บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 654

ตอนที่ 654

บทที่ 654 ชายแดนถูกควบคุม

นับเป็นครั้งแรกที่ซ่านจินจื๋อได้ใกล้ชิดกับกองทัพสีดำที่แปลกประหลาดนี้

ทุกคนสวมเสื้อคลุมสีดำที่เกะกะทั้งตัว ผ้าคลุมหน้าปักลายดอกแมกโนเลีย มีเพียงดวงตาคู่หนึ่งปรากฏขึ้นในความมืด ทุกคนกำลังขี่ม้า แต่กลับไม่เห็นร่องรอยของอาวุธ

“ท่านอ๋อง……” คนที่อยู่ด้านหลังยังอยากจะขวางกั้นด้านหน้าของซ่านจินจื๋อ

“ข้าไม่อาจโมโหเวยเอ๋อได้ แต่สามารถยืมเอาเลือดของพวกเจ้ามาชดเชยได้” ดาบยาวในมือของซ่านจินจื๋อถูกโยนขึ้น และตกลงมาในมืออย่างมั่นคง แสงเย็นใต้ดวงตาก็แดงก่ำเช่นกัน

กองทัพดำที่อยู่ด้านหน้าเปิดเสื้อคลุมสีดำขึ้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ เปิดเผยอาวุธตามลำดับ

และภายใต้ลำต้นของต้นไม้ กู้อ้าวเวยได้ศึกษาตำราที่เขาไม่เคยสนใจมาก่อนอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเสียงของการเผชิญหน้าระหว่างอาวุธในป่าเขาจะเป็นอย่างไร ก็ยังคงดุบันทึกที่เกี่ยวกับซีเป่าแล้วถามขึ้นว่า “ซีเป่านี้ดุไปแล้วไม่ได้ล้ำค่าอะไร แต่อยู่ไกลถึงทะเลทราย จะสามารถถอนพิษนี้ได้หรือไม่กัน”

อ้ายจือยังคงตกตะลึงเล็กน้อยกับคำถามดังกล่าว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดว่า “ข้าแค่ได้ยินมาจากคำบอกเล่า ตอนที่ข้ายังเด็กได้ยินผู้อาวุโสของข้าผู้ถึงเรื่องนี้ แต่ประโยชน์ของมันยากที่จะรู้ได้”

“ในเมื่อสิ่งนี้ไม่ได้ล้ำค่าอะไรนัก หามาได้สักหน่อยก็ไม่เป็นไรกระมัง” กู้อ้าวเวยปิดม้วนตำราในมือของนางด้วยมือทั้งสองข้าง ไม่ไกลนัก ร่างสีดำล้มลงกับพื้นอย่างแรง ซ่านจินจื๋อเดินเข้ามาจากในป่าเขาด้วยร่างที่มีเลือดครึ่งตัว คราบเลือดที่สาดกระเซ็นบนใบหน้าทำให้กู้อ้าวเวยขมวดคิ้วเล็กน้อย

อ้ายจือถูกทำให้ตกใจไปชั่วครู่ เห็นซ่านจินจื๋อขยิบตาให้นาง นางก็เลยเดินขึ้นมาด้านหน้า พลิกร่างผู้ที่ยังไม่ตายขึ้นมา เห็นแท่งไม้เปื้อนเลือดสองอันในปากของเขาพอดี ดวงตากลมโต

สองคนเดินเข้ามาช่วยนางกดคนที่อยู่ตรงหน้าลงไป

กู้อ้าวเวยยังคงยืนดูอยู่ที่เดิม เห็นซ่านจินจื๋อโยนดาบยาวที่เปื้อนเลือดให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ย่นจมูกขึ้น “บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว”

“เป้าหมายของพวกเขาคือเจ้า” ซ่านจินจื๋อหยุดฝีเท้าลง ใช้แขนเสื้อที่สะอาดเช็ดรอยเลือดที่อยู่บนใบหน้า “เจ้าไปยั่วให้ใครโมโหอีกกัน”

“ทำไมเจ้าถึงไม่คิดบ้างว่ามีคนอยากลงมือที่จุดอ่อนของเจ้า ท่านอ๋องจิ้ง” กู้อ้าวเวยบีบจมูกแล้วแสดงท่าทางสีหน้าที่รังเกียจออกมา

นางรังเกียจการตายต่อหน้าต่อตามาโดยตลอด แต่ซ่านจินจื๋อมักจะทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้

“ยังต้องให้ข้าเตือนฐานะของเจ้าหรือไม่ องค์หญิง” ซ่านจินจื๋อรีบถอดเสื้อที่อยู่บนตัวออกอย่างรวดเร็ว มีผู้ใต้บังคับบัญชาหาเสื้อผ้าที่สะอาดส่งมอบขึ้นมาให้เปลี่ยนแล้ว แต่กลิ่นอายของเลือดยากที่จะหายไปอย่างไม่น่าถูกใจเท่าไรนัก เขาก็คว้าถุงน้ำมานั่งข้างลำต้นของต้นไม้ดื่มหนึ่งคำ

กู้อ้าวเวยถอนหายใจเบาๆ แล้วถามอ้ายจือว่า “เป็นศพไปอีกหนึ่งรายหรือ”

“พวกเขาน่าจะเป็นคนของแคว้นชางหลาน อีกทั้งพิษนี้ก็ใช่ด้วย” อ้ายจือหยิบยาเม็ดเล็ก ๆ ที่ห่อด้วยผงยาออกจากปากของเขา คนที่อยู่ข้างใต้ก็ไม่ดิ้นรนอีกต่อไป ได้เพียงจ้องมองท่าทางทุกอิริยาบถของอ้ายจือแล้วก็ตายไป

“ดูไปแล้วน่ะจมาเพราะเจ้าเป็นเหตุ” กู้อ้าวเวยมองไปทางซ่านจินจื๋ออย่างปวดหัว “เจ้าพัวพันกับข้าอยู่ที่นี่มานานขนาดนั้น ที่แท้แล้วเข้าใจกับสถานการณ์ปัจจุบันของแคว้นชางหลานมากแค่ไหนกัน”

“ข้าเข้าใจเป็นอย่างดี เป็นไปไม่ได้ที่กองทัพดำเช่นนี้จะปรากฏตัวที่นี่” ซ่านจินจื๋อแสดงสีหน้าที่เคร่งขรึมออกมา ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ข้างกายเดินขึ้นมาด้านหน้า คุกเข่าลงต่อหน้านาง “พวกเรายังไม่เคยตรวจสอบทีมนี้เลย”

ครุ่นคิดอยู่นาน ซ่านจินจื๋อไม่สามารถอนุญาตให้กลุ่มกองกำลังแปลกๆ ปรากฏตัวขึ้นในแคว้นชางหลานได้ จึงเปิดปากพูดขึ้นว่า “พิราบส่งสารไปให้คนตรวจสอบกองทัพดำพวกนี้ นอกจากนี้พวกเจ้าค่อยส่งคนสองคนไปตรวจดูว่าคนผู้นี้ที่แท้มาจากที่ไหนของแคว้นชางหลานกัน มีสมาชิกกี่คนในบ้าน และใครอยู่เบื้องหลังกันแน่

ตอนที่เอ่ยถึงครอบครัวสองคำนี้ ใบหน้าของคนชุดดำเริ่มตึงขึ้น

อ้ายจือขมวดคิ้วและยัดกิ่งไม้เข้าไปในปากของเขาใหม่อีกครั้ง หลังจากปล่อยให้เขาถูกคนนำตัวไป ก็กลับไปที่ข้างกายของกู้อ้าวเวยอีกครั้ง

กู้อ้าวเวยกลับไม่มีจิตใจที่จะดูตำราต่อไปอีก “ที่นี่มีกองกำลังที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น เจ้ายังสบายใจที่จะติดตามข้าไปแคว้นเอ่อตาน ยังจะดูแลสั่งการข้าอีกหรือ”

“เมื่อก่อนข้าเคยพูดไว้ แผ่นดินใต้หล้านี้ไม่ใช้ของข้า เป็นแผ่นดินของเขาซ่านเซิ่งหาน” ซ่านจินจื๋อโยนถุงน้ำทิ้งไปด้านข้าง มองไปที่กู้อ้าวเวยด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง “นอกเสียจาก เจ้าหวังว่าข้าจะสามารถไปช่วยซ่านเซิ่งหานได้”

นี่เป็นเรื่องที่ไม่สมควร

เดิมทีเป็นเรื่องที่จริงจังที่พูดออกมาจากปากของเขา แฝงไว้ด้วยความหึงหวงอยู่หลายเท่าทีเดียว

เดิมทีซ่านจินจื๋อห็กำลังจะตัดขาดข่าวคราวของนางเสีย หากคำพูดนั้นเร้าใจขึ้นมาอีกหน่อย ถึงเวลาคนที่ไม่ได้กินผลของมันก็เป็นนางเองนั่นแหละ หยั่งเชิงอย่างระวัง นางยังคงเปิดม้วนตำราในมือ “ไม่ไปก็ไม่ไป พูดไปพูดมาแคว้นชางหลานก็ไม่ใช่บ้านเกิดของข้า”

ณ ตอนนั้นซ่านจินจื๋อได้เพียงพาคนจำนวนหนึ่งออกจากที่นั่นชั่วคราว สั่งการอย่างละเอียดหนึ่งรอบ หลายคนจึงตัดสินใจรีบออกเดินทางให้ทันเวลา

อ้ายจือและกู้อ้าวเวยนั่งอยู่บนรถม้า ซ่านจินจื๋อวันนี้ไม่อยู่ใกล้ชิดกับกู้อ้าวเวยอย่างหวานเลี่ยนอีก ขี่ม้าโดยลำพัง กลัวว่ากลิ่นเลือดในร่างกายยังไม่ได้หายไปจนทำให้นางไม่มีความสุข

สองคนปรึกษากันอย่างเร่งรีบในเรื่องของซีเป่า แต่ได้ยินเสียงเหยี่ยวที่ที่อยู่เหนือหัว กู้อ้าวเวยอาศัยจังหวะที่อ้ายจือแหวกม่านอาศัยช่องว่างมองไปครู่หนึ่ง ก็เลยรู้ว่าเหยี่ยวนี้มาส่งสาร ต้องเป็นเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ได้เพียงมองไปที่อ้ายจือ “ระหว่างเจ้ากับท่านซูมีความสัมพันธ์อย่างไรกัน”

“จะว่าไปความสัมพันธ์แม้แต่นิดก็ไม่มี ท่านซูอำนาจมากมาย ในตอนนั้นทุกคนที่ซื้อและขายทาส ลูกสาวหรือผู้ที่เป็นผู้หญิงในตำหนัก รวมทั้งหลานสาวอย่างข้า ไม่เคยวางไว้ในสายตาอยู่แล้ว” ดวงตาของอ้ายจือหม่นลง กำหมัดแน่น “หากไม่ใช่เพราะข้าเชี่ยวชาญพิษ นางก็คงไม่สังเกตว่ายังมีหลานสาวเช่นนี้อยู่”

กู้อ้าวเวยเลิกคิ้วไปมา แต่ก็รู้สึกว่าน่าขำ เมื่อก่อนท่านซูผู้นั้นยังแสดงออกถึงท่าทางที่ว่าชอบพอหลานสาวเป็นอย่างมากออกมาให้เห็น

“เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาส่งเจ้ามาก็เพื่อเป็นหมากตัวหนึ่งเท่านั้น งั้นถ้ามีวันหนึ่งมีคนให้เขาล้มเจ้าลงควรจะทำเช่นไร” กู้อ้าวเวยวางม้วนตำราไว้ด้านข้าง

“แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร” สีหน้าของอ้ายจือนิ่งสงบ ดูไปแล้วไม่ได้ใส่ใจกับความรู้สึกตรงนี้แม้แต่น้อย

กู้อ้าวเวยไม่พูดอีก มือข้างหนึ่งวางไปที่หน้าอกของฝ่ายตรงข้าม และทำท่าทางให้เงียบนิ่งเฉย

เข้าใจความหมายในท่าทางของนางก็คือให้นางหุบปาก อ้ายจือก็พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม สองคนต่างก็หยิบม้วนตำราขึ้นมา ในรถม้ากลับคืนสู่ความสงบ

และบนหลังม้า ซ่านจินจื๋อได้ปล่อยเหยี่ยวให้บินขึ้นฟ้าอย่างอิสระ ได้เพียงแค่เอาสารแผ่นหนึ่งนั้นวางในมือ

“ชายแดนถูกองค์ชายเก้าซ่านต้วนเฟิงควบคุมโดยผู้เดียว องค์ชายสามถูกคุมขัง กู้เฉิงเคยส่งคนไปที่ชายแดนเพื่อลอบโจมตีแล้ว”

คำพูดเพียงไม่กี่คำก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนรอบกายซ่านจินจื๋อต่างพากันวิตกกังวลไปหมด

บัดนี้สถานการณ์ของเมืองเทียนเหยียนยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างสมบูรณ์ ยังไม่ทราบผลลัพธ์ที่แน่ชัดได้ แต่ซ่านต้วนเฟิงช่างกล้านัก ไม่ต้องพูดถึงว่าเมื่อก่อนส่งคนไปไล่ล่าฆ่านางในดินแดนแคว้นชางหลาน บัดนี้คิดไม่ถึงว่าจะควบคุมชายแดนเอาคืน ความทะเยอทะยานของหมาป่านั้นชัดเจน หากไม่จัดการให้ดีๆ หลังจากนี้ไม่กี่เดือนฮ่องเต้แคว้นชางหลานนี้ก็คงจะถูกองค์ชายเก้าเก็บเข้ากระเป๋า

“ท่านอ๋อง นี่มัน……”

“ไม่ต้องสนใจ เมืองเมืองเทียนเหยียนไม่แตกง่ายๆ หรอก ซ่านต้วนเฟิงทำเช่นนี้ ก็เท่ากับว่าขุดหลุมฝังศพให้กับตัวเอง” ซ่านจินจื๋อเก็บสารแผ่นนั้นเข้าไปในแขนเสื้อ สีหน้าเป็นปกติคงเดิม “หมู่บ้านที่แคว้นเอ่อตานไม่จำเป็นต้องใช้คนจำนวนมาก รอจนทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าค่อยกลับไปสืบข่าวที่ชายแดน อย่ายุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่ง

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท