บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 646

ตอนที่ 646

บทที่ 646 ทะเลทรายซีเป่า

“อย่าตกใจไป ข้าจะไปทันทีหลังจากจัดสิ่งของเสร็จ ขอให้เตรียมรถม้ามาด้วย”

กู้อ้าวเวยไม่รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน กลัวว่าทหารเหล่านี้ก็คงจะไม่เห็นหัวนาง ทางนี้ทำได้เพียงจัดเตรียมกล่องยาของตนเอง ถือโอกาสนี้โยนยาขวดหนึ่งไปยังอ้อมแขนของซ่านจินจื๋อ “ยามวิกฤตมันสามารถช่วยชีวิตได้ ข้าจะไปดูก่อน เรื่องอ้ายจือกับท่านซูข้ามอบให้ท่านเป็นผู้ตัดสินใจ เจ้าน่าจะรู้ใจข้า”

ขวดหยกที่อยู่ในมือนั้นเย็นฉ่ำ ซ่านจินจื๋อเก็บมันไว้ในฝ่ามือด้วยใบหน้าที่สงบ จับเอาไว้แน่น

ไม่ว่าตอนนั้นเขาจะกลั่นแกล้งอย่างไร กู้อ้าวเวยก็ไม่ได้ให้ยานี้ออกมา

แต่ตอนนี้ กลับให้เขามาอย่างง่ายดาย ทำให้ใจของเขาได้แต่อบอุ่น จึงรีบพยักหน้ารับทันที “แน่นอน”

อยู่มาไม่นาน ตอนนี้กู้อ้าวเวยได้แต่คอยระวังไม่ให้เคลื่อนไหวมากเพราะทารกในครรภ์ และในเวลานี้ก็ได้เร่งฝีเท้าเพียงเล็กน้อย ผู้ที่ไปส่งขึ้นรถม้านั้นมีความคุ้นเคยกับเส้นทางเป็นอย่างดี ควบมาไปตามเส้นทางที่มุ่งไปยังโรงหมอที่ห่างออกไปเพียงถนนไม่กี่สาย

ซ่านจินจื๋อเฝ้าส่งกู้อ้าวเวยจากไป อ้ายจือที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ได้กระซิบขึ้น “ท่านอ๋อง เรื่องที่ท่านอยู่ที่นี่ มีคนอื่นรู้อีกไหม”

“ไม่มีใครรู้” แล้วกลับหลังหัน ดวงตาของซ่านจินจื๋อกลับแสดงออกถึงความลำบากกายใจ มือที่อ่อนโยนนั้นค่อยๆใส่ขวดยาไว้ในเสื้อ มืออีกข้างบีบคอของอ้ายจือไว้ “ความทะเยอทะยานของเจ้าไม่ต่างจากผู้ชายเลย อย่าคิดว่าจะหลอกใช้เวยเอ๋อได้”

อ้ายจือเบิกตากว้าง ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายที่แสนจะอ่อนโยนและดูอบอุ่นจะกลายเป็นสัตว์ร้ายเสียได้ มีเสียงความเจ็บปวดดังขึ้นจากในลำคอ ซ่านจินจื๋อจึงคิดสงสารจึงได้ปล่อยมือออก “ช่างเถอะ หากฆ่าเจ้าตอนนี้ ข้ากลัวว่าเวยเอ๋อจะมาตำหนิข้าอีก”

อ้ายจือไอแล้วถอยหลังไปสองสามก้าว แต่กลับเห็นซ่านจินจื๋อนั่งลงแล้ว เห็นได้ชัดว่ายังคงเงยหน้ามามองนาง กลับทำให้อ้ายจือยังคงเหงื่อตกไปทั่วร่าง

“แต่ทว่าข้าเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของท่านซู มาที่นี่ก็เพียงเพื่อขอความคุ้มครองจากกู้อ้าวเวย” อ้ายจือพูดต่อหน้าซ่านจินจื๋อความโกรธเมื่อก่อนหน้าก็ประทุขึ้นจึงได้เปิดปากพูดออกไป “ทำไมท่านซูถึงปล่อยข้าไว้ แต่เพราะตอนนั้นข้าได้สิ่งของชิ้นหนึ่งมาจากกู้เฉิง”

“อะไรนะ” ซ่านจินจื๋อกลับมาอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย

“ตอนนั้นที่ข้าแอบพากู้เฉิงและกู่เซิงออกไป ก็กลัวว่าเรื่องนี้เมื่อข้ากลับไปจะต้องถูกทอดทิ้ง แต่ข้ากลับรู้ว่าม้วนหนังแกะในมือของกู้เฉิงมีแผ่นหนึ่งที่เหลือเพียงครึ่งเดียว ข้าจึงได้แอบบักทึกไว้อย่างเงียบๆ มองดูแล้วมันคล้ายกับแผนที่ และยังวาดภาพครึ่งหนึ่งของวิหารเทพเจ้าไว้ เป็นเพราะของสิ่งนี้ ท่านซูจึงยึดมั่นในตัวข้า แต่กู้เฉิงกลับส่งคนมาสังหารข้า ก็ยังเป็นเพราะการกระทำของกู้เฉิง อ้ายหยินเองก็ยิ่งอยากรู้ว่าข้ามีวิธีจัดการกับกู้เฉิงหรือไม่ จึงได้ไว้ชีวิตข้า” อ้ายหยินกล่าวอย่างละเอียดและตรงไปตรงมา

และตอนนี้ซ่านจินจื๋อก็ได้ปลดโซ่ให้กับตนเอง และให้วาดเนื้อหาอีกครึ่งหนึ่งบนม้วนหนังแกะนั้นลงบนกระดาษ

ซ่านจินจื๋อได้แต่มองดู และฉีกกระดาษแผ่นดี โยนไปด้านข้าง “ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะมีของล้ำค่าในมือจริง ๆ”

“ท่านอ๋อง ดูเหมือนว่าท่านจะรู้จัก….”

“เจ้าไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ เรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ พิษที่อยู่บนตัวของเวยเอ๋อเจ้ามั่นใจแค่ไหนว่าจะสำเร็จ” ซ่านจินจื๋อหันไปด้านข้าง ครั้งนี้กลับมัดมือของอ้ายจือเอาไว้ด้านหน้า

เมื่อนึกขึ้นถึงเส้นที่ดูแปลกนั้น แต่ก็พูดได้ว่าอ้ายจือได้เห็นมันเพียงชั่วพริบตาเดียว “ยังมองได้ไม่ชัด… แต่เหมือนว่าตอนข้ายังเด็กจะเคยเห็นลายเส้นที่คล้ายกันนี้ในหนังสือโบราณ ในบันทึกทะเลทรายมีของชิ้นหนึ่งของกองคาราวานเรียกว่าซีเป่า เหมือนว่าจะสามารถถอนพิษได้ ซีเป่าไม่ใช่สิ่งที่มีราคาหรือล้ำค่าอะไร แต่สิ่งนี้ใช้มากก็เป็นพิษ ใช้น้อยก็เป็นพิษ ใบสั่งยาในสูตรตำราโบราณก็ไม่ได้บอกรายละเอียดไว้ชัด จึงยากที่จะระบุได้”

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะอย่างไรก็พูดแนวคิดทางหนึ่งออกมา

การแสดงออกของซ่านจินจื๋อมีความผ่อนคลายลงเล็กน้อย เพียงแค่หยิบเอกสาราชการที่อยู่บนโต๊ะพวกนั้นขึ้นมาอ่านอย่างละเอียด ไม่ได้สนใจอ้ายจือซึ่งได้นั่งลงอย่างเงียบๆ ได้แต่คอยจ้องมองด้านหลังเขาอย่างระมัดระวัง

ผู้ชายที่น่ารังเกียจคนนี้เคยรังแกนาง แต่นางกลับกลัวที่จะจัดการกับผู้ชายคนนี้

ตั้งแต่ต้นจนจบ ในสายตาของซ่านจินจื๋อ ชีวิตมนุษย์ไม่มีอะไรมากไปกว่าการใช้วัตถุเพื่อประเมินวัดค่าของสิ่งของ

……..

หน่วยลาดตระเวนที่ถูกส่งออกไปมีเพียงสองกลุ่ม แต่ตอนนี้มีเพียงสามสิบกว่าคนจากหนึ่งร้อยคน ล้วนได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งสิ้น ถึงกับร่างกายขาดวิ่น ได้ยินทหารหลายคนรอบตัวพูดกันว่า ที่เหลืออยู่สามสิบคนนี้ นอกจากไม่กี่คนที่เดินโซเซกลับมา คนที่เหลืออีกยี่สิบกว่าคนต่างถูกลากขึ้นรถม้ากลับมา

ทหารที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยคนหนึ่งได้จับแขนเสื้อของกู้อ้าวเวยไม่ยอมปล่อย “ข้าเห็นพวกเขาแล้ว! พวกเขาทุกคนล้วนแต่สวมชุดสีดำและขี่ม้าดำ หลบซ่อนตัวอยู่ในป่า….”

กู้อ้าวเวยยื่นมือออกไปประคองตัวของเขาขึ้นมาเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “ข้ารู้แล้ว ส่งคนไปสมทบเพิ่มที่กำแพงเมือง แล้วจัดคนจำนวนหนึ่งมาแบ่งออกเป็นสองทีมแล้วออกลาดตระเวน วิธีน้ำทำให้เป้าหมายค่อนข้างเล็ก ยากต่อการสังเกตเห็น”

“ครับ” ทหารที่อยู่ด้านหลังรีบออกไปทันที

หมอที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวในโรงหมอตอนนี้ทำได้เพียงห้ามเลือด และไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับเรื่องเส้นประสาทและข้อกระดูก กู้อ้าวเวยไม่ได้กังวลเพียงแค่นี้

เหลือทหารอยู่ในเมืองประมาณสี่พันคน นอกจากนี้อีกกว่าหมื่นคนเป็นคนแก่ผู้หญิงและเด็กที่อ่อนแอ หากถูกปิดล้อมในเวลานี้ พวกเขาจะไม่สามารถต้านทานได้เลย ยิ่งเมืองที่สองยิ่งถูกโจมตีได้ง่ายขึ้น จะต้องหาคนไปป้องกันให้มากขึ้น ทั้งสองด้านล้วนเป็นสถานการณ์ที่เร่งด่วน

ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าทหารชุดดำกลุ่มนี้มาจากที่ใด และเกิดอะไรขึ้น

ในระหว่างที่กำลังประหลาดใจ กู้อ้าวเวยก็พบว่าบาดแผลเริ่มมีสีดำจางๆ ใบหน้าก็นิ่งซีดทันที ดูอย่างละเอียด “พิษนี้ดูคุ้นๆ”

ทหารที่อยู่เบื้องหน้ายังคงไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ กู้อ้าวเวยได้เฉือนเอาชิ้นเนื้อเล็กออกมา พูดเสียงดัง “ดาบของพวกเขามีพิษ คล้ายกับพิษของน้ำใต้ดินก่อนหน้านี้ รีบส่งคนไปหายาถอนพิษเหมือนกันกับตอนนั้น หมอทุกคนหากพบเห็นการแพร่กระจาย ขอให้รีบจัดการมันซะ….”

เพราะพิษนี้ ทำให้กู้อ้าวเวยต้องยุ่งจนถึงเช้า

ท้องน้อยเริ่มปวดขึ้นมา ทหารคนหนึ่งช่วยประคองนางไปพักผ่อนที่ด้านข้าง นางดื่มโจ๊กเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็นึกได้ว่าซ่านจินจื๋อไม่มีทางออกมาได้ จึงถามขึ้นทันที “ผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าไปทำอะไรที่ลานบ้าน”

ผู้ใต้บังคับบัญชาอะไรกัน

ทหารก็นึกขึ้นได้ถึงผู้ชายที่ดูน่ากลัวคนนั้น

“ใต้เท้าคนนั้นเมื่อคืนนี้ดูเหมือนจะส่งคนไปทำอะไรบางอย่าง ไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน ดูเหมือนกลางทางจะส่งคนมาเร่งท่าน….”

แย่แล้ว

กู้อ้าวเวยนับช่วงเวลาที่วุ่นวายของนาง และยังรู้สึกปวดท้องอย่างไม่หนักไม่เบา รู้สึกอับอายเล็กน้อย

เมื่อใดที่นางมีงานยุ่งมากก็มักจะละลายตัวเองอยู่เสมอ เพียงแค่หวังว่าซ่านจินจื๋อจะไม่คิดวิธีใดมาสอนตัวเองอีกก็เป็นพอ

“แต่ ก็ต้องขอบคุณใต้เท้าที่ท่านช่วยชีวิตสหายพี่น้องของพวกเรา” ผู้นำกองลาดตระเวนเดินเข้ามาทักทายด้วยตาแดงก่ำ

“หมอเหล่านั้นคือคนที่เจ้าควรจะขอบคุณ” กู้อ้าวเวยประคองตัวคนขึ้นอย่างทำอะไรไม่ถูก กวักมือเรียกคนด้วยสีหน้าเจ็บปวด “ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาข้าคนนั้นมารับข้าหน่อย ข้าเจ็บขา”

แบบนี้ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะให้ซ่านจินจื๋อมาอยู่เคียงข้าง

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท