บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 683

ตอนที่ 683

บทที่ 683 เรียนรู้ความจริง

“หากฮูหยินเห็นเข้าล่ะก็ ก็ไม่รู้ว่าจะอะไรเจ้าบ้าง”

จื่อเหมิงพันแผลบนร่างกายให้กับกุ่ยเม่ยใหม่อีกครั้ง มองดูบาดแผลที่ควรจะหายดีแล้วแต่กลับมีเลือดออกมาอีกด้วยความโกรธ ซึมเข้าไปในผ้าแต่ละชั้น แม้แต่ตัวยาห้ามเลือดก็ยังไม่มีฤทธิ์มากพอ

หากไม่ใช่เพราะจื่อเหมิงเห็นว่ากุ่ยเม่ยหายออกไปจากห้อง จึงไม่ได้สังเกตเห็นว่าเขาได้ออกไปเป็นครั้งที่สองเพื่อช่วยเหลือทั้ง ๆที่ยังมีแผล ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกฮูหยินตวาดใส่มาแล้วหนึ่งครั้ง คราวนี้ก็ยังไม่รู้จักจำ

“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหนูทิ้งยาลับนี้ไว้ให้ ชีวิตของเจ้าอาจจะไม่เหลือแล้ว ตอนนี้แม้แต่ขานี้เจ้าก็ไม่ต้องการแล้วใช่ไหม” จื่อเหมิงมองดูแผลที่ยาไม่หายดีบนขาของเขา ตอนนี้มันยิ่งฉีกขาดลึกกว่าเดิมมาก แม้แต่ผ้าเนื้อละเอียดก็ยังไม่สามารถกักเลือดที่ไหลออกมาไว้ได้อีก แต่ละวันต้องใช้ยาห้ามเลือดไปเป็นจำนวนมาก

“ข้ารู้” กุ่ยเม่ยกำลังมีอาการหอบอย่างมาก เหงื่อตกออกมาจากหน้าผาก ความเจ็บปวดของต้นขานี้ทำย้ำเตือนเขาอยู่เสมอว่าไม่สามารถปกป้องกู้อ้าวเวยให้ดี ได้แต่กำหมัดแน่น “ข้าแค่เพียงกังวลใจ นาง…..”

“กุ่ยเม่ย ข้าประเมินเด็กหนุ่มอย่างพวกเจ้าต่ำไปแล้ว”

หยุนหว่านขัดจังหวะเขา หยุนหว่านไม่เคยใส่ผ้าคลุมหน้าเลยเมื่ออยู่ในจวนโจว ในตอนนี้แผลบนใบหน้านั้นดูน่ากลัวเล็กน้อย ดวงตาคู่นั้นไม่อ่อนโยนอย่างที่เคยเป็น

“ฮูหยิน ข้าได้พาเขากลับมาแล้ว” จื่อเหมิงค่อยๆเตะผ้าละเอียดชั้นดีนั้นเข้าไปที่มุม

โดยปกติแล้วการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของหยุนหว่านไปได้ แต่นางกลับแค่หยิบกระดาษที่กู้อ้าวเวยทิ้งเอาไว้บนโต๊ะ มองไปเห็นสีหน้าของกุ่ยเม่ยที่เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ภายในใจของหยุนหว่านยิ่งดิ่งลึก แล้วรีบเดินออกไป “ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าก็ยังปิดบังข้า”

“ข้า….ไม่มีนะ” กุ่ยเม่ยมองไปด้วยความรู้สึกผิด

เขารู้ได้โดยธรรมชาติว่ากระดาษในมือของหยุนหว่านนั้นหมายถึงอะไร

กู้อ้าวเวยนั้นมักจะอ่านหนังสือเป็นจำนวนมาก และยังเขียนสิ่งต่าง ๆมากมายด้วยตนเอง ตั้งแต่ทฤษฎีง่ายๆ ไปจนถึงการปฏิบัติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เกือบจะทุกสิ่งไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ก็เหมือนเช่นตอนนี้ นางก็ยังหวังว่าในช่วงที่ตั้งครรภ์จะเขียนให้ได้สิบแผ่นในทุกวัน

เช่นเดียวกัน หากนางต้องการจะมีชีวิตรอดหลังจากคลอดบุตร ยิ่งเขียนออกมามากมายไม่รู้กี่แผ่นกระดาษ

แต่ในวันปกติ กลับมีน้อยคนนักที่จะกลับไปนำสิ่งที่นางเขียนขึ้นมาอ่าน ยกเว้นแต่ตอนที่นางถูกกักบริเวณ ซ่านจินจื๋อจะตรวจสอบใบสั่งยาของนางทุกวันหรือไม่ก็คอยบ่น หลังจากนั้นก็ไม่มีใครสนใจมองมันอีก

ในมือของหยุนหว่านมีกองกระดาษที่เกือบจากกลายเป็นเล่มหนังสือซึ่งมันเป็นเพียงแค่สิ่งที่กู้อ้าวเวยเขียนขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง

“ข้าพบว่านางดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นอมตะมากเป็นพิเศษ ช่วงนี้มีคนมากมายกำลังให้ความสนใจกับแนวคิดเรื่องความเป็นอมตะ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านพงศาวดาร หรือจะมาจากเภสัชวิทยา นางก็ล้วนศึกษาอย่างละเอียด ทุกวันก็ได้แต่นั่งเขียนบันทึกจำนวนมากมาย ลายมือก็ยิ่งเลื่อนลอย ทำทุกอย่างตามแต่ใจ” หยุนหว่านยกกระดาษในมือขึ้นและนั่งลงบนขอบเตียงของกุ่ยเม่ย มองเขาด้วยสายตาเย็นชา “แต่ข้ากลับไม่รู้เลย ว่ารากเหง้าของถุงน้ำดีหงส์กับความเป็นอมตะมีความสัมพันธ์อะไรกัน”

หยุนหว่านถนัดการใช้พิษ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่ารากเหง้าของถุงน้ำดีหงส์นั้นมีพิษร้ายแรง

กุ่ยเม่ยพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

“ไม่เพียงแค่นี้ ในห้องของอ้ายจือ ข้ายังเห็นวิธีการมากมายที่เกี่ยวกับการถอนพิษรากเหง้าถุงน้ำดีหงส์” หยุนหว่านพูดอย่างเย็นชา “ทำไมนางถึงยืนกรานที่จะไม่ดื่มน้ำแกงปี้จื่อ(ดื่นแล้วจะหลีเลี่ยงตั้งครรภ์) ไม่เพียงแค่กล้าที่จะตั้งครรภ์ หลังจากนั้นยังจะมาหลบหนีพวกเราไปอีก จริง ๆแล้วเป็นเพราะรากเหง้าถุงน้ำดีหงส์สินะ”

พูดถึงตรงนี้ หยุนหว่านก็มีน้ำเสียงที่ค่อยๆสั่นเครือ

พิษของรากเหง้าถุงน้ำดีหงส์ ตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดสามารถถอนได้

แม้ว่าเช่ออี้จื่อจะช่วยชะลอให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่ความเจ็บปวดจากพิษของรากเหง้าถุงน้ำดีหงส์ไม่สามารถลงไปได้เลยแม้เพียงครึ่ง 

“ใช่ ข้ารู้” กุ่ยเม่ยแทบจะต้องรีดประโยคนี้ออกจากในฟัน

“ตั้งแต่เจ้ารู้ ทำไมถึงไม่บอกพวกเรา! ไม่ว่าทักษะทางการแพทย์ของเวยเอ๋อจะสูงส่งเพียงใด แต่วัตถุดิบสมุนไพรที่มีค่าพวกนี้นางจะไปตามหาได้อย่างไร!” หยุนหว่านเกือบจะลุกขึ้นยืนในทันที น้ำตาในดวงตากำลังเอ่อล้น

จื่อเหมิงค่อยๆทำตาโตแล้วมองไปยังทั้งสองคน มันยากที่จะพูดเป็นเวลานาน

“นางเพียงกลัวว่าพวกเจ้าจะมาคอยมองนางด้วยความกังวลอยู่ทุกวัน” กุ่ยเม่ยก้มหัวลงอย่างหนัก “แม้ว่าเหตุผลของนางจะดูเอาแต่ใจ แต่ถ้าข้าต้องพบเจอเรื่องอะไรแบบนี้ ข้า….ก็คงจะต้องตัดสินใจเช่นเดียวกับนาง”

“พวกเจ้า!” หยุนหว่านทาบมือไว้ที่อกอย่างแน่น กระดาษที่อยู่ในมือก็กระจายออกไปเต็มพื้น

จื่อเหมิงเอนตัวไปด้านข้างอย่างระมัดระวัง มองไปยังพื้นที่เต็มไปด้วยกระดาษที่เขียนใบสั่งยาไว้อย่างถี่ยิบ แต่ยังมีใบสั่งยาที่ถูกทิ้งไปมีจำนวนเท่าใด ใบสั่งยาที่ใช้ได้มีจำนวนเท่าใด ก็ไม่มีใครรู้

หยุนหว่านรู้สึกรำคาญใจ ในตอนนี้กลับทำได้เพียงทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้านข้าง

“ขอโทษ….” กุ่ยเม่ยพูดด้วยเสียงแผ่วเบา

จื่อเหมิงก้มตัวลงหยิบกระดาษที่กระจายแน่นอยู่บนพื้นขึ้นมา มองไปยังทั้งสองคนที่กำลังเศร้าหมอง นางก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะพูดอะไร แต่ตอนนี้ก็มีชื่อหนึ่งที่เข้ามาในความคิดของพวกเขา “อ๋องจิ้งรู้หรือไม่”  

หยุนหว่านเงยหน้าขึ้น กลับมีเพียงกุ่ยเม่ยที่ส่ายหัวอย่างจริงจัง “เจ้าชายคิดว่าพิษบนร่างกายนางสามารถจะแก้ได้”

“อย่างนั้นทำไมนางต้องซ่อนตัวจากซ่านจินจื๋อ….”

“ท่านอ๋องคิดว่าตนเองมีความผิด ไม่สมควรจะมีลูก และเวยเอ๋อก็กลัวที่จะเชื่อท่านอ๋อง แม้ว่าจะโน้มน้าวให้ดีกัน ความบาดหมางระหว่างนางและท่านอ๋องก็ไม่อาจถูกกำจัดไปได้” กุ่ยเม่ยอธิบายด้วยเสียงต่ำ

ปลายนิ้วของหยุนหว่านขยับเล็กน้อย ในใจมีแต่เรื่องวุ่นวายอยู่นานแล้ว  

ลูกสาวที่ยังไม่ได้กลับมาอยู่ร่วมกันสักเท่าไรกลับถูกวางยาพิษเข้าสู่ร่างกายแล้ว ตอนนี้ก็ยังถูกคนลักพาตัวไปอีก จะเป็นตายอย่างไรยังไม่อาจรู้ได้

เบื้องหน้าล้วนแต่น่าเวียนหัว เล็บถูไปบนโต๊ะอย่างแรงจนมีเสียงดัง จนกระทั่งนางค่อยๆรวบรวมปลายนิ้วเข้ามา รู้สึกถึงเล็บที่จิกไปบนฝ่ามือ เสียงพึมพำในหัวใจก็จางหายไป มีแนวคิดใหม่พร้อมจะผุดขึ้น ออกมาจากปากของนาง “เนื่องจากนี่เป็นลูกของซ่านจินจื๋อ อย่างนั้นเรื่องพวกนี้ก็มอบให้เขาจัดการเถอะ”

“อย่างนั้นท่าน…..”

“ฉูหลี่เป็นพ่อของเวยเอ๋อ เขาจะรู้ได้เองว่าควรจะทำอะไรบ้าง” หยุนหว่านสูดหายใจลึกๆแล้วลุกขึ้นยืน เหงื่อได้ไหลออกมาจากหน้าผาก แต่น้ำเสียงกลับหนักแน่น “และข้าก็เป็นแม่ของเวยเอ๋อ ข้าก็ช่วยนางได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นในตอนนี้ คือการทำให้ซ่านจินจื๋อได้สิทธิของเขาคืนกลับมา ตามหาผู้อยู่เบื้องหลัง”   

“เจ้านายท่านพูดถูก” จื่อเหมิงรีบพยักหน้า แล้วลุกขึ้นยืน “ขอเพียงแค่ท่านสั่งออกมาคำเดียว” 

“ให้ทุกคนไปสืบหาข่าวคราวนี้ หาบุคคลที่อยู่เบื้องหลังมาให้ได้ หากไม่ได้ทำร้ายเวยเอ๋อก็ไว้ชีวิตเขาได้ แต่หากทำร้ายเวยเอ๋อแม้แต่น้อย ก็ฆ่าไปเลย คนของโห้วเก๋อ ทิ้งแผนการทั้งหมด และดำเนินตามคำสั่ง หยุนหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า หันหน้าไปมองกุ่ยเม่ยที่อยู่บนเตียง “เจ้าเป็นลูกที่ดีของข้าตลอดไป สองสามวันนี้พักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะนำข่าวดีมาบอก”

กุ่ยเม่ยนั่งบนขอบเตียง มองนางอย่างงุนงง “ฮูหยิน โห้วเก๋อที่ท่านพูดถึง….”

“ข้าได้ยินมาว่าทิงเฟิงเก๋อสามารถยืนหยัดอยู่ได้ แน่นอนว่าคงไม่ใช่เพียงเพราะสติปัญญาจากการค้าขาย” หยุนหว่านมีท่าทีแสดงออกที่อ่อนลงมาก มุมปากมีรอยยิ้มที่กระหายเลือด “ตั้งแต่ข้าพาผิงชวนกลับมาจากสำนักเหลี่ยงหยี ข้าก็ยังได้ขุดหานักฆ่าไว้สำหรับใช้งาน”

“ไม่มีใครมาข่มเหงลูกสาวข้าได้”

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท