ตอนที่117 อาหลานต่อสู้
“ดูเหมือนว่าข้าเป็นเพียงตัวเลือกของเจ้าเท่านั้น”
ซ่านเซิ่งหานนั่งลงอย่างสบายๆ มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างละเอียด เพียงไม่กี่วันที่ไม่ได้เจอ ก็ผอมลงเพียงนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปกตินางก็ไม่ได้ชอบผลัดแป้ง ยิ่งไม่แต่งองค์ทรงเครื่อง ตอนนี้ดูแล้วสีหน้ายิ่งซีดเซียว ผมเผ้ายุ่งเหยิง ให้คนรู้สึกทั้งสงสารทั้งรัก
แต่กู้อ้าวเวยก็ไม่ได้รู้สึก กลับเอนตัวพิงไปที่โต๊ะหนังสือและหัวเราะเบา ๆ : “ถ้าอย่างนั้นข้าก็เลือกท่าน ดังนั้นการที่ท่านมาถึงนี่ เพียงเพื่อพูดกับข้าเรื่องพวกนี้?”
“ข้าอยากรู้ว่าเจ้ายังรู้เรื่องอะไรมาอีก”
หัวคิ้วกระตุกเบาๆ กู้อ้าวเวยกอดอกมองเขา: “ข้ายังรู้ว่า ท่านไม่ใช่อย่างคนตรงหน้าที่มีท่าทางอ่อนโยน นับตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่โดนวางยาพิษแล้ว ซ่านเซียนหยวนเหมือนกับว่าเคยเจอท่านครั้งหนึ่ง จากนั้นเขาก็เหินห่างจากซ่านจินจื๋ออยู่ช่วงหนึ่ง
”เจ้าทำไมอะไรก็รู้ทุกอย่าง” ซ่านเซิ่งหานรินน้ำชาหนึ่งจอกให้กับตน สายตาสอดส่องไปรอบสี่ด้านของห้องนี้ ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นตำราแพทย์และยาสมุนไพร ทั่วทั้งห้องตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นรสขมของยาสมุนไพร แต่กู้อ้าวเวยดูเหมือนจะคุ้นเคยแล้ว
กู้อ้าวเวยรอจนกระทั่งเขามองสำรวจสิ่งของทุกอย่างตรงหน้าแล้ว ถึงพูดต่อว่า: “เมื่อสักครู่ข้าเพียงโกหกท่าน ไม่คิดว่าจะเป็นท่านจริงๆ”
ครั้งนี้ ซ่านเซิ่งหานก็ไม่ได้ปกปิดอีก แล้วเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า เขาลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง เดินไปที่ข้างกายกู้อ้าวเวยจับข้อมือของนาง แล้วดึงนางมาตรงหน้า: “เจ้าคือคนที่ฉลาดเกินไป ทำให้ข้ากับหวงซูอดไม่ได้ที่จะระวังเจ้า และความรู้สึกสักนิดก็ไม่กล้าใช้ในตัวเจ้า
กู้อ้าวเวยสายตาสับสน เขาประหลาดใจและมองคนตรงหน้าอย่างซ่านเซิ่งหาน: “ความรู้สึกอะไร? ข้ากับเจ้าพบกันเพียงไม่กี่ครั้ง”
“เพียงพอแล้ว” ซ่านเซิ่งหานมองนางอย่างจริงจัง กู้อ้าวเวยในสายตาเขาคือสมบัติล้ำค่า อีกอย่างนางช่างให้คนรู้สึกทั้งน่าสงสารทั้งรัก ไม่รู้ว่าซ่านจินจื๋อทำกับนางลงคอได้อย่างไร เขาก้าวทีละก้าวเข้าใกล้: “ถ้าตามที่ซ่านจินจื๋อแสดงต่อซูพ่านเอ๋อ แน่นอนว่ายังไม่เคยแตะต้องเจ้า “
“ท่านช่างรู้จักเขาจริงๆ” กู้อ้าวเวยยกมือยันเขาไว้
“เขาก็คือคนเลวคนหนึ่งเช่นนี้ เหตุใดถึงลงมือกระทำต่อเจ้าได้” ซ่านเซิ่งหานถอนหายใจยาว
“เพราะในสายตาของเขามีเพียงชีวิตของซูพ่านเอ๋อเท่านั้น ข้าไม่ชื่นชอบท่านกับซ่านจินจื๋อแม้แต่น้อย ข้าค่อนข้างชอบองค์ชายหก ท่านโปรดเคารพ” กู้อ้าวเวยผลักเขาออกเล็กน้อยอย่างง่ายดาย แขนเล็กยังสั่นอยู่ แต่นางไม่ได้สังเกตตัวเอง มีเพียงซ่านเซิ่งหานเท่านั้นที่สังเกตเห็นอาการสั่นของนาง
องค์ชายหกคือหมาป่าเป็นยิ่งกว่าซ่านจินจื๋อ
“อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยบ้าคลั่งต่อหน้าข้า” กู้อ้าวเวยดึงเสื้อบนไหล่ให้กระชับยิ่งขึ้น: “แต่เจ้ากับซ่านจินจื๋อกลับกินคนโดยไม่คายกระดูก ข้าเพียงช่วยท่าน แต่ไม่ใช่จับตัวข้าใส่พานถวายให้”
“เจ้าช่างใจกล้าต่อหน้าข้ายังพูดถึงความต้องการ ไม่กลัวว่าข้าจะฆ่าเจ้าโดยตรง” ซ่านเซิ่งหานครั้งนี้ไม่ได้เดินเข้าใกล้ เพียงแค่แปลกใจถึงข่าวลือที่ว่าองค์ชายหกและพระชายาจิ้งมีความสัมพันธ์ที่ดีนั้นไม่ใช่โคมลอย แต่ในใจเหมือนรู้สึกถึงร่องรอยความไม่พอใจ
หลังจากได้รับคำพูดคุกคาม กู้อ้าวเวยกลับกันยิ้มอย่างเปิดเผยมากขึ้น: “อย่างนั้นท่านจะไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการ และทำได้เพียงเดินตามหลังซ่านจินจื๋อตลอดไป”
ดวงตาสี่ดวงจ้องหากัน มุมคิ้วของกู้อ้าวเวยยกขึ้นเต็มไปด้วยความมั่นใจและรอยยิ้มได้ใจ ทำให้ซ่านเซิ่งหานต้องพ่ายแพ้: “เจ้าพูดถูก ข้าไม่กล้าแตะต้องเจ้า ที่มาวันนี้ เพียงอยากถามเจ้า ข้ายุยงปลุกปั่นความสัมพันธ์ระหว่างองค์ชายสี่กับซ่านจินจื๋อสำเร็จได้หรือไม่?”
“ซ่านเซียนหยวนไม่ต้องการต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์” กู้อ้าวเวยขมวดหัวคิ้วเข้าหากัน นางไม่ต้องการให้ซ่านเซียนหยวนมีส่วนเกี่ยวข้องระหว่างซ่านจินจื๋อกับซ่านเซิ่งหานในการต่อสู้แย่งชิง
“ข้าไม่มีทางทำร้ายเขา แต่องค์ชายหก……”
“ข้าก็ช่วยเขา ขอเพียงเขาต้องการ” กู้อ้าวเวยนั่งอย่างหงุดหงิดที่ขอบเตียง นางรู้สึกไม่สบายใจสองมือบีบขยำผ้านุ่มใต้มือ
เพราะเหตุใด?
ซ่านเซิ่งหานต้องการโพล่งออกมาโดยตรง แต่สติปัญญาของเขาบอกกับเขา ไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกของตนเร็วเกินไป อย่างนั้นกลับกันเขาอาจโดนกู้อ้าวเวยกินไม่เหลือชิ้นดี ทำได้เพียงไอเบาๆ: “แม้แต่บัลลังก์?”
“แน่นอน” กู้อ้าวเวยพยักหน้าอย่างจริงจัง นางดูเหมือนจะไม่สนใจที่บอกซ่านเซิ่งหานถึงจุดประสงค์ของตน และ นางพูดต่อ: “ท่านไม่รู้ว่าเขาสำหรับข้าสำคัญมากแค่ไหน”
“เจ้ากับเขาไม่ได้มีความคุ้นเคยกันมาก” ซ่านเซิ่งหานไม่เคยมองทะลุกู้อ้าวเวยคนๆนี้: “เจ้าบอกเรื่องนี้กับข้า แล้วไม่กลัวข้าจะไม่เชื่อเจ้าในอนาคต?”
กู้อ้าวเวยไม่ได้ตอบคำถามของเขาอีก มีเพียงความคิดหนักแน่นดั่งก้อนหินนั่งอยู่ขอบเตียงเพียง ไม่มีใครล่วงรู้ว่านางคิดอย่างไรภายใต้ใบหน้าที่เหมือนจะยิ้มไม่ยิ้มนั้น และซ่านเซิ่งหานก็รู้ว่าเขาจะไม่ได้คำตอบใดๆอีก เพียงจากลาไปในความมืด
หน้าต่างเปิดออก ลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านเข้ามาพัดให้กู้อ้าวเวยรู้สึกตัว
แน่นอน มีเพียงซ่านเซิ่งหานเท่านั้นที่ไม่เหมือนใครสำหรับนาง
ไม่มีใครรู้ว่านางกลัวความมืด เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครมองออกว่านางต้องการให้ใครสักคนอยู่เคียงข้าง
กระทั่งสวนด้านนอกมีเสียงทหารดังใกล้เข้ามา ทันใดนั้นนางถึงได้ลุกขึ้นไปปิดหน้าต่าง แล้วกลับมานอนลงบนเตียงอีกครั้ง ไม่ช้าก็ผล็อยหลับลึกไป
นางมีค่าในการโค่นล้มซ่านเซิ่งหาน แม้ว่าวันนี้นางจะสารภาพความต้องการของตน ซ่านเซิ่งหานก็คงจะไม่ยอมปล่อยความร่วมมือและพันธมิตรนี้ไปง่ายๆ
นางหลับลึก ตื่นมาในเช้าวันใหม่ นางก็ได้รับข้อความ____องค์ชายสามได้เชิญซ่านเซียนหยวนกับลี่วานไปนั่งที่จวน
“องค์ชายสี่อยู่ฝ่ายไหนกันแน่?” เสี่ยวหลินใส่ใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
“เขามักเป็นกลางเสมอ ไม่มีอะไร” กู้อ้าวเวยโบกๆมือ เพียงเผชิญหน้ากับยาสมุนไพรทั้งห้องมีความลังเลเล็กน้อย ไปหลิ่งหนานตระกูลหยุน นางควรนำสิ่งของอะไรไปบ้างถึงดี
ในช่วงเวลาที่นางใช้ความคิด หยินเชี่ยวกับหยุนฝูก็รีบร้อนวิ่งเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น” กู้อ้าวเวยหันกลับไป
“เมื่อสักครู่องค์ชายสี่ขณะออกจากจวนชนเข้ากับแม่นางพ่านเอ๋อ! แม่นางพ่านเอ๋อกระแทกโดนศีรษะ เวลานี้ท่านอ๋องกับองค์ชายสี่กำลังต่อสู้กัน ท่านรีบไปดูๆ! “หยินเชี่ยวรีบคว้านางออกไปข้างนอก
“คุณหนู ไปไม่ได้ เรื่องระหว่างพวกเขาอาหลานท่านอย่าเข้าไปขวางเลย จะยิ่งทำให้ท่านอ๋องเกลียดท่าน” ชิงต้ายมีความเห็นที่ต่าง
หลังจากไม่กี่ก้าว นางลังเล แต่ก็ส่ายหัวๆ แกะมือของชิงต้ายออก: “องค์ชายสี่ดีกับข้า ข้าต้องไปดู”
ชิงต้ายถอนหายใจยาว และก็กัดฟันตามไปด้วย
เร่งก้าวเท้ามาถึงตำหนักอ๋อง ซ่านเซียนหยวนก็โดนกุ่ยเม่ยกับเฉิงซานกดลงนอนอยู่บนไม้ไผ่ เนื้อตัวเลอะเทอะ ส่วนซ่านจินจื๋อได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทั่วใบหน้าของเขามืดครึ้ม ในมือยังถือดาบอีกเล่ม อย่างเกรี้ยวกราด: “ไม่รู้เรื่องไหนสมควรหรือไม่สมควร! ข้าทุกวันสอนสั่งเจ้าอย่างนี้ใช่ไหม!”
“นั่นไม่ใช่เพราะท่านคอยตามใจซูพ่านเอ๋อ นางถึงได้กล้าทำร้ายข้า! ถ้านางปีนอยู่บนตัวข้า เสด็จอาท่านก็จะฆ่าข้าใช่หรือไม่!” ซ่านเซียนหยวนคายเลือดออกมาจากปากน้ำเสียงไม่ลดละ
“บังอาจ!” ซ่านจินจื๋อถือดาบเดินไปข้างหน้า