บทที่ 975 ตายแล้วฟื้น
“ต้องยิ่งใหญ่อย่างนี้จริงๆ หรือ?”
กู้อ้าวเวยเห็นหญิงในกระจกมัดผมขึ้น ปิ่นมุกปิ่นหยกถูกเสียบลงไป ตุ้มหูเพชรตาแมวห้องระย้าข้างหู เลือกมาห้อยไว้หลังหูได้อย่างเหมาะสม เสื้อผ้าบนตัวก็ปักด้วยดิ้นเงินดิ้นทอง ปกเสื้อลวดลายดอกไม้ บนชุดกระโปรงก็ปักด้วยนกเหินฟ้า ที่เหลือก็เป็นลายเมฆไหลคลื่นซัด ฝีมือเสมือนจริงมาก เข็มขัดก็มีหยกสีเลือดนก เป็นของหายาก
แม้แต่รองเท้าก็ยังเป็นงานละเอียด แค่เดินๆ ไปก็รู้สึกแน่น
สาวรับใช้ที่ตามอยู่ด้านหลังสองคนก็เอามือปิดปากหัวเราะ แล้วก็เอาแป้งฝุ่นมาผัดบนใบหน้าที่ซีดขาวของนาง กู้อ้าวเวยก็เงยหน้ายอมให้พวกนางแต่งหน้าให้
“คุณหนู ดูเหมือนว่าตาของท่านถูกคนอื่นต่อยมา” สาวรับใช้อดหัวเราะไม่ได้
กู้อ้าวเวยถอนหายใจเบาๆ ด้านนอกก็มีเสียงหัวเราะของผู้ชาย “เมื่อคืนก็ได้ยินเสียงดังมาจากอาคารหลัก พวกเจ้าก่อเรื่องอะไรกัน?”
กุ่ยเม่ยที่อยู่ด้านนอกก็แปลงโฉมเป็นคนรับใช้ทั่วไป ปล่อยผมลงมาปิดใบหน้า เป็นรูปร่างทั่วๆ ไป ไม่เป็นจุดสนใจ ใส่ชุดคนรับใช้สีเทา แต่เข้าวังจะพกดาบไม่ได้ เปลี่ยนมาพกจี้หยกแทน
กู้อ้าวเวยทำหน้านิ่ง ได้แต่นวดแขนที่ปวด
“เมื่อคืนคุณหนูเพิ่งอาบน้ำแล้วก็เช็ดผม แล้วก็มีหนูสองตัววิ่งเข้ามา” เฉิงซานที่อยู่ด้านนอกก็ได้ยิน พอเห็นสาวรับใช้กำลังปิดปากหัวเราะกันอยู่ ก็มองตาขวางเป็นสัญญาณให้พวกนางเก็บอาการและสีหน้าหน่อย
กุ่ยเม่ยก็ขำ “เจ้าถูกหนูทำให้ตกใจด้วยหรือ”
“ข้าก็แค่ตกใจที่พวกมันวิ่งเข้ามา แล้วแขนกับเอวก็กระแทก” กู้อ้าวเวยถอนหายใจ แล้วยกมือมานวดเอว ตอนนี้ยังเจ็บอยู่
กุ่ยเม่ยยักคิ้ว แล้วก็ไม่ได้พูดอะไร
เมื่อก่อนลำบากกว่านี้ นอนกลางดินกินกลางทราย แต่กู้อ้าวเวยก็ไม่กลัวพวกงูพิษหนอนพิษ มีแต่กลัวพวกพังพอนและพวกหนูที่วิ่งเข้ามาตอนกลางคืน ครั้งนี้ดูเหมือนจะตกใจมาก ก็เลยวุ่นวายทั้งคืนไม่ได้นอน
เพียงแต่อดไม่ได้ที่จะมองนางว่าเป็นกำไลหยกชั้นดี แม้แต่เล็บก็ทำอย่างดี ทาปากจนแดงสด หางตาก็เขียนให้ชี้ขึ้นนิดหน่อย งามชดช้อยไม่น้อย
“เสร็จหรือยัง?” กู้อ้าวเวยลุกขึ้นช้าๆ ปล่อยให้สาวรับใช้จัดคอเสื้อให้เรียบ แล้วก็ติดพวกเครื่องประดับบนหัวให้นาง
กุ่ยเม่ยอึ้งเล็กน้อย เขาไม่ได้เห็นนางแต่งตัวเต็มๆ แบบนี้มานานแล้ว
“มองพอรึยัง?” มีเสียงส่งมาทางด้านหลัง
“พอ…..พอแล้ว” ตัวเริ่มสั่น กุ่ยเม่ยรีบหลบออกด้านข้าง แล้วก็รีบเงยหน้ามองน้ำฝนที่ไหลลงจากหลังคา แล้วก็แกล้งไอ
ทุกคนล้วนชื่นชอบในความสวยงาม
ซ่านจินจื๋อใส่ชุดสีดำทอง เครื่องหยกที่เอว ใส่แบบเดียวกับกู้อ้าวเวยเลย
ถึงแม้ตากู้อ้าวเวยจะมองเห็นแล้ว แต่ก็ยังมองเชือกถักได้ไม่ชัด แล้วก็ถามเสียงต่ำว่า “ทำไมถึงมาได้? ไม่ได้จะออกจากตำหนักตนเองแล้วเข้าวังเลยไม่ใช่หรือ?”
“ท่านแม่ส่งคนมาบอกที่จวนฉู บอกว่าจะคุยกับเจ้า” ซ่านจินจื๋อเอามีดพกเล่มเล็กยื่นใส่มือนาง บนด้ามมีดนั้นยังประดับด้วยหยกขนาดหัวแม่มือหนึ่งชิ้น
“ในวังห้ามพกมีด”
“มันคือมีดที่ท่านพี่พระราชทานให้ข้า เอาเข้าวังไปพวกเขาก็ห้ามไม่ได้” แต่เมื่อก่อนเขาไม่อยากเป็นขี้ปาก ก็เลยไม่ได้พกติดตัว ตอนนี้ก็ยังมีประโยชน์อยู่บ้าง
พอเอามีดเก็บเข้าในเสื้อ สาวรับใช้ก็ช่วยนางจัดเสื้อผ้าใหม่อีกครั้ง
ซ่านจินจื๋อเกือบจะถูกดันออกไปด้านข้าง เส้นเอ็นที่ขมับก็กระตุกๆ
หลังจากวุ่นวายกันแล้ว กู้อ้าวเวยก็ได้ออกมาจากฝูงสาวรับใช้ แล้วก็เอามือมาจับปกเสื้อของซ่านจินจื๋อ จับเส้นผมข้างหูเล่น “ไม่กี่วัน หลี่ซินก็ฝึกให้สาวรับใช้พวกนี้โหดขึ้นมาก กลัวว่าวันข้างหน้าไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีแมวมาจับหนูเสียแล้ว”
“หลี่ซินไม่เหมือนกับเฉิงซาน” ซ่านจินจื๋ออธิบายให้นางฟัง แล้วก็ยกมือช่วยพยุงนาง อีกมือก็โอบเอวนาง แล้วก็ออกแรงบีบเล็กน้อย “โชคดีที่มีพวกนาง ไม่เช่นนั้นวันข้างหน้าเจ้าถูกหนูมาหลอก เดี๋ยวกลางคืนไม่ได้นอนกันพอดี”
สายตาของนางจ้องมาที่เขา “ไม่รู้ว่าใครเป็นคนมาตีหนู ขาเตียงก็ถูกตีจะแตก กลางดึกเพิ่งได้นอน เตียงก็พังแล้ว”
ซ่านจินจื๋อก็ออกแรงดึงตัวนาง “ถ้าไม่ใช่เจ้าที่ไล่หนูพวกนั้นไป………”
“ไม่พูดกับเจ้าแล้ว มาสนเรื่องของวันนี้ดีกว่า” กู้อ้าวเวยมองบน เรื่องเมื่อคืนมันเป็นเรื่องบังเอิญ แล้วก็ดิ้นออกจากอ้อมกอดของเขา แล้วเดินออกไปข้างนอก ข้างหูก็ยังมีเสียงฝนพรำ นางก็เบาใจลงมาก “ไม่รู้ว่างานเลี้ยงวันนี้จะเป็นแผนอะไรหรือเปล่า”
“ต่อให้เป็นงานเลี้ยงแบบซ้อนแผน ก็ต้องเข้าไปเสียหน่อย” ซ่านจินจื๋อเดินมาข้างไหล่นาง แล้วก็จ้องมองเสื้อผ้าหน้าผมที่นางแต่ง เมื่อเทียบกับคุณหนูบ้านอื่น นางดูมีกำลังดี มีสติดี แต่ผอมไปหน่อย
ถูกมองจนทำตัวไม่ถูก กู้อ้าวเวยก็พูดว่า “เจ้ามองข้าทำไม?”
“ข้ากำลังคิด ถ้างานเลี้ยงวันนี้มีแผนอะไรละก็ ข้ากลัวจะเสียใจไปตลอดชีวิต” ซ่านจินจื๋อดึงนางมาเดินให้ตรงทาง แล้วเอามือจับมือนางมาคล้องแขนตนเอง แล้วลูบมือนาง
กู้อาวเวยก็ไม่ขัดขืน แต่ถามว่า “ทำไมถึงต้องเสียใจไปตลอดชีวิต งานเลี้ยงนี้ก็อาจจะไม่ต้องมีคนตายก็ได้”
“ตัวเจ้าไม่มีเนื้อหนังเลย ข้าตายไปก็ตาไม่หลับ………..”
“พูดจาบ้าๆ” กู้อ้าวเวยเอามือปิดปากเขา หน้าก็แดง ทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้ นางก็มักจะคิดถึงเรื่องที่ซ่านจินจื๋อลงมือทำอะไรกับนาง
ซ่านจินจื๋อที่ถูกปิดปากอยู่ ก็เอามือมาตีมือนาง แล้วพูดว่า “รีบหน่อย เดี๋ยวจะสายแล้ว”
กู้อ้าวเวยก็ปล่อยมือ แล้วก็ตามซ่านจินจื๋อขึ้นรถม้าไป
พอมาถึงในวัง ในนี้ก็ยังวุ่นวายเหมือนเดิม มีเสียงขันทีนินทาข้างหู ตอนนี้เอาใบหน้าที่เหมือนกับพระชายาจิ้งเข้ามา ก็ไม่มีใครจำได้ พอเข้ามาถึงในตำหนัก ตอนที่นั่งลงนั้น ก็เห็นว่าถูกล้อมไปด้วยตระกูลตงฟางของตำหนักอ๋องจิ้ง
คนของตระกูลตงฟางเหมือนไม่มีอะไรเกิดข้น เชิญคนของตระกูลจี้มานั่งข้างๆ ด้วย
กู้อ้าวเวยนั่งหน้าโต๊ะ ระดับสายตาแยกไปจากซ่านจินจื๋อที่นั่งฝั่งตรงข้าม จอกเหล้าเงินในมือก็ถูกยกขึ้นพร้อมกับเสียงของเขา ยังไม่ทันได้พูด พ่อของจี้ซูด้านข้าง ก็พูดขึ้นว่า “ก็แค่มีหน้าตาเหมือนพระชายาจิ้ง ก็กล้ามาหาเรื่องใต้เบื้องพระยุคลบาทแล้วหรือ?”
นางยักคิ้ว ยังไม่รู้ว่าคนพวกนี้ตั้งใจเล่นงานนาง หรือว่าเล่นงานซ่านจินจื๋อ นางก็เงยหน้าขึ้น ก็คิดเรื่องที่นางตกลงไว้กับซ่านจินจื๋อแล้ว ก็พูดว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่ได้ตายแล้วฟื้นขึ้นมา?”