บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 901

ตอนที่ 901

บทที่ 901 อย่ารีบร้อนไป

เข้าไปในหมู่บ้านช้าๆ เฟิงฉีนเห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งดึงยื้อกันไปมาท่ามกลางสายฝนไม่หยุด

ยังได้ยินผู้ชายคนหนึ่งในนั้นตะโกนเสียงดังว่า: “ข้าจะไปหาท่านแม่ของข้า!”

เฟิงฉีนถอนหายใจ กำลังจะพูดอะไร ม่านในรถม้าก็ถูกเปิดออก กู้อ้าวเวยเสื้อผ้าบนตัวยังไม่แห้ง ตอนนี้ก็ถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดง ปัดมือต่อนหน้าผู้ชายกลุ่มนั้น: “ข้าได้ช่วยชีวิตคุณยายคนหนึ่งในเขา!”

พวกผู้ชายพวกนั้นกำลังโวยวายเสียงดัง จึงไม่ได้ยิน กู้อ้าวเวยก็ไม่สนใจ กระโดดลงรถม้าต่อหน้าเฟิงฉีน ทรงตัวอยู่นานถึงวิ่งตามไปได้ ผลักผู้ชายสองคนที่ล้อมรอบอยู่ออกไป และตะโกนเสียงดังว่า: “เมื่อกี้ข้าช่วยยายคนหนึ่งในภูเขา! กระดูกนางหักยังถูกงูพิษกัดอีก ตอนนี้พวกเจ้ารีบหาห้องที่สะอาดยกนางเข้าไป ข้าจะได้ให้ยาถอนพิษนาง”

ผู้ชายพวกนั้นก็อึ้งหน่อยๆ ต่อมาก็รีบยกคนขึ้นไปบนรถม้า

และผู้ชายที่ตะโกนคนนั้นก็ถือไม้คล้ำไว้ ดวงตาข้างหนึ่งไม่มีสีสัน เดินเขย่งๆไปหาผู้คนที่โวยวายกัน กู้อ้าวเวยสายตาไม่ดี แต่ก็เห็นเท้าเขามีเลือด รีบดึงเขาเข้ามาในบ้าน ผลักคนล้มลงพื้นไป ไม้คล้ำโยนไปข้างๆ

ผู้หญิงด้านข้างที่กางร่มอยู่ก็ร้องออกมาอย่างตกใจ พวกผู้ชายกำลังยกคุณยายลงมาจากรถม้าอย่างระวัง

กู้อ้าวเวยก็เอามีดสั้นออกมากรีดขากางเกงเขาออก มืออีกข้างจับไหล่เขาไว้ เท้าอีกข้างกดขาที่บาดเจ็บของเขา พูดว่า: “อย่าขยับ นอกเสียจากว่าขาข้างนี้เจ้าไม่อยากได้แล้ว”

พูดแบบนี้แล้ว ผู้ชายกำลังอึ้งอยู่ ปากก็ถูกยัดด้วยผ้า

บาดแผลบนขาเหมือนถูกไฟคลอก เส้นเลือดเขานูนขึ้นมาหมด กู้อ้าวเวยก็กัดฟันกดไหล่เขาไว้ มืออีกข้างก็ใช้เหล้าล้างแผล ดมกลิ่นยาสมุนไพรก็มีกลิ่นแปลกๆ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เปลี่ยนยาที่ขาเลย แค่ห่อไว้เฉยๆ เนื้อที่เหลือก็ดูเน่าเละแล้ว

เฟิงฉีนรีบตามมา ได้ยินกู้อ้าวเวยตะโกนว่า: “กดเขาเอาไว้”

รีบขึ้นไปกดเขาเอาไว้ ต่อมาเฟิงฉีนก็เห็นกู้อ้าวเวยขูดเนื้อที่เน่าออกมา และผู้ชายคนนี้ก็ดูจะสลบไปแล้ว ไม่ขยับตัวใดๆเลย ทั้งตัวเหนียวไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฝนหรือเหงื่อ

จัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว นางก็เอาผ้าแห้งมาพันแผลเขาเอาไว้ มองดูเฟิงฉีนพูดว่า: “ดูให้หน่อยว่าข้างๆมีร้านยาไหม ก็บอกไปว่าจะเอายาห้ามเลือด”

“ข้าจะทิ้งเจ้าไว้ที่นี่คนเดียวไม่ได้” เฟิงฉีนขมวดคิ้ว ดึงนางไว้: “เจ้าไม่กลัวว่าตัวเองจะเป็นหวัดเอาได้เหรอ”

“เป็นหวัดยังรักษาได้ ถ้าเขาติดเชื้อที่บาดแผลอีก ขาข้างนี้ก็คงได้เสียพอดี” กู้อ้าวเวยดึงมือเขาออก ลงมาจากขาของผู้ชาย เอาผ้านั้นออกมาโยนไปข้างๆ ดึงเฟิงฉีนไว้พูดว่า: “เจ้าไม่ให้ข้าอยู่คนเดียว งั้นข้าก็ไปกับเจ้าแล้วกัน”

เฟิงฉีนกำลังจะพูดอะไร แต่กู้อ้าวเวยดึงนางออกมาเดินกลางสายฝนแล้ว

รอพวกผู้ชายนำตัวคุณยายไปส่งที่โรงยาแล้ว กู้อ้าวเวยเอาผ้าบางม้วนใหญ่มาพันแผลเขาไว้ และเฟิงฉีนก็ช่วยนางเช็ดผม พูดกล่อมให้นางไปล้างตัวที่โรงเตี้ยมเสียก่อน แต่กู้อ้าวเวยก็ไม่ตอบ ดื้อรั้นจนเฟิงฉีนรู้สึกรำคาญ

“แม่หญิง ขอบใจเจ้าที่ช่วยคุณยาย” ผู้ชายคนนั้นพุ่งขึ้นมา จับมือกู้อ้าวเวยไว้ พูดว่า: “ตรงนี้หนาว แม่หญิงไปนอนพักที่โรงเตี้ยมข้างๆก่อนเถอะ เจ้านายขอบใจท่านมากที่ช่วยชีวิต ไม่เอาเงินค่าห้องพวกเจ้าแน่นอน”

เฟิงฉีนใช้โอกาสนี้ดึงกู้อ้าเวย นางพูดไปด้วยเดินไปด้วย: “แผลระวังอย่าให้โดนน้ำ วันหนึ่งเปลี่ยนยาสามครั้ง ต้องเปลี่ยนนะ!”

ผู้ชายพวกนั้นก็มองหน้ากันฟัง กู้อ้าวเวยกระพริบตา ก็ยังถูกเฟิงฉีนลากมาในโรงเตี้ยมไม่ไกลนัก เจ้าของร้านผู้หญิงกับชายรีบไปสั่งคนให้ยกชาขึ้นมา ยังไม่ได้พูดขอบคุณอะไร ก็ได้ยินกู้อ้าวเวยจาม เฟิงฉีนรีบดึงคนขึ้นไปด้านบน: “ขอเสื้อผ้าสะอาดชุดหนึ่ง”

เจ้าของร้านรู้สึกมีของตกลงมาตรงหน้า เงินสีขาวๆก็ตกลงมาที่ฝ่ามือของตัวเอง เจ้าของร้านชายก็รีบเรียกคนให้ส่งชุดสะอาดดีๆขึ้นไป พนักงานร้านนี้ก็รีบขยับเข้าไป กระซิบว่า: “นายหญิง แม่หญิงคนเมื่อกี้โหดมาก เมื่อกี้ท่านไม่เห็น……”

“ไม่เคยเห็นหรือยังไงกัน!” นายหญิงเอาลูกคิดเคาะไหล่เขาไปทีหนึ่ง และพูดด่าว่า: “มีเวลาว่างนี้รีบไปต้มน้ำร้านไหม เอาไปให้นางอบอุ่นร่างกายหน่อย!”

พนักงานกุมไหล่ไว้และรีบวิ่งออกไป

ด้านบนพอเข้าห้องไป กู้อ้าวเวยลูบจมูกและถอดเสื้อผ้าที่เปียกออกไปจากนั้นหดตัวเข้าไปในผ้าห่ม เฟิงฉีนรีบเสื้อผ้ามาจากพนักงานร้าน แต่กลับเห็นคนเมื่อกี้ที่ยังดื้อรั้นก็เริ่มเชื่อฟัง เปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่นางทำ บาดแผลบนร่างกายเฟิงฉีนก็เห็นจนหมด

รอจนพนักงานในร้านส่งของกินมา เฟิงฉีนมองดูกู้อ้าวเวยกินอย่างเร็วก็จึงถามไปว่า: “เจ้าได้โรกคที่เรียกว่า พอเห็นคนป่วยก็รีบเข้าไปช่วยใช่ไหม?”

กู้อ้าวเวยไอคอกแคะ และหัวเราะออกมา: “ความคุ้นชินจนติดเป็นนิสัยน่ะ”

ปกติขอแค่ได้ยินมีพยาบาลเรียกนาง นางก็จะรีบพุ่งไปที่ห้องผ่าตัดหรือห้องผู้ป่วยทันที ตอนนี้แม้ความทรงจำจะกลับมามากแล้ว แต่ความสามารถบางอย่างกลับอยู่ในหัวไม่อาจลืมได้

เฟิงฉีนพูดเสียงเคร่งว่า: “ถ้าชอบยุ่งเรื่องคนอื่นแบบนี้ เกรงว่าพวกเราจะกลับไปถึงเมืองเทียนเหยียนเมื่อไหร่”

“เมืองเทียนเหยียนไม่หนีหายไปไหนเสียหน่อย แต่ถ้าไม่รีบช่วยคน ก็คงตายไปอย่างนั้น?” กู้อ้าวเวยเลิกคิ้วขึ้น และดื่มน้ำขิงต้ม ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นทั้งตัว: “ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาบอกว่าที่นี่มียาที่ช่วยรักษาตา ข้าก็นับว่าอาจจะมาถูกที่ก็ได้”

เฟิงฉีนกระตุกมุมปาก ไม่พูดอะไรอีก

รอจนค่ำมืดไร้ผู้คน กู้อ้าวเวยหลับลงไปหน้าผากก็เริ่มร้อนขึ้นมา เฟิงฉีนรีบร้อนจนกระทืบเท้า รีบแบกนางไปโรงหมอหนึ่งเดียวในหมู่บ้านนี้อย่างโมโห ท่านหมอที่ยังไม่นอนเพราะมัวแต่ทำความสะอาดพิษงูในร่างกายคุณยาย มองดูผู้หญิงที่เฟิงฉีนแบกมาวางไว้บนเตียงอย่างเหนื่อยล้า นวดขมับพูดว่า: “เป็นหมอลำบากจริงๆ เจ้ารอก่อนสักครู่”

“ร่างกายของคุณหนูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ท่านหมอใช้ยาระวังหน่อยนะเจ้าคะ” เฟิงฉีนอดไม่ได้เตือน

ท่านหมอหลั่งพยักหน้า วัดชีพจรให้นางก่อน จากนั้นขมวดคิ้วพูดว่า: “ร่างกายนางไม่ดี ทำไมเจ้ายังพานางตากฝนไปอีก ไม่เอาชีวิตแล้วหรือไง?”

เฟิงฉีนเงียบไม่พูดจา หมอหลั่งพูดต่ออีกว่าให้พักผ่อนดีๆ เฟิงฉีนก็ลำบากใจ พูดอ้างไปว่า: “คุณหนูยังทำยาขึ้นมาเอง ข้าไปเอา”

นางออกไปตอนกลางคืน ไม่ไกลนักหาทหารลับที่คอยปกป้องอยู่ ให้เขาไปส่งจดหมาย: “คุณหนูป่วย เกรงว่าจะต้องพักผ่อนที่นี่อีกหลายวัน”

ทหารลับไม่ได้รีบออกไป แต่กลับถอดหน้ากากลงบอกนางว่า: “องค์ชายสามเคยบอกว่า ทุกอย่างต้องคิดถึงร่างกายคุณหนูก่อน อยู่ที่นี่หลายวันข้าจะสั่งคนไปบอก อย่ากังวลไป”

สายตาเฟิงฉีนมืดลง ตอนที่กลับไปในโรงหมออีกครั้ง ยังไม่ลืมนึกถึงเยว่ที่โตมาด้วยกัน

คนที่องค์ชายวางไว้ที่หนึ่งในใจ จะเทียบกับนางได้ยังไง?

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท