บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 537

ตอนที่ 537

บทที่ 537 ไม่แตกต่างกันเลย

ท่านอ๋องน้อยไม่ได้มีสายเลือดเดียวกับท่านอ๋องแม้แต่นิดเดียวเลย เกรงว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนไม่ยอมรับเด็ดขาด

กู้อ้าวเวยรู้สึกว่าลมหายใจที่ชัดเจนขึ้น นางฟังที่ซ่านจินจื๋อพูดคำพูดรักๆ ใคร่ๆ ชวนเลี่ยนเหล่านั้น กลับฟังคำพูดที่พูดออกมาโดยตรงอย่างจริงจังเช่นนี้ไม่ได้ ติ่งหูค่อยๆ แดงขึ้น “หากเป็นเช่นนี้ วันข้างหน้าเจ้าก็แต่งนางสนมอื่นอีกไม่ได้ ข้าก็ไม่มีทางได้เป็นพระชายาจิ้ง ได้แต่แอบหลบอยู่ในเงามืด……”

นางรู้ว่าตนเองสามารถโกหกฮ่องเต้ได้ ให้ฮ่องเต้ปกปิดฐานะของนาง

แต่นางกลับไม่สามารถเป็นพระชายาจิ้งได้อีก แบกหน้าใบนี้กลับไปที่ตำแหน่งเมื่อตอนนั้นอีกครั้ง

ซ่านจินจื๋อได้แต่หัวเราะเบาๆ กับสิ่งสิ่งนี้ “เพียงแค่ชิงจือไม่ต้องหลบซ่อนก็ดีแล้ว”

“แล้วแต่เจ้า” กู้อ้าวเวยกลับผลักมือของนางออกอย่างรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “ข้าเข้าวังไปพูดกับพวกเขาด้วยกันรอบหนึ่ง”

ซ่านจินจื๋อได้แต่ยิ้มโดยไม่มีคำพูดใดต่อเรื่องนี้ กู้อ้าวเวยรู้สึกอายเล็กน้อยอย่างไม่เหมือนจากปกติ

ตอนนั้นชิงจือกระโดดลงมาจากม้านั่ง จับที่แขนเสื้อของเขา “ท่านพ่อหรือ”

“ไม่ดื้อนะ” ซ่านจินจื๋ออุ้มเขาขึ้นมา แอบบ่นพรึมพรำว่าเด็กคนนี้ก็ฉลาดมากเลยทีเดียว

ชิงจือหัวเราะไปมา หอมไปที่แก้มของซ่านจินจื๋อหนึ่งที

ใจของซ่านจินจื๋ออ่อนยวบไปหลายเท่า บัดนี้ก็ยังคิดไม่ออกมาตอนนั้นทำไมถึงแย่งลูกของกู้อ้าวเวยไป นึกถึงใจที่ผูกกับกู้อ้าวเวยไว้ เกรงว่าวันข้างหน้าสองคนก็จะไม่สามารถมีลูกได้อีก แต่ตอนนี้ตามติดอยู่กับกู้อ้าวเวย ข้างกายก็ไม่ได้ขาดลูก

กู้อ้าวเวยอธิบายถึงเป้าหมายของตนเอง เดิมคิดว่าสองคนล้วนเห็นด้วย แต่ฉูหลี่กลับหน้าคร่ำเครียด ชิงจือจะเอาอะไรไปเป็นท่านอ๋องน้อยของชางหลาน แคว้นเอ่อตานของข้าก็สามารถให้ตำแหน่งนี้ได้เช่นกัน

“ใช่ตามนั้น” ฉูห้าวก็เห็นด้วยเช่นนั้น “ท่านพี่ทำเช่นนี้ไม่ได้นึกถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเลย ได้แต่เอาความรักเป็นตัวตั้ง ก็ไม่กลัวจะทำผิดช้ำๆ เดิมๆ หรือ”

กู้อ้าวเวยกลืนน้ำลายลงไปชั่วครู่ นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่ไร้ซึ่งเหตุผล”

“หากเจ้าไปที่ชางหลานแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้ไว้วันหลังค่อยพูดก็น่าจะดีกว่าหรือ” ฉูห้าวถือโอกาสพูดออกไป

นิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ กู้อ้าวเวยสักพักก็ได้แค่เงยหน้าขึ้นมา “เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้”

“หากชิงจือสามารถสืบทอดตำแหน่งได้จริงๆ ถ้าเช่นนั้นก็เท่ากับว่าตัดทางที่จะขึ้นสืบทอดรัชทายาทของซ่านจินจื๋อโดยสิ้นเชิง แต่นี้เป็นต้นไป ตำแหน่งขององค์ชายสามก็มั่นคง” กู้อ้าวเวยโบกมือเบาๆ พูดด้วยเสียงเรียบเฉยว่า “ก็ได้จังหวะพอดีที่จะตัดความสัมพันธ์กับองค์ชายสาม”

ครั้งนี้เป็นฉูห้าวที่ต้องเป็นฝ่ายกลืนน้ำลายลงไปบ้าง ฉูหลี่ยังคงหน้าเคร่งขรึม “งั้นองค์ชายสามก็รู้สึกต่อเจ้า……”

“เมื่อก่อนข้าเพื่อต่อกรกับซ่านจินจื๋อ ก็เลยเคยอาศัยอยู่กับเขามาระยะหนึ่ง” กู้อ้าวเวยพูดตรงไปตรงมาเช่นนี้ แน่นอนว่านางจำได้ว่าเคยอยู่ในห้องนอนขององค์ชายสาม เวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้ นางก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรเช่นกัน”

สีหน้าของฉูหลี่ดูไม่น่าดูอย่างมาก จนกระทั่งอยากจะพูดว่าราชวงศ์ชางหลานล้วนเป็นพวกเศษขยะที่พ่ายแพ้จำพวกนั้น

กู้อ้าวเวยก็ไม่รู้เหตุผลที่ฉูหลี่โมโหเลย ได้แต่เดินก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว “องค์ชายสามรำลึกอย่างไม่ปล่อย มักจะเกิดเป็นเรื่องขึ้นได้ อีกทั้งข้ายังต้องไปช่วยท่านแม่จัดการเรื่องของทิงเฟิงเก๋ออีก การไปรอบนี้ ข้ากลับไม่ต้องไปเทียนเหยียน แค่ต้องไปเมืองเย่นรอบหนึ่งอย่างทันที ตอนที่กลับมายังต้องไปอินโจวอีกรอบ”

ไม่นานนักกู้อ้าวเวยก็คิดออกถึงเรื่องที่ตนเองสามารถทำได้

ฉูหลี่และฉูห้าวสองคนฟังไปครึ่งวัน ก็เป็นเรื่องที่เป็นทางการเล็กน้อยแฝงอยู่ ชั่วขณะก็ไม่ให้นางไปไม่ได้

ได้แต่รอให้นางพูดแผนการของตนเองเสร็จเสียก่อน ฉูห้าวจึงถามขึ้นว่า “งั้นเจ้ายินยอมที่จะให้เขาใช้ชิงจือผูกมัดไว้ด้วยกันกับเจ้าจริงๆ หรือ”

“เขาไม่ต้องการราชบัลลังก์ ข้าไว้เนื้อเชื่อใจ กลับไปที่ข้างกายของเขา” กู้อ้าวเวยค่อยๆ เลิกคิ้วขึ้น “นี่คือคำสาบาน”

ฉูหลี่จู่ๆ ก็ไม่มีคำพูดใด แต่กู้อ้าวเวยกลับรู้ว่าเมื่อตอนนั้นนางพูดเช่นนี้ได้ ก็เพราะหวังว่าซ่านจินจื๋อจะสามารถเป็นประโยชน์แก่ตัวเองจริงๆ บัดนี้ทำจนเรื่องมาถึงขนาดนี้ ในใจของนางแม้ว่าจะยังเกลียดซ่านจินจื๋ออยู่ แต่พวกนี้แน่นอนว่านางเตรียมที่จะค่อยๆ ชำระในวันข้างหน้าไว้แล้ว

การตัดสินใจของนาง ไม่ว่าใครล้วนไม่มีทางที่จะห้ามปรามได้ ฉูหลี่ได้แค่จัดแจงคนเพื่อคอยปกป้องนางตลอดทางเท่านั้น

โดยตัวของกู้อ้าวเวยเองก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะ ตัวเองอยู่ด้วยกันกับซ่านจินจื๋อ มีประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นการผูกสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้น หรือตัดการรำลึกถึงขององค์ชายสามที่มีต่อตนเอง

นางยอมที่จะตามตื๊อท่านอ๋องคนหนึ่ง แต่ก็ไม่อยากที่จะย่างก้าวเข้าไปในวังของฮ่องเต้ในอนาคตตามตื๊ออย่างไม่แน่ชัด

หากไม่ใช่เพราะมีเรื่องเหล่านี้ นางก็คงจะเดินทางไปทั่วหล้ากับกุ่ยเม่ยแล้ว แต่บัดนี้ฐานะแน่ชัด ทางเลือกของนางมีไม่มากนัก

และทั้งหมดนี้ ซ่านจินจื๋อไม่รู้แม้แต่นิด

เขารู้เพียงว่ากู้อ้าวเวยขึ้นรถม้าเป็นเพื่อนเขาอย่างว่าง่าย เป็นไปตามแผนของเขาอย่างมาก

ในใจของเขามีความสุขมาก อย่างน้อยกู้อ้าวเวยก็ไม่ได้ปฏิเสธตนเองอย่างที่เคยเป็นมาก่อนหน้า

ใช้เวลาไปไม่น้อยก็มาถึงชายแดนชางหลาน องค์ชายสามพาเยว่มาเยี่ยมเยียนด้วยตัวเอง แต่กู้อ้าวเวยได้แต่อุ้มชิงจือจัดแจงทรงผมอยู่ ตอนที่ได้เห็นองค์ชายสามได้แต่ยิ้มรับตามมารยาท “นานแล้วไม่ได้พบกันฝ่าบาท”

“บัดนี้ข้าก็ควรจะเรียกเจ้าว่าฝ่าบาทแล้ว” ซ่านเซิ่งหานดูผิวคล้ำขึ้นมากกว่าแต่ก่อนเล็กน้อย มือคู่นั้นกลับดูมีเรี่ยวแรงยิ่งขึ้นมากกว่าแต่ก่อน เขาเดินมาถึงเก้าอี้ที่อยู่ข้างกู้อ้าวเวยแล้วนั่งลง “เจ้ายยินยอมที่จะต่อความสัมพันธ์กับซ่านจินจื๋อต่อจริงๆ หรือ”

“ดูเหมือนกับว่ามีผู้คนไม่น้อยมีความสงสัยกับเรื่องนี้” กู้อ้าวเวยได้แต่หัวเราะอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร

“เขาดูไม่เหมาะสมกับเจ้าเลย ทั้งๆ ที่เจ้ามีดียิ่งกว่านี้ ทางเลือกที่มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นน้องหกหรือไม่ก็น้องสี่……”

“ระหว่างข้ากับพวกเขาความจริงก็ไม่เหมือนกัน” กู้อ้าวเวยค่อยๆ ส่ายหน้าไปมา “องค์ชายหกนั้น ข้าได้แค่รู้สึกลำบากใจมาก แต่สำหรับองค์ชายสี่ นั่นคือเพื่อนสนิทขของข้า แต่เจ้าเป็นคนที่ร่วมมือด้วย”

“มีเพียงซ่านจินจื๋อ เขาเป็นความเจ็บปวดของข้าตลอดชีวิต” คำพูดของกู้อ้าวเวยปล่อยออกมา มีความโกรธแค้นเสียใจอย่างทำอะไรไม่ถูก

ซ่านเซิ่งหานกำหมัดแน่น ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตำแหน่งของตัวเองในใจของกู้อ้าวเวยจะเป็นเพียงแค่คนธรรมดา แต่อีกด้านหนึ่ง เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยวาง “เจ้ายินยอมที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับความเจ็บปวด ก็ไม่ยอมที่จะเลือกสิ่งที่ดีกว่านี้หรือ”

“ไม่มีดีกว่ากว่านี้ยิ่ง แล้วก็ไม่มีแย่ที่สุด” กู้อ้าวเวยกอดชิงจือที่อยู่ในอ้อมอกอย่างแนบแน่น เห็นซ่านจินจื๋อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จพอดีเดินอ้อมออกมาจากฉากบังตาด้านหลัง ได้แค่มองไปทางเขา “ข้าเอาคืนกลับมาได้ด้วยตัวเองแน่นอน ระหว่างข้ากับเขา พวกเราเป็นคู่ต่อสู้กันมานานแล้ว”

ซ่านเซิ่งหานได้เพียงแค่มองซ่านจินจื๋อที่เดินมานั่งข้างกายนางด้วยตาของตัวเอง ราวกับว่าเป็นครอบครัวปกติธรรมดาทั่วไป ค่อยๆ เอาชิงจือเข้ามาอยู่ในอ้อมอกของตัวเอง ราวกับว่าได้ยินคำพูดที่กู้อ้าวเวยพูดเมื่อครู่ เลิกคิ้วขึ้น แต่กลับไม่มีคำพูดใดออกจากปาก

กู้อ้าวเวยก็เลยจัดแจงเสื้อผ้าบนเนื้อตัวตนเอง ยิ้มอ่อนๆ “องค์ชายสามไม่จำเป็นต้องมีความระลึกถึงข้าอีก ท่านเคยเห็นสิ่งที่ตายไปแล้วสามารถมีชีวิตกลับคืนมาได้หรือ”

คำพูดนี้ทำเอาสองคนที่นั่งอยู่อึ้งไปตามกัน

ซ่านเซิ่งหานเข้าใจความหมายในประโยคนี้ กำหมัดแน่นแต่กลับปล่อยคลายออกอีก “หากตอนนั้นข้าเป็นคนที่มีอำนาจ ข้าสามารถมีประโยชน์มากยิ่งกว่าเสด็จอา เจ้าจะยอมรับให้ข้าได้ตามจีบเจ้าไหม”

มีเพียงตอนนี้ ซ่านจินจื๋อเห็นความไม่แยแสที่อยู่บนใบหน้าของกู้อ้าวเวยอย่างชัดเจน

“ได้สิ” กู้อ้าวเวยกอดอกตัวตรง มองไปทางเยว่อีกที รอยยิ้มที่จืดอ่อนบนใบหน้าก็ติดตามไปด้วย “เรื่องที่ข้าทำมาตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกครั้งคือการเอาคืน รวมทั้งความปรารถนาของชิงต้าย”

“ตอนนั้น แม้ว่าข้าจะต้องใช้ตัวเองไปเพื่อรักษาความมั่นคงของพวกเจ้าคนใดคนหนึ่งก็ตาม ข้าล้วนตอบตกลง”

“เจ้าและซ่านจินจื๋อในสายตาข้า ก็ไม่แตกต่างอะไรกันนัก”

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท