บทที่ 63 เจ้าคิดถูกแล้ว
“ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วหรือว่ามีคนแอบทุจริตลักของหลวง! แต่หน้าที่และคนที่นั้นเยอะมาก หัวหน้าหรือแม่ทัพก็กำหนดไว้แล้ว”ชายผู้หนึ่งลุกขึ้นพูดอย่างเกรี้ยวกราดว่า: “พระชายาพูดกระไรต้องมีหลักฐานด้วยนะครับ”
“แน่นอนว่าต้องมีหลักฐานแน่นอน”กู้อ้าวเวยยิ้มและชี้ไปทางแผนที่พูดว่า: “ข้าอยากถามทุกท่านว่า ทหารเรือฝึกซ้อมอยู่ตรงพื้นที่ๆเปียกชื้น น่าจะมีของเสบียงมากมาย รวมไปถึงยารักษา?นอกจากนี้ ท่ามกลางป่าเขาดงดิบเปียกชื้นนี้ เรื่องของยารักษาโรคก็ต้องเสียเงินเป็นกอบเป็นกำ?”
“ยามันทำไม?”ชายคนเดิมถามขึ้นอย่างไม่เชื่อ
กู้อ้าวเวยยิ้มและพูดต่อว่า: “เจ้ารู้หรือไม่ว่ายาสมุนไพรต้องตากแห้งแล้วถึงนำมาใช้ได้และที่นี้ก็ไม่มีที่ตากแห้ง ยารักษาต้องส่งมาตลอดไม่ให้ขาด และขอถามหน่อยใครจะรู้ว่าที่นั้นมีแพทย์ทหารกี่คน?”
คำถามนี้ทำเอาทุกคนเงียบกันหมด
เซียวไห่หยิบสมุดจากกระเป๋าออกมา เปิดอ่านดู ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วและพูดว่า: “สี่สิบกว่าคน”
“เยอะขนาดนี้เลย!”ทุกคนต่างตกใจกันหมด และมองไปทางซ่านจินจื๋อ
เซียวไห่ตกใจมาก และกู้อ้าวเวยกลับทำท่าเหมือนเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาหมดแล้ว ภายในบริษัทมักมีข้อผิดพลาดเช่นนี้เสมอ นางมองไปทางซ่านจินจื๋อพูดต่อว่า: “ที่นั้นตั้งอยู่ในป่าโดดเดี่ยว ทหารเรือทำสงครามไม่ต้องใช้ม้า ถ้าเดินทางโดยการปีนเขาผ่านน้ำไปทางเทียนเหยียนแจ้งเรื่อง จะใช้เวลานานเท่าไหร่กัน คนที่สำเร็จมีกี่คนกัน?”
“กองทัพทหารเรื่อโล่เสียไม่อนุญาตให้กลับบ้าน”เซียวไห่พูดต่อ
กู้อ้าวเวยพูดเรื่องนี้อย่างง่ายดายว่า: “เช่นนั้นทำไมตอนนั้นแม่ทัพพวกเขาถูกฆ่าตาย ทำไมถึงไม่ไปแจ้ง? พอแม่ทัพตายไปสามคนถึงค่อยมาแจ้ง พวกเจ้าดูแค่สภาพแวดล้อมที่พวกเขาอยู่ แต่รอพวกเจ้าไปถึงพวกคนที่ก่อเรื่องก็โดนกักขังพอดี”
“เจ้าพูดกระไรกัน! ค่ายทหารของพวกเราไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น!”ชายผู้นั้นตะโกนขึ้นมาอีกครั้งด้วยความโมโห
กู้อ้าวเวยไม่สนใจ กอดขนมไว้นอนลงไปตรงมุม จากนั้นก็พลิกตัวหันหลังทำเป็นไม่ได้ยิน
ซ่านจินจื๋อกับเซียวไห่มองตากัน พวกเขาไม่ได้นึกถึงตรงนี้เลย
ทหารหลายนายต่างนอนไม่หลับ รอเช้าวันที่สอง เกือบทุกคนต่างไม่เชื่อในคำพูดของกู้อ้าวเวย เพราะยังไงพวกเขาก็เป็นทหาร ยังไงก็ไม่มีทางฆ่าแม่ทัพตัวเองแน่นอน นี่มันคือการก่อกบฏแล้ว!
กู้อ้าวเวยยังอยากขี่ม้าคนเดียวแต่กลับถูกซ่านจินจื๋ออุ้มขึ้นม้าและอยู่ในอ้อมกอดของเขา ซ่านจินจื๋อเหมือนตั้งใจขี่ม้าช้าๆ กู้อ้าวเวยมองบนและพูดว่า: “ท่านอ๋องขี่ม้าด้วยความเร็วเท่านี้ ให้ข้าไปขี่ม้าข้าเองยังจะดีกว่า”
“เจ้าคิดว่าทหารโล่เสียจะมีปัญหาจริงเหรอ?”ซ่านจินจื๋อถามขึ้น
“แน่นอน ไม่เช่นนั้นจะอธิบายว่าพวกเขาฆ่าแพทย์ทหารได้ยังไง? และแผนที่ยังแสดงว่าพื้นที่นั้นมีแต่น้ำ แม่ทัพที่ตายไปทั้งสองคนก็กินนอนในเรือตลอด ถ้าว่ายน้ำไม่เป็น จะหลบจากทหารหลายด่านได้อย่างไร มีแต่การจัดฉากวางแผนจากในไปนอก”กู้อ้าวเวยห่าวขึ้นมา เอียงหัวไปเพื่อไม่บังทางซ่านจินจื๋อ
“คิดได้ยังไงกัน?”ซ่านจินจื๋อถามต่อแต่กลับแอบเร่งความเร็วขึ้นอีก
“เพราะฝ่าบาทสั่งเจ้ามาตรวจสอบดูเอง”กู้อ้าวเวยมองไปที่เขาพูดว่า: “ฝ่าบาทน่าจะเป็นคนที่รู้ดีกว่าใครมากกว่า เขาต้องสั่งคนแอบสืบมาแล้วแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องเชิญท่านมาหรอก”
ซ่านจินจื๋อยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
ฝ่าบาททรงทราบปัญหาของกองทัพเรือโล่เสีย และกองทัพนี้ก็อยู่มานาน อำนาจการจัดการในนั้นวุ่นวาย มาวันนี้ด้านในก็เริ่มทะเลาะกันเอง ต้องส่งคนรีบมาจัดการด่วน
และซ่านจินจื๋อก็มีชื่อเสียงทางด้านทหาร ถึงได้รับภารกิจนี้มา
ก่อนหน้านี้เขายังอยากมาสืบคนเดียว แต่กลับไม่คิดว่ากู้อ้าวเวยรู้ขนาดนี้แล้ว และยังบอกกับทุกคนอีก
“ยังมีอีก แม่ทัพพวกนั้นที่ถูกฆ่า ข้าไม่เชื่อว่ามีแต่ทหารชั้นธรรมดาที่ทำ”กู้อ้าวเวยหันไปมองซ่านจินจื๋ออีกครั้งและพูดว่า: “ฝ่าบาทสั่งคนไปฆ่าพวกเขาใช้หรือไม่?”
“ข้าสั่งไปเอง”ซ่านจินจื๋อตอบนาง และพูดต่อว่า: “ไม่ว่าจะเป็นสนามรบ หรือการจัดการภายในทหารและทางราชการ ข้าก็จะจัดการอย่างเด็ดขาด”
“เป็นรูปแบบการจัดการของเจ้าจริงๆ”กู้อ้าวเวยพูดต่อบ
มีแต่ฆ่าแม่ทัพคนที่สามไป กองทัพโล่เสียก็จะปิดบังเรื่องไปอีกไม่ได้
แต่พวกพลทหาร ฆ่าแม่ทัพไปหนึ่งคนก็จะถูกปราบปราม ฆ่าคนที่สองนั้นก็สุดความสามารถของพลทหารแล้ว และยังฆ่าคนที่สามได้อีก นั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ เพราะยังไงเหมือนกับที่ชายร่างใหญ่คนนั้นพูดว่า กองทัพทหารที่นั้น แม่ทัพก็มีแปดคนพอฆ่าไปแล้วหนึ่ง แม่ทัพที่เหลือก็ต้องระวังกันให้เต็มที่ ในระยะเวลาสั้นๆทำไมถึงตายไปแล้วถึงสามคน
แต่ว่านางคิดง่ายเกินไป
ฝ่าบาทไม่อยากเป็นคนร้าย เลยสั่งให้ซ่านจินจื๋อลงมือแทน
นางถอนหายใจและพูดว่า: “ราชวงศ์พวกเจ้าเก่งเรื่องเดาใจผู้คนนะ”
“ยังไงก็ต้องมีคนก่อเรื่องให้เกิดขึ้นมาก่อน”ตอนนี้ซ่านจินจื๋อก็พานางตามกลุ่มทันแล้ว ทหารด้านข้างที่พูดจาตรงไปตรงมาก็ไม่อยากจะเชื่อว่าภายในค่ายทหารจะมีการกลั่นแกล้งกันใช้กำลังกันด้วยวิธีนี้
ดูแล้วพวกเขาถูกซ่านจินจื๋อดูแลและปกป้องดีเกินไป
กู้อ้าวเวยยังต้องชื่นชมในตัวซ่านจินจื๋อ เพราะยังไงซ่านจินจื๋อก็เป็นคนจัดการเรื่องสกปรกแทน ทหารพวกนี้ถึงได้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย คิดว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง
“ดูแล้วชื่อเสียงเจ้าก็ไม่ปลอมนี่ ถ้าข้าเป็นชายก็อยากตามเจ้าไปรบเช่นกัน”กู้อ้าวเวยพูดชื่นชมไม่หยุด
“เจ้าชมข้าเป็นด้วยเหรอ?”ซ่านจินจื๋อมองนางอย่างเหลือเชื่อ
“เพราะว่าเจ้าทำเรื่องที่ถูกต้อง เพื่อจัดการทหารพวกนั้น เจ้าฆ่าแม่ทัพรวดเดียวสามคน เจ้ากำลังเตือนพวกที่คิดจะทำเรื่องไม่ดี และบอกพวกเขาด้วยว่าเจ้าจะทำทุกวิถีทางจัดการพวกนั้นเพราะเจ้าเป็นเพชรฆาต”กู้อ้าวเวยขยับใกล้เข้าแผงอกของเขา สายตาหนักแน่นและหยิบเอาลูกอมจากกระเป๋าเสื้อออกมากิน
“เพชรฆาตงั้นเหรอ ชื่อนี้ข้าชอบ”ซ่านจินจื๋อไม่เคยรู้สึกดีเช่นนี้มาก่อนเลย
มีบางเรื่องเขายังไม่เคยบอกกับเซียวไห่ ยิ่งไม่บอกกับซูพ่านเอ๋อ
พอพวกเขาได้รับรู้ความจริงก็ทำได้เพียงสีหน้าเศร้าสลด เหมือนกำลังบอกเขาว่า เขาเป็นคนอำมหิตเลือดเย็น ฆ่าได้แม้กระทั่งทหารของบ้านเมืองตนเอง ถ้าคนอื่นรู้เข้าต้องเป็นเรื่องอีก
แต่กู้อ้าวเวยกลับเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำ
และกู้อ้าวเวยก็พึ่งเห็นคนที่ยอมทำเพื่อฝ่าบาทเช่นนี้ บอกได้แค่ว่าซ่านจินจื๋อคือเพชรฆาตที่ไม่มีหัวใจ เขาคิดแค่ว่าจะทำตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จได้ยังไง
กู้อ้าวเวยรู้สึกว่าเขาเลือดเย็นขึ้นมากะทันหัน: “ข้ากลับไปขี่หยินเอ่อได้ไหม?”
“ไม่ได้”ซ่านจินจื๋อเพิ่มความเร็ว กู้อ้าวเวยมองบน ไม่กล้าขยับตัวเลย