บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 794

ตอนที่ 794

บทที่ 794 มีเพียงคนเดียว

ช่วงฤดูใบไม้ผลิและหน้าร้นจะมีฝนมาก ด้านนอกฝนตก แสงจันทร์ถูกบดบัง เหลือเพียงความมืดมิด

ซ่านเซิ่งหานนั่งอยู่บนชั้นสองคนเดียว บนโต๊ะมีกล่องไม้ที่น้องสี่เอามาให้ฉีหรัวดูเมื่อก่อน เฟิงฉีนก็กำลังทำผมให้กับฉางอีฉินที่ไม่ได้สติ อยู่ไม่ไกล ส่วนเฟิงเยว่ก็นั่งเรียงขนมบนโต๊ะ ด้านหน้าซ่านเซิ่งหานก็คือฉีหรัวที่สุดชุดสีดำ

ตอนนี้ฉีหรัวก็มองฉางอีฉิน แล้วพูดว่า “ท่านพ่อเคยเอานางคนนี้ขายให้เจ้า ตอนนี้เจ้าเอานางมาสู้กับข้าหรือ?”

“ถือว่าช่วยนาง รักษาตัว2ปีก็น่าจะดีขึ้น” ซ่านเซิ่งหานพูดเสียงเย็น แต่หลบมือของเฟิงเยว่ แล้วรินชาน้ำขิงให้ฉีหรัว แล้วก็มองน้ำฝนบนไหล่ของนาง แล้วพูดว่า “มาดึกเน ไม่กลัวเสียชื่อเสียงหรือ?”

“เจ้าก็รู้ว่าข้ามาทำอะไร” ฉีหรัวมองขวาง แล้วก็เปิดกล่องไม้ด้านหน้า แล้วก็วางตราราชลัญจกรหยกและราชโองการสีเหลืองลง ฉีหรัวก็มองไปยังราชโองการ แล้วพูดว่า “และแล้วนี่ก็ไม่ใช่ราชโองการจริงๆ”

“ช่วงนี้เจ้าหาช่างมากมายเข้าจวนไป ก็เพื่อการนี้อะสิ” ซ่านเซิ่งหานทำหน้านิ่ง

“แต่ข้าเคยศึกษาลวดลายของแคว้นเอ่อตาน เพื่อกู้อ้าวเวย ลวดลายของราชโองการ ไม่ใช่ลายของแคว้นชางหลาน แต่ตอนนั้นยังตกใจ และข้าก็ไม่อยากเชิญเอง ดังนั้นก็เลยต้องตรวจสอบ” ฉีหรัวถอดงอบกันฝนออก แล้วจ้องมองเขา “แล้วซ่านเชียนหยวนก็ยังไม่กลับมา”

ถึงว่าฉีหรัวก็อยู่ที่นี่ด้วย

“เขาไปแค่วันเดียว” ซ่านเชียนหยวนก็ยังนิ่ง

“ถึงแม้เป็นเช่นนี้ แต่ทางฝั่งที่รับรองก็ล้อมคนของแคว้นเอ่อตานไว้แล้ว ไม่มีข่าวคราว แล้วเขาก็ยังไปช่วยหยุนหว่าน หรือจะบอกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องบังเอิญ” ข่าวที่ส่งไปก็คงไปไม่ถึงมือผู้รับ ฉีหรัวกังวลใจ

แต่ซ่านเซิ่งหานก็ยังคงหน้านิ่ง แล้วเอาราชโองการออกมาดู แล้วแกะส่วนที่บอกให้เขาครองราชย์ต่อนั้น ออกมา แล้วเห็นเป็นลายมือของพ่อของเขา

พักใหญ่ ซ่านเซิ่งหานก็พูดออกมาว่า “ทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้”

ฉีหรัวลืมตาโต แล้วก็เอาตราราชลัญจกรหยกออกมาดูบ้าง ซ่านเซิ่งหานก็พูดต่อ “ตราราชลัญจกรหยกก็เป็นของปลอม ทั้งหมดมันเป็นแผนการ”

“เป็นไปได้อย่างไร!”

“ตั้งแต่ต้น คนที่ท่านพ่อมอบหมายให้ มีเพียงคนเดียว” ซ่านเซิ่งหานตัดบทฉีหรัว แล้วเอาตราราชลัญจกรหยกและราชโองการเก็บลงไปในกล่องไม้ แล้วยื่นให้เฟิงเยว่ ด้วยสายตานิ่งๆ

ซ่านจินจื๋อก็คงไม่ต้องไปแย่งกับใคร

………

ไม่รู้ว่านั่งในห้องโถงนานเท่าไร

ผู้ยิ่งใหญ่บนเตียงมังกร ในที่สุดก็ลืมตาขึ้น แล้วมองไปยังซ่านจินจื๋ออยู่นาน แล้วพูดว่า “ในวังมันอันตราย”

“จะต้องระวังตัว” ซ่านจินจื๋อก็รับคำสัตย์ของพี่น้องที่ทำด้วยกันไว้ แล้วก็กำหมัด เขาไม่คิดว่า หลังจากเขากลับมาซ่านต้วนโฉงจะมีสภาพเช่นนี้ “ถ้าข้าสามารถกลับมาเร็วกว่านี้ละก็………”

“ราชโองการอยู่กล่องลับด้านข้างของเตียง หวางกงกงและเสด็จแม่จะช่วยข้าให้ปลอดภัย ต่อไปเจ้าก็ช่วยข้าว่าราชการ” ซ่านต้วนโฉงเหมือนจะมีแรงพูดเท่านี้ ยังไม่ทันรอให้ซ่านจินจื๋อตอบรับ เขาก็หลับตาลงไปแล้ว หวางกงกงก็เปิดม่านลูกปัดเข้ามา

“ท่านอ๋องจิ้ง เรื่องที่ฝ่าบาทถูกลอบทำร้าย อย่าได้ไปบอกใคร บอกได้เพียงแค่ทรงประชวร”

หวางกงกงขมวดคิ้วพูด แล้วก็สั่งนางใจสองคนที่เชื่อถือได้มารับใช้ฮ่องเต้ ซ่านจินจื๋อก็โค้งตัวลง กล่องลับเป็นที่ที่หลังจากซ่านต้วนโฉงครองราชย์ ก็ให้คนไปสร้างไว้ ไม่มีใครรู้

พอเอาราชโองการออกมา หวางกงกงก็พูดว่า “ยังมีเรื่องมากมาย ท่านอ๋องจิ้งจะเริ่มตรวจสอบจากจุดไหนก่อนดี”

“ข้าไม่อาจจะอยู่ในวังได้ทุกวัน เวยเอ๋อ……”

“มันเป็นเรื่องใหญ่ หวังว่าท่านอ๋องจะเห็นแก่เรื่องส่วนรวมก่อน” หวางกงกงรีบคุกเข่าลง ตัวสั่นระริก ร้องห่มร้องไห้ “กระหม่อมจะช่วยเลือท่านอย่างเต็มที่”

ซ่านจินจื๋อก็ลำบากใจ เรื่องนี้มันกระทันหันเกินไป

ถ้าให้กู้อ้าวเวยอยู่ที่จวนขององค์ชายเก้าคนเดียว ก็คงต้องเกิดเรื่องแน่ แต่เสียดายที่เขาไม่นึกว่า พี่ชายตนเองจะถูกลอบทำร้ายในเขตที่มีคนมากมาย เรื่องบ้านเมืองกับเรื่องผู้หญิง ตอนนี้มันเลือกยากมาก

ในตอนที่กำลังลังเลอยู่นั้น ด้านนอกก็มีคนใบหน้าคุ้นเคยเดินเข้ามา

เมิ่งซู่ที่ไม่ได้เจอกันนาน นั่งคุกเข่าด้านนอก แล้วพูดกับเขาว่า “ขอเชิญท่านอ๋องจิ้งเห็นแก่บ้านเมืองด้วยเถิด ฮ่องเต้จนพระทัยจริงๆ ถ้าเอาราชสำนักให้องค์ชายคนใดคนหนึ่งละก็ จะต้องมีการชิงบัลลังก์แน่ มีแต่ท่านที่มีอำนาจเพียงพอ ที่จะจัดการได้”

พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นโล่ป้องกันชั้นดี

แต่เสียดายที่พูดมานั้นมีเหตุผล ซ่านจินจื๋อนิ่งไปพักใหญ่ “แล้วถ้าข้าไม่ยอมเล่า?”

“กระหม่อมได้ทำตามที่ฮ่องเต้รับสั่งแล้ว หลังจากท่านเข้าวังมา ก็ให้เอาเรื่องที่ท่านจะว่าราชการแทนไปบอกขุนนางทั้งหมด ตอนนี้ขุนนางทั้งหลายกำลังรอท่านอยู่ที่ห้องหนังสือ ไม่เพียงเท่านั้น คนในวังหลังก็รู้เรื่องนี้หมดแล้ว ไม่นานก็น่าจะมีสนมต่างๆ มาร้องไห้ฟ้องเรื่องในวังมีคนร้าย” เมิ่งซู่พูดออกมาแนวบังคับ ไม่รอซ่านจินจื๋อเลย เขาก็พูดต่ออีกว่า “ข่าวมันแพร่ไปไว ไม่นานเรื่องในวังของแคว้นชางหลานก็จะกระจายไปทั่ว ถึงตอนนั้นท่านคงจะยากที่จะปิดปากพวกขุนนาง”

หายใจเข้า ซ่านจินจื๋อเอามือนวดหัว “เอาจดหมายของข้าไปส่งที่จวนองค์ชายเก้าที”

“กระหม่อมจะช่วยเหลือท่านอ๋องเอง” เมิ่งซู่เสนอตนเองว่าจะรับรองความปลอดภัยของกู้อ้าวเวย

ต้องการคนมีอำนาจมาจัดการ ซ่านจินจื๋อก็ไม่ลังเลแล้ว

หลังจากเขียนจดหมายไปแล้ว เขาก็เริ่มถามเรื่องในราชสำนักและเรื่องวังหลัง

แต่เขาเชื่อใจพี่ชายคนนี้มาก

ตอนที่เขาจากไป คนในเตียงมังกรได้ตื่นขึ้น แล้วเห็นเมิ่งซู่เดินเข้ามาในความเงียบ แล้วเอาจดหมายนั้นยื่นให้เขา

“มองใบหน้าที่เยาว์วัยของเมิ่งซู่ ส่วนซ่านต้วนโฉงก็เอามือลูบเคราตนเอง แล้วหัวเราะ “เดิมทีเจ้าเข้าทางกู้อ้าวเวย ตอนนี้ก็ต้องมาภักดีต่อข้าอยู่ดี”

“ภักดีต่อฝ่าบาท มันเป็นหน้าที่ของขุนนาง” เมิ่งซู่เงยหน้าขึ้น แล้วมองหน้าซ่านต้วนโฉง พร้อมพูดว่า “ทำไมฝ่าบาทต้องการจะให้อ๋องจิ้งครองราชย์ต่อท่านเสียอย่างเดียว”

“เพราะพวกลูกๆ ของข้า ป่วยหมด” คำของซ่านต้วนโฉงทำให้เมิ่งซู่ไม่เข้าใจ

ส่วนจดหมายนั่นก็ถูกซ่านต้วนโฉงทิ้งลงกระถางไฟจนไหม้ไปเป็นจุณ

ซ่านต้วนโฉงค่อยลุกขึ้น “เจ้า ไปทำงาน อย่าถามมาก”

“รับทราบ” เมิ่งซู่ก้มหน้าลาไป

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท