บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 457

ตอนที่ 457

บทที่ 457 สามส่วนเจ็ดส่วน

จวบจนแยกจากไป ล่ายเสวียนก็ยังไม่รู้ถึงฐานะของคนผู้นี้

สิ่งที่คนผู้นี้พูดทั้งหมดดูเหมือนกับว่าจะคิดเพื่อแคว้นเอ่อตาน แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่ทำกลับมีนัยแฝงอยู่มากมาย แต่คนผู้นี้ดุไปแล้วมีความเป็นผู้ดีอย่างมาก แต่สิ่งที่พูดออกมากลับทำให้ผู้คนหัวเราะกัน นิสัยใจคอยิ่งดูยากมากนัก

นอกประตู มีทหารบอกเขาว่า ผิงชวนพานักฆ่าหลายคนขึ้นรถไปแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีคนร่วมมือด้วยในที่ลับ

“แม่ทัพ หรือว่าคนผู้นั้นจะเป็นองค์ชายของแคว้นเอ่อตานจริงๆ หรือ” ผู้ช่วยแม่ทัพอดไม่ได้ที่จะเดินขึ้นมาด้านหน้า

“ไม่แน่ใจ ส่งคนไปตามติดชายชุดขาวผู้นั้น ดูว่าคนที่ร่วมมือกับเขาเป็นใครกัน แท้จริงแล้วใช่แคว้นเอ่อตานหรือไม่” ล่ายเสวียนรู้สึกว่าเรื่องนี้ใหญ่นัก แต่อีกด้านหนึ่ง เขาก็อดที่จะทอดถอนใจไม่ได้ “ข้ากลับไปในค่ายทหารก่อน ไปพูดเรื่องนี้กับแม่ทัพอ้ายหยิน”

แต่ในโรงเตี๊ยม กู้อ้าวเวยวางถ้วยน้ำชาในมือลง ในใจก็เต้นแรง “เจ้าว่าล่ายเสวียนผู้นี้จะเชื่อข้าหรือไม่”

“เกรงว่าจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง” กุ่ยเม่ยพูดอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร มองไปที่นอกประตูอีก “เมื่อครู่ข้าได้ปล่อยข่าวไปให้คนของทิงเฟิงโหลแล้ว พรุ่งนี้ก็จะบุกโจมตีแล้ว คืนนี้…..”

กู้อ้าวเวยคิดไปคิดมา นวดมุมหัวที่ปวดไปมา “เมื่อคืนข้าคิดมาทั้งคืน รู้สึกว่าพวกเราไปด้วยกันดีกว่า ไปทางแคว้นเอ่อตาน”

นิ่งเงียบไปนาน กุ่ยเม่ยมองมาที่นางอย่างหวังดี “หากฮ่องเต้แคว้นเอ่อตานเกิดจับได้……”

“รักษาความเป็นกันเองไว้ เป็นแบบนี้ตลอด ข้าก็จะได้พิสูจน์ฐานะของตนเอง ปักหลักอยู่ที่แคว้นเอ่อตาน หาตัวตายตัวแทนไว้ พวกเราค่อยแอบลอบกลับมาที่ชายแดน รอจนหลังจากเอาสองป้อมนั้นมาได้ สงครามของทั้งสองฟากก็ควรจะนิ่งเงียบไปได้ระยะเวลาหนึ่ง ช่วงเวลานี้พวกเราค่อยมาเจรจาการค้าที่นี่อีกครั้ง” กู้อ้าวเวยพูด ดวงตาดูเมื่อยล้ามาก “ดังนั้นเจ้าต้องไปหารถม้ามาสองคัน”

“งั้นยู่จู…..”

“ข้าจะไปสร้างความวุ่นวายที่โรงเตี๊ยมเอง พรุ่งนี้ตอนที่บุกโจมตี พวกเจ้าชิงตัวข้าให้ออกไปก็พอแล้ว” กู้อ้าวเวยพูดอย่างนุ่มนวลราบเรียบ

บัดนี้นางควรจะขอบคุณหญิงสาวผู้นั้นที่ฆ่าตัวตายไป วันข้างหน้าเรื่องของแผนที่ป้องกันเมืองนางจะจัดการเอง สาวมาไม่ถึงตัวของยู่จูแน่ แม้ว่านางจะพายู่จูไปไกลแค่ไหน แต่แค่ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่านางแค่พาคนกลับแคว้นเอ่อตานเท่านั้น แน่นอนว่าก็จะไม่ติดตามไป

ตอนที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน กู้อ้าวเวยมาโวยวายอยู่ที่โรงเตี๊ยมนั้นแล้ว จนทำให้นายทหารที่กำลังเสพความสุขอยู่ตรงนั้นตกใจ แม่เล้าก็ถูกทำให้ตกใจเช่นกัน แต่เรื่องที่น่าแปลกที่สุดคือ กู้อ้าวเวยก็เห็นยู่จูที่นอนอยู่ข้างราวบันไดชั้นสอง กำลังหลั่งน้ำตาภายใต้สายตาทุกคู่ ตะโกนออกไปอย่างนุ่มนวล “จูเอ๋อ ที่แท้เจ้าอยู่ที่นี่จริงๆ”

ยู่จูตกใจกับการมาของกู้อ้าวเวย อีกทั้งยังถูกเสียงที่นางเรียกชื่อทำให้ขนลุกไปหมด

“ไอหยา แขกท่านนี้ท่านอย่าโวยวายไปเลย ในโรงเตี๊ยมแห่งนี้แค่ดูแลปรนนิบัติ……”

กู้อ้าวเวยเอาเงินสองใบโยนใส่หน้าแม่เล้า “อย่าพูดเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องกับข้า เงินวางอยู่ตรงนี้ จูเอ๋อข้าจะพาแน่นอน หากที่นี่เป็นแคว้นเจียงเยี่ยน ข้าก็จะให้หัวของเจ้าหล่นลงพื้นแล้ว ผู้หญิงของข้า ข้าย่อมกล้าซื้อ”

คำพูดผ่านไปรวดเร็ว แม่เล้าผู้นั้นคิดอยู่ว่าที่แท้เป็นใครใหญ่โตมาจากที่ไหนกัน

กู้อ้าวเวยกลับเดินขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว เอายู่จูเข้าอ้อมอก กระซิบที่ข้างหูของนางว่า “ตอนนี้ข้าก็เป็นคู่ครองของเจ้า ทำอะไรระวังด้วย”

หัวใจที่เคว้งคว้างของยู่จูก็ปล่อยวางลง พิงไปบนไหล่ของกู้อ้าวเวย ค่อยๆ ปิดตาลงเบาๆ “นางกลัวมากแล้ว เดิมทีข้าห้ามนางไว้ไม่ได้”

“ที่ไม่ใช่ความผิดของเจ้า” กู้อ้าวเวยค่อยๆ ยกมือขึ้นมาประคองหลังใบหูของนาง สองคนดูไปแล้วราวกับคนรักที่ไม่ได้พบกันมานานมากแล้ว

ยู่จูรู้เรื่องนี้มานานมากแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะมีวันใดวันหนึ่งที่พวกนางจะทำเพื่อแคว้นชางหลาน ได้แต่มองดูแม่นางผู้นั้นหมดลมหายใจไปต่อหน้าต่อตา แต่นางกลับไม่ได้มีความสงสัยแม้แต่น้อยเลย หลังจากถูกรักเอ็นดูแล้วก็ถูกโยนกลับมาในหอนางโลมแห่งนี้ รอจนผู้คนต่างเมามายกันไปหมดแล้วค่อยสืบข่าวคราว ก็มักจะหวาดกลัวเป็นธรรมดา

แต่ผ่านไปสักพัก นายทหารสองท่านรีบหิ้วกางเกงพุ่งเข้ามา “เจ้าเด็กเมื่อวานซืนปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคิดไม่ถึงว่ายังจะกล้าบุกเข้ามา ไม่รู้หรือว่าที่นี่มีแค่พวกเราที่สามารถใช้ได้น่ะ”

พูดอยู่ อีกคนหนึ่งก็พ่นน้ำลายออกมาหนึ่งคำ เอาดาบยาวที่อยู่ตรงช่วงเอวชักออกมา

พวกหญิงสาวตกใจร้องเรียกกันขึ้นมา กู้อ้าวเวยปกป้องยู่จูไว้ที่ด้านหลัง พูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “แม้ว่าจะเป็นแม่ทัพ ก็ยังจะเห็นแก่หน้าข้า เจ้าเป็นใครกัน”

“พูดจาโอหังนัก……”

คนผู้นั้นจะพุ่งเข้ามา แต่ยังไม่ได้ลงมือ คนที่อยู่ด้านข้างนั้นก็รั้งเขาเอาไว้ สองคนต่างพากันดูที่ชั้นล่าง เห็นคนผู้หนึ่งยืนตัวตรงกอดอกอยู่ทันที

หน้าประตู ล่ายเสวียนกำลังพาคนเข้ามา

เขาคาดไม่ถึงเด็ดขาด ตัวเองส่งคนให้ไปจับตาคอยดูกู้อ้าวเวย กลับมาเจอที่หอนางโลมแห่งนี้ได้

ยู่จูน้ำตาไหลไปสองหยดทันที แอบอยู่ด้านหลังของกู้อ้าวเวยอย่างขมขื่น ได้แต่พูดเบาๆ ว่า “แม้ว่านายแม่ของที่นี่จะซื้อข้ามา ตอนนั้นข้าก็แค่ไปซื้อแป้งนิดหน่อย……”

“ดูว่าข้าจะกรีดเอาหนังหน้าของยายแก่นี่ออกมาอย่างไร” แววตาของกู้อ้าวเวยดูเย็นชา มีดเล็กที่อยู่ตรงช่วงเอวก็หล่นไปที่ข้างเท้าของแม่เล้านั้น ตกใจกลัวจนนั่งลงกับพื้น ตะโกนขึ้นมา “แม่นางคนนี้ถูกซื้อมาจากแคว้นเล็กๆ รอบๆ ข้าก็แค่จ่ายเงินเท่านั้น”

“จูเอ๋อก็แค่ออกมาเป็นเพื่อนข้าทำการค้า แค่แค่ละสายตาไปนิดเดียว ก็ถูกแม่เล้าอย่างพวกเจ้าจับมา ก็ไม่รู้ว่าได้รับการกลั่นแกล้งไปแล้วเท่าไหร่ กรีดหนังของเจ้าออกมาทั้งตัวยังน้อยเกินไป” กู้อ้าวเวยพูดอยู่ มือหนึ่งจับข้อมือของยู่จูเอาไว้ พลางผลักนายทหารที่อยู่ด้านหน้าออกไป รีบด้านลงมาด้านล่าง

ล่ายเสวียนได้แต่สำรวจดูทุกสิ่งทุกอย่าง รอจนกระทั่งถึงตอนที่กู้อ้าวเวยจะลงมือจริงๆ แล้วจึงห้ามนางเอาไว้ “ที่นี่คือพื้นที่ของแคว้นเจียงเยี่ยน”

“แต่ที่แม่เล้าผู้นี้เอาไปเป็นจูเอ๋อของข้า” กู้อ้าวเวยสะบัดมือของล่ายเสวียนทิ้ง ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธ “หรือจะบอกว่า ข้าเอาจูเอ๋อไว้ที่หอนางโลม แม่ทัพล่ายเสวียนสามารถรักษาความปลอดภัยของนางได้”

ล่ายเสวียนขมวดคิ้วขึ้น แค่รู้สึกว่าคนผู้นี้ช่างเอาแต่ใจเสียจริง คำพูดก็แฝงไว้ด้วยคำสั่ง

ผู้คนต่างพากันตื่นตะลึง คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะกล้าพูดจากับแม่ทัพล่ายเสวียนเช่นนี้

แต่ไม่รอล่ายเสวียนได้พูด กู้อ้าวเวยก็พายู่จูเดินออกไปด้านนอกอย่างเร่งฝีเท้า ผ่านไปสักครู่ กลับกลับมา เอามีดเล็กบนพื้นหยิบขึ้นมา ค่อยๆ ตวัดไปมาบนหน้าของแม่เล้านั้น “วันหลังอย่าให้ข้าได้เจอเจ้าอีก”

คำพูดได้พูดออกไปแล้ว มีดเล็กในมือของนางเปลี่ยนเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง สอดเข้าไปในรอบเอวอย่างมั่นคง

ก่อนจะจากไป นางและล่ายเสวียนไหล่กระทบไหล่กัน สายตาปะทะกัน ความมีสง่าราศีของกู้อ้าวเวยไม่ได้ด้อยไปกว่าล่ายเสวียนเลย

เมื่อถูกคนจูงจมูกเดิน ก็ย่อมเชื่อใจง่ายยิ่งขึ้น

ล่ายเสวียนปล่อยพวกเขาไปดีกว่า แล้วค่อยส่งคนไปติดตาม แต่กู้อ้าวเวยและยู่จูในใจต่างเต้นรัว รอจนกลับถึงโรงเตี๊ยม ขาทั้งสองขาของสองคนก็อ่อนยวบลง กุ่ยเม่ยหยิบเอาเสื้อผ้าที่สะอาดและอาหารขึ้นมาให้สองคน ก็พูดด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “คนที่คอยสอดส่องอยู่เยอะมากยิ่งขึ้น ผิงชวนก็กำลังจะพาพวกทาสรับใช้จากไปแล้ว”

“ทาสรับใช้พวกนี้ต้องส่งไปให้ถึงมือขององค์ชายสามให้ได้แน่นอน” กู้อ้าวเวยเทน้ำใส่ถ้วยให้ตนเองอย่างสั่นเทาไปหมด “เดิมทีข้าคิดว่าล่ายเสวียนไม่น่าจะเชื่อข้า กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะเชื่อข้าจริงๆ ไปแล้วเจ็ดส่วน

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท