บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 424

ตอนที่ 424

บทที่ 424 มาถึงที่ (4)

ที่พระราชนิเวศน์ ในห้องของอ๋องจิ้ง

ซูพ่านเอ๋อเอนตัวอยู่บนตั่งด้วยท่าทางเฉื่อยชา ด้านหน้าวางไว้ด้วยก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่

กู้จี้เหยาที่อยู่ในฐานะชายาเอกนั่งตัวตรงอยู่ด้านข้าง ในมือพลิกอ่านตำราพิชัยสงคราม ทั้งสองคนนับว่าเข้ากันได้ดี

ซ่านจินจื๋อที่อยู่หน้าโต๊ะอ่านจดหมายที่ส่งมาในมือ ขมวดคิ้วแล้วไต่ถามเฉิงซานด้วยเสียงทุ้มต่ำ “กู่เซิงบีบคั้นเช่นนี้ไม่กลัวองค์ชายสามโต้ตอบรึ?”

“ใต้เท้ากู่เซิงกล่าวว่าองค์ชายสามขี้ขลาดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร หากว่าตอนนี้ไม่คว้าโอกาสไว้วันหลังก็ไม่มีโอกาสดีๆ เช่นนี้อีกแล้ว” เฉิงซานอธิบายเสียงเบา

หากกล่าวเช่นนี้ก็นับว่าสมเหตุสมผล ซ่านจินจื๋อเองก็จนปัญญาถึงได้ส่งเรื่องในราชสำนักให้กู่เซิงเป็นการชั่วคราว ไม่ว่าจะอย่างไรกู่เซิงก็เป็นถึงเฉิงเสี้ยง คำพูดมีน้ำหนักเพียงพอ คิดได้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเขาคือกู้เฉิง เขาก็วางใจ

“ฟอกเงินเหล่านั้นเรียบร้อยหรือยัง?” ซ่านจินจื๋อถามต่อ

“เรียบร้อยขอรับ ถึงอย่างไรอ้ายจือก็เป็นเพียงคนต่ำต้อย คิดว่ามีโอกาสจากท่านก็ระริกระรี่ไปช่วยท่านฟอกเงิน เกรงว่าคนของแคว้นเจียงเยี่ยนนั้นก็ไม่รู้ว่านางภักดีต่อท่าน” เฉิงซานพูดถึงตรงนี้น้ำเสียงดูไม่ค่อยใส่ใจนัก

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าก็วางใจ เขียนจดหมายบอกกู่เซิงว่าอย่ากระทำการโจ่งแจ้งเช่นนี้อีก มิฉะนั้นข้าก็ควรคิดบัญชีเก่าเรื่องบิดาของเขาเสียที” สายตาซ่านจินจื๋อเย็นชา เฉิงซานก้มหัวแล้วรีบออกไปจัดการ

รอจนเฉิงซานออกไป กู้จี้เหยาจึงได้ถือจังหวะเหมาะสมนำน้ำแกงถั่วเขียวชามหนึ่งวางลงด้านหน้าซ่านจินจื๋อ พูดเสียงอ่อนโยน “ท่านพ่อมักกระทำการโจ่งแจ้งเช่นนี้เสมอ ขอท่านอ๋องอย่าได้กล่าวโทษ”

มองกู้จี้เหยาแล้วซ่านจินจื๋อมักอดไม่ได้ที่จะนึกถึงกู้อ้าวเวย สุ้มเสียงก็อ่อนโยนลง “แต่บิดาของเจ้ากระทำบุ่มบ่ามอยู่เสมอ เจ้าโน้มน้าวเสียหน่อย”

“ย่อมได้เพคะ ท่านอ๋องโปรดระงับโทสะ” กู้จี้เหยาตีเหล็กเมื่อยังร้อน

เห็นซ่านจินจื๋อดื่มน้ำแกงถั่วเขียวชามนั้นซูพ่านเอ๋อที่อยู่บนตั่งกลับหรี่ตาลง จ้องเขม็งยังแผ่นหลังของกู้จี้เหยา ในตอนแรกนางลืมไปได้อย่างไรว่าถึงกู้จี้เหยาจะเกลียดชังกู้อ้าวเวยสักเพียงใด แต่สุดท้ายก็ยังคงเป็นน้องสาวของกู้อ้าวเวย

แม้หน้าตาจะไม่ได้คล้ายกันนัก แต่ในสายตาของซ่านจินจื๋อกลับเห็นเป็นญาติพี่น้องอยู่เสมอ

คล้ายว่าความอ่อนโยนที่ซ่านจินจื๋อไม่เคยได้กระทำกับกู้อ้าวเวยนั้นตอบแทนลงที่กู้จี้เหยา นางโกรธแค้นจนต้องกัดฟัน

เพียงแค่ซ่านจินจื๋อวางแผนทั้งหมดไว้แล้ว เชื่อความสามารถของกู้เฉิงเช่นนั้นแต่กลับเทียบกับฝันร้ายของกู้เฉิงไม่ได้มาโดยตลอด

ที่เมืองเทียนเหยียน ในจุดลับหลังจวนเฉิงเสี้ยง

กู้เฉิงมองสตรีงามล่มเมืองในม้วนภาพ ความอาฆาตแค้นในดวงตายิ่งลึกล้ำ

“หยุนหว่าน เจ้าจะไล่ตามข้าไปถึงเมื่อใดกัน?”

เขาพึมพำพูดคนเดียวกับม้วนภาพ หลายปีมานี้เขาฝันถึงหยุนหว่านที่กลายเป็นผีร้ายจะมาเอาชีวิตเขานับครั้งไม่ถ้วน ทั้งตอนนี้ราวกับว่ามีดวงตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่อย่างลับๆ เหมือนกับดวงตาของหยุนหว่านที่เคยจ้องมองมาที่เขา

แต่ชั่วพริบตาความอาฆาตแค้นในดวงตาก็เปลี่ยนเป็นความปรารถนาและความทะเยอะทะยานอันไร้ที่สิ้นสุด: “บนโลกนี้มีเพียงแค่เจ้าที่รู้ตำรับยาอายุวัฒนะ มีเพียงเจ้า…เจ้าทำให้ข้าสมปรารถนาได้ ข้าจะหลีกทางปล่อยเจ้าให้ฮ่องเต้ได้เช่นไร”

กู้เฉิงกลับไม่รู้เลยว่ากู่เซิงที่อยู่ตรงหน้าประตูกำลังฟังทุกสิ่งอย่าง

กู่เซิงฟังความปรารถนาที่มีต่อความเป็นอมตะของกู้เฉิงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ฟังสิ่งที่เขาพูดและยึดมั่นด้วยความบ้าคลั่ง ในใจกลับเย็นเยือก เป็นกู้เฉิงที่ทำให้เขามีทั้งหมดในวันนี้ แต่ในขณะเดียวกันกู้เฉิงก็อยากครอบครองทุกสิ่งอย่าง

เพื่อเป็นอมตะกู้เฉิงสามารถเป็นดั่งจักจั่นลอกคราบที่หนีไปก่อนที่อีกฝ่ายจะรู้ตัวได้ ยิ่งสามารถรอให้ถึงสักวันที่หยุนหว่านมาเอาชีวิตเขาจริงๆ ได้ ในเงามืดมีอิทธิพลสายหนึ่งที่คอยตรวจสอบตระกูลกู้อยู่ตลอด แต่กู้เฉิงกลับเห็นเรื่องนี้เป็นสิ่งหรรษา

กู่เซิงห้ามปรามไม่ได้ ได้เพียงแต่ผลักเปิดบานประตู “ท่านพ่อ เทียบกับการรอคนที่ตายไปแล้ว พวกเราควรจะดูสถานการณ์ตอนนี้มากกว่า”

ได้ยินคำพูดของกู่เซิง กู้เฉิงก็สงบลง ยามที่หันมาในดวงตาได้กระจ่างใสแล้ว: “เกิดอันใดขึ้น?”

“อ๋องจิ้งได้ส่งข่าวมาบอกให้พวกเราอย่าได้กระทำการโจ่งแจ้ง องค์ชายสามหาได้ธรรมดาเช่นเปลือกนอก” กู่เซิงนำจดหมายในมือส่งถึงมือของกู้เฉิง

กู้เฉิงอ่านอยู่ชั่วครู่ก็โยนกลับไปในมือกู่เซิง: “ทำตามที่เขาบอก”

กู่เซิงจำใจต้องนำจดหมายออกไป ยังไม่ทันออกนอกเขตเรือนก็ได้ยินคำพูดพึมพำคนเดียวเหล่านั้นของกู้เฉิง ได้เพียงแต่ส่ายหัวแล้วจากไป กำชับสั่งคนข้างกาย: “อีกไม่กี่วันท่านพ่อต้องไปที่เขาหยินซาน พวกเจ้าคอยระวังให้ดี”

ผ่านไปชั่วครู่ กู่เซิงก็ย้อนกลับมาอีกครา: “จำไว้ว่าต้องขุดเปิดสุสานของหยุนหว่านดูให้ได้ แล้วส่งคนไปตรวจสอบดูอีกว่านางตายหรือไม่กันแน่ ถ้าหากท่านพ่อทำอันใดพลการ พวกเจ้าก็ใช้อำนาจบังคับพาท่านกลับมา”

หลายคนนั้นพยักหน้ารับคำ

ผ่านไปหลายวัน สายฝนที่เทียนเหยียนยังคงไม่หยุดพัก

กู้เฉิงได้พาคนมาถึงที่เขาหยินซานแล้ว เดิมทีอยากขึ้นเขาไปดูสุสานของหยุนหว่าน แต่กลับได้ยินเสียงร้องไห้ของสตรีดังมาจากในป่า กู้เฉิงชะงักอยู่ตรงที่เดิม

“พวกเจ้าได้ยินเสียงอันใดหรือไม่?” กู้เฉิงถามคนข้างกาย

คนขี้ขลาดที่อยู่ด้านหลังรีบพยักหน้า คนที่ใจกล้าก็ทำปฏิบัติตามคำเตือนของกู่เซิง รีบกล่าว “หาได้มีอันใดไม่ คงเป็นเพียงแค่เสียงลม”

“ใช่…”

“หากเจ้าต้องการถึงเช่นนั้นก็มาตามหาข้า” เสียงสูงต่ำอันรื่นหูของสตรีดังขึ้นมาจากด้านบน

ทุกคนต่างเงยหน้าขึ้นอย่างตื่นตระหนก มองเห็นเพียงเงาสีขาวสายหนึ่งที่พุ่งตกลงมาด้วยความรวดเร็ว หลายๆ คนตกใจส่งเสียงร้อง

ทว่าเมื่อหันกลับมาก็ไร้ร่องรอยของกู้เฉิงแล้ว ท่ามกลางม่านฝนอันเลือนรางยังคงเงียบสงัด

ทุกคนเริ่มออกค้นหาด้วยความร้อนรน ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใด กู้เฉิงตื่นขึ้นมาท่ามกลางกองโคลนเลน สายฝนตกกระทบลงบนใบหน้าและลำตัวจนเจ็บไปหมด สาปแช่งเบาๆ ไปหนึ่งคำรบ เขาเพิ่งจะหยัดร่างขึ้นมาก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยของสตรีดังมาจากในป่า

“ท่านแม่ ข้าให้ตำรับยาแก่อ๋องจิ้งไปนานแล้ว…”

“เวยเอ๋อ…” ในใจของกู้เฉิงเต้นอย่างรุนแรง เพียงรู้สึกขนลุกไปทั้งร่าง ทว่าเมื่อได้ยินคำตำรับยาเขาก็ก้าวย่างฝีเท้าอันแสนหนักหน่วงไปยังทิศทางของเสียง

ภายในป่าเขาคล้ายว่าจะเห็นเพียงเงาร่างเล็กบางของสตรีนางหนึ่ง

“แต่เขาทรยศข้า ข้าจะเอาตำรับยากลับมาให้ได้ จะให้เขาเอาตำรับยาให้สตรีแพศยานางนั้นได้เช่นไร” สตรีนางนั้นคล้ายว่าจับมือใครบางคนในความว่างเปล่า เดินไปด้านหน้าทีละก้าว

ได้ยินเสียงของกู้อ้าวเวย กู้เฉิงยังคงเดินตรงไปด้วยความประหลาดใจ เอ่ยเรียกเสียงเบา: “เวยเอ๋อ…เจ้ายังไม่ตาย…”

คล้ายว่าสตรีในอาภรณ์สีขาวจะตกใจ หมอกใต้ฝ่าเท้าเริ่มตลบกระจาย

เมื่อนางหันมาอย่างเชื่องช้า ใบหน้านั้นพลันกลายเป็นหน้าตาของหยุนหว่าน กระทั่งเสียงก็เปลี่ยนเป็นเสียงกราดเกรี้ยวของหยุนหว่านอย่างฉับพลัน: “ข้าไม่มีวันมอบตำรับยาอายุวัฒนะให้เจ้า เจ้าไม่คู่ควร!”

กู้เฉิงตกใจกลัวจนตัวสั่น เขาถอยหลังไปหลายก้าวแต่กลับสะดุดบางอย่างล้มลงกับพื้น เงยหน้าขึ้นมาอีกคราก็เหลือเพียงชั้นหมอกสีขาวบางๆ หาได้มีเงาร่างของสตรีใดไม่

สูดลมหายใจเย็นเฮือก กู้เฉิงร้อนรนลุกขึ้นมาจะร้องเรียกคน ด้านหน้ากลับปรากฏใบหน้าอันคุ้นเคยขึ้นมาอย่างกะทันหัน ลำคอของคนผู้นั้นส่งเสียงแหบแห้งออกมา “เจ้าไม่คู่ควร…”

สิ่งที่เกิดต่อมาคือความมืดมิดเบื้องหน้า

หยุนหว่าน ในที่สุดเจ้าก็โผล่มาถึงที่! คิดเช่นนั้นแม้กระทั่งก่อนที่กู้เฉิงจะหมดสติไป

ความเป็นอมตะ…

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท