บทที่ 567 แลกเปลี่ยนข่าวสาร
ก้าวเท้าลงบันได สายตายังคงครุ่นคิด
ซ่านจินจื๋อตัวเปียกด้วยน้ำชา ใช้มือที่ยังสะอาดจับมือนางไว้ “เจ้าเก่งกว่าเมื่อก่อนนะ”
“เจ้าต้องการแบบนี้ไม่ใช่หรือ?” กู้อ้าวเวยไม่ดึงมือกลับ แล้วยังเอามือไปหยิบกระดาษที่อยู่ในแขนเสื้อเขา ในนั้นมีตัวหนังสือลางๆ “ข้าก็ว่าทำไมท่านแม่ไม่เขียนจดหมายถึงข้า เพราะว่ามันถูกส่งไปให้เจ้าทั้งหมด”
“เจ้ารู้ตอนไหน?” ซ่านจินจื๋อจนปัญญา ได้แต่จูงมือนางมาข้างเรือ
“อย่าลืมว่าเมื่อคืนใครเป็นคนส่งเสื้อผ้ามาให้ข้า ยังจะกล้ามาจับข้าอีก ” กู้อ้าวเวยเองก็ขำไปด้วย “ข้ากับกู้เฉิงเป็นศัตรูกับอ้ายหยิน ถ้าเจ้ามีจดหมายจากท่านแม่ น่าจะรู้ว่าซูพ่านเอ๋อกับกู้เฉิงร่วมมือกัน เพื่อขายข่าวของท่านแม่ข้า”
“เป็นเช่นนั้นจริงๆ ตอนแรกข้าเคยเห็นแต่กู้จี้เหยาร่วมมือกับฉางอีฉิน ไม่นึกว่าซูพ่านเอ๋อกับเซียวไห่ก็จะคบค้าสมาคมกันด้วย” ซ่านจินจื๋อพยักหน้า “คิดไปคิดมาข้าก็ผิดเอง”
“เจ้ายอมรับผิดจนเป็นนิสัยแล้วหรือ?” กู้อ้าวเวยมองเขาแปลกๆ
“ไม่ว่ายอย่างไร ยอมรับผิดต่อหน้าเจ้าก็ดีทั้งหมด” ซ่านจินจื๋อใช้น้ำเสียงดีๆด้วย ตอนที่นางกำลังอารมณ์ดีนั้น ก็เข้าไปกอดเสียจนแน่น แล้วก็พูดเบาๆว่า “แต่ข้าไม่รู้นะว่าเจ้าชอบรังแก่ผู้หญิงด้วย”
กู้อ้าวเวยตกใจ แต่ก็ไม่กลัว “ไม่ให้ข้าแกล้งผู้ชาย ยังจะไม่ให้ข้าแกล้งผู้หญิงอีกหรือ?”
“ไม่ให้” ซ่านจินจื๋อพูดดัง ก็กอดแน่นเข้าไปอีก “เจ้าจะให้ข้าลงมือกับซูพ่านเอ๋อตอนไหน?”
“อดทนไปก่อน ถ้าเจ้าอยากจะทำเพื่อท่านอาจารย์และอาจารย์แม่ละก็ ก็ทรมานนาง อย่าให้นางได้สบายใจ ” กู้อ้าวเวยอยู่ในอ้อมกอดของเขาเหมือนกับชินไปแล้ว “ข้าเริ่มคิดถึงชิงจือ ไม่เจอกันนาน ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่เมืองเทียนเหยียนเป็นอย่างไรบ้าง
“ท่านแม่และท่านพี่ชอบจะตาย คงดูแลเขาดีอยู่ ”ซ่านจินจื๋อก็พานางเข้าห้อง “วันเวลาผ่านไปไว ไม่นานก็จะเข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ให้ข้าดูขาเจ้าที”
นางก็ยอมเข้าห้องไป ขาของนางดีขึ้นมากแล้ว รอยนั้นมันหายไปแล้ว แต่บางครั้งก็กำเริบแล้วปวดเล็กน้อย ด้วยการที่ซ่านจินจื๋อดูแลแบบนี้ ก็เลยไม่ได้เดินไปไหนมาก
ซ่านจินจื๋อช่วยนางนวดๆ “เลี้ยงอย่างไรก็ไม่อ้วน”
กู้อ้าวเวยอดที่จนตบเขาไม่ได้ แล้วก็หายใจเข้าลึกๆ “ข้ากินอย่างไรก็ไม่อ้วน นอนก็ไม่มาก”
ซ่านจินจื๋อมองนาง แล้วเงียบไป
“หมอบอกให้กินข้าวช้าๆ เจ้าก็ทำไม่ได้ ยังมายุ่งอีก ” ซ่านจินจื๋อตีที่น่องของนาง “วันนี้เจ้าไปนอนพักผ่อนที่ห้องข้า อีกสองวันก็น่าจะถึงตำบลเหยสุ่ยแล้ว”
“ระวังกู้เฉิงอาจจะเส้นสายอยู่ที่แคว้นชางหลานด้วย ไม่เช่นนั้นจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะไปด่านเจิ้งสุ่ย แล้วเดินทางทางน้ำไปตำบลเหยสุ่ย” กู้อ้าวเวยพยักหน้า แล้วลุกขึ้นจากเตียง แล้วจัดแจงเสื้อผ้าบนตัว “ตอนนี้ข้าเข้าห้องมากับเจ้า พวกเขาจะคิดว่าอย่างไร”
“เจ้าคิดว่าข้าไปสุภาพบุรุษไหม?” ซ่านจินจื๋อช่วยนางจัดเสื้อผ้า เมื่อก่อนไม่เคยทำให้ใคร ตอนนี้ทำเป็นหมด “เจ้าก็ไม่ใช่ผู้หญิงดีเด่นอะไร”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เหมาะสมกันดีนะ” กู้อ้าวเวยปล่อยแขนลง “เจ้าเคยทำแบบนี้ให้ซูพ่านเอ๋อไหม?”
ซ่านจินจื๋อไม่อยากได้ยินชื่อนี้ “ไม่เหมือนกับเจ้า นางชอบให้คนมาดูแล ทุกๆวันจะต้องแต่งตัวให้สวยงาม ไม่เหมือนเจ้าที่บางทีแค่มัดผมก็ออกไปข้างนอกได้แล้ว ไม่ใช้ปิ่นปักผมแม้แต่อันเดียว”
“ของพวกนั้นเป็นของนอกกาย ถ้าไม่มีของพวกนั้น ข้าก็ยังมีคนมาหลงรัก ” กู้อ้าวเวยผายมือออกมองเสื้อผ้าตนเอง บอกว่าเสื้อพวกนี้เฉิงซานและเขาเป็นคนไปเลือก แต่ในสายตานาง มันก็ไม่ต่างกับเสื้อผ้าตัวอื่น
เขาไม่กล้าเห็นด้วย และก็ไม่กล้าขัด ให้เฉิงซานคอยดูแลนาง แล้วตนเองก็มาทำงานต่อ
คนที่กู้เฉิงส่งมาเก่งนัก จื่อบอกว่าเป็นคนที่ช่วยเหลือมาจากในป่า บอกว่าเป็นคนแคว้นเป่ยม่อ เดินทางไปทั่ว เห็นว่านิสัยดี ไม่เหมือนหญิงสาวคนอื่นที่ชอบอ่อย และเป็นดั่งที่ซ่านจินจื๋อบอก หญิงพวกนั้นไม่เข้าใกล้เขา แต่เลือกกู้อ้าวเวย
จื่อเลียนแบบเสียงคนเก่งมาก
ตอนนี้จื่อปลอมตัวอยู่ ใส่ผ้าปิดหน้า หางตาเริ่มแดง ทุละผ้าปิดหน้าออกมา แกล้งทำเป็นทะเลาะกับซ่านจินจื๋อ ยืนอยู่ท้ายเรือคนเดียว
ผู้หญิงคนนั้นก็แกล้งเข้ามาหา คำนับให้ “ฝ่าบาท”
จื่อปาดน้ำตาออก แล้วก็ไม่พูด
ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่จากไป แล้วก็เอาผ้าออกมาเช็ดน้ำตาให้นาง พูดปลอบว่า “ความบริสุทธิ์ของผู้หญิงเป็นเรื่องใหญ่ ผู้ชายมักจะไม่ชอบผู้หญิงที่ถูกทำแบบนั้นมาแล้ว ถ้าฝ่าบาทไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก็ไปอธิบายกับเขาเถิด”
เหมือนกับเป็นพี่สาวมาสอนน้อง
จื่อสายตาเหลือกไปมา แล้วก็พูดตามที่ซ่านจินจื๋อบอกมา “ข้าไม่ได้ทำแบบนั้น”
เสียงนั้นมันเหมือนตัวจริงมาก แล้วก็มีแค่สองคน หญิงคนนั้นก็ยิ้ม “ข้าก็เป็นแค่หญิงชาวป่า ถ้าท่านไม่เป็นไร ก็พูดกับข้าก็ได้”
จื่อก็มองนาง “เจ้าเหมือนจะไม่ใช่หญิงสาวชาวบ้านทั่วไปนะ จะหลอกให้ข้าพูดหรือ?”
หญิงคนนั้นยิ้มใหญ่ขึ้น ในใจคงคิดว่า กู้อ้าวเวยนี่ฉลาดจริงนะ แต่ฉลาดแล้วยังไงเล่า มีดพกในแขนเสื้อได้มาจ่อที่เอวนางแล้ว “ฝ่าบาท การมาครั้งนี้ แค่มาขอสูตรยาสมุนไพร พอได้ไปแล้ว นายท่านของข้าก็จะใช้งานท่านเช่นเดิม”
น้ำเสียงหลอกลวง จื่อก็รู้ว่ามันแปลกๆไป แต่ก็ไม่ทันแล้ว
หญิงคนนั้นเอามือมาจับแขนนาง แล้วพูดว่า “ท่านฉลาดมาก นายท่านของข้าไม่ชอบละทิ้งท่าน เพราะคิดถึงเวลาที่ด้วยกันเป็นสิบปี จะไม่ให้ท่านลำบากแน่”
จื่ออ้าปาก แล้วไม่ได้พูดอะไร
“กู้เฉิงก็ยังคิดถึงความฉลาดของกู้อ้าวเวย” เสียงของซ่านจินจื๋อส่งออกมา
หญิงคนนั้นยังไม่พูดต่อ มีดในมือก็ยื่นขึ้นมาจี้ที่คอของจื่อ โชคดีที่เฉิงซานมาจับนางไว้ทัน หญิงคนนั้นก็กระโดดลงท้ายเรือไป
“ฟ้ามืดแล้ว น้ำไหลแรง คงจะตามไปไม่ทัน ” ซ่านจินจื๋อห้ามไม่ให้คนตามไป พอเห็นจื่อที่สลบอยู่ ก็คิดว่า “เอาไปส่งที่ห้องกู้อ้าวเวย”
ถ้าจื่อเป็นอะไรขึ้นมา กู้อ้าวเวยเอาเรื่องเขาแน่