บทที่ 650 เป็นขั้นเป็นตอน
“ไฟป่าทางตะวันออกเฉียงเหนือ เจ้าไม่กลัวว่ามันจะลุกลามไปยังภูเขาและป่าทางตะวันตกหรือ” ซ่านจินจื๋อลูบคางของเขา “ไม่ต้องไปพูดถึง หลังจากที่พวกเจ้าออกไป เมืองนี้ก็คงจะแตกเป็นหลุม พวกเจ้ามีจำนวนคนที่ไม่เพียงพอจะกลับไปโจมตี กลับกันอาจจะถูกขนาบข้างด้วยกองทัพของอ้ายหยิน”
“น้ำใต้ดินที่คนงานสร้างขึ้น เพียงแค่ถูกระเบิด แผ่นดินด้านบนก็จะพังทลายลง ร่องน้ำก็จะกลายเป็นส่วนป้องกันไฟได้อย่างดี” กู้อ้าวเวยยกมุมปาก เพียงได้ยินเสียงดังตู้มใหญ่มาจากนอกลาน ก็เห็นใบหน้าของซ่านจินจื๋อถึงกับเปลี่ยนสี รีบพูดต่อทันที “และเจ้าก็คิดมากเกินไป ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ข้าก็เป็นลูกหลานของแคว้นเอ่อตานและแคว้นชางหลาน แล้วจะไม่ช่วยพวกเจ้ากินเนื้อติดมันชิ้นดีนี้ได้อย่างไร”
แม่น้ำใต้ดินพังทลาย หุบเหวขาดใหญ่จากเหนือจรดใต้ แบ่งแยกไฟป่าออกบางส่วน
ทหารแปดพันคนที่อยู่นอกเมืองนั้นไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่เมื่อยิ่งได้เห็นประตูเมืองเบื้องหน้าถูกเปิดออกกว้าง ทหารสองพันคนยืนเป็นระเบียบอยู่ตรงหน้าของข้าศึกต่างชาติ แต่ละคนกลับมีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ แม่ทัพที่เป็นผู้นำนั้นยืนนิ่งไม่ไหวติง ไม่มีแม้แต่คำพูดใดออกมา
ทหารของอ้ายหยินไม่กล้าเข้าไป เพราะกลัวว่าจะถูกกับดัก
ในเวลานี้ เปลวไฟยามค่ำคืนได้ลุกโชนขึ้นไปในอากาศ ควันหนาทึบคละคลุ้งไปทั่ว ทหารทุกคนรู้สึกลึกไอยู่ที่ปากและจมูก แต่ก็มิได้ย่อตัวลงแม้แต่น้อย เตรียมพร้อมตลอดเวลา
กู้อ้าวเวยได้เดินมายังลานบ้านในเวลานี้ เงยขึ้นมองท้องฟ้าที่แดงระอุ “ขอเพียงไม่มีเมืองชายแดนเมืองนี้อีก ก็ยิ่งสามารถผลักดันค่ายทหารของแคว้นชางหลานและแคว้นเอ่อตานออกไปได้อีกหลายสิบลี้ และเมืองชายแดนที่ติดกับของแคว้นเจียงเยี่ยน ก็จะกลายเป็นเมืองที่ง่ายต่อการถูกโจมตีอยากที่จะป้องกัน ทั้งสองประเทศนี้ทำได้เพียงแค่สวดมนต์ให้ได้รับความคุ้มครอง เพื่อให้มีเวลาหายใจ”
“ล่ายเสวียนรู้วิธีการของเจ้าหรือไม่” ซ่านจินจื๋อเดินตามออกมา
“ล่ายเสวียนรู้เพียงว่า ขอเพียงแค่ไม่มีเมืองแห่งนี้ จะเป็นอ้ายหยินก็ดี หรือกู้ฉฺงก็ช่างเถอะ ก็ไม่มีใครสามารถจะมาล้อมรอบเขาได้ และเขาก็ยังเหลือทางรอดไว้เส้นทางหนึ่ง” กู้อ้าวเวยพูดถึงตรงนี้ ได้แต่เพียงถอนหายใจเบาๆ “ข้าได้เตือนพวกเจ้าแล้วหลายครั้ง ข้านี้เดิมทีไม่ใช่ชาวเจียงเยี่ยน แม้ว่าข้าจะดูยุ่ง แต่ก็เพื่อผลประโยชน์”
“ข้าคิดว่าเจ้าคงจะเรียนรู้อะไรได้บ้างเพียงแค่ศึกษาตำราการทหารของข้า” ซ่านจินจื๋อเดินไปข้างกายนาง พานางไป “แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ข้านี้จะดูถูกเจ้าเกินไปแล้ว”
“ท่านอ๋องประเมินข้าต่ำเกินไปตั้งแต่ต้น” กู้อ้าวเวยยังคงจับมือเขา เดินตามเขาไปทางตะวันตกของเมือง หันหูไปตามเสียงตะโกน สงครามครั้งนี้ไม่ควรเสียสละพวกเขาทั้งสองคน และกู้อ้าวเวยก็ได้ทำอย่างเต็มที่เพื่อพวกเขา
เดินไปยังด้านตะวันตกของเมือง กู้อ้าวเวยเอาผ้าคลุมปิดปากและจมูก ได้ยินซ่านจินจื๋อพูด “ในตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าจะไปยุ่งแค่ความยุ่งเหยิงในตำบลเหยสุ่ย แต่ตอนนี้กลับไม่รู้สึกแบบนั้นแล้ว”
“คนที่บอกว่าข้านั้นชอบยุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่งก็คือเจ้า ตอนนี้ทำไมถึงไม่คิดแบบนั้นแล้วล่ะ” กู้อ้าวเวยกะพริบตา เมื่อถูกซ่านจินจื๋ออุ้มขึ้น ไม่เพียงมือทั้งคู่ที่ประคองท้ายทอยนาง ดวงตาคู่นั้นก็สว่างสดใส
“ทิงเฟิงเก๋อเพิ่งจะออกจากแคว้นชางหลาน เจ้าก็มารับมือกับตำบลเหยสุ่ย และดูเหมือนจะทำให้พวกเขารอรับคำสั่งอยู่ แต่ข้ากลับจำได้ว่ามีข้อตกลงที่น่าสนใจมากมายในตำบลเหยสุ่ย” ซ่านจินจื๋อมองไปยังทหารและประชาชนที่กำลังวางดินระเบิดไฟเข้าไปในชั้น พูดด้วยเสียงเข้ม “มีระเบิดไฟอยู่มากมายเช่นนี้ ดูแล้วมีมูลค่ามาก เห็นได้ชัดว่าฉีหรัวจะรู้เรื่องของตำบลเฮยสุ่ย ดูแล้วทุกอย่างไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
“ทำไมเจ้าถึงฉลาดแบบนี้” กู้อ้าวเวยยกคางขึ้น มืออีกข้างตบหน้าอกตัวเอง อย่างภาคภูมิใจ “อย่างมองข้าแบบนั้นสิ ข้าก็แค่อยากทำให้ดีที่สุดเพื่อพ่อของข้า ตอนนั้นที่อยู่ในวัง ข้ารู้ว่าเขาโลภต้องการแคว้นเจียงเยี่ยนมานานแล้ว”
“เจ้าวางแผนตั้งแต่แรกที่จะระเบิดสถานที่นี้ ทำให้เมืองนี้กลายเป็นสุสานของอ้ายหยิน”
“หากพวกเขาไม่โจมตีเข้ามา หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือนที่แห่งนี้ก็คงจะไม่มีศพ จะเป็นเพียงซากปรักหักพังจากการถูกระเบิดเท่านั้น” กู้อ้าวเวยยกตัวของนางขึ้น วางแขนไว้อบคอของซ่านจินจื๋อ และนอนคว่ำบนไหล่ มองไปยังผู้คนในท้องถนนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ได้เพียงพูดเบาๆว่า “พวกเขาหาที่ตาย”
คำทั้งห้าคำนี้ที่ลอยเข้าหูของซ่านจินจื๋อ กลับเปรียบเหมือนไม้ตีกลองกระแทกใจเขา
ขณะที่เขากอดและจูบหน้าผากของกู้อ้าวเวย ซ่านจินจื๋อก็ยิ้ม “ในชีวิตของข้า ข้าไม่มีทางยอมปล่อยเจ้าไปแน่!”
กู้อ้าวเวยเรียนรู้วิธีการตบหน้าผากนี้มจากกุ่ยเม่ย และได้นำมาตบไปที่หน้าผากของซ่านจินจื๋อเช่นกัน “หยุดพูดได้แล้ว ไปกันเถอะ!”
ขณะที่แขนของเขากระชับขึ้นเล็กน้อย ซ่านจินจื๋อก็เดินไปทางทิศตะวันตกของเมืองอย่างต่อเนื่อง เสียงที่ดังอยู่ข้างหูได้ถูกแทนที่ด้วยความเงียบ ทหารที่ประตูเมืองทางทิศใต้ยังคงเผชิญหน้ากัน และผู้คนทางตะวันตกก็ได้รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว ล้วนแต่คอยกอดเด็กอย่างระวังและพาคนแก่ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในจุดพื้นที่ที่กำหนด
ในตอนนี้ นอกเหนือจากเสียงร้องไห้ของเด็ก ๆ เป็นครั้งคราว คำพูดปลอบโยนของแม่ ก็เป็นความหวังของสายตานับไม่ถ้วน
กู้อ้าวเวยเพิ่งตบซ่านจินจื๋อที่ไหล่เพื่อให้เขาวางตัวเองลง และได้นั่งลงช้า ๆในสถานที่ที่ไม่มีคน กวักมือเรียกเขา “พูดมากกับเจ้าตั้งเยอะแยะ ท้องเริ่มจะปวดแล้วจริง ๆ”
“ปวดมากเหรอ” ซ่านจินจื๋อรีบคุกเข่าลงข้างๆนาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตึงเครียด
“พูดจริงสิ ข้าไม่สามารถจะทำเรื่องพวกนี้ได้นะ” กู้อ้าวเวยยกมือขึ้นและจับแขนของซ่านจินจื๋อ ความเจ็บปวดในช่องท้องส่วนล่างทำให้นางเห็นภาพลวงตาไปว่านางกำลังจะสูญเสียลูก แต่นางก็รู้ว่าทั้งหมดก็เป็นเพียงฝุ่นและควัน
เป็นเพียงการประเมินค่าของนางที่ตนเองต้องแบกรับในส่วนที่หนักเกินไป
กระดูกทั่วทั้งร่างดูเหมือนจะส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด ผลของเช่ออี้จื่อคงจะพอที่จะทำให้แน่ใจได้ว่าทารกนั้นจะไม่ได้รับสารพิษตกค้างในร่างกายของนาง แต่กลับดูเหมือนเป็นความพยายามที่ไร้แก่นสารเช่นเดียวกับการพยายามแยกแม่ออกจากลูก
อาจจะเป็นผลข้างเคียงของยาแบบสุ่ม แต่กู้อ้าวเวยกลับหัวเราะเยาะขึ้นมา “หากเป็นเช่นนี้ละก็ เช่ออี้จื่อในนั้นอาจจะต้องเพิ่มสิ่งอื่นเข้าไป….”
“ตอนนี้เจ้าก็ยังคิดถึงใบสั่งยาอยู่เหรอ!” มือของซ่านจินจื๋อจับไปยังคางของนาง เงยหน้าของนางขึ้นเล็กน้อย เพื่อสูดลมหายใจ แทนที่จะย่อตัวเลงในมุมนี้แล้วหายใจแรงๆ มืออีกข้างกดขาที่สั่นเทาอย่างระวัง “ข้าจะส่งคนไปหาอ้ายจือ…”
“นางรู้เรื่องถอนพิษไหนเลยจะรู้เรื่องการป้องกันครรภ์ เรียกไปก็เป็นการเรียกเปล่า” กู้อ้าวเวยอ้าปากค้างและหอบ “ผลที่ดีที่สุดก็คือ ข้าอาจจะมึนสักพัก เจ้าแค่ให้ยาข้าเท่านั้นพอ”
เหงื่อที่เยือกเย็นนั้นไหลออกมาจากหน้าผากของนาง เสียงของกู้อ้าวเวยก็สั่นเทาขึ้นมา
หากไม่มีไฟป่าเหล่านี้ นางก็คงจะปลอดภัยมาก ไอ้เจ้าสารเลวอ้ายหยิน!
ซ่านจินจื๋อใช้กำปั้นทุบพื้นและเอื้อมมือไปจับฝ่ามือเย็นๆของนางด้วยมืออีกข้างหนึ่ง “หลังจากที่ให้กำเนิดเด็กคนนี้ ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป”
“ข้าเฝ้ารออยู่” หญิงสาวคนนี้ยังมีหน้ามายิ้มให้!
“ใครก็ได้ เรียกหมอมาสักคน บอกพวกเขา หากไม่ช่วยให้เด็กคนนี้รอด ทุกคนก็กำลังรอนางให้ต้องตาย” เสียงซ่านจินจื๋อที่เข้ามาในหูนั้นดูเศร้าหมอง
กู้อ้าวเวยลากเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เจ้ายังจัดตั้งคนไว้ในเมือง….”
“จำคำพูดวันนี้ไว้ ขอเพียงเจ้าตาอยู่บนแผ่นดินแคว้นเจียงเยี่ยน วันข้างหน้า ข้าจะไปทำลายสถานที่นี้ด้วยตนเอง” ซ่านจินจื๋อจูบลงบนปลายนิ้วของนาง พูดด้วยเสียงต่ำ “เพื่อชีวิตของคนเหล่านี้แล้ว สิ่งที่ดีที่สุดคือเจ้าต้องไม่ตาย”