บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 829

ตอนที่ 829

บทที่ 829 ศพผู้หญิงสองศพ

ในหุบเหวนี้ตรงทางตัดมีแต่ความเปียกชื่นและมอส

กู้อ้าวเวยมองให้แน่ใจว่ารอบด้านไม่มีคนแล้ว ถึงเอาเชือกอีกข้างส่งให้โม่ซาน และพูดว่า: “ถ้าไม่มีเจ้าละก็ ข้าอาจจะตกลงไปแล้วก็ได้”

โม่ซานจับเชือกไว้ด้านหนึ่งมัดไว้ที่หินใหญ่ อีกด้านก็มัดเป็นปม แขวนไว้บนเถาวัลย์สองเส้นที่ห้อยลงมา มืออีกข้างจับแน่น ต่อมาก็มองซูพ่านเอ๋อที่จับเชือกด้านหลังไว้ อดไม่ได้ถามกู้อ้าวเวยว่า: “เอานางไปด้วย เป็นตัวถ่วงมากนะ”

“ซ่านจินจื๋อยังรอนางกลับไปรับโทษ” กู้อ้าวเวยพูดเสียงเบา เอาไม้ขีดไฟยัดเข้าไปในเสื้อ มือสองข้างก็สวมถุงมือผ้าไว้ จับเชือกและโหนตัวลงไปช้าๆ

และด้านล่างระหว่างหุบเหว เหลือเพียงแต่ความมืดมิด

โม่ซานดึงเชือกหนาในมือ คิดไปด้วยว่าหญิงในเมืองเทียนหยียนมีเสน่ห์เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน อีกด้านกลับมองซูพ่านเอ๋ออย่างเกลียดชัง: “บาดเจ็บไหม?”

ซูพ่านเอ๋อส่ายหน้าอย่างตกใจ สองมือจับหัวไว้ พูดเสียงเบาว่า: “ฮ่องเต้อยากฆ่าข้าไม่ใช่วันสองวันแล้ว เมื่อก่อนยังมีพี่จื๋อที่คอยช่วยข้า……”

ได้ยินนางบ่นเสียงเบา โม่ซานกลอกตามองบนอย่างไม่พอใจ จับเชือกเอาไว้แน่น จนกระทั่งไฟในความมืดมิดสว่างขึ้น เชือกในมือจึงผ่อนลงบ้าง ดูแล้วคงจะถูกชักสองครั้งจากกู้อ้าวเวยที่อยู่ด้านล่าง

โม่ซานจับตัวซูพ่านเอ๋อไปที่หน้าทางตัด มองนางและพูดว่า: “ดึงไว้แน่นและลงไป”

ซูพ่านเอ๋อสีหน้าซีดขาว นางจับเชือกไว้แน่น มองความมืดมิดด้านล่าง รู้สึกเวียนหัวอย่างหนัก ขาสองข้างชาไปหมด: “เจ้าบอกว่าด้านล่างมีพิษเหรอ”

“มีสองทางให้เจ้าเลือก ลงไปเอง หรือข้าผลักลงไป เชือกนี้ตรงอยู่หรอก ทางลาดชันนี้อาจจะไม่มีต้นไม้อะไรก็ได้นะ เจ้าตกลงไปคงไม่เละเป็นโจ๊กหรอก” โม่ซานยกมือขึ้นมากำแน่น ปลายหูขยับหน่อยๆ เหมือนได้ยินด้านบนมีเสียงดังขึ้น

ซูพ่านเอ๋อก็เหมือนได้ยินแล้ว เงียบครุ่นคิด ภายใต้การข่มขู่ของโม่ซาน จับเชือกและลงไปช้าๆ

ต้นใม้ใบไม้ส่ายกระทบกันไปมาได้ยินเสียงที่ชัดเจน แต่ค่ำคืนในฤดูใบไม้ผลิ ด้านล่างหุบเหวก็ดูน่ากลัวมาก และหลังต้นไม้ยังได้ยินเสียงสัตว์ร้ายอีก

ด้านบนทางตัด คนในหมูบ้านก็ต่างถือคบเพลิงไว้ในมือ เงียบสักพักก็ได้ยินเสียงกิ่งไม้ต้นไม้ดังขึ้น ขนลุกซู่กันไปหมด ชายด้านข้างอดไม่ได้ร้องขึ้นมาว่า: “เด็กสองคนนั้นน่ะเจอกับชายเจ้าชู้ ตอนนี้ศพถูกทิ้งอยู่สี่ห้าวันแล้ว วันก่อนมีทหารมา พวกเจ้าทำไมยังคิดจะเอาศพไปฝังล่ะ เผ่าชายเจ้าชู้นั้นทั้งเป็นก็จบเรื่อง!”

“ได้ยินว่าด้านล่างต้องมีหมาป่าแน่ พรุ่งนี้ค่อยไปเถอะ” อีกเสียงก็ดังขึ้น

โม่ซานฟังแล้ว ถึงค่อยโล่งอก แต่พอหันกลับมาคิดดูแล้ว นี่จะเป็นฟ้าลิขิตหรือเปล่า?

นางมองดูซูพ่านเอ๋อหายไปในความมืด สายตาก็ดูหนักอึ้งขึ้น ก็ว่าทำไมคนพวกนั้นถึงไปเร็ว เกรงว่าคงคิดว่าศพผู้หญิงสองคนนั้นเป็นสองคนนี้กระมัง

แต่ว่า ในโลกจะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ได้อย่างไร?

นางกำลังคิดวิตก ก็ได้ยินเสียงร้องดังขึ้นจากด้านบน เสียงกรีดร้องของทุกคนดังขึ้นเรื่อยๆ: “สัตว์ประหลาด!”

“ผีในเขา!”

ไม่รู้ว่าพวกชาวบ้านกรีดร้องอยู่นานเท่าไหร่ โม่ซานรู้สึกเชือกเบาลงแล้ว กำลังจะตามลงไป แต่รู้สึกด้านบนเงียบเฉียบลง พอผ่านไปสักพัก ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงดังขึ้น: “ข้าแค่อยากจะช่วยกู้อ้าวเวย ต่อไปเจ้ายังมีชะตาอีกหนึ่ง ข้าต้องตามหานางหายาอมตะ”

“นั่นเป็นชีวิตหญิงสองคนเลยนะ” ผู้ชายอีกคนดูจะไม่พอใจเอามาก

“เจ้าคิดว่าพวกนางสองคนถูกชายเจ้าชู้หลอกงั้นเหรอ ผู้หญิงสองคนนี้น่ะเป็นหัวขโมย พอเห็นว่าบ้านหวางเอ้อมีสมบัติมากมายถึงได้ไปก่อเรื่อง ตอนนี้ถูกข้าฆ่าแล้ว นับว่าเป็นโชคของพวกนาง” เสียงนั้นดูจะได้ใจมาก

โม่ซานคิดแล้ว ก็ปล่อยเชือกออก ตาหรี่ลงเล็กน้อย รวบรวมกำลังภายใน หลังจากร่องรอยของใบไม้ร่วงบนหน้าผาปลายเท้าแตะพื้นลาดเบา ๆ ทำให้เกิดเสียงแผ่วเบา

และด้านบนเขานั้นกลับเงียบเฉียบลงมา

ผ่านไปสักพัก ก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้น: “กู้อ้าวเวยกำลังภายในนางเป็นยังไง?”

“ใครจะสนนางมีความสามารถอะไร ด้านล่างมีลำธาร อีกสิบเมตรยังมีหมู่บ้าน พวกเราไปรอนางที่นั่น” เสียงผู้หญิงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

ผ่านไปสักพัก ในป่าลึกก็เงียบลง มีเพียงเสื้อสีทองที่หายไปท่ามกลางป่าลึก

โม่ซานเกือบลื่นตกลงมาจากหินที่เต็มไปด้วยมอส รักษาสมดุลของร่างกายไว้ได้ นางก็เห็นผู้หญิงชุดดำกำลังนั่งที่เถาวัลย์อย่างระวัง เงยหน้าขึ้นมาเบาๆ เหมือนกำลังมองเข้าไปป่าลึกในหุบเขา

ต้นไม้ที่นั่นเทียบกับต้นไม้ที่อื่นนั่นสูงกว่าสองเท่า กิ่งไม้ก็ยังแตกกิ่งใหญ่ ขนาดเดินเข้าไปตอนกลางวันยังไม่ค่อยมีแสงเลย และได้ยินว่าในเขามีเด็กป่า บางครั้งจะออกมาหาเห็ดด้านนอกรอบป่า ในป่าที่มืดมิด กลับน้อยคนที่จะเห็น

ซูพ่านเอ๋อกำลังกุมอกไอคอกแคะไม่หยุด โม่ซานพึ่งยืนได้นิ่ง กู้อ้าวเวยบนเถาวัลย์โยนขวดหยกมา: “ในนี้มีหญ้าพิษจริง แต่เป็นพิษที่มีพิษช้า พอใช้แล้วพวกเราต้องรอก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อ”

“ใช้โอกาสที่ฟ้ามืดลมแรง พวกเราต้องหาลำธารนั้นให้เจอ” โม่ซานใช้ยาแล้ว ก็ไม่ค่อยเห็นด้วย

กู้อ้าวเวยกลับส่ายหน้าและพูดว่า: “ที่นั่นเหมือนมีของอะไร เหมือนดูพวกเราอยู่”

โม่ซานมองไปตามสายตานาง รู้สึกมีสายตามองมาที่พวกนางอยู่รางๆ พอมีดวงตาปรากฏขึ้น พระจันทร์ด้านบนก็เหมือนสว่างขึ้น สายตาของพวกสัตว์ร้ายก็เริ่มดุร้ายมากขึ้น

“พวกเรารีบไปกันเถอะ” ซูพ่านเอ๋อขาอ่อน ลุกยังไม่ไหวเลย

“พวกเขารู้ว่าที่นี่มีหญิงพิษ ไม่กล้าเข้ามาใกล้ กลางวันอาจจะทำได้ แต่บนตัวพวกเรายังมีกลิ่นหญิงพิษ กลางคืนแล้วค่อยเดินเข้าไป แต่ไม่รับรองว่าจะมีสัตว์ตัวอื่นที่กินหญ้าพิษโตมาหรือเปล่า” กู้อ้าวเวยยีงส่ายหน้า และสีหน้าเคร่งขรึมลง: “ถ้ามีสัตว์ที่กินหญ้าพิษ กัดพวกเจ้าอีก สวรรค์ก็ยากที่จะช่วย”

ซูพ่านเอ๋อตกใจจนขาอ่อน ตัวหดไปที่มุมกุมหัวตัวเองไว้แน่น

โม่ซานมองดูกู้อ้าวเวยครึ่งวัน กระโดดเข้าไปใกล้นางเบาๆ: “สีหน้าเจ้าดูเหมือนจะดีขึ้นมาก”

“เพราะตอนนี้ข้าต้องพึ่งยาพิษในการมีชีวิตรอด ตอนนี้ข้ายังได้กลิ่นเลือดในตัวเจ้า หวาน” กู้อ้าวเวยเงยหน้าขึ้น ดมไปที่ข้อมือนางเบาๆ สายตาดวงนั้นภายใต้ดวงจันทร์ที่สาดส่องลงมา กลับดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาก: “นี่ก็คือชีวิตอมตะ ถึงสุดท้ายมนุษย์คงจะนับไม่ได้ด้วยซ้ำ”

โม่ซานเงียบลง ยังคงพยายามอดทนนั่ง: “ดังนั้นเจ้าถึงหลบอ๋องจิ้งงั้นเหรอ?”

“พวกเขาเริ่มกลัวข้า ข้าไม่อยากให้พวกเขากลัวข้า” กู้อ้าวเวยยกมือขึ้นจับคอตัวเอง: “ข้ากินยาพิษมาเท่าไหร่ รอยบนตัวก็จะยิ่งมีมากขึ้น จนกระทั่งข้ากลายเป็นสัตว์ประหลาดที่มีชิวิตอยู่รอดเพราะยาพิษ”

“เจ้าสามารถถอนพิษได้ไม่ใช่เหรอ?” โม่ซานคิดไม่ถึงว่าตัวเองก็เริ่มเชื่อเรื่องนี้แล้ว

“ถอนพิษไม่ง่ายขนาดนั้น” กู้อ้าวเวยจับคอตัวเองไว้แน่น ตามด้วยความรู้สึกหายใจไม่ออก นางปล่อยมือลงช้าๆ และพูดว่า: “บางครั้ง คนก็จะเจ็บตายได้เหมือนกัน แต่ว่าเจ็บนั้น ก็สามารถเอาชีวิตข้าไปได้แล้ว”

โม่ซานยังคงไม่เข้าใจ พอผ่านไปสักพัก นางถึงจะนึกถึงคำพูดของคนด้านบนนั้น และบอกกับกู้อ้าวเวยทั้งหมด

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท