บทที่ 927 ให้สิ่งที่ได้เล่าเรียน ปรากฏในการใช้ชีวิต
ซุปบัวถูกกินจนสะอาดหมดจด ส่วนขนมก็ย้ายไปอยู่ในท้องเรียบร้อยแล้ว
กู้อ้าวเอยฟังผู้หญิงสองคนพูดหลายเรื่องในจวนไม่หมดจากหลังฉากบังลม เรื่องเล็กตั้งแต่ของขวัญกลับบ้าน เรื่องใหญ่ก็ตั้งแต่บ้านของพวกนางจงรักภักดีกับซ่านจินจื๋อแค่ไหน อีกทั้งอยากให้พี่น้องของพวกนางได้ตำแหน่งเพื่อทำอะไรบ้าง
พูดไปพูดมา แต่กู้อ้าวเวยก็ไม่ได้ไปยุ่ง
ช้อนเปล่าวางอยู่ริมถ้วย นางบิดขี้เกียจ แล้วนวดไปที่ตาแล้วกลับไปที่เตียงอีกครั้ง ท่าทางไม่ได้ดีไปก่อนหน้านี้ อาการหวัดของนางยังไม่หายดี เมื่อคืนฝนยังตกมาอีกตลอดคืน ตอนนี้นางรู้สึกง่วงมาก
เข้าไปในผ้าห่มได้ไม่นานก็หลับไป
สาวใช้ที่ดูแลไปเปิดหน้าต่างตามคำสั่ง แล้วนำกระถางต้นไม้สองใบไปวางไว้ จากนั้นก็สวมถุงมือแล้วบดเมล็ดเป็นผง
ซ่านจินจื๋อมองไปที่ตงฟางซวนเอ๋อที่ยังพูดเรื่องของเรือนหลังอยู่ว่าจะให้ใครมาดูแล เขาพูดแทรกขึ้นมาว่า “พ่อบ้านจะจัดการเรื่องทุกเรื่องในจวนเอง พวกเจ้าสองคนทำตัวเหมือนตอนที่อยู่บ้านของตัวเองก็พอ หากจะออกไปไหนจะมีคนติดตามพวกเจ้าไปด้วย”
ตงฟางซวนเอ๋อถูกขัดจนสะอึก นางพูดขึ้นมาว่า “น้องจี้ซูยังท้องอยู่ ตามหลักแล้ว ท่านอ๋องควรพานางไปไหว้พระขอพรนะเพคะ”
ตอนนั้นกู้อ้าวเวยกับกู้จี้เหยาตั้งครรภ์ เขาเองก็ไม่เคยคิดจะไปไหว้พระของพรตามธรรมเนียมเลย
แต่ว่าพอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นตงฟางซวนเอ๋อกระพริบตา ดูเหมือนมีเรื่องอื่นอยากจะพูดอีก ซ่านจินจื๋อตกปากรับคำ แล้วพูดว่า “นอกเมืองอารามวัดอยู่ที่หนึ่ง ตอนนี้สถานการณ์วุ่นวาย คงไปที่อารามไป๋หม่าไม่ได้”
สายตาของตงฟางซวนเอ๋อดูเศร้าลงไป ส่วนจี้ซูก็ตกใจที่เขารับปาก
ทั้งสองคนเอ้อระเหยจนถึงเวลาอาหารเย็น แล้วพยายามจะกินอาหารพร้อมกับซ่านจินจื๋อ ในที่สุดพวกนางก็ทำให้เขาโมโฆ ซ่านจินจื๋อหน้านิ่งแล้วเตือนว่า “ตลอดช่วงบ่ายข้าเสียไปกับพวกเจ้าหมด”
“ท่านอ๋องยังทรงมีอีกหลายเรื่องรอให้ไปจัดการอยู่ คุณหนูทั้งสองกลับไปก่อนเถอะ” เฉิงซานรีบเข้ามาช่วย พ่อบ้านรีบสั่งให้สาวใช้บ่าวไพร่ไปส่งคุณหนูทั้งสองกลับไป
จี้ซูตาแดงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรทำความเคารพแล้วก็กลับไป ส่วนตงฟางซวนเอ๋อก็พาคนของนางกลับไปแบบใหญ่โต
ใช้อำนาจข่ม มองทีเดียวก็ดูออก
กว่าจะส่งพวกนางสองคนกลับไปได้ ซ่านจินจื๋อเดินมาด้านหลังฉากบังลมเห็นนางกำลังหลบสบาย เขาก็อุ้มทั้งคนทั้งผ้าห่มขึ้นมา แล้วมองไปที่สาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ ว่า “หากจะเปิดหน้าต่าง ก็อย่าให้นางนอนตรงนี้”
“ข้าน้อยจะจำเอาไว้เพคะ” สาวใช้รีบลุกขึ้นมาอย่างลุกรี้ลุกรน
ซ่านจินจื๋ออุ้มนางกลับมาที่ห้องข้าง ๆ ตอนที่วางนางลงก็เห็นกู้อ้าวเวยลืมตาขึ้นมา มือข้าหนึ่งวางไว้บนผ้าห่ม “จะไปไหน?”
“เปลี่ยนที่นอน”
“ตื่นแล้ว” กู้อ้าวเวยยังคิดจะลุกขึ้นมานั่ง แต่กลับต้องตกใจเพราะนางไม่ได้ใส่อะไรเลย ซ่านจินจื๋อเอนตัวเข้าไปกอดนางเอาไว้ ทั้งสองคนใจเต้นแรงทั้งคู่ กู้อ้าวเวยจับไปที่เสื้อของซ่านจินจื๋อ จากนั้นก็หัวเราะออกมา “ข้านี่ระดับการตื่นตัวต่ำมากเลย”
“ไม่ต้องไปสนใจเรื่องเมล็ดพันธุ์นั่นแล้ว ดูแลสุขภาพให้ดีก่อนได้ไหม?” ซ่านจินจื๋อคิด แล้วก็วางนางลงบนเก้าอี้ เปิดผ้าห่มออกนิดหน่อยทำให้ช่วงบนโผล่
กู้อ้าวเวยยกมือขึ้นมาจับคอ รอยแผลสีเทาเหมือนจะจางลงไม่น้อย นางเอียงคอคิด “ร่างกายไม่เป็นไร เพียงแต่เรื่องตาข้ากำลังหาวิธีอยู่ ฝังเข็มเหมือนจะไม่ได้ผล อาศัยการกินยาข้าก็ยังหาสูตรยาไม่ได้เลย”
“เมล็ดพวกนั้นไว้ข้าจะส่งไปให้จางเหยียงซาน ดวงตาของเจ้ากับร่างกายของเจ้าต้องการอะไรก็พูดกับข้าได้เลยนะ” ซ่านจินจื๋อยกมือแตะไปที่หน้าผากของนาง มันไม่ได้ร้อนเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เขาคิดหลายวันที่ผ่านมาเหมือนนางก็ไม่ได้ฝืนใจตัวเอง ก็โล่งใจ
นางเงยหน้าขึ้นมาแล้วปล่อยให้เขาแตะ กู้อ้าวเวยใช้มือทั้งสองข้างดันเอาไว้ด้านหลัง แล้วก็หาวอย่างขี้เกียจ “หากว่าช่วงนี้ไม่มีเรื่องอะไร ข้าเริ่มลองยาได้เลย แต่ว่าเวลาหลับก็จะนานขึ้น”
“ข้ารับปากจะไปไหว้พระขอพรกับพวกเขา ตงฟางซวนเอ๋อก็น่าจะเสนอเงื่อนไขอะไรมา”
“บอกกับข้าทำไม?” กู้อ้าวเวยยกมือขึ้นมานวดตาแบบไม่เข้าใจ
“ตงฟางซวนเอ๋อมีปิ่นของหลิงเอ๋อร์ ไม่แน่ว่านางอาจจะรู้ที่อยู่ของพี่ยู่จือกับหยูนซีก็ได้” ซ่านจินจื๋อพูด สายตาของกู้อ้าวเวยเป็นประกายขึ้นมา
นางพยักหน้าตกลง กู้อ้าวเวยเหมือนยังคิดอะไรอยู่ “แต่ว่า ข้ายังมีอีกแผนหนึ่ง”
“แผนอะไร?” ซ่านจินจื๋อถาม
กู้อ้าวเวยลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ เดินผ่านไหล่ของเขาไปแล้วหันหลังกลับมา จากนั้นก็ชี้ไปที่หัวของตัวเอง “บอกฝ่าบาทว่า สูตรยาแบ่งอยู่ในมือของเจ้ากับองค์ชายสาม เพื่อทำข้อแลกเปลี่ยน”
“ให้เขามอบตัวหลิงเอ๋อร์กลับมาให้เจ้า แล้วเจ้าก็เอาสูตรยาให้เขาไป ต่อให้เขาสามารถหาสูตรยาจากองค์ชายสามมาได้ แต่ข้าคิดว่าองค์ชายสามจะเหลือทางหนีที่ไล่ ต่อให้จะรู้ว่าตัวสุดท้ายคือจุ้ยเวี่ยนก็ไม่มีทางเอ่ยปากแน่นอน ทางเจ้าก็แค่สังเกตไม่ให้คนรอบ ๆ พูดออกไปก็พอ”
พูดไป กู้อ้าวเวยเดินมาข้างตัวของซ่านจินจื๋อ นางเงยหน้าขึ้นมา “เมื่อทำแบบนี้แล้ว ไม่ว่ายังไงก็ตามองค์ชายสามก็จะต้องยืนอยู่ข้างเจ้า ฝ่าบาทเองก็จะต้องระวังในการลงมือมากขึ้น”
“ถ้าอย่างนั้น หากได้ร่างของหลิงเอ๋อร์คืนกลับมา ก็เท่ากับว่าเรื่องนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลง แต่หากได้ร่างของหลิงเอ๋อร์กลับมาจนครบ มันก็แสดงว่ามันไปอย่างที่ราคิด” ซ่านจินจื๋อพูดต่อจากคำพูดของนาง เขายกมือเกี่ยวคางของนาง “หากเขาลังเลไม่ยอมแลกเปลี่ยน แสดงว่าเขาเจอเบาะแสกับความลับอะไรบางอย่างบนตัวหลิงเอ๋อร์ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย”
กู้อ้าวเวยยิ้มแล้วพยักหน้า นางตบมือปลาหมึกของซ่านจินจื๋อออกไป แล้วพูดขึ้นมาว่า “จนถึงตอนนี้ เรื่องที่ยืนยันได้ก็มีเรื่องหนึ่ง ก็คือเข้าต้องการวิธีเป็นอมตะ และก็ต้องการวิธีการฟื้นคืนชีพ หรือไม่ก็การปลุกคนที่หลับลึกไม่ตื่น ดังนั้นสูตรยานี่มันสำคัญกับเขามาก”
“คิดได้ยังไงกัน” ซ่านจินจื๋อเก็บมือกลับมา
“ตงฟางซวนเอ๋อยังกล้าเจรจาเงื่อนไขกับเจ้า เจ้าทำไมถึงไม่กล้าเจรจาเงื่อนไขกับฝ่าบาทล่ะ?” กู้อ้าวเวยยิ้มหัวเราะ หัวไหล่ของนางสั่งเพราะนางหัวเราะ เขาตบไปที่ไหล่ของซ่านจินจื๋อ “มีแค่เจรจาเงื่อนไขกับฝ่าบาท ตระกูลตงฟางถึงจะไม่กล้าได้คืบจะเอาศอก เราเองก็จะได้ไปสืบเรื่องของหลุมศพที่สุสานได้”
“หลังจากมีเครื่องต่อรอง เสด็จพี่ก็ลงมือไม่ได้ง่าย ๆ แต่เขาจะมีเวลาไปลองสูตรยา แล้วถ้าเขาลองแล้วรู้จะทำยังไงล่ะ?” ซ่านจินจื๋อเดินไปกอดนาง
“มีคนพูดว่า อ่านตำรานับหมื่นเล่ม เพื่อให้สิ่งที่ได้เล่าเรียน ปรากฏในการใช้ชีวิต หมอหลวงในวังฝีมือไม่ต่างกับนกที่ถูกขังกรง หากพวกเขามีความสามารถจริง หลายปีที่ผ่านมาถึงไม่ได้เรื่องอะไรเลยล่ะ?” กู้อ้าวเวยเงยหน้าขึ้นมาอย่างได้ใจ นางใช้มือดันซ่านจินจื๋อออกไป “ข้าน้อยไร้ความสามารถ ผ่านอะไรมามากกว่าที่พวกเขากินเกลืออีก”
พอเห็นคนที่อยู่ในอ้อมกอดพูดอย่างมั่นใจแบบนี้ ซ่านจินจื๋อก็สบายใจขึ้นมาก
“คืนนี้กินผัดกระดูกหมูเปรี้ยวหวานกับผัดหมูสามชั้น” ซ่านจินจื๋อบีบไปที่เอวของนาง
กู้อ้าวเวยขยับตัว พยักหน้าแล้วออกมาจากอ้อมกอดของเขา “ความทรงจำของข้ายังไม่กลับมา อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวข้า”
“อีกเดี๋ยวยังมีขนมดอกกุ้ยฮวาด้วย” ซ่านจินจื๋อเดินไปจับมือของนาง
กู้อ้าวเวยนิ่งแล้วพยักหน้า แล้วก็ไปขยับออกจากอ้อมกอดของเขาแล้ว