บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 124

ตอนที่ 124

บทที่ 124 ไม่ทรยศ

สุราดีเลิศรส สาวงามร่วมเคียงข้าง 

สิ่งเหล่านี้แต่เดิมน่าจะเป็นทุกอย่างในชีวิตฉีหลิน ทว่ายามนี้ซ่านเชียนหยวนกลับดื่มด่ำกับสิ่งเหล่านี้โดยไม่สนใจการห้ามปรามของลี่วาน เวลาล่วงเลยผ่านไปซ่านจินจื๋อก็ไม่ได้สนใจเขา และไม่ปล่อยกู้อ้าวเวยออกจากการกักบริเวณ

“เจ้ายังจะเศร้าซึมต่อไปอย่างนี้หรือไร?” องค์ชายสามซ่านเซิ่งหานเลื่อนม่านบังข้างเตียง สุดจะทนกับกลิ่นสุราอันคละคลุ้งจนอดไม่ได้ที่จะย่นจมูก

“พี่สาม….ท่านมาได้ประจวบเหมาะ ข้าจะให้ชุนเอ๋อร์ดื่มสุราเป็นเพื่อนท่านสักหลายจอก”

เขาส่งเสียงล้อเลียนและนำสตรีหยาดเยิ้มที่กึ่งพิงกึ่งซบอยู่ในอ้อมแขน ดันเข้าในอ้อมกอดของซ่านเซิ่งหาน ด้วยใบหน้าแดงก่ำน้ำเสียงละมุนไม

เรียวคิ้วซ่านเซิ่งหานขมวดมุ่น รีบเหวี่ยงหญิงสาวไปยังด้านข้างทั้งยังไล่หญิงสาวที่อยู่เต็มห้องออกไปจนหมด หลังจากปิดบานประตู ซ่านเชียนหยวนจึงค่อยเปิดเปลือกตามมองเขา “พี่สาม เป็นข้าที่มักจะก่อปัญหาไม่หยุดไม่หย่อนแล้วเพราะเหตุใดเสด็จอาจึงได้แต่ตำหนิพระชายาจิ้ง เห็นได้ชัดว่านางกับเสด็จพี่นาง…..”

เอ่ยถึงเสด็จพี่นาง ซ่านเชียนหยวนก็หยุดลง คล้ายกับถูกคนทำร้ายจนเจ็บปวด

ช่วงเวลาที่เงียบงัน มีเสียงหัวเราะหยอกล้อนอกประตูลอดเข้ามาอย่างแผ่วเบา

ซ่านหลิงเอ๋อร์

ฟ้ายังคงมืดครึ้ม พระบิดาเอ็นดูธิดาตัวน้อยตั้งแต่ยังเล็ก ดูแลประคบประหงมนาง แต่เป็นเพราะตอนนั้นเพื่อปกป้องซูพ่านเอ๋อร์จึงได้สิ้นพระชนม์ไป ฮ่องเต้จึงมองนางในแง่ลบเช่นนี้ เอาแต่มองว่าซูพ่านเอ๋อร์เป็นตัวอัปรีย์ของราชวงศ์ ประการแรกเป็นซ่านจินจื๋อที่ปล่อยให้ธิดาสุดที่รักต้องเสียชีวิต

“แต่ว่ามีเพียงท่านคนเดียวที่คิดว่าซูพ่านเอ๋อร์นั้นคู่ควร”

ซ่านเซิ่งหานชิงถ้วยสุราในมือของเขามาอย่างไม่มีทางเลือก เห็นซ่านเชียนหยวนแววตามืดครึ้ม เขาจึงได้กล่าวต่อ “ถึงแม้ซูพ่านเอ๋อร์จะไม่มีหนทางใดๆ เจ้าคิดจริงหรือว่าเมื่อเสด็จพ่อลงมือสังหารแล้วจะรู้สึกปีติยินดีหรือ?”

ซ่านเชียนหยวนเกร็งไปทั่วทั้งร่าง “เช่นนั้นถ้าหากข้าบอกเสด็จอาถึงโฉมหน้าที่แท้จริงของซูพ่านเอ๋อร์…”

“เสด็จอาทรงฉลาดเฉลียวจะไม่ทราบได้อย่างไร เพียงแต่กำลังโปรดปรานซูพ่านเอ๋อร์ก็เท่านั้น ในวันหน้าเจ้าไม่ต้องแส่หาเรื่องก็พอ เคารพพระชายาจิ้งห่างๆได้เป็นดีที่สุด” ซ่านเซิ่งหานวางเงินตำลึงไว้บนโต๊ะแล้วค่อยกึ่งดึงกึ่งลากซ่านเชียนหยวนออกมาจากแหล่งกามารมณ์

เยว่กับลี่วานกำลังนั่งอยู่บนรถม้าเมื่อเยว่เห็นซ่านเซิ่งหานก็ได้ลงจากรถม้า “องค์ชายสาม ในจวนกำลังมีแขกมา กำลังรอท่านกลับไปเพคะ”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าคงไม่อาจส่งองค์ชายสี่” ขณะที่ซ่านเซิ่งหานกล่าวก็ได้จับมือของเยว่เดินมุ่งหน้าไปยังที่คฤหาสน์ขององค์ชายสาม

ลี่วานได้แต่มองทั้งสองที่จูงมือกันอิจฉาอยู่ภายในใจ

ซ่านเชียนหยวนเหลือบตาขึ้นมองท้องฟ้าสลัวๆ ก่อนที่ราตรีจะมาถึง ทั่วทั้งเมืองเทียนหยานมีเพียงแหล่งซ่องสุมกามารมณ์ที่คึกคัก กลางค่ำกลางคืนเช่นนี้จะมีผู้คนมาถามหาได้อย่างไรกันล่ะพี่ชาย

เมื่อแยกทางกับซ่านเชียนหยวน สีหน้าซ่านเซิ่งหานมืดครึ้มลงหลายส่วน “เซิ่นโหลวยังไม่ติดต่อมาอีกหรือ?”

“เพิ่งได้รับข่าว นอกจากนี้เซิ่นโหลวได้ทำการค้นหาองค์ชาย เกรงว่าในภายหน้าจะไม่อาจร่วมมือกับพวกเราแล้ว” เยว่รีบถอนมือตนกลับ กล่าวด้วยความเคารพ 

ซ่านเซิ่งหานนึกเรื่องบ้านค่ายริมน้ำในอดีตฝั่งเซิ่นโหลวนั้นไม่ค่อยพอใจค่อนข้างมาก ถามเขาว่าเพราะเหตุถึงไม่ช่วยเหลือในการแฝงตัว แต่เพื่อการซ่อนเร้นตัวตนเขามิอาจเปิดเผยจึงไม่สามารถตอบตกลงเซิ่นโหลวไปขัดขวางพวกซ่านจินจื๋อ

“ช่างเถิด หลายวันมานี้ข้าล้วนติดตามอยู่ข้างกายน้องสี่ เจ้าก็ปลอบโยนลี่วานเสียหน่อย จำไว้ว่าต้องขุดหาข่าวสารออกมา” หางตาซ่านเซิ่งหานอาบไปด้วยรอยยิ้ม นำมือของเยว่มาวางไว้ในฝ่ามือตนอีกครั้งแล้วกุมไว้เบาๆ “ข้าและเจ้าเป็นนายกับบ่าว และยังเป็นสามีภรรยา จะจับมือกันก็ย่อมได้”

เยว่หน้าแดงไปครึ่งหน้า ลดศีรษะลง “แต่ไม่อาจให้ฉินฮูหยินพบเห็น”

“ใช่ ถ้าหากนางพบเข้า เกรงจะโวยวายจนจวนข้าคว่ำฟ้าพลิกดินแล้ว” ซ่านเซิ่งหานพลางหัวเราะเบาๆหลายครา ในหัวมัวแต่คิดถึงแต่เรื่องก่อไฟย่างปลาในราตรีนั้น

คนทั้งสองจูงมือกันกลับจวน ทว่าซ่านเชียนหยวนที่กลับมาถึงจวนอ๋องจิ้งในเวลานี้กลับโบกมือไล่ลี่วานออกไป และเพียงแค่ยกมือก็คลี่คลายพวกบ่าวรับใช้สองคนที่เฝ้าประตู แล้วผลักประตูเปิดวิหารเฟิ่งหมิงออก

ภายในวิหารเฟิ่งหมิงดวงไฟทำให้กลางคืนสว่างราวกับกลางวัน  โคมไฟตรงทางเดินสว่างไสวตลอดทาง

กู้อ้าวเวยที่อยู่ภายในลานกลับถูกทำให้ตกใจ นางพยายามให้คนส่งโต๊ะขนาดใหญ่มาทำเป็นฝ้าเพดาน หลายวันมานี้นางศึกษาใบสั่งยาอยู่ภายในลาน ขณะที่นางกำลังต้มยาก็เห็นซ่านเชียนหยวนเดินเข้ามา ด้านหลังยังมีลี่วานที่ตามมาด้วยสีหน้ารีบร้อน

“พระชายาเพคะ ข้าโน้มน้าวองค์ชายสี่ไว้ไม่ได้ เขาดื่มสุราไปไม่พบท่านไม่ได้” ลี่วานสับเท้าเข้ามาเร็วปรี่

กู้อ้าวเวยพลันเบิกตากว้าง ยังไม่ทันได้พูดอะไรซ่านเชียนหยวนก็เดินมาถึงนาง กลับกลายเป็นว่าพับลงกับไปกับพื้น ครึ่งท่อนบนหมอบที่ขาของนางพร่ำเพ้อเข้าข้างตนเองไม่จบไม่สิ้น “เสด็จพี่นาง…องค์ชายสามให้ข้าเคารพท่านอยู่ห่างๆ ท่านว่าเขาไร้มะโนธรรมใช่หรือไม่!”

เสด็จพี่นาง?

ลี่วานกับกู้อ้าวเวยตกตะลึง มีเพียงพ่อบ้านที่มาทันที่เมื่อได้ข่าวแล้วเร่งส่งคนไปตามท่านอ๋อง

ผ่านไปสักครู่ กู้อ้าวเวยถึงได้รู้สึกตัวแล้วตบไปที่ศีรษะของเขาเบาๆ“ย่อมเป็นคนไร้มะโนธรรมแน่ๆ”

“เสด็จอาไม่ดีกับพระชายาเลยสักนิด แต่พระชายานั่นกลับคล้ายท่านมาก” ไม่รู้ว่าซ่านเชียนหยวนเมาจริงหรือเสแสร้ง

กู้อ้าวเวยค่อยๆปลอบพอเป็นพิธีอยู่หลายประโยค ท้ายสุดจึงได้แต่ลูบศีรษะเขา “มืดค่ำปานนี้แล้ว หยวนเอ๋อร์จะไม่กลับไปนอนได้อย่างไร?”

ถ้อยคำนี้เชียนหยวนกลับฟังได้ไม่ชัด เสียดายยังไม่ทันจะได้ขยับเขยื้อน กำลังสายหนึ่งก็คว้าเขาออกมาจากต้นขาของกู้อ้าวเวย กู้อ้าวเวยมองมาก็พบว่าซ่านจินจื๋อยืนอยู่ข้างกาย โยนซ่านเชียนหยวนให้กับพ่อบ้านแล้วกล่าวว่า “พาหยวนเอ๋อร์กลับห้องซะ”

“องค์ชายสี่เพิ่งจะละเมิดกฎ ขอพระชายาจิ้งประทานอภัย และขอให้อ๋องจิ้งอย่าได้ถือสาเลยเพคะ” ลี่วานรีบคำนับ

กู้อ้าวเวยนิ่งเงียบ มีเพียงซ่านจินจื๋อที่โบกมือเป็นเชิงให้พวกเขาทั้งสองออกไป หยอกเย้าชายเสื้อและนั่งลงข้างๆกู้อ้าวเวย พบว่านางหยิบหนังสือขึ้นมาเปิดอ่าน “เรื่องก่อนหน้านี้….”

“ข้าไม่ถือสา เดิมทีเหล่านี้ก็เป็นเรื่องครอบครัวท่านอ๋อง ข้าไม่ควรใส่ใจ” กู้อ้าวเวยอารมณ์เย็นชา น้ำเสียงราบเรียบแสดงความชัดเจนว่าไม่นึกอยากสนใจ

“หยวนเอ๋อร์คิดว่าเจ้าเป็นซ่านหลิงเอ๋อร์ ดูจากตอนนี้ พวกเจ้าทั้งสองกลับไม่เหมือนกันแม่น้อย” ซ่านจินจื๋อเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

“ตรงไหนที่ไม่เหมือนกันหรือเพคะ?” กู้อ้าวเวยกลับสนใจตัวซ่านหลิงเอ๋อร์ผู้นี้

ซ่านจินจื๋อเหลือบมองไปที่ใบสั่งยา กล่าวด้วยเสียงอันแน่นหนัก “ในสายตาของหลิงเอ๋อร์มีข้าและบรรดาน้องชายของนางเท่านั้น ทว่าในสายตาเจ้ากลับไม่มีสิ่งใดเลย ราวกับว่าเจ้าไม่เคยเป็นผู้คนของโลกใบนี้”

เมื่อซ่านจินจื๋อได้กล่าวเปรียบเทียบออกมา

นางจึงนึกได้ว่าตนนั้นไม่ใช่คนของที่แห่งนี้ จึงไม่เคยรู้สึกทุกข์ร้อนใดๆ

มุมปากกระเพื่อมไหว กู้อ้าวเวยกลับรู้สึกว่าปวดใจยากจะทานทน ปลายนิ้วที่เกร็งของนางได้ปิดตำราแพทย์ในมือ สายตาเศร้าวังเวง “เหตุใดถึงเป็นท่าน….”

การเข้าใจในตัวข้าเช่นนี้กลับเป็นการทำร้ายข้าได้อย่างลึกล้ำ 

“บางครา ข้าก็คิดเหมือนกันว่าเพราะเหตุใดถึงเป็นเจ้า” ซ่านจินจื๋อหัวเราะขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล มือหนาได้เข้าครอบครองหลังมือของกู้อ้าวเวย “เพียงแต่ข้ามิอาจปฏิเสธซูพ่านเอ๋อร์ และก็ไม่ต้องการปฏิเสธหัวใจของตนเอง”

หัวใจของกู้อ้าวเวยเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท