟรอบข้างก็เริ่มดับลง
นางตบตัวหยินเอ่อเบาๆ และลากเชือกกลับไปพูดว่า: “หยินเอ่อ ต่อไปเจ้าต้องเดินทางเที่ยวเล่นกับข้าตลอดไป ดีไหม?”
หยินเอ่อถอนหายใจ กระทืบเท้าเหมือนไม่พอใจ
“ไม่เป็นเด็กดีเลย ข้าคิดว่าโลกนี้ช่างกว้างใหญ่พอให้ข้าผจญภัย”ไม่อยากถูกปิดไว้ในโรงพยาบาลอีกแล้ว นางยังไม่เคยเที่ยวเล่นเดินทางอย่างมีความสุขมาก่อนเลย ชาตินี้จะต้องลองสักตั้ง
นางเดินกลับไปโรงเตี๊ยมสั่งอาหาร ถึงนึกขึ้นได้ว่า: “นายท่าน ท่านรู้ว่าห้องข้าอยู่ไหนไหม……”
“ไม่ใช่ว่านอนห้องเดียวกับคุณชายเหรอ?”เขามองนางด้วยความแปลกใจ เห็นนางยืนอยู่กับที่ ก็รีบอธิบายว่า: “ที่นี้มีพวกนักธุรกิจมาพักเยอะมาก ห้องพักก็เลยมีไม่ค่อยเยอะมาก และอีกอย่าง พวกท่านก็เป็นสามีภรรยากันใช่หรือไม่?”
“ออ”กู้อ้าวเวยตอบไปคำเดียว จากนั้นก็เดินเข้าห้องซ่านจินจื๋อไป ซ่านจินจื๋อเหมือนรู้อยู่แล้ว เขานั่งที่โต๊ะ พอเห็นนางเดินมาก็พูดว่า: “เพิ่มเตียงให้แล้ว”
“ออ”กู้อ้าวเวยพูดต่อบ พอรออาหารมาส่ง นางกินจนอิ่มจากนั้นก็นอนลงบนเตียงทันที
ซ่านจินจื๋อกลับมานอนที่เตียงตอนดึกมากๆ
เช้าวันที่สอง นางยังคงนอนอยู่บนเตียงไม่ตื่นกลับถูกซ่านจินจื๋อปลุกอย่างไร้ความรู้สึก
“ข้ายังนอนไม่อิ่มเลยนะ”นางขยี้หัวลุกขึ้นมา กลับไม่ได้ระวังว่าเสื้อนางเปิดออกมานิดๆ พอให้เห็นถึงความขาวอมชมพูของผิวกาย เหมือนกับความเคยชินในวันธรรมดา นางใส่รองเท้าและเดินไปตู้เสื้อผ้า ใส่เสื้อผ้าที่ซ่านจินจื๋อเตรียมไว้ให้ก่อนหน้านี้แล้ว
ซ่านจินจื่อมองร่างกายนาง ตาไม่กระพริบ เปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าผู้ชาย นางไม่อายเลยเหรอ?
แต่กู้อ้าวเวยแต่งตัวเสร็จแล้วก็ไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของซ่านจินจื๋อที่มองมา แค่เดินไปชั้นล่าง ไปสั่งอาหารเช้ามากิน และไม่ใกล้พวกทหาร แต่แค่นั่งกินอยู่คนเดียว และเล่นกับหมาในร้าน
ซ่านจินจื๋อเดินลงมา พวกทหารก็รีบลุกขึ้น อาหารเช้าบนโต๊ะไม่ได้แตะเลย
เขาสบัดมือให้พวกเขากินต่อ ซ่านจินจื๋อเดินมานั่งข้างกู้อ้าวเวย เห็นนางสั่งซาลาเปามา และสั่งเหล้าข้าวมาหนึ่งถ้วย สั่งก๋วยเตี๋ยวมาอีกหนึ่งถ้วย จากนั้นก็พูดเสียงเบาว่า: “ปกติเจ้ากินแค่นี้เหรอ?”
“ยังดี ไม่เยอะมาก”นางกินก๋วยเตี๋ยวโดยไม่มองเขาเลยแม้แต่น้อย ความเร็วนั้นไม่แพ้พวกทหารเลย
รอทุกคนกินอิ่มหมดแล้ว กู้อ้าวเวยก็ขี่หยินเอ่อไปเดินเล่นกับเซียวไห่
“ท่านอ๋อง พระชายา……”ชายร่างใหญ่ใช้โอกาสนี้ถามท่านอ๋องว่า: “คำพูดของพระชายาก่อนหน้านี้ นางไม่ได้มาก่อเรื่องนะ? และอีกอย่าง นางกับเซียวไห่……”
“นางพูดไม่ผิดเลย”ซ่านจินจื๋อขี่ม้าในขณะที่ทุกคนต่างอึ้ง จากนั้นเขาก็พูดความจริงไปว่า: “ไม่ใช่กองทัพทหารทุกกองจะดีไปหมด ไม่เช่นนั้นฝ่าบาทก็ไม่ส่งข้ากับพวกเจ้ามาหรอก”
ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่พูดจา ก็เลยต้องรีบตามไป
เซียวไห่เดินไปไกลมากแล้วเห็นซ่านจินจื๋อที่ตามหลังมาใกล้แล้วถึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น หยินเอ่อก็รีบตามความเร็วนั้นให้ทัน กู้อ้าวเวยจับเชือกเอาไว้แน่นและหันไปมองซ่านจินจื๋อด้วย
นางไม่อยากขี่ม้ากับเขาเลย นางจะรู้สึกว่าด้านล่างไม่เป็นตัวของตัวเองเลย
“เดี๋ยวอีกสักพักจะนั่งเรือ”ซ่านจินจื๋อดูออกว่านางคิดอะไรอยู่
กู้อ้าวเวยพยักหน้าและเร่งความเร็ว
ทหารด้านหลังก็มองกันเลิ่กลั่ก ท่านอ๋องจิ้งอ่อนโยนต่อกู้อ้าวเวยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
มีแต่เซียวไห่ที่ยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ เขาตามทั้งสองจนมาถึงข้างทะเลสาบที่มีเรือจอดเทียบท่าอยู่ บนเรือก็มีแม่ทัพเฉิง เขาอายุประมาณสามสิบกว่า ยังมีหนวดที่คางนิดๆ ใส่แค่เสื้อเกราะเหล็กอ่อนๆ
“คนนี้ก็คือพระชายาจิ้งใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ”แม่ทัพเฉิงเขามามองใกล้ๆอย่างระมัดระวัง
“ท่านอ๋องครั้งนี้พาข้ามาเพื่อทำหน้าที่แทนทหารแพทย์สองนายที่ตายไป”กู้อ้าวเวยยิ้มและเดินไปข้างหน้าข้างซ่านจินจื๋อ
นางขึ้นมาก็พูดเข้าประเด็กเลย เซียวไห่ยังตกตะลึงในความกล้าของนาง
แม่ทัพเฉิงลังเลนิดๆ จากนั้นก็ยิ้มออกมาพูดว่า: “แต่กองทัพเรือของเราตรงนี้อาจจะวุ่นวายมาก พระชายาทรงเสด็จมาคนเดียว ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรขึ้นมา……”
“จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?กองทัพเรือโล่เสียเป็นกองทัพที่สำคัญ ก่อนหน้านี้มีแม่ทัพตายไปสามคนและทหารแพทย์อีกสองคน ใช่ไหม?”กู้อ้าวเวยเดินเข้าไปเค้นถามใกล้ๆ
“แน่นอนว่าไม่ได้ตายเพราะป่วย แต่ถูกคนฆ่า……”
“เช่นนั้นทำไมกองทัพเรือโล่เสียถึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นกองทัพที่สำคัญ?พวกเจ้าอยู่ระหวางภูเขาสองด้าน ปกป้องนั้นง่ายแต่จะบุกนั้นยาก เช่นนั้นใครกันที่จะกล้ามาลอบสังหารคนของพวกเจ้าได้? ถ้าเป็นโจร เช่นนั้นดูแล้วกองทัพเรือโล่เสียก็ไม่เท่าไหร่”กู้อ้าวเวยพูดเหยียดๆ ดึงมือเขามาตรวจชีพจรจากนั้นก็ปล่อยและพูดว่า: “เจ้าก็ไม่ได้ป่วยอะไร ทำไมพูดจาติดๆขัดๆเล่า?”
นางพูดเช่นนี้ทำเอาแม่ทัพเฉิงอึ้งพูดไม่ออก
พอพูดถึงตรงนี้ ซ่านจินจื๋อดึงกู้อ้าวเวยมาไว้ด้านหลังตัวเองเบาๆ: “เวยเอ่อปากร้ายแต่ใจดี แต่แค่นางกังวลเรื่องภายในกองทัพมากเกินไป”
เวยเอ่องั้นเหรอ
กู้อ้าวเวยไม่พอใจ ทำตัวไม่เหมือนกับตลอดทางที่มาด้วยกันเลย เหอะ
ซ่านจินจื๋อเป็นดึงมือนางไว้
“ถ้าพระชายาตกลง กระหม่อมจะจัดห้องไว้ให้พระชายาจิ้งทรงตรวจ และเรื่องภายในกองทัพ กระหม่อมจะมารายงานอย่างละเอียดพ่ะย่ะค่ะ”แม่ทัพเฉิงรีบพูด แต่ในใจกลับคิดว่าท่านอ๋องทำไมถึงดีกับพระชายาจิ้งเช่นนี้
แต่พระชายาจิ้งก็เป็นลูกสาวของเฉิงเซียง ได้ยินว่านางถูกตามใจแต่เด็ก พอเห็นตอนนี้ก็เข้าใจทันที เขาก็เลยทำอะไรก็ต้องระวังแล้ว พอเรือเทียบท่าแล้ว เขาสั่งคนให้ดูแลพระชายาจิ้งดีๆ
และตลอดทางกู้อ้าวเวยเดินข้างซ่านจินจื๋อไป อยากจะพูดหลายครั้งแต่กลับถูกซ่านจินจื๋อขัด และแสดงท่าทางคุณหนูเอาแต่ใจออกมา นี่ยังไม่ได้เข้าหมู่บ้าน นางก็ขี่ขึ้นหลังหยินเอ่อ: “เหอะ!”
พูดเสร็จนางก็ขี่ม้าไปเอง
“เซียวไห่ เจ้าตามนางไป”ซ่านจินจื๋อพูด
เซียวไห่ก็รีบตามนางไป กู้อ้าวเวยก็เปลี่ยนหน้าและมองเขาตากระพริบพูดว่า: “เช่นนี้ก็ดี ข้าจะได้ใช้นิสัยเอาแต่ใจในการเดินเล่นได้ จะเริ่มจากไหนดี?