บทที่ 273 ฝีมือยอดเยี่ยม
ในฐานะเป็นพระชายาจิ้ง จะเดินทางไกลขนาดนี้เพื่อรักษาคนไข้้ในหมู่บ้านนั้นเหรอ คุณจะให้ผมอธิบายกับฮ่องเต้ได้ไงละครับ”
ซ่านจินจื๋อปฏิเสธเธอต่อหน้าพวกมู่เลี้ยว
“กุ่ยเม่ยสอนกังฟูให้ฉัน เป็นอาจารย์ที่มีมารมีต่อฉัน ฉันไปตรวจรักษาให้แม่ของเขาและพาเขาไปเยี่ยมแม่ของเขา ผิดตรงไหนคะ” กู้อ้าวเวยสีหน้ามืดมน ทั้งโมโหและรีบร้อน เสียงพูดสูงขึ้นด้วย
กุ่ยเม่ยคุกเข่าอยู่ที่ข้างๆ ไม่พูดอะไร
สองคนนี้ไม่มีใครยอมใคร พวกมู่เหลียวมองหน้ากันไม่รู้จะทำยังไง และวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้ จึงออกมาพูดว่า “ท่านพระชายาครับ ท่านอ๋องพูดถูกนะ ชาวในราชวงศ์ จะไปตรวจรักษาคนไข้้ที่หมู่บ้านได้ไง และอีกอย่าง ที่ว่าเป็นอาจารย์ของท่าน ก็ไม่ค่อยเหมาะสมและน่าเชื่อถือหรอก”
มู่เหลียวพวกนี้ เห็นกู้อ้าวเวยไม่เถียง ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็นของตัวเอง
ซ่านจินจื๋อรู้ว่ากู้อ้าวเวยโกรธมากในตอนนี้ แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมกู้อ้าวเวยต้องยึดเรื่องนี้ไม่ยอมปล่อยมือ เธอไม่เคยเจอหน้าคุณแม่ของกุ่ยเม่ยด้วยซ้ำและอีกอย่างสองคนหากกันไกลขนาดนี้ ไม่มีทางมีความผูกพันกันแน่นอน”
กุ่ยเม่ยกำมือไว้อย่างแน่น ดวงตาแดงเถือก
ขนาดพระชายามาขอร้องด้วยตัวเอง ท่านอ๋องก็ยังไม่อนุญาตเหมือนเดิม
ในขณะเดียวกัน กู้อ้าวเวยหัวเราะ และจ้องมองตาของซ่านจินจื๋อ พูดว่า “ในฐานะเป็นพระชายา สิ่งที่ควรทำหรือไม่ควรทำในราชวงศ์ ฉันก็ทำไปไม่น้อย คุณห้ามฉันไม่ได้หรอก”
ซ่านจินจื๋อคิ้วขมวด เขาไม่ชอบกู้อ้าวเวยทำตัวเย่อหยิ่งแบบนี้ สีหน้ามืดมนลงและหันไปมองกุ่ยเม่ย พร้อมถามว่า “ข้าไม่อนุญาต คุณจะทำยังไง”
“ก็ต้องหาวิธีอื่นสิคะ” กู้อ้าวเวยกลับไป ลากกุ่ยเม่ยลุกขึ้นมา พูดว่า “ฉันไม่ชอบให้ใครกลายเป็นคนที่ไม่มีหัวใจ ถ้าฉันพากุ่ยเม่ยไปบ้านเกิดของเขา ท่านอ๋องรับปากเรื่องหนึ่งกับฉัน ได้ไหม”
“กู้อ้าวเวย ช่วงนี้ ข้าดีกับคุณมากเกินไปใช่ไหม” ซ่านจินจื๋อตบโต๊ะและลุกขึ้น เห็นกู้อ้าวเวยไปจับมือของกุ่ยเม่ยนั้น รู้สึกไม่สบายใจมาก พูดว่า “คุณรู้ไหม ตอนนี้ มีแต่ผู้คนที่สนใจคุณ ข้าต้องรวบรวมข่าวสารโดยผ่านตัวคุณนะ”
“ฉันเข้าใจ” กู้อ้าวเวยมองหน้าเขาและพูดว่า “แต่ถ้าคุณยังเป็นผู้ที่คนอื่นเขานับถือยกย่อง แม้ว่าฉันไม่อยู่เมืองเทียนเหยียนครึ่งปี เมื่อกลับมาแล้ว พวกนั้นก็ต้องกลับมาติดต่อฉันเหมือนเดิม ไปกลับก็แค่หนึ่งเดือนเอง ท่านอ๋องรอไม่ไหวจริงหรอ”
“รอไม่ไหวครับ” ซ่านจินจื๋อตอบ
“ชีวิตคนก็เหมือนกัน” กู้อ้าวเวยจับกุ่ยเม่ยไว้อย่างแน่น พูดว่า “ฉันไปแค่หนึ่งเดือน กลับมาแล้วย่อมพยายามมากกว่านี้อีกหลายเท่า”
ซ่านจินจื๋อไม่เถียงกับเธอ ตอนนี้ยิ่งปวดหัวมาก ถามว่า “เรื่องที่เมื่อกี้คุณจะพูด คือ เนื่องอะไร”
“ถ้าฉันพากุ่ยเม่ยไปได้ คุณอย่าโทษเขาได้ไหม” กู้อ้าวเวยมองหน้าเขาด้วยความหวังดี
“ไม่เพียงแต่ไม่โทษ ผมยังจะปล่อยให้เขาเป็นตัวอิสระด้วย” ช่านจินจื๋อโกรธและนั่งลง พูดต่อว่า “แต่ถ้าให้ผมรู้จักว่า เขาเปิดเผยความลับออกไป ผมย่อมไม่ปล่อยเข้าแน่”
กุ่ยเม่ยรู้สึกกลัวมาก แต่กู้อ้าวเวยจับเขามาอยู่ใกล้ตัวเอง ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดกับซ่านจินจื๋อว่า “แค่เพราะว่า เขาเกิดความรักกับญาติ คุณจะทิ้งเขาไปเลยหรอ”
“ครับ” ช่านจินจื๋อสีหน้ามืดมน ไม่ให้โอกาสเลยแม้แต่นิดเดียว
กู้อ้าวเวยกัดฟัน และคิดว่า ซ่านจินจื๋อใจจืดและไร้วิญญาณมากเมื่อเจอเรื่องแบบนี้
แต่ว่า เฉิงซานที่ยืนมองอยู่ข้างๆ แค่คิ้วขมวดเฉยๆ และดูปกติมากสำหรับเรื่องแบบนี้
เธอกับกุ่ยเม่ยจากไปพร้อมกัน ไม่สนใจว่า ตอนนี้ฝนตกหนักแค่ไหน รีบไปเอายาสมุนไพรที่วิหารเฟิ่งหมิง และยาบำรุงร่างกายจำนวนมากเผื่อไว้
“ท่านพระชายาครับ…ผม…” กุ่ยเม่ยยืนอยู่ข้างๆ เห็นแต่กู้อ้าวเวยยุ่งเก็บของอยู่ เขาไม่รู้จะช่วยยังไง
“บ้านเกิดของคุณอยู่ไหน” กู้อ้าวเวยเก็บของไปด้วยและถามเขาไปด้วย ชิงต้ายเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน และพูดว่า “เฉิงซานพาคนมาเฝ้าอยู่ที่ข้างนอกแล้วค่ะ”
ตามที่คาด
แม้ว่าซ่านจินจื๋อจะใจร้ายแค่ไหน ยังไงกุ่ยเม่ยก็เป็นคนที่เขาฝึกหัดเติบโตขึ้นมาเอง จะไม่ปล่อยให้จากไปง่ายๆหรอก
“ชิงต้าย เตรียมรถม้าให้ฉัน ฉันจะเข้าวัง”
พูดจบ กู้อ้าวเวยเดินอ้อมไปด้านหลัง แต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย รับเอาร่มที่ชิงต้ายยื่นให้พร้อมเดินออกไปข้างนอก ถามว่า “อยู่ที่ไหน”
กุ่ยเม่ยตกใจ และตอบว่า “จากเมืองเยว่ซานไปทางภาคใต้ห้าสิบกิโลเมตร หมู่บ้านฉางผิง”
“รอถึงฝนหยุดตก เราค่อยเดินทาง” กู้อ้าวเวยเดินไปอยู่ข้างชิงต้าย แต่ในใจรู้สึกกังวลมาก
เมืองเยว่ซานหากจากเทียนเหยียน ใช้เวลาเดินทางประมาณห้าวัน ไม่ค่อยมียาสมุนไพร รอบข้างไม่มีทางน้ำ เดินทางลำบาก ที่ประทับใจมากที่สุด คือ มีน้ำพุร้อนในเมืองเยว่ซาน และมีถุงน้ำดีหงล์ที่หายากที่สุดในเมืองเยว่ซานด้วย นอกจากนี้ เมืองเยว่ซานเป็นเมืองที่ลำบากยากจนอยู่แล้ว อย่าว่าข้างๆมีแต่ก้อนหินภูเขาเลย แถมยังมีอากาศที่ฝนตกบ่อย พายุอย่างรุนแรง บางครั้งไม่มีผลในฤดูเก็บเกี่ยวแม้แต่นิดเดียว ทำให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพงด้วย
เมืองเยว่ซานถือว่าเป็นเมืองที่ไม่สิริมงคลเท่าไหร่
แต่เมืองเยว่ซานมีพื้นที่ที่กว้างขวาง มีป้อมปราการตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกอีกมากมาย จากที่นี่ไปด้านนอกสองร้อยกิโลเมตร และจากที่นี่ไปด้านในสองร้อยกิโลเมตร ในบริเวณนี้ก็ยังมีหมู่บ้านตั้งอยู่อีกเยอะ
เมื่อมาถึงห้องบรรทมของไทเฮา เธอช่วยไทเฮาตรวจชีพจร รู้ว่าไทเฮามักจะปวดเมื่อยในวันฝนตก เพราะไทเฮาคลอดซ่านจินจื๋อเมื่ออายุมากแล้ว ลูกชายสองคนอายุหากกันมาก หลังจากคลอดซ่านจินจื๋อแล้ว จึงทำให้สุขภาพร่างกายอ่อนแอ ยิ่งไม่ดียิ่งขึ้น
“ช่วงนี้น่าจะมีอากาศฝนตกบ่อยในเทียนเหยียน ไทเฮาเคยคิดว่าจะไปแช่น้ำแร่ที่เมืองเยว่ซานไหมคะ” กู้อ้าวเวยถาม เพราะว่าตอนนี้เป็นฤดูร้อน ไทเฮาไม่สะดวกที่จะเอาอ่าวถ่านออกมาใช้ มีแต่อดทนไว้อย่างทรมาน
ไทเฮาสงสัย ถามว่า “เมืองเยว่ซานเหรอ”
“ค่ะ เมืองเยว่ซานขึ้นชื่อด้วยน้ำพุร้อน และเคยได้ยินว่า มีถุงน้ำดีหงล์ที่เป็นยาที่หายากมากในเมืองเยว่ซานด้วย ฉันอยากไปตั้งนานแล้ว ถ้าไทเฮาสะดวก ไปกับฉันด้วยไหมคะ” กู้อ้าวเวยยิ้มและปรบมือ ทำตัวเหมือนเด็กขี้เล่น
“ถุงน้ำดีหงล์ คืออะไรคะ” ไทเฮาคิ้วขมวด
กุ่ยมามาที่อยู่ข้างๆมองกู้อ้าวเวยด้วยความแปลกใจ คิดสักพัก และตอบว่า “ถุงน้ำดีหงล์เป็นยาที่ดีมากเหมือนกับยาวิเศษ ท่านพระชายาทำไม…”
“ท่านอ๋องอยากได้ ฉันเลยคิดว่าจะไปหามาให้ค่ะ” กู้อ้าวเวยทำหน้าอย่างน่าสงสาร และพูดต่อว่า “ไทเฮา อย่าบอกให้ท่านอ๋องรู้นะคะ ถ้าฉันไปแล้วแต่หาไม่เจอ ท่านอ๋องต้องโทษฉันแน่เลย”
พูดถึงซ่านจินจื๋อแต่ละครั้ง กู้อ้าวเวยไม่ได้ทำตัวเป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่องราว แต่ก้มหน้าลงด้วยความหนักใจ
ไทเฮารู้สึกเอ็นดูมาก ที่ผ่านมา เธอสนใจแต่ซ่านจินจื๋อ ต้องรู้ว่าซ่านจินจื๋อสั่งให้คนไปหายาทั่วประเทศ เพื่อมารักษาซูพ่านเอ๋อ และยังแอบไปค้นหาเลือดมังกรกับถุงน้ำดีหงล์ด้วย
แต่ไทเฮาเห็นสภาพของกู้อ้าวเวย ที่อยากให้ซ่านจินจื๋อประหลาดใจและดีใจขนาดนี้ ยิ่งชื่นชอบมากขึ้น พูดว่า “งั้นไปด้วยกันเถอะ พอดีอยากรู้ว่าน้ำพุร้อนนั้น สามารถรักษาเอวที่มีอาการปวดเมื่อยได้ไหม”
“จริงไหมคะ” กู้อ้าวเวยตื่นเต้นมาก ยิ้มและพูดว่า “ได้แน่นอนค่ะ อย่าสายเกินไปแล้วกัน เดี๋ยวฉันไปเตรียมตัวก่อน รอฝนหยุดแล้วฉันจะเดินทางก่อนนะคะ”
“ทำไมท่านจะไปก่อนคะ” กุ้ยมามานึกว่าเธอจะไปพร้อมกันกับไทเฮา
“การแช่น้ำแร่นั้น ดีต่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่ฉันต้องเอายาสมุนไพรแช่ไว้ก่อนค่ะ เปลี่ยนยาสมุนไพรครั้งละหกชั่วโมง จึงจะมีผลค่ะ” กู้อ้าวเวยตอบอย่างจริงจัง กุ้ยมามาชื่นชมเธอ รวมทั้งไทเฮาก็ยิ่งชอบเธอมากขึ้น