บทที่ 247 คุณบิดาเกิดความสงสัย
“คุณหนูเดาถูกค่ะ ท่านอ๋องไม่เพียงแต่ให้กุ่ยเม่ยมาสอนกังฟูให้คุณหนูครั้งละสามวันเท่านั้น และยังอนุญาตให้คุณหนูไปเที่ยวนอกเมืองด้วย เพียงแต่ว่าต้องมีคนตามไปปกป้องด้วย” ชิงต้ายช่วยเธอหวีผม จริงๆก็แค่รัดผมแบบง่ายๆ
กู้อ้าวเวยยิ้ม แต่แววตามีแต่ความเย็นชา พูดว่า”แสดงว่าที่ฉันแกล้งไม่สบาย แสดงได้เก่งนะ”
“แต่ก่อนท่านอ๋องพูดว่า ท่านจะฆ่าตัวตาย ทำให้ข้าทาสตกใจมาก” ชิงต้ายถอนหายใจ
“ถ้าไม่ทำแบบนั้น เขาไม่เชื่อฉันหรอก” กู้อ้าวเวยหันไปมองชิงต้ายและปลอบใจเธอ พูดว่า “ความอ่อนแอของผู้หญิง สามารถทำให้ผู้ชายมาเอ็นดูเราได้ เมื่อคืนซูพ่านเอ๋อน่าจะนอนไม่หลับนะ”
พูดถึงเรื่องนี้ ชิงต้ายได้คิดสักพัก
ก้มตัวลงและเข้าใกล้หูของกู้อ้าวเวย พูดว่า “คุณหนูสองเข้าไปในวังแต่เช้า เมื่อออกจากวังก็ตามคุณม่านกลับไปตำหนัก ไม่รู้ทำไมอ๋องจิ้งถูกเรียกกลับไปตำหนักด้วยเหมือนกัน”
แสดงว่า กู้จี้เหยาไปฟ้องกับคุณบิดาอีกแล้ว
แต่กู้เฉิงเป็นคนฉลาดขนาดนั้น แม้ว่าเขารักกู้จี้เหยาแค่ไหน ก็ต้องสนใจความรู้สึกของอ๋องจิ้งด้วย
ซ่านจินจื๋อชอบฉันเอง คุณบิดายิ่งไม่กล้าว่าฉันหรอก เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วงมาก
คิดกำลังมัน หัวหน้าพ่อบ้านในตำหนักอ๋องเอากล่องใส่เครื่องประดับส่งมาให้ด้วยการกระทำอย่างเคารพ เขาไม่ได้เข้ามาในห้องเอง เพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับกู้อ้าวเวย กลัวกู้อ้าวเวยยังจำได้ว่าแต่ก่อนเขาเคยถากถางดูถูกเธอ
เครื่องประดับและเครื่องเพชรพลอยในกล่องเยอะมาก นับไม่ครบ กู้อ้าวเวยในฐานะเป็นพระชายา พึ่งได้เจอแบบนี้ครั้งแรก
“เอาเครื่องประดับเพชรพลอยพวกนี้ไปขายให้หมด และเงินที่ได้ฝากเข้าบัญชีของหยินเชี่ยว ให้เธอช่วยฉันเก็บไว้ก่อน” กู้อ้าวเวยเอาผ้ามาคลุมหน้าไว้ และยังใส่ชุดสีอ่อนธรรมดาเหมือนเดิม รัดผมยาวไว้อย่างง่ายๆไม่มีเครื่องประดับอะไรทั้งนั้น
“ถ้าคุณหนูใส่ชุดนี้ไปเจอคุณม่าน อาจจะโดนว่านะ” ชิงต้ายคิดสักพัก จึงเอาเสื้อโค้ตสีเหลือมาให้เธอใส่
กู้อ้าวเวยส่ายหัว ตั้งแต่เมื่อก่อน เธอรู้สึกว่ากู้เฉิงไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอหรอก และที่สำคัญ เธอไม่ใช่กู้อ้าวเวยตัวคนนี้จริงๆ จะตั้งใจเอาใจเขาทำไม
ชิงต้ายพยักหน้า ไปสั่งให้เตรียมรถม้าไว้
เมื่อมาถึงจวนเฉิงเสี้ยง เห็นรถม้าของตำหนักอ๋องกำลังจากไปพอดี กู้อ้าวเวยไม่สนใจ นับเงินกับชิงต้ายต่อ เหลือหนึ่งพันตำลึง ยังใช้ได้อีกนาน
นับมาตลอดทาง เมื่อถึงจวนเฉิงเสี้ยงแล้ว กู้เฉิงเห็นเธอแต่ไม่ได้ว่าเธอสักคำ กลับยังสั่งให้คนดูแลดีๆ
“เวยเอ๋อ แม้ว่าตอนนี้คุณได้รับความโปรดปราน แต่ก็อย่าอวดดีเกินไปนะ ต้องช่วยเหลือน้องสาวคุณด้วย ยังไงเธอกำลังท้องอยู่” พอเข้ามา ท่านแม่เล็กพูดกับเธอและยิ้มไปด้วย
“ท่านแม่เล็กอย่าพูดอะไรแบบนี้ที่ไร้สาระเลยค่ะ” กู้อ้าวเวยส่ายหัว พูดต่อว่า “ฉันไม่ได้พักอยู่ที่ตำหนักอ๋อง ช่วยน้องสาวอะไรไม่ได้หรอก แล้วอีกอย่าง ดูแล้วน้องสาวน่าจะไม่ชอบพี่สาวอย่างฉันหรอกค่ะ”
กู้ฮูหยินสีหน้าไม่ค่อยดี แค่ยังพูดอีกว่า “คุณพูดแบบนี้ทำไมละ ท่านอ๋องยังพูดเข้าข้างคุณเลย แค่ช่วยจี้เหยาพูดสิ่งที่ดีๆกับอ๋องจิ้ง น่าจะไม่ยากมั้ง”
กู้อ้าวเวยสีหน้าเย็นชาลง และไม่พูดอีก
กู้ฮูหยินรู้สึกอึดอัดใจ ดีที่กู้อ้าวเวยแกล้งไอ จึงเปลี่ยนเรื่อง ถามว่า “ เวยเอ๋อที่มาวันนี้ เพราะเรื่องอะไรคะ”
“เรื่องที่เกี่ยวกับเมิ่งซู่” กู้อ้าวเวยไม่นั่ง ผ้าคลุมหน้าก็ไม่ถอดออกและพูดว่า “ถ้าคุณบิดาอยากจะให้เขามาช่วยทำงาน ลูกจะไปเยี่ยมเขาเดี๋ยวนี้ค่ะ แต่ถ้าคุณบิดาไม่ถูกใจ ลูกก็ต้องหาวิธีอื่นเพื่อหางานให้เขาทำที่เทียนเหยียนค่ะ”
สีหน้าของกู้เฉิงเปลี่ยนตามอารมณ์ ถ้าไม่มีปัญหา เมิ่งซู่ต้องได้รับเป็นจอหยวน(ผลสอบได้อันดับที่ 1)ในการสอบครั้งนี้แน่นอน
ฮ่องเต้ชื่นชมเมิ่งซู่อย่างสูง และมีความหมายที่จะพัฒนาเขาด้วย ถ้าไม่ดึงมาเป็นพวก จะเสียดายมาก แต่เขาแค่สงสัยว่า ลูกสาวคนที่เย่อหยิ่งคนนี้ ทำไมมองถึงด้านนี้ด้วยละ เลยถามว่า “คุณยังจำได้ไหม ตอนเด็กๆ คุณตกลงไปในทะเลสาบ ใครเป็นคนที่ช่วยคุณ”
กู้อ้าวเวยคิ้วขมวด พูดว่า “เรื่องผ่านมานานแล้ว คุณบิดาพูดถึงเรื่องนี้ทำไมคะ”
“เวยเอ๋อ พ่อเลี้ยงคุณมาตั้งแต่เด็กจนโตขึ้น รู้จักว่าคุณมีบุคลิกที่ฉลาด แต่ไม่เคยรู้เลยว่า คุณฉลาดหลักแหลมขนาดนี้นะ” กู้เฉิงทำตาแคบลงน้อยๆ ผู้คุ้มกันที่ยืนอยู่ข้างนอก ล้วนมองมาทางนี้
ได้ยินว่ามีเทคนิคการแปลงหน้าในยุทธภพ หลังจากลูกสาวคนนี้แต่งงานกับอ๋องจิ้งแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงมากเหลือเกิน น่าสงสัยจริงๆ”
สังเกตได้ชัดเจนขนาดนี้ กู้อ้าวเวยยิ้ม มองหน้ากู้เฉิงและพูดว่า “คุณบิดาสงสัยลูกสาวของตัวเองเหรอคะ”
ในสายตากู้เฉิงนี้ ลูกสาวของเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่
เธอลุกขึ้นและเดินไปยืนอยู่ข้างหน้ากู้เฉิง ถอดผ้าคลุมหน้าออกและพูดว่า “แม่นมเป็นคนที่ไปช่วยฉันออกจากทะเลสาบ และคนที่ผลักฉันตกลงไปในทะเลสาบ ก็คือ กู้จี้เหยา น้องสาวของฉันเอง”
กู้เฉิงตกใจ พูดว่า “คุณไม่ใช่เวยเอ๋อ”
“คือฉันเองค่ะ” กู้อ้าวเวยคิดอยู่สักพัก ยิ้มและถอยหลัง พูดว่า “วันนี้ที่คุณบิดาเกิดความสงสัย ก็เพราะว่ากูจี้เหยามาพูดอะไรกับคุณบิดา ใช่ไหม”
กู้ฮูหยินสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน พูดว่า “ในยุทธภพมีเทคนิคการแปลงหน้า คุณต่างกับเมื่อก่อนมากขนาดนี้ หรือว่าคุณเป็นสายลับของใครหรือเปล่า”
“ตอนฉันอายุเจ็ดขวบ ท่านแม่เล็กพาฉันกับจี้เหยาไปขอพรที่ภูเขา ท่านแม่เล็กได้ขอพรว่า ขอให้กู้จี้เหยาแต่งงานกับคนดีคนรวยในอนาคต ร่มเย็นเป็นสุขตลอดชีวิต ฉันพูดถูกไหม”
เธอมีความทรงจำของกู้อ้าวเวย ก็ต้องได้นิสัยเย่อหยิ่งของกู้อ้าวเวยตัวจริงด้วย
กู้อ้าวเวยยิ้มแบบดีใจ หันไปมองหน้ากู้เฉิงอีกครั้ง และพูดต่อว่า “ถ้าคุณบิดายังไม่เชื่อ ฉันยังมีหลักฐานอีกนะ เมื่อฉันอายุเก้าขวบ คุณบิดาดื่มเหล้าเมาและไปซ่องโสเภณี ตอนออกมาบอกฉันว่าอย่าบอกให้ท่านแม่เล็กรู้จัก…”
“เวยเอ๋อ” กู้เฉิงลุกขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความโมโหโกรธ พูดว่า “มันเป็นเรื่องเก่าแก่ละ คุณไปชักชวนเมิ่งซู่มาเป็นพวกเถอะ น้องสาวของคุณย่อมมีโชคชะตาที่ดีของเธอเอง”
“ค่ะ คุณบิดา”
กู้อ้าวเวยใส่ผ้าคลุมหน้าและเดินออกไป ไม่สนใจการทะเลาะกันที่ข้างหลัง แต่ใจเธอยิ่งเย็นชาอย่างสุด
แม้ว่ากู้เฉิงไม่เชื่อลูกสาวของตัวเอง แต่ก็ไม่น่าให้ผู้ค้มกันพวกนี้ถือมีดยาวไว้
เหงื่อออกเต็มฝามือ ชิงต้ายตามเธอจากไปอย่างสั่นสะเทือน ไม่กล้ามองดูคนพวกนั้นที่ซ่อนมีดไว้ข้างหลัง
จนกระทั่งกลับไปถึงที่รถม้า กู้อ้าวเวยจึงสบายใจและถามว่า “ฉันต่างกับแต่ก่อนมากหรอคะ”
“ข้าทาสคิดว่า คุณหนูได้เกิดใหม่อีกครั้งหลังจากผ่านความลำบากมาค่ะ” ชิงต้ายตบหน้าอกเบาๆเหมือนพึ่งรอดชีวิตมา มองหน้าเธอและพูดว่า “คุณม่านกับฮูหยินไม่เคยเข้าใจคุณหนูหรอกค่ะ พวกเขาไม่รู้ว่า ที่คุณหนูทำตัวเย่อหยิ่งแค่เพื่อต่อสู้กับนางสาวคนอื่นที่ชอบนินทาผู้อื่น”
กู้อ้าวเวยละลึกถึงความทรงจำในอดีต หัวเราะเบาๆและพูดว่า “ใช่สิ ฉันคือกู้อ้าวเวยนะ”
เธอกับร่างกายของกู้อ้าวเวยเป็นคนเดียวกันอยู่แล้ว
สองคนมองหน้ากันและยิ้มด้วยความสบายใจ
ออกจากเมืองเทียนเหยียน มาถึงบ้านเล็กๆของเมิ่งซู่
บ้านเล็กหลังนี้ที่อยู่หากจากในเมืองไกลมาก ตอนนี้ดูคึกคักดี ได้ยินเสียงหัวเราะด้วย กู้อ้าวเวยแปลกใจและเปิดประตูเข้าไป