บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 938

ตอนที่ 938

บทที่ 938 ไม่มีเหตุผล

ถ้าหากเป็นเพียงแค่การใส่ร้ายธรรมดาๆเพื่อเป็นการปั่นป่วน ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่ได้รับความเสียหาย

แต่ถ้าคิดในมุมกลับกัน คนที่ยิ่งจัดการเรื่องนี้อย่างระมัดระวังมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นอันตรายมากเท่านั้น เป็นอย่างที่พวกคุณหนูฐานะร่ำรวยในร้าน ยิ่งคาดหวังว่าสิ่งที่พวกเขาซื้อจะไม่ใช่สิ่งที่ล้ำค่า พวกนางก็ยิ่งชื่นชอบ‘เสแสร้ง’แล้วพูดกันถึงเรื่องเครื่องสำอางไปด้วย กลับกันเป็นสิ่งที่ชอบมากที่สุด

แต่ในจำนวนสามคนนี้ ยิ่งไม่กล้าที่จะโผล่หางออกมาให้เห็นจับพิรุธได้ ยิ่งน่าสงสัยเป็นอย่างมาก

พหลังจากที่พูดจบประโยคนี้ ซ่านจินจื๋อก็แทบอยากจะตรงดิ่งกลับไปหากู้อ้าวเวยทันที อยากจะไปดูว่าหลังจากที่นางได้พูดความจริงทั้งหมดออกไปแล้วจะเป็นอย่างไร แต่พอกลับเข้ามาภายในห้อง นางก็กำลังจัดเรียงยาสมุนไพรที่เหลืออยู่น้อยนิด ข้ารับใช้ทั้งสองก็นำยาสมุนไพรพวกนั้นไปบดให้ละเอียดตามที่นางสั่ง

พอได้ยินเสียงฝีเท้าของซ่านจินจื๋อ แล้วแผ่นหลังของนางก็ถูกแนบลงด้วยความอบอุ่น ร่างกายของกู้อ้าวเวยชะงักงันไป สุดท้ายก็ยอมแพ้ปล่อยร่างกายให้นิดสนิทในอ้อมกอดของเขา แล้วเงยหน้าขึ้นมาพูดว่า“จัดการเรื่องเสร็จหมดแล้วหรอ?”

“ในเมื่อรู้ว่าข้าได้รับบาดเจ็บ ยังจะวางยาสลบข้าอีก”น้ำเสียงของซ่านจินจื๋อดูเล็กน้อย แต่บนใบหน้ากลับมีรอยยิ้มบางๆ มือข้างหนึ่งเชยไปที่คางของนางแล้วใช้น้ำเสียงที่หนักขึ้น“ข้ามีหมอที่เก่งขนาดนี้นอนอยู่ข้างกายข้า แต่กลับให้ข้าไปหาหญิงอื่นอย่างงั้นหรือ?”

กู้อ้าวเวยที่ยอมแพ้กับเหตุผลตรงหน้าเม้มปากเล็กน้อย ปล่อยให้ซ่านจินจื๋อรักษาท่าที่เงยหน้าไว้ แล้วพูดเสียงเบา“ต้องเห็นแก่ส่วนรวม”

“ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างนั้นหรือ?”ซ่านจินจื๋อแกล้งทำเป็นโกรธ ก้มหน้าลงมองไปที่นาง“ในสายตาของเจ้า ข้าเป็นคนที่ไม่สำคัญเลยใช่ไหม?”

“ไม่นะ”กู้อ้าวเวยแทบจะกัดฟันบีบเคล้นสองคำนี้ลอดไรฟันออกมา พบว่าซ่านจินจื๋อใช้แรงมากขึ้นและยังไม่ยอมพูดยอมจา ในใจเต้นตึกตัก คิดว่าเขาโกรธจริงๆ จึงโผงออกไปหนึ่งคำ“ข้าหลับตาอยู่จะถอดเสื้อผ้าเจ้าอย่างไร ถ้าข้าทำเจ้าตื่น มันจะ……น่าอายไม่ใช่หรอ”

พอพูดจบ เสียงของนางก็ค่อยๆเบาลงเรื่อยๆ

พอนึกคิดอย่างละเอียด ในเมื่อถอดเสื้อผ้าเขาแล้ว ทำให้เขาตื่นมันก็ไม่มีอะไรนิ่……

“ไม่สิ!”นางร้องขึ้นมาอย่างตกใจ ใช้มือตบไปที่โต๊ะอย่างแรง“ทั้งๆที่เจ้าปิดบังข้าก่อน แล้วมันเรื่องอะไรที่ตอนนี้เจ้าต้องมาโทษข้าด้วย เจ้าเป็นท่านอ๋องไม่ใช่นักเลงนะ!”

พูดจบ นางเงื้อมือขึ้นตบมือของซ่านจินจื๋อ แล้วยืนขึ้นมาจากเก้าอี้

ซ่านจินจื๋อหัวเราะพลางดึงนางไม่ยอมปล่อยไปด้วย“เป็นความผิดของข้าเอง”

“เป็นความผิดของเจ้าที่ไม่ถอดเสื้อผ้าขึ้นมานอนบนเตียงอย่างนั้นหรอ?”กู้อ้าวเวยก็ขมวดคิ้วขึ้นตาม ข้ารับใช้ทั้งสองคนที่กำลังบดยาอยู่ก้มหน้าลงหัวเราะอย่างอดไม่ได้

เฉิงซานดึงหน้าเย็นชาดึงแขนข้ารับใช้ทั้งสองที่ไม่เข้าใจ

ซ่านจินจื๋อคิดไม่ถึงว่ากู้อ้าวเวยจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ จึงทำได้เพียงแค่ถอดเสื้อตัวนอกแล้วนั่งอยู่บนเตียง เขากำลังมองดูกู้อ้าวเวยแหะผ้าพันปิดตาออกอย่างช้าๆ พูดขึ้นมาว่า“จางเหยียงซานบอกว่าห้ามแกะออกมา”

“ถ้าหากข้ามองไม่เห็น แผลของเจ้าเมื่อไหร่จะหายกัน?”กู้อ้าวเวยใช้น้ำสะอาดทำความสะอาดขี้ผึ้งที่แปะอยู่บนรอบดวงตา หลังจากที่ค่อยๆลืมตาขึ้นมา ภาพตรงหน้าก็กลายเป็นภาพเบลอๆ แต่ว่าชัดเจนกว่าเมื่อก่อนมาก นางทำได้แค่กินยาแล้ว นั่งลงข้างๆซ่านจินจื๋อ แล้วหรี่ตาลง

แผลที่ถูกเผาไหม้น่ากลัวยิ่งนัก แม้แต่ซ่านจินจื๋อยังต้องรู้สึกขนลุก แต่กู้อ้าวเวยก็ค่อยๆหยิบยาขี้ผึ้งขึ้นมา มือข้างหนึ่งจับไหล่อันแข็งแกร่งไว้ มืออีกข้างก็แทบจะใช้แรงน้อยที่สุดในการใส่ยา นางพูดขึ้นด้วยเสียงเบา“แผลไหม้ต้องทำความสะอาดทุกวัน อีกทั้งวันๆจะปิดแผลอย่างนี้ไม่ได้ แผลของเจ้าใหญ่ขนาดนี้ควรที่จะให้แผลโดนลมบ้าง”

“บ่าวไพร่ไม่ได้พูด”ซ่านจินจื๋อพูดขึ้นอย่างเชื่อฟัง

“ตอนนี้ข้าพูดแล้ว กลางคืนแขนข้างนี้อย่าได้ห่มผ้าห่มเด็ดขาด กลางดึกต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนยาอีกหนึ่งรอบ ไม่เกินเจ็ดแปดวันก็สามารถใช้ผ้าพันแผลปิดไว้แล้ว”กู้อ้าวเวยเอ่ยเสียงเบา ตัวแทบจะแนบชิดไปกับแผลทั้งตัว ถึงได้มองเห็นเนื้อบนที่ถูกขูดกำจัดออกไปชัดเจน ตำแหน่งแผลไหม้ที่ถูกระเบิดพวกนั้น

พอดูแบบนี้แล้ว ก็ยิ่งทำให้คนกลัวมากยิ่งขึ้น

กู้อ้าวเวยจับไปที่กล้ามเนื้อของเขา แล้วเงยหน้าขึ้นมาแตะไปที่หน้าผากของเขา มีความร้อน

“นอนลง อย่าดิ้นนะ”กู้อ้าวเวยกดเขาลงกับเตียง แล้วนำหมอนยัดเข้าไปหลังผ้านวม พูดพึมพำ“เจ้าไม่สบายเหตุใดยังออกไปหาหญิงพวกนั้นอีก ชีวิตเจ้าคงไม่อยากได้แล้วใช่ไหม?”

“เจ้าเป็นคนบอกให้ข้าไปเองนะ”ซ่านจินจื๋อแสร้งทำเป็นพูดอย่างน่าสงสาร

กู้อ้าวเวยอ้าปากแต่ไม่มีคำไหนหลุดออกมาสักคำ พอคำพูดอยู่ข้างๆปากก็มีแค่เสียงออกมาเบาๆ“ข้าผิดเอง ฉีหรัวพูดถูกแล้ว ข้าควรจะพูดความจริงออกไปบ้าง ข้าจะเอาแต่คิดว่าเจ้าไม่อยากให้ข้ารู้แล้วข้าจะแสร้งไม่รู้ได้”

พอพึมพำไปไม่กี่คำ ไม่รอให้ซ่านจินจื๋อเปิดปากพูด กู้อ้าวเวยใช้ผ้าห่มนำขึ้นมาห่มปิดเขาจนมิด แต่แขนข้างนั้นกลับเอาผ้าพันแผลที่ยังไม่ได้ตัดผืนหนึ่งขึ้นมาพาดไว้ ด้านบนยังมีกลิ่นเล็กน้อย คิดว่านางน่าจะเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว

“นอนลง รอกินข้างแล้วค่อยนอนพักผ่อน”กู้อ้าวเวยตบไปที่อกกว้างของเขาอย่างเอาใจ แล้วกึ่งเอนกายลงบนตัวเขาเพื่อนำหมวกถอดลงมาจากศีรษะของเขา แล้วหวีผมของเขาวางไว้ข้างๆอย่างเรียบร้อย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนบาดแผล

ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นยืน นางก็ถูกชายหนุ่มดึงที่คาดเอวไว้“นอนไม่หลับ”

“ข้าไม่ได้ให้เจ้านอนนะ เอนกายก็พอ”กู้อ้าวเวยยังอยากจะดึงมือเขาออกไป แต่กลับได้ยินเขาเอ่ยปากพูดต่อไป“เจ้าหายดีแล้วหรอ?เอวกับขาไม่เจ็บแล้วหรือ?”

ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนยังสามารถโกหกได้ แต่ตอนนี้หลังจากที่ได้พูดความจริงออกไป นางก็ถูกพูดแทงใจดำจนพูดไม่ออกนับครั้งไม่ถ้วน สีหน้าลังเล พอหลังจากที่เงียบไปอยู่นานก็พูดเหตุผลมั่วๆออกไป“ข้าจะนอนลงเพื่อดูแลเจ้านะ?”

“ฉีหรัวให้องครักษ์ที่เก่งกาจกับข้ามาสองคน ดูแลข้าได้เพียงพอแล้ว”ซ่านจินจื๋อลากนางเข้ามาอยู่ข้างๆตนเอง เหมือนท่าเมื่อคืนไม่มีผิด ให้กู้อ้าวเวยนอนอยู่บนตัวของเขา แล้วพูดขึ้นมาว่า“ข้าอยากดูแลเจ้าด้วยตนเอง ดีไหม?”

กู้อ้าวเวยหน้าแดงไปหมด ตบไปที่เอวของเขา“ปล่อยข้านะ กลางวันแสกๆ……”

“ข้างนอกกำลังฝนตกนะ ทางบนภูเขาก็ไม่ดี จะมีใครสามารถดูแลเจ้าได้อีก”ซ่านจินจื๋อกอดนางลงไปในอ้อมกอดของตนเอง ให้นางพิงนอนกับไหล่ของเขา แล้วหันหน้าไปจุมพิตนางเบาๆ“ข้าง่วงแล้วล่ะ”

“ข้าก็เหมือน……”กู้อ้าวเวยมักจะรู้สึกว่าศีรษะที่อยู่ด้านหลังมือของนางอุ่นร้อน

ภายในห้องกลับคืนสู่ความสงบ มีเพียงเสียงลมหายใจของทั้งสองที่ประสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

ฝนตกข้างนอกหน้าต่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ข้างหน้าลานก็ยังยุ่งวุ่นวายกันอยู่ ซ่านเชียนหยวนที่รีบกลับมาอย่างเร่งด่วนบอกว่าหนทางที่อยู่ด้านหลังเขาสามารถใช้การได้ แต่กลับถูกเฉิงซานยกมือขึ้นมาขวางไว้“ท่านอ๋องกับคุณหนูพึ่งหลับไปขอรับ”

“ข้าพึ่งหาทางเจอเมื่อกี้”ซ่านเชียนหยวนถอดหมวกสานกันฝนออกมาจากศีรษะพลางหายใจเข้าออกอย่างรวดเร็วด้วยความเหนื่อย

“คุณหนูยุ่งวุ่นวายมาหลายปีแล้ว ขอแค่หลายวันมานี้ให้นางได้นอนหลับอย่างสบายด้วยเถิด”เฉิงซานเปิดปากพูดอย่างยึดมั่น แล้วโค้งทำความเคารพซ่านเชียนหยวน“ข้าน้อยจะส่งคนไปจัดการเรื่องนี้”

เฉิงซานเชื่อใจกู้อ้าวเวยขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

ถึงแม้ซ่านเชียนหยวนจะไม่เข้าใจ แต่ในใจรู้สึกเกลียดชังคนทั้งสองที่นอนพักผ่อนอยู่ข้างในเล็กน้อย แต่พอมาคิดดูดีๆ พวกเขาไม่สามารถพักได้หลายวันแล้ว มาวันนี้ถูกกักขังอยู่ที่นี่ กลับทำให้สามารถเข้าใจกันอย่างต่อเนื่อง จึงทำมือ“เจ้าหาคนที่สามารถเชื่อใจได้มาสองคน”

“ขอรับ”เฉิงซานค่อยๆถอนหายใจออกมา

“อย่างไรข้าก็ยังถือว่าเป็นท่านอ๋อง ครั้งนี้ข้าจะแบกรับไว้เอง ให้พวกเขาพักผ่อนเถอะ อย่าให้ใครมารบกวนได้”ซ่านเชียนหยวนโบกมือ แล้วก็พาคนออกไปก้าวผ่านฝนที่เทกระหน่ำลงมา

แต่ซ่านจินจื๋อที่นอนอยู่บนเตียงมองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดด้วยความรักใคร่

ซ่านเชียนหยวนในวันนี้ไม่ใช่นกน้อยที่เขาต้องคอยปกป้องแล้ว แต่กู้อ้าวเวยกลับเป็นสมบัติล้ำค่าของเขา จะพักผ่อนสองสามวันหน่อย จะเป็นไรไป?

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท