บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 134

ตอนที่ 134

บทที่134 สถานรื่นรมย์

ตอนดึก นางเพียงเปิดหน้าต่างไว้เพื่อเขียนใบสั่งยาที่จะให้ฉีหรัว

ยังไม่ทันถึงยามสอง เงาของใครบางคนก็โผล่เข้ามา

ซ่านจวนฮ่าวบนตัวเขายังคงเป็นเสื้อผ้าชุดเดิมกับก่อนหน้านี้ เขาพลิกร่างผ่านหน้าต่างเข้ามา ตอนนี้เขาเพียงแค่นั่งไขว่ห้างอยู่บนขอบโต๊ะ พู่กันในมือของกู้อ้าวเวยยังไม่ลดลง เพียงแค่เหลือบมองเขา: “พรุ่งนี้ต้องไป?”

“ไม่เช่นนั้นก็จะไม่คู่ควรกับท่าน” ซ่านจวนฮ่าวจับเข้าที่ใบหูและเกาแก้ม แล้วจึงดึงเชือกสีแดงที่มีความหนาเท่านิ้วก้อยออกมาจากในแขนเสื้อ ที่ปลายเชือกสีแดงได้ผูกลูกแมวไม้แกะสลักไว้: “นี่คือก่อนหน้านี้ที่ข้าแกะสลักตามเจ้าพุทรา แต่ว่าฝีมือแย่เล็กน้อย”

“มันแย่จริงๆ” กู้อ้าวเวยยิ้มแล้วหยิบเชือกสีแดงมาเก็บไว้: “ของขวัญอำลานี่ข้ารับไว้แล้ว”

ทั้งสองพูดคุยสนทนากันไปมา และกู้อ้าวเวยยังบอกกับเขาว่าตัวเองได้ตั้งชื่อให้มีดเล่มเล็กว่าเมล็ดบัว ซ่านจวนฮ่าวหัวเราะจนหุบปากไม่ได้ แต่เมื่อเขากำลังจะไปก็พูดด้วยความโดดเดี่ยวว่า: “พรุ่งนี้ เจ้าสามารถไปส่งข้าได้หรือไม่? ข้าไปในครั้งนี้ เกรงว่าคงเป็นเวลานาน”

“ได้สิ” กู้อ้าวเวยรับปาก

ซ่านจวนฮ่าวถึงเดินจากไปด้วยความพึงพอใจ แต่กู้อ้าวเวยกลับไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาถึงไม่คู่ควรกับตน

เช้าตรู่วันที่สอง ท้องฟ้ายังคงไม่สว่าง กู้อ้าวเวยก็นำแมวไม้เชือกสีแดงแขวนไว้ที่รอบเอว ก่อนจะคว้าเจ้าพุทรากอดไว้ในอ้อมแขนแล้วก็มาถึงหน้าประตูเมือง

ซ่านจวนฮ่าวในวันนี้ทั้งตัวสีหน้าและเสื้อคลุมตัวยาว ดูไม่เหมือนกับคนเมื่อคืนที่มีท่าทางเหลาะแหละ นั่งอยู่บนหลังม้าช่างสง่าและกล้าหาญ

องค์ชายทั้งหลายพร้อมหน้ากันมาส่งเขา รวมทั้งซ่านจินจื๋อก็ขี่อยู่บนหลังเจ้าอาชาสีดำสนิทยืนอยู่ข้างๆ

ซ่านจวนฮ่าวไม่ได้มีสีหน้าที่ดีอะไรต่อคนอื่น แต่เมื่อเขามองเห็นกู้อ้าวเวยดวงตากลับเป็นประกาย เพียงกลับหัวมายังตรงหน้าของกู้อ้าวเวย เมื่อเห็นเชือกสีแดงของเขาตรงรอบเอวนาง ก็ยิ้มอย่างดีใจ: “ต้องมีสักวัน ข้าจะต้องเก่งกาจยิ่งกว่าเสด็จอา”

“เพราะเหตุนี้ถึงจากลา?” กู้อ้าวเวยลูบไปยังม้าศึกใต้ร่างเขาขณะพูด ม้าตัวนี้กลับถูฝ่ามือของนางเบาๆอย่างอ่อนโยน กับซ่านจวนฮ่าวค่อนข้างคล้ายกัน

“แน่นอน!” ซ่านจวนฮ่าวหัวเราะสองสามครั้ง และไม่รีรออีกต่อไป เมื่อหันหลังกลับ ม้าที่อยู่ข้างใต้ร่างก็ได้ขยายกีบ วิ่งทะยานออกไปไม่ได้หยุดลงเพื่อคนอื่นๆอีก คงมีแค่กู้อ้าวเวยเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำให้เขาหยุดได้

จิตใจเช่นนี้ช่างซับซ้อนเกินไป และแม้แต่กู้อ้าวเวยก็มองไม่ชัดเจน

นางจำไม่ได้แม้กระทั่งว่านางกับซ่านจวนฮ่าวเคยมีความสัมพันธ์ใดๆทั้งนั้น ระหว่างทั้งสองน้อยมากที่จะพบหน้ากัน แต่ดวงตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความจดจำฝังลึกไว้ในใจ

แต่นางก็ต้องตกใจอุทานออกมาเมื่อถูกซ่านจินจื๋อดึงขึ้นบนหลังม้า ซ่านจวนฮ่าวในความคิดถูกลบออกจนหมดสิ้น

“ท่านอ๋องมีเรื่องอะไร?” กู้อ้าวเวยไม่เข้าใจขยับที่นั่งไปมา เพื่อที่ตัวเองจะได้นั่งได้สบายขึ้น

“เจ้ายังอาลัยอาวรณ์ไม่อยากจากลาต่อองค์ชายหก?” ซ่านจินจื๋อถามกลับ

กู้อ้าวเวยเพียงแค่หัวเราะเบาๆ ผลักไหล่ของเขาออก และลงจากหลังม้าในทันที แล้วรีบกระชับกอดเจ้าพุทราไว้ในอ้อมแขนก่อนจะหลุดออกจากอ้อมแขน เหลือไว้เพียงรอยยิ้มที่บางๆ: “จะเป็นไปได้อย่างไร ข้าในตอนนี้ยังคงเป็นพระชายาของท่าน”

แน่นอนว่านางยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องแก้ไข จึงเดินไปเรื่อยๆกลับไปยังร้านยาเหย้า

ซ่านจินจื๋อมองดูด้วยใบหน้าตึง ในใจขุ่นเคือง ทำเพียงกลับไปยังตำหนักอ๋องอย่างไม่พอใจ ซูพ่านเอ๋อเมื่อได้ยินเรื่องราวของกู้อ้าวเวยที่ไปส่งองค์ชายหกจากกันเมื่อเช้านี้ ในใจรู้สึกยินดี และไม่สนใจข่าวลือก่อนหน้าว่าเป็นอย่างไรแล้ว เพียงแค่นำเหล้าดีๆมายังห้องหนังสือของซ่านจินจื๋อ

“ท่านพี่จื๋อเหตุใดถึงไม่เบิกบานเลย?” ซูพ่านเอ๋อขยิบตาข้างหนึ่ง แม้ว่านางจะมีนัยน์ตาดอกท้อเช่นเดียวกับกู้อ้าวเวย แต่ก็มีเสน่ห์มากกว่านี้เพียงยั่วยวนให้ซ่านจินจื๋อใจหวั่นไหว

แต่ทันทีที่เขานึกถึงสิ่งต่างๆระหว่างกู้อ้าวเวยและองค์ชายหก ในใจกลับพูดไม่ออกถึงความขุ่นเคือง เพียงยกขึ้นดื่มจอกแล้วจอกเล่ากับซูพ่านเอ๋อ ดื่มจนมึนเมา ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะโอบกอดอีกคนไว้ในอ้อมแขน แล้วมอบสัมผัสรักอย่างทะนุถนอม

แต่มีความไม่เหมือนกันเล็กน้อย เขาไม่เคยอยากจะเมาต่อหน้ากู้อ้าวเวย หลังจากที่กู้อ้าวเวยเมาเขากลับลงมือกระทำไม่ได้

เพียงแค่ว่าเขายังไม่ค้นพบตัวเอง

ที่นี่มีคนกำลังแหวกฟ้าคว้าฝน ฝั่งของชิงต้ายก็กลับมีข่าวสารทุกอย่าง และทำเพียงนำเรื่องราวเหล่านี้ไปบอกกับกู้อ้าวเวย

กู้อ้าวเวยก็แค่หัวเราะเยาะตัวเอง: “นั่นคือความรักทั้งชีวิตของเขา”

กับซ่านจินจื๋อ ซูพ่านเอ๋อยังคงเป็นแสงจันทร์สีขาวในใจของเขา

”แต่ว่า ท่านอ๋องก่อนหน้านั้นปฏิบัติต่อพระชายาดีเช่นนั้น” หยินเชี่ยวทนมองไม่ได้อีกต่อไป ทำได้เพียงเอาชั้นวางยาสมุนไพรด้วยความขุ่นเคืองใจ หยุนฝูรีบไปจัดชั้นวางให้เข้าที่

“เอาล่ะ อย่างไรก็ตามลองทำใบรายการนี้ก่อน ฉีหรัวบอกข้าก่อนหน้านี้ว่ามีบางใบรายการที่ไม่ดี ข้าต้องลองแก้ไขและทดลองดูถึงจะได้” กู้อ้าวเวยเพียงตั้งใจทำยาสมุนไพร

หากว่าสามารถนำสิ่งของดูแลผิวต่างๆที่นี่ขายออกไป กับสำนักเยียนหยู่เก๋อก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน และนางก็สามารถสร้างรายได้มหาศาล

เพียงต้องทนความอดทนในหัวใจ เพียงสนใจกับการทดลองตามใบสั่งยาในมือ

แต่น่าเสียดาย โลกนี้ไม่เคยให้เวลากับนางมากนัก

ในตอนที่พระอาทิตย์ตกดิน นางหิวจนไส้กิ่วถึงต้องไปที่ห้องครัวเพื่อหาของกิน แต่ลี่วานกลับร้องไห้สะอึกสะอื้นมาที่ประตู ทั้งที่ควรเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวงานอภิเษกครั้งใหญ่ในไม่กี่วัน เวลานี้กลับตรงเข้าไปในอ้อมแขนของนาง

สร้างความตกใจให้กับกู้อ้าวเวยจนต้องรีบส่งพู่กันที่ยังไม่แห้งดีให้กับชิงต้าย แล้วรีบดึงอีกคนไว้: “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงรีบร้อนเช่นนี้?”

“ฉีหลินได้พาองค์ชายสี่ไปที่สถานรื่นรมย์ ไม่ว่าข้าจะพูดเช่นไร กลับดึงรั้งไว้ไม่ได้” ลี่วานร้องไห้ดั่งหยาดน้ำฝนบนดอกหลี(ดอกแพร์) อย่างกระหืดกระหอบ

“ไปที่นั่นได้อย่างไรกัน ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ยินฉีหลินเคยไปมาก่อน!” กู้อ้าวเวยดำไปทั้งใบหน้าทันที ซ่านเซียนหยวนและฉีหลินก่อนหน้านี้เป็นจอมอันธพาลก็แค่กินแล้วชักดาบ ยั่วยุพวกนักเลงแล้วถึงให้นางไปหา แต่ก็ไม่เคยไปสถานรื่นรมย์มาก่อน

ชิงต้ายกับหยินเชี่ยวก็ขมวดหัวคิ้ว มีเพียงหยุนฝูตั้งแต่แรกก็เห็นผู้เฝ้ายามก่อนหน้าที่เป็นนักฆ่าอย่างกุ่ยเม่ยก็ให้เรียกเข้ามา

“กุ่ยเม่ย เจ้าจงช่วยข้าไปเรียกสองคนนั้นออกมา งานอภิเษกที่ยิ่งใหญ่ใกล้เข้ามา การกระทำของเขาเช่นนี้หากท่านอ๋องรู้เข้า แน่นอนที่จะถูกตำหนิอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” กู้อ้าวเวยรีบโบกๆมือ และขอให้ชิงต้ายไปเช่ารถม้ามาหนึ่งคัน เพียงแค่ต้องการแก้ไขปัญหานี้อย่างรอบคอบเท่านั้น

ลี่วานตอนนี้ถึงหยุดเสียงร้องไห้ รีบติดตามกู้อ้าวเวยนั่งรถม้าจนมาถึงทางเข้าถัดจากนั้น

ทางเข้านี้อีกด้านหนึ่งเงียบสงบไปทั้งแถบแล้ว มีเพียงโรงละครชิงโหวที่อยู่ตรงนั้นที่ยังคงมีแสงสว่างอยู่

จนกระทั่งผ่านไปเป็นชั่วโมง กุ่ยเม่ยถึงได้พยุงทั้งสองร่างเดินออกมา ฉีหลินกับซ่านเซียนหยวนเมาไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวไปนานแล้ว กู้อ้าวเวยเพียงแค่โยนฉีหลินไปอีกด้านยกให้ฉีหรัวไปจัดการ ทางด้านนี้ก็ทำได้แค่ผลักซ่านเซียนหยวนไปที่ด้านข้างของลี่วาน

“จริงๆเลย แล้วยังดื่มเหล้ามากขนาดนี้” นางถือว่าซ่านเซียนหยวนเป็นน้องชายจริงๆ นางรีบนำกลิ่นยากระตุ้นให้เขาดม และต้องการถามเขาว่าเหตุใดถึงมาที่นี่

เมื่อเริ่มรู้สึกตัวเล็กน้อยอย่างซ่านเซียนหยวนทำเพียงลืมตาขึ้น และมองเห็นคนข้างๆอย่างลี่วาน ก็ขมวดหัวคิ้วทันที: “เจ้าทำไมถึงอยู่นี่? ข้า……ไม่อยากรับฟังคำพูดใดๆของเจ้า!”

ขณะพูดอยู่ ซ่านเซียนหยวนก็หันไปหาฉีหลิน จับเขาไว้ต้องการที่จะร่ำสุรากับเขาต่อ

ลี่วานตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ น้ำตาร่วงหล่นลงมาอย่างต่อเนื่อง

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท