บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 911

ตอนที่ 911

บทที่ 911 พิสูจน์ความจริง

หากต้องพาซ่านจินจื๋อไปที่ตำหนักองค์ชายสามด้วย นางยอมไม่ไปดีกว่า

กู้อ้าวเวยก้มหน้าแล้วขยี้หางตา “ไม่ต้อง”

ซ่านจินจื๋อยิ้มที่มุมปาก แล้วอุ้มนางขึ้นมาจากเก้าอี้ ปัดพวกพู่กันหมึกและกระดาษออก จากนั้นก็นั่งอยู่ด้านบนโต๊ะ มือทั้งสองข้างจับที่เอวของนาง

กู้อ้าวเวยใช้มืออีกข้างจับที่ไหล่ของเขา หยีตาเล็กน้อย “เจ้าจะทำอะไรหรือ?”

“ไม่อยากทำอะไร เพียงแต่ว่าวันนี้ฝนตกหนักไม่เหมาะแก่การออกนอกสถานที่” ซ่านจินจื๋อก้มลงจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากทื่อแข็งของนาง ในตอนที่นางพยายามดิ้นรนนั้น ขยับเข้าไปใกล้ที่คอของนาง จมูกที่สูงโด่งซุกอยู่ในผม กลิ่นยาสมุนไพรอ่อนช่างคุ้นชินนัก พิงอยู่ที่คอของนาง อดไม่ได้จึงพูดว่า “ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเจ้าเป็นจริงหรือไม่ แต่ไม่ว่าจริงหรือปลอม ข้าก็จะปกป้องตัวเจ้า”

ร่างกายของกู้อ้าวเวยแข็งเล็กน้อย สีหน้าซีดขาว “ถึงใครคนใดคนหนึ่งจะเป็นไส้ศึก ก็ไม่เป็นไรหรือ?”

“ไม่เป็นไร เป็นเพราะว่าเวยเอ๋อของข้านั้นรู้หนักเบา ถึงปกติจะเอาแต่ใจจนไม่สนใจชีวิต แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องที่เห็นแก่ตัว” ซ่านจินจื๋อทนไม่ได้จึงยิ้มอ่อน “แต่ว่าข้าชอบนางมากกว่า ใบหน้าที่เอาแต่ใจ รอให้ฝนหยุดตก ข้าจะไปเป็นเพื่อนเจ้าเอง”

“เจ้าจะปฏิบัติกับนางแบบเดียวกับปฏิบัติกับข้าหรือไม่?” กู้อ้าวเวยก้มตัวเล็กน้อย ใช้นิ้วเสยคางของซ่านจินจื๋อขึ้น แล้วพูดเสียงต่ำ “มีคนอย่างเจ้ามารัก ข้าหวังว่าข้าจะเป็นแค่ตัวปลอมมากกว่า”

ซ่านจินจื๋อตกใจเล็กน้อย หญิงสาวตรงหน้ากลับค่อยๆลุกหงายหลัง พิงไว้ตรงหน้าต่าง “เจ้าไม่เข้าใจนางเลยแม้แต่น้อย”

พูดจบ กู้อ้าวเวยก็คลานจากโต๊ะแล้วออกไปทางหน้าต่าง โดนทหารจับได้ ก็แค่พูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำว่าอยากหาที่อยู่ธรรมดา ซ่านจินจื๋อจึงสั่งให้คนไปทำความสะอาดห้องข้างๆ ด้วยความไม่เข้าใจ

ซ่านเชียนหยวนใช้โอกาสนี้เข้ามา “เกิดอะไรขึ้นหรือ?”

“ตอนนี้ข้าเองก็บอกไม่ถูกแล้ว” ซ่านจินจื๋อขยี้ศีรษะด้วยความเจ็บปวด กลิ่นน้ำยาสมุนไพรบนร่างกายของกู้อ้าวเวยทั้งสองคนเหมือนกันทุกอย่าง การกระทำในชีวิตประจำวันก็เหมือนกัน แต่ในเรื่องวันนี้ ทั้งสองตัดสินใจดูเหมือนจะตามเหตุผลส่วนตัว

แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ เขาก็ยิ่งดูไม่ออกว่าคนไหนคือคนที่แท้จริง

ในตอนที่กลับหลังหันนั้น กลับเห็นซ่านเชียนหยวนมองเขาด้วยแววตาที่ดูถูก “ข้อเสนอของพี่สามฟังดูไม่เลวเลยขอรับ”

“เจ้ารู้สึกว่าข้าง่ายๆ ขนาดนี้เลยหรือ?” ซ่านจินจื๋อปวดหัวเล็กน้อย แค่อยากจะสั่งสอนหลานคนนี้สักครั้งอย่างโหดร้อย

“แต่ก่อนกู้อ้าวเวย เจ้าก็เคยมีภรรยาสองท่านไม่ใช่หรือ?” ซ่านเชียนหยวนถอยออกไปสองก้าว แล้วใช้มือปิดใบหน้าของตนเอง “เจ้าเองยังพูดเลยว่ากู้อ้าวเวยเป็นคนมีเหตุผล ใช่ว่าให้เจ้า……กับนางจริงๆ สักหน่อย โอ๊ย!”

ซ่านจินจื๋อเตะไปที่ขาของเขา แต่กลับทำสีหน้าเย็นชา ไม่พูดไม่จา

คนทุกคนคงจะรู้สึกว่ากู้อ้าวเวยนั้นเป็นคนมีเหตุผลสินะ

พอนึกถึงจุดนี้ เขาจึงรีบเดินไปยังห้องข้างๆ พวกสาวใช้พึ่งจัดของเสร็จ แต่กู้อ้าวเวยที่อยู่ในห้องกำลังทานยาอยู่ พอได้ยินเสียงฝีเท้า จึงรีบหันกลับไป จากนั้นก็รีบเก็บขวดยา แล้วมองเขาด้วยความแข็งทื่อ

ซ่านจินจื๋อเดินเข้าไป “เจ้าทานยาอะไรหรือ”

“ไม่มีอะไร” กู้อ้าวเวยซ่อนยาเข้าไปในแขนเสื้อ จากนั้นก็กอดขาแล้วขยับเข้าไปในเตียง ซุกศีรษะเข้าไปในหัวเข่า

เดินไปนั่งลงที่ข้างเตียงของนาง ซ่านจินจื๋อเสียงอ่อนโยนมากขึ้น “เจ้ากลัวอะไรข้าหรือ?”

“เจ้าฆ่าชิงต้าย ข้านึกออกตั้งแต่ที่เดินผ่านศาลาแล้ว” กู้อ้าวเวยตัวสั่นเล็กน้อย ดวงตาสีเทาคู่นั้นกำลังจ้องมองเขาอยู่ แต่ในแววตานั้นมีเพียงเงารางๆ ที่จางๆ ไม่ชัดเจน นางพูดเสียงต่ำ “ทุกก้าวที่เดินเข้ามาที่นี่ ต่างก็ย้ำเตือนข้าว่าข้าตัดสินใจผิด ข้าไม่ควรกลับ”

ในสมองของนางมึนไปหมด ต่างก็เป็นคำพูดที่ถูกผู้อื่นป้อนเข้าให้โดยไม่เต็มใจ บอกว่านางคือใคร บอกว่านางควรทำอย่างไร แต่นางกลับรู้สึกขัดกันมาโดยตลอด

นางอยากอยู่เคียงข้างซ่านจินจื๋อไปตลอด แต่พอนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ซ่านจินจื๋อกลับกลายเป็นน่าเกลียดชัง เขาดูรักเดียวใจเดียว แต่ก็ยังสามารถไปอยู่กับหญิงอื่นเพื่อการใหญ่ได้ และยังฆ่าคนเพราะเข้าใจผิด

คนเช่นนี้ ทำไมถึงคู่ควรแก่การเอาชีวิตของนางมาแลก?

เพียงแค่นึกคำถามนี้ไม่ออก เขาก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเองคือกู้อ้าวเวยตัวจริง หรือเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่โดนป้อนความทรงจำที่น่าตลก สำหรับความเชื่อใจของซ่านจินจื๋อ นางกลับเชื่อด้วยสัญชาตญาณ

ความหลังที่เคยกระทำไว้นั้นไม่มีทางเลือนหายไปเพราะกาลเวลา ซ่านจินจื๋อพยุงนางออกจากหัวเข่าด้วยรอยยิ้ม “ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก”

“ข้าไม่อยากฟังเจ้าพูด” กู้อ้าวเวยสะบัดมือของเขาออก แล้วกลับไปซุกตัวที่มุม “ให้อิสระกับข้า นั่นเป็นความเชื่อที่น่าเชื่อถือกว่าทุกคำพูดของเจ้า”

“ให้อิสระแก่เจ้านั้นเป็นไปไม่ได้ รอให้ฝนหยุด ข้าจะไปที่ตำหนักองค์ชายสามกับเจ้า” ซ่านจินจื๋อพูดซ้ำ “แต่เจ้าสามารถเดินเล่นไปทั่วตำหนักได้”

กู้อ้าวเวยขี้เกียจที่จะพูดกับเขา

ซ่านจินจื๋อไม่อยู่ต่อ หลังจากที่ออกไป เขาสั่งให้กุ่ยเม่ยมาเข้าเฝ้า และให้นางมาเพียงผู้เดียว

เพลานี้โม่ซานจึงเข้ามาตรงหน้า “นางต่างหากเป็นกู้อ้าวเวยตัวจริง”

“ก่อนหน้านี้เจ้าไม่เคยพบนางมาก่อนเลยนะ” ซ่านจินจื๋อส่ายมือไปมา จากนั้นก็เดินผ่านทางเดิน “ตอนนี้ข้าต้องไปดูอีกคน”

“ท่านเองก็ไม่รู้สึกหรือ?” โม่ซานขวางอยู่ตรงหน้า แล้วเอ่ยปากพูดด้วยความเหนื่อย “ท่านอ่อนโยนต่อนางมากกว่า ขนาดคนนอกอย่างข้ายังดูออกเลย แต่เหตุใดท่านถึงยังลองใจตลอดเล่า?”

“เพราะข้าเชื่อเพียงหลักฐาน บางครั้งสัญชาตญาณก็หลอกคนได้” ซ่านจินจื๋อชี้ไปที่อกของตนเอง เป็นเพราะว่าในตอนแรกเขาเกลียดชังกู้อ้าวเวยเพราะซูพ่านเอ๋อ แต่สัญชาตญาณเขากลับบอกกับตนเองว่าต้องจำคำสาบานที่มีต่อซูพ่านเอ๋อ เพราะเช่นนั้นในตอนที่เขาเริ่มมีใจนั้น ก็ได้เริ่มทำเรื่องเลวร้ายต่อกู้อ้าวเวย ไม่เคยหยุดเลย

ตั้งแต่บัดนั้น ความเชื่อใจของเขาและกู้อ้าวเวยถูกก่อตัวอยู่กับความจริงและหลักฐานเท่านั้น

โม่ซานอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับโดนพี่ชายโม่อีลากออกไป แล้วพูดว่า “ท่านอ๋องมีวิธีของท่าน มีเวลาว่างเจ้าก็ดูแลยู่ชีงเถอะ”

“นางต่างหากเป็นตัวจริง!” โม่ซานตะโกนเสียงดัง แต่สุดท้ายก็โดนโม่อีปิดปาก

ซ่านจินจื๋อส่ายหน้าไปมา แต่กลับไม่ได้ไปตำหนักหลัก เดินไปที่ตำหนักหนังสือข้างๆ ยู่จือที่ใส่เสื้อคุมด้ายทองยืนคอยนานแล้ว ในตอนที่องค์ชายสามออกไปด้วยความโมโหนั้น ไม่มีใครสังเกตเห็นว่านางจะแอบมาที่ตำหนักอ๋องจิ้ง

“เจ้ารู้ทั้งรู้ว่าใครคือตัวจริง” ยู่จือมองเขาแล้วยิ้ม หยิบกล่องที่ใส่หนอนพิษอู่ออกมาจากอ้อม “ก่อนหน้านี้ข้าเคยวางยาหนอนพิษกู่ที่ร่างกายกู้อ้าวเวยตัวจริง ถึงนางจะถอนยาพิษออกแล้ว แต่พวกตัวน้อยพวกนี้ไม่หายสาบสูญไปง่ายๆ หรอก เพียงแค่…….”

“วางยาพิษกู่นี้บนร่างกายของตัวปลอมด้วย” ซ่านจินจื๋อมองไปด้านข้าง จากนั้นก็พูดต่อ “องค์ชายสามต้องแอบไปร่วมมือกับเสด็จพี่แน่นอน คนที่ตำบลเหยสุ่ยก็ใช้ไม่ได้แล้ว”

“เพราะเหตุใดหรือ? นั่นเป็นสิ่งที่กู้อ้าวเวยตัวจริงเหลือไว้ให้เจ้านะ”

“ถ้าคนในตำบลเหยสุ่ยไม่มีปัญหา แล้วคนปลอมคนนี้จะรู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?” ซ่านจินจื๋อยิ้มอย่างเย็นชา แล้วมองไปทางยู่จือ “เจ้ารู้เรื่องระหว่างองค์ชายเก้ากับเวยเอ๋อ และถ้าตัวปลอมคนนี้ก็รู้ละก็ หมายความว่าอะไร?”

“ถ้าไม่ใช่ข้างกายองค์ชายเก้ามีอีกคนที่ซ่อนตัวอยู่ลึก ไม่ก็คือตัวเขาเองกับฮ่องเต้มีความร่วมมือกัน” ยู่จือยกมือขึ้นมาตบเบาๆ ที่หลังมือ ถ้าเป็นเช่นนี้ ยู่หงที่หักหลังองค์ชายเก้าในตอนนั้นก็คงจะโดนแก้แค้นสินะ

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท