บทที่ 947 ตัวปลอม
“เร็วๆเข้าเถอะ เตือนหนึ่งครั้ง เด็กในท้องจี้ซูมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่วันแล้ว”
กู้อ้าวเวยตบไหล่ของเขาเบาๆ ด้านหลังยังมีเด็กสองคนเดินตามอยู่ เจ้าเด็กน้อยเอาแต่กลัวเขา ได้แต่โผล่ไปมองเขาเล็กน้อย
“อืม”ใบหน้าอันเย็นชาของซ่านจินจื๋อก็ไม่อาจอ่อนโยนลงมากับเด็กได้บ้าง เขาตอบกลับแล้วก็เดินจากไป อาศัยจังหวะที่ขบวนรถทางด้านนั้นกลับไปก่อนที่ขบวนรถจะเดินทางไปถึง
พอหลังจากที่ซ่านจินจื๋อเดินจากไปแล้ว กุ่ยเม่ยก็อุ้มโม่ซานขึ้นรถม้า แล้วหันไปมองดูเด็กสองคนที่อยู่ข้างๆกู้อ้าวเวย จึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า“เจ้าจะพาพวกเขากลับไปด้วยจริงๆหรอ?”
“พิษพวกนั้นไม่อาจถอนได้ภายในวันสองวันนี้ ถ้าทิ้งพวกเขาไปก็มีแต่จะต้องรอความตาย”กู้อ้าวเวยขยี้ไปที่ศีรษะของเด็กชายตัวน้อยอย่างเอ็นดู ให้ข้ารับใช้อุ้มพวกเขาสองคนขึ้นรถม้าไป
อีกทั้งนางยังคิดดีแล้วว่า ถึงครั้งนี้จะแก้ปัญหาแล้วสามารถถอนตัวออกจากเรื่องทุกอย่างได้ทั้งหมด นางกลัวว่าจะไม่มีเรื่องอะไรให้ทำอีก สามารถสานต่อความฝันที่อยากเป็นคุณครูในตอนนั้นให้สมดั่งปรารถนาได้ มีเด็กๆเพิ่มขึ้นสำหรับนางแล้วเหมือนได้นักเรียนเพิ่มขึ้น แน่นอนว่านางไม่สนใจอยู่แล้ว
กุ่ยเม่ยพยุงนางขึ้นรถม้า“ดูท่าแล้วเจ้าจะชอบเด็กมากเลยนะ”
“ชอบสิ”กู้อ้าวเวยยิ้มพลางพยักหน้าไปด้วย วางที่รองเอวไว้พิงกับรถม้า ในตอนที่กุ่ยเม่ยปลดม่านลงมา ยังได้ยินนางพึมพำพูดขึ้นมาว่า“แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ยังจะมีโอกาสอยู่อีกหรือไม่ เจ้าน่าจะยังจำสิ่งที่ข้าพูดกับเจ้าได้ใช่ไหม”
“หวังว่าสัญญานี้จะไม่มีวันหมดไป”สีหน้าของกุ่ยเม่ยก็เคร่งขรึมลงไปด้วย ดึงเชือกขึ้นมาแล้วมุ่งตรงไปยังเมืองเทียนเหยียน
……
พาทุกคนกลับมายังโรงเตี๊ยมแล้ว ซ่านจินจื๋อก็กลับเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ดูไปแล้วเหมือนเขานอนหลับอย่างเต็มอิ่มมา สาวใช้ที่อยู่ข้างๆรีบแขวนหยกให้เขา ตามมาด้วยได้ยินเสียงเร่งฝีเท้าบนเฉลียงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สาวใช้ที่อยู่ข้างกายจี้ซูรีบพุ่งตัวเข้าไป“ท่านอ๋อง!เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
“มีเรื่องอะไร?”ซ่านจินจื๋อโบกมือไล่สาวใช้ข้างๆ นำหยกวางไว้บนโต๊ะ
“คุณหนูของข้าถูกคุณหนูตงฟางผลักลงจากบันไดเจ้าค่ะ เลือดไหลออกเยอะมาก!”
สาวใช้สะอึกสะอื้นร่ำไห้ไม่หยุด คิ้วของซ่านจินจื๋อขมวดขึ้นมาเบาๆ
คิดไม่ถึงว่าจี้ซูในเวลานี้จะร้อนรนจนทาไม่ได้ พอหันกลับมาคิดดู ก่อนหน้านั้นจางเหยียงซานที่ไปวัดชีพจรของนางก็รู้ว่านางสีหน้าไม่ดี มาวันนี้ถูกขังอยู่บนเขาหลายวัน เด็กคนนี้ก็ยังคงยากที่จะเก็บไว้แล้ว
เพียงแต่ควรจะต้องจัดการอย่างไรดี เกรงว่าจะต้องเสียเวลาคิดหนักแล้ว
สาวใช้เห็นซ่านจินจื๋อเหม่อลอยอยู่กับที่ จึงรีบเรียกสติ“ท่านอ๋องต้องให้ความเป็นธรรมกับคุณหนูของข้านะเจ้าคะ!”
“ยังไม่รีบไปเรียกหมอมาอีก!”ซ่านจินจื๋อได้สติกลับมาจึงตะโกนออกไป สาวใช้ถึงกับพุ่งตัวออกไป เฉิงซานที่รู้เรื่องนี้นานแล้วจึงรีบสั่งให้คนไปเรียกหมอมา
พอรอให้ซ่านจินจื๋อเดินลงมาจากบันได ถึงได้มองเห็นร่องรอยของคราบเลือดเต็มไปหมด ยังมีกระโปรงของจี้ซูตอนนี้เต็มไปด้วยสีแดงจากเลือด ช่างบาดตายิ่งนัก
เฉิงเอ้อกำลังจับตัวหมอหนุ่มคนหนึ่งมาอยู่ข้างๆจี้ซู ศีรษะของจี้ซูเต็มไปด้วยเลือดไม่ได้สติ มีเพียงตงฟางซวนเอ๋อที่ยืนเหม่อลอยอยู่กับที่ไม่ได้สติอยู่นาน จนกระทั่งเสียงของซ่านจินจื๋อดังมาจากด้านหลัง“ล้อมขังโรงเตี๊ยมไว้ทุกมุม อย่าให้เรื่องของจี้ซูรั่วไหลออกไป”
ตงฟางซวนเอ๋อรีบหันหน้ากลับไป จึงได้สบเข้ากับดวงตาเย็นชาของซ่านจินจื๋อคู่นั้น ไม่มีคำพูดไหนออกมาสักคำ
“เจ้าตามข้ามาที่ห้อง”พูดจบ สายตาของซ่านจินจื๋อก็มองไปที่เฉิงซาน“ที่นี่เจ้าจัดการให้เรียบร้อย เด็กคนนี้เก็บไว้ได้ก็ช่างมัน ชีวิตของจี้ซูต้องเก็บไว้ให้ได้”
“ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ กลิ่นเลือดบนพื้นคละคลุ้ง ของเชิญท่านอ๋องกับคุณหนูตงฟางรีบไปจากสถานที่นี้เถอะ”เฉิงซานรีบพูดขึ้นมา ยังสั่งการให้คนนำผ้าห่มมาห่มให้จี้ซู ไม่อาจให้ผู้อื่นเห็นได้ แม้แต่องครักษ์ก็เดินไปจากที่นี่ด้วย เหลือไว้เพียงสาวใช้ที่ทำงานคล่องแคล่ว
ตงฟางซวนเอ๋อสูดหายใจเข้าสองครั้ง แล้วเดินตามซ่านจินจื๋อกลับเข้าไปในห้อง
“ในท้องของจี้ซู ไม่ใช่ลูกของท่านเสียหน่อย……”
“ข้ารู้”ซ่านจินจื๋อทำหน้าเคร่งขรึม แล้วตะโกนตำหนิ“แต่ไหนแต่ไรมา เจ้าไม่เห็นชีวิตของใครอยู่ในสายตาเลยใช่ไหม?หรือว่าเจ้าคิดว่าตัวเองแซ่ตงฟางก็สามารถจัดการเรื่องทุกเรื่องได้แล้วห้ะ!”
“ซวนเอ๋อ……ซวนเอ๋อเพียงแค่ทะเลาะกับนางไม่กี่คำ นางหกล้มไปเองต่างหาก ไม่เกี่ยวอะไรกับซวนเอ๋อนะ!”ตงฟางซวนเอ๋อดวงตาแดงก่ำ เสียงคุกเข่ากับพื้นดังตึกอยู่ข้างๆซ่านจินจื๋อ ดึงชายเสื้อของเขาไว้ ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด“ซวนเอ๋อไม่ได้ทำจริงๆนะเจ้าคะ ท่านอ๋องได้โปรดเชื่อซวนเอ๋อด้วย”
“ข้าเชื่อแค่สายตาของตัวเอง เรื่องของจี้ซู เจ้าเก็บไว้ไปอธิบายต่อหน้าป้าและฮ่องเต้เถอะ”ซ่านจินจื๋อลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไป ไม่สนใจตงฟางซวนเอ๋อที่ถูกผลักออกไปอยู่ข้างๆเลยแม้แต่น้อย
เดินอยู่บนเฉลียงมองเห็นสาวใช้รีบน้ำกะละมังที่เต็มไปด้วยเลือดยกออกไปกันอย่างรีบร้อน
สีหน้าของซ่านจินจื๋ออบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย ใบหน้าของเขากลับมาเรียบเฉยเป็นปกติ
แน่นอนว่าเข้าเชื่อตงฟางซวนเอ๋อไม่สร้างเรื่องอะไรในช่วงที่สถานการณ์กำลังอยู่ในช่วงรอยต่อเช่นนี้หรอก ทุกอย่างเป็นสิ่งที่จี้ซูวางแผนไว้ รวมไปถึงให้ตงฟางซวนเอ๋อเป็นคนแบกรับความผิดนี้ไว้เอง ผู้หญิงสองคนนี้ที่ต้องเป็นอย่างทุกวันนี้ก็เพราะทำตัวเอง ถ้าหากวันที่เข้าจวนวันนั้น ตงฟางซวนเอ๋อเปิดโปงสิ่งที่จี้ซูโกหก มาวันนี้ก็คงไม่ถูกใส่ร้ายเช่นนี้เป็นแน่
แต่เขากลับยิ่งสงสัยแปลกใจเรื่องหนึ่ง
ผลักประตูตรงหน้าออกไป ก็เห็นหญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้าแบบเดียวกันกับกู้อ้าวเวยกำลังนั่งอยู่ตรงของหน้าโต๊ะ ใบหน้ายังมีรอยยิ้มที่มีความเหมือนกับกู้อ้าวเวยเป็นอย่างมาก พูดขึ้นมาว่า“ท่านอ๋องมีเรื่องอะไรหรือ?”
“เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว เจ้ายังจะปิดบังต่อไปมีความหมายอะไรอีก?”ซ่านจินจื๋อมองลงมาต่ำไปที่นาง
ถ้าหากเป็นกู้อ้าวเวยจริงๆ ตอนนี้ต้องไปช่วยจี้ซูแล้ว คงไม่มานั่งจิบชาอยู่ตรงนี้อย่างเพลิดเพลินหรอก
ใบหน้าที่ปลอมจนเหมือนรอยยิ้มนั้นกลับลึกซึ้งขึ้น เสียงก็เปลี่ยนเป็นแหบพร่าขึ้น“กู้อ้าวเวยช่างเป็นหญิงที่ทำให้คนอิจฉาได้ยิ่งนัก เสียดายที่ถึงข้าจะฝึกให้เหมือนอย่างไร สุดท้ายก็เป็นได้แค่ตัวปลอม”
“พวกเขาเริ่มฝึกฝนเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
“นับตั้งแต่ที่ข้าเกิด ก็เริ่มแล้วล่ะ แม้แต่ตำราที่เคยอ่าน ข้าก็ต้องอ่านมันหนึ่งรอบ”เจ้าของเลียนแบบหัวเราะอย่างเย้ยหยันวางแก้วเปล่าลงกับโต๊ะ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ยตัวเอง“ถ้าหากท่านไม่ได้แต่งงานกับกู้อ้าวเวย ข้าอาจจะทำภารกิจสำเร็จแล้วก็ได้”
ตั้งแต่เกิด……
ในใจของซ่านจินจื๋อตกใจเป็นอย่างมาก แต่กู้อ้าวเวยในเวลานั้นไม่ได้มีค่าอะไรถึงจะถูก
“ท่านอาจจะไม่เข้าใจ ตั้งแต่เริ่มแรก ท่านกับกู้อ้าวเวยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง”เจ้าตัวปลอมหัวเราะพลางเดินไปข้างหน้าของซ่านจินจื๋อ แล้วชี้ไปที่ใบหน้าของตัวเอง“ถึงแม้กู้อ้าวเวยจะเป็นคนรุ่นหลังของตระกูลหยุน แต่ในตอนที่นางยังไม่เกิด ก็ถูกหยูนซีกับหยุนหว่านตั้งความหวังไว้แล้ว เพราะฉะนั้นกู้เฉิงถึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัวหยุนหว่านมายังไงล่ะ”
“พูดให้ชัดเจน”ซ่านจินจือเงื้อมือขึ้นมาจับไปที่ลำคอของนาง แต่กลับเป็นเพราะว่าใบหน้านี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไร
“หลิงเอ๋อร์ทำไม่สำเร็จ แต่กู้อ้าวเวยทำสำเร็จแล้ว”เจ้าตัวปลอมหัวเราะออกมา แต่กลับไม่กล้ากุมมือของซ่านจินจื๋อ เพียงแต่พูดไปว่า“กู้อ้าวเวยมีคนปลอม หลิงเอ๋อร์ไม่มีอย่างนั้นหรือ?”
แต่ทุกอย่าง ตกลงมันเพื่ออะไรกันแน่?