บทที่ 335 ยอมรับความผิด
คุกเข่าลงบนพื้น ไหล่สองข้างถูกเฉิงยีกับเฉิงเอ้อกดไว้อย่างแรง สองคนทำเกินหน้าที่ไป
ซ่านจินจื๋อยืนอยู่ข้างหน้า เขาก้มตัวลงและจับคางของเธออย่างโหดร้าย แววตาเต็มไปด้วยความเกลียดและเย็นชา
“นิสัยของเจ้าเปลี่ยนไม่ได้จริงๆนะ ร่างกายของพ่านเอ๋อทนไม่ไหวที่เจ้ามาทำร้ายแบบนี้ รีบเอายาแก้ออกมา อย่าให้ข้าบีบบังคับแล้วกัน” ซ่านจินจื๋อพูดอย่างรวดเร็ว นำเสียงเต็มไปด้วยความน่าเบื่อ
“ฉันไม่ได้ทำ จะรู้ได้ไงว่าเธอเป็นพิษจากยาพิษชนิดไหน ควรใช้ยาแก้ยังไงคะ” กู้อ้าวเวยเงยหน้าขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยว แต่หัวใจนิ่งเฉย แค่รู้สึกน้อยใจนิดๆ “นอกจากว่า คุณให้ฉันไปช่วยรักษา…”
“พะ—“
เสียงตบหน้าดังทั่วห้องโถง
กู้อ้าวเวยหันหน้าไปอีกด้าน ทั้งหูอื้อและเลือดไหลจากปากของเธอด้วย
“พู” กู้อ้าวเวยหัวเราะขึ้น เสียงหัวเราะเต็มไปด้วยความสลดใจอย่างยิ่ง แววตาดูไม่สดใสเหมือนแต่ก่อน เงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง มองหน้าเขา พูดว่า “ถ้าคุณคิดว่าฉันเป็นคนทำ ฉันไม่เถียง ฉันไม่มียาแก้ คุณเอาชีวิตฉันไปเถอะ”
เธอดูเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม เสมือนคนเมาเหล้าที่ไม่ค่อยมีสติ
สีหน้าของเฉิงอีกับเฉิงเอ้อที่ยืนอยู่ข้างหลัง เข้มงวดมาก และรู้สึกขนลุกขึ้น
ซ่านจินจื๋อคิ้วขมวดและมองหน้าเธอ ยังไม่ทันพูด ได้ยินเสียงของเธอ พูดว่า “กุ่ยเม่ย พาชิงต้ายจากไปเถอะ ชีวิต ฉันคืนให้คุณ”
พอพูดจบ กุ่ยเม่ยอุ้มเอาชิงต้ายอย่างกระทันหัน และกระโดดขึ้นไปบนหลังคา จากไปอย่างรวดเร็ว แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ชิงต้ายเปิดตาโต ในใจไม่กล้าเชื่อเลย
“ให้คนไปตาม” เฉิงซานก็ตามไปหาพวกเขา
เหลือแค่พวกเขาสี่คนอยู่ในห้องโถง
กู้อ้าวเวยก้มหน้าไว้ ถอนหายใจ พูดว่า “คุณอยากได้แค่ชีวิตของฉันไม่ใช่เหรอ ปล่อยพวกเขาไป ฉันจะยอมรับว่า ฉันเป็นคนทำเอง”
ซ่านจินจื๋อบกมือขึ้น เฉิงอีเฉิงเอ้อรีบกระโดดไปด้านข้าง กู้อ้าวเวยรู้สึกเจ็บอย่างกระทันหัน พอนึกออก เธอถูกผลักไปกระทบกับผนังอย่างรุนแรง เหมือนไฟเผาทั้งตัว และอาเจียนเป็นเลือดออกมาด้วย เธอจับไหล่ตัวเองและมองหน้าของซ่านจินจื๋อ ถอนหายใจลึกๆ ไม่พูดอะไรสักคำ
“เอายาแก้พิษออกมา” ซ่านจินจื๋อโกรธมาก เดินเข้าไปใกล้เธอ
ตอนแรกเขาคิดว่า กู้อ้าวเวยลืมเรื่องพวกนั้น และไม่ถือซูพ่านเอ๋อเป็นศัตรูอีกแล้ว
แต่ตอนนี้ ซูพ่านเอ๋อเป็นพิษ รวมทั้งเมี่ยวหารก็ไม่มีทางรักษา ยาพิษแบบนี้ มีแต่กู้อ้าวเวยคนเดียวเท่านั้นที่สามารถรักษาได้ แต่ดูสภาพของกู้อ้าวเวยในตอนนี้ ไม่อยากสารภาพจริงๆ เขาจึงโมโหมาก
“ข้ารักและโปรดปรานเจ้าขนาดนี้ แต่เจ้าแอบติดต่อองค์ชายสามก่อน ตอนนี้ยังทำร้ายพ่านเอ๋อด้วย” ซ่านจินจื๋อจับลากเธอขึ้นมา จ้องมองตาของเธออย่างโมโหโกรธ
“ตั้งแต่แรกเป็นตนมา ฉันไม่เคยทำร้ายใครทั้งนั้น”
“คือ คุณ ที่ไม่เชื่อฉันเอง”
แม้ว่าเสียงเบา แต่เหมือนมดตัวเล็กๆกำลังกัดหัวใจและทำให้คันอย่างไม่สบายมาก
กู้อ้าวเวยถูกเขาจับเสื้อไว้ แต่เธอดูใจเย็นมาก แววตาไม่สะท้อนความหมายอะไรออกมา เหลือแต่ความว่างเปล่า
เธอยกมือและจับมือของซ่านจินจื๋อ ยิ้มกับเขาอย่างกระทันหัน ถามว่า “คุณรับไม่ได้ที่ซูพ่านเอ๋อตาย งั้น…คูณรับได้เหรอคะถ้าฉันตาย”
ซ่านจินจื๋อจับปกเสื้อของเธอ เถียงไม่ออกแม้แต่คำเดียว
สองคนจ้องมองตากัน ซ่านจินจื๋อโกรธมาก กำกำปั้นไว้แน่นๆจนมีเสียงกระโดก กำปั้นที่สามารถทำให้กู้อ้าวเวยเสียชีวิตได้ ผ่านไปตั้งนาน แต่ก็ไม่เห็นเขามีการกระทำต่อไป กู้อ้าวเวยกลับมองหน้าของเขาอย่างใจเย็นๆ
“เจ้าคิดว่า ข้าไม่กล้าฆ่าเจ้านั้นเหรอคะ” ซ่านจินจื๋อถามกลับ
“ใช่ค่ะ”
กู้อ้าวเวยยิ้ม พึ่งพูดจบ เธอถูกโยนลงบนพื้นอย่างรุนแรง ซ่านจินจื๋อยืนหันหลังกับเธอ พูดว่า “กักขังเธอไว้ที่คุก ห้ามปล่อยออกไปเด็ดขาดทั้งตลอดชีวิต”
“ถ้าฉันมีชีวิตอยู่ ยังสามารถทำเรื่องหลายเรื่องได้” กู้อ้าวเวยลุกขึ้นมา ผมยุ่ง คราบเลือดบนหน้าทำให้ผิวหนังของเธอดูขาวขึ้นมาก แต่แววตาเต็มไปด้วยความหมดหวัง
“ชาตินี้ เจ้าเจอได้แต่ข้าคนเดียวเท่านั้น” ซ่านจินจื๋อยิ้มอย่างเย็นชา โบกมือ
กู้อ้าวเวยตาโตขึ้นอย่างตกใจ
แม้ว่าวางแผนได้อย่างรอบคอบแค่ไหนก็ตาม เธอไม่นึกว่าซ่านจินจื๋อจะยึดกับเธอขนาดนี้
แต่เธอไม่สนใจ แม้ว่าได้เจอแค่ซ่านจินจื๋อคนเดียว แต่ สักวัน เธอต้องหนีพ้นจากคุกและไปจากที่นี่”
ถ้าอยู่กับซ่านจินจื๋อ ยังไงเธอก็สู้ซูพ่านเอ๋อไม่ได้
แต่ซูพ่านเอ๋อก็ฆ่าเธอไม่ได้เหมือนกันถ้าอยู่ใกล้ซ่านจินจื๋อ คิดถึงเรื่องนี้ เธอยิ้ม ไม่สนใจเฉิงอีเฉิงเอ้อที่กำลังจับลากตัวเองออกไป
แต่ยังไม่ทันออกไปไหน เห็นเฉิงซานพาคนพวกนั้นกลับมา
กุ่ยเม่ยถูกลูกธนูเสียบทะลุหัวไหล่และแขน ถูกพวกเขากดไว้บนพื้น ขยับไม่ได้ ชิงต้ายเป็นผู้หญิง ลูกน้องของเฉิงซานไม่ได้ทำกับเธอโหดร้ายขนาดนั้น แค่มีแผลตรงแขนมือนิดๆ ใบหน้าแนบกับพื้น
ชิงต้ายเห็นคนพวกนั้นจะพากู้อ้าวเวยจากไป กำลังจะเรียก
แต่เห็นกู้อ้าวเวยยิ้มกับเธอ แสดงว่าตัวเองไม่เป็นไร เรื่องนี้ เธอยังนึกไม่ออกว่าใครเป็นคนทำ ถ้าเธอรู้จัก ทุกอย่างต้องมีทางแก้ไขอยู่แล้ว
ชิงต้ายไม่ทันขยับไปไหน เห็นเมี่ยวหารเดินไปหาซ่านจินจื๋ออย่างรวดเร็ว และพูดอะไรกับเขาอยู่
ซ่านจินจื๋อคิ้วขมวด มองดูชิงต้ายสักพัก และพูดว่า “เจ้าถือชิงต้ายเป็นพี่น้อง ถ้าเจ้าไม่เอายาแก้พิษออกมา งั้น ฆ่าเธอตายเลยดีไหม”
สีหน้าของกู้อ้าวเวยเปลี่ยนไป สีหน้าของกุ่ยเม่ยก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจและน้อยใจ
เขาสองคนคุยกันไว้แล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา เขาต้องพาชิงต้ายหนีไปก่อน ถ้าเธออยู่คนเดียว ก็จะไม่มีจุดอ่อน เพราะเธอกับชิงต้ายอยู่ด้วยกันมานาน ซ่านจินจื๋อมอกออกอยู่แล้ว เขาต้องเอาชิงต้ายเป็นตัวประกันมาขู่เธอ ถึงตอนนั้น ทุกอย่างจะพังไปหมด”
เสียดาย กุ่ยเม่ยไม่นึกว่าซ่านจินจื๋อได้ฝึกลูกน้องไว้เยอะขนาดนั้น และมีความสามารถในการต่อสู้อย่างสูงทุกคน
“คุณให้ฉันไปช่วยรักษาได้ แต่ฉันยืนยันว่า ฉันไม่เคยวางยาพิษกับเธอแน่นอน” กู้อ้าวเวยดูรีบร้อนและเริ่มกังวลขึ้นมา
ชิงต้ายมองไปทางซ่านจินจื๋อ ตัวสั่นมาก
ซ่านจินจื๋อมองหน้าของชิงต้ายด้วยความเย็นชา แต่ที่สองคนมองตากันนี้ ทำให้กู้อ้าวเวยรู้สึกแปลกใจขึ้นมา
ชิงต้ายเคยอยู่กับซ่านจินจื๋อมาหนึ่งเดือน หรือว่าเธอถูกซ่านจินจื๋อขู่อะไรหรือเปล่า
“ถ้าเจ้านายของเธอเอายาแก้พิษออกมา ข้าจะไม่ทำเรื่องนั้น” ซ่านจินจื๋อยิ้มและพูด
เรื่องไหนเหรอ
กู้อ้าวเวยกับกุ่ยเม่ยไม่เข้าใจ
เห็นแต่ชิงต้ายกำลังลุกขึ้นมาและพร้อมตัวสั่นมาก เธอมองไปทางกู้อ้าวเวย หลังจากนั้นแล้ว เธอไม่รู้ใช้แรงจากไหน จับเอาปิ่นปักผมของตัวเองและวิ่งไปหาซ่านจินจื๋อ เฉิงซานวิ่งเข้ามาห้ามเธอ ได้ยินชิงต้ายทั้งหัวเราะและพูดว่า “เสียดายคุณไม่ตายเพราะยาพิษนั้น ซ่านจินจื๋อ คนที่ฉันอยากฆ่าคือคุณ คุณหนูทำดีกับคุณขนาดนี้ คาดไม่ถึงเลยว่า คุณจะแอบให้คนไปใส่ร้ายตระกูลหยุน ตอนนี้ ยังคิดว่าจะใช้ฉันเป็นตัวประกันเพื่อรักษาซูพ่านเอ๋อนั้นเหรอ ไม่มีทาง”
ใส่ร้ายตระกูลหยุน…กู้อ้าวเวยหันไปจ้องมองหน้าของซ่านจินจื๋อ