บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 973

ตอนที่ 973

บทที่ 973 ปมเชือกถัก

ในตำหนักที่ใหญ่โต

หญิงสาวในชุดสีเทาภายใต้ผ้าปิดหน้าบางๆ ปลายกระโปรงลากยาวเป็นรอยในตำหนัก โซ่ตรวนกระทบกันอยู่ในขอมือของนาง มองลางๆ สามารถเห็นว่านางนั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะ

นางกำนัลที่มาใหม่ตัวสั่นระริก แล้วเอาอาหารที่กำลังร้อนวางตรงหน้า

“เชิญท่านรับประทานอาหาร” นางกำนัลค่อยนั่งลงที่พื้น แล้วก้มหน้ารอใต้เท้าที่ไม่รู้จักชื่อ เอามือมาหยิบอาหารพวกนั้นไป

ไม่รู้ว่านานเท่าใด เสียงห่วงโซ่กระทบกันดังขึ้น

ทีละก้าว ทีละก้าว

พื้นตรงหน้าถูกเงาดำมาปกคลุมไว้ กระโปรงนั้นพาดมาถูกดวงตา

“ข้าไม่ได้กินคนเสียหน่อย จะกลัวอะไรขนาดนั้น?” เป็นเสียงผู้หญิงนิ่มๆ และอาหารตรงหน้าก็หายไป

นางกำนัลเงยหน้าอย่างตัวสั่นๆ แต่ตอนที่มองไปที่ดวงอันขาวโพลนนั้น ก็ตกใจจนต้องก้มหน้าลงมาใหม่ และตามมาด้วยเสียงหัวเราะดังลั่นของหญิงสาว “ตอนนี้เจ้ามองดวงตาของข้า เกรงว่าจะเดินออกไปไม่ได้แล้ว ไม่สู้มาบอกข้าที ว่าวันนี้ฮ่องเต้ไปไหน แล้วชื่นชอบสนมคนไหน?”

นางกำนัลยังคงตัวสั่น แต่ยังไม่ทันพูดอะไรออกมาเลย เลือดก็กระเด็นเซ็นซ่าน

ชุดกระโปรงสีเทาอาบไปด้วยสีเลือด ความตกใจของนางกำนัลยังคงค้างอยู่บนร่างของตนเอง

ส่วนหญิงชุดเทาก็ยืนมององครักษ์ลับที่ซ่อนตัวในความมืดอย่างนิ่งๆ แล้วก็หันหลังเอาอาหารเข้าไปยังด้านในผ้าม่าน จากนั้นก็มีเงาคนสองคนลุกขึ้นอยู่ด้านในผ้าม่าน เพื่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง ท่าทางไม่ทะมัดทะแมง เหมือนกับกำลังถอดเสื้อให้กับหุ่นไล่กา

หญิงสาวยอมให้คนจัดการกับเสื้อผ้าตนเอง เศษผ้าที่ไม่น่าจะเรียกว่าเป็นเสื้อผ้า ได้คลุมไปยังตัวของนางใหม่อีกครั้ง เผยให้เห็นเพียงดวงตาที่ขาวโพลนออก พอลมตรงหน้าต่างพัดขึ้น ผ้าม่านเริ่มปลิวไสว ก็เผยให้เห็นว่าในตำหนักนั้น มีผลงานมากมายกองอยู่ตรงมุมห้อง

แล้วยังมีรูปวาดที่ถูกสาดด้วยหมึกจนดำสนิท และหญิงสาวคนนั้นก็กำลังจะจับพู่กันขึ้นใหม่

วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า

คนในความมืดเอาร่างของนางกำนัลออกไป แล้วก็มีนางกำนัลคนใหม่ ก้มหน้าเข้ามาทำความสะอาดอีกครั้ง

นางกำนัลถูกโยนทิ้งไว้ข้างประตูตำหนัก นางกำนัลตรงประตูก็ทับถมว่า “ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง”

“ระวังคำพูดด้วย” นางกำนัลที่อุมากกว่าอีกคนกล่าวตักเตือน

นางกำนัลที่ตายถูกส่งออกจากวังอย่างลับๆ

ในตำหนักก็มีเสียงถอนหายใจของผู้หญิงส่งออกมาเรื่อยๆ ตอนที่ไม่มีคนถึงจะสามารถเอาผ้าที่ปิดหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่ขาว แต่ส่วนใต้ของผ้าที่พันคอนั้น ก็ยังเห็นว่ามีรอยแผลฉกรรจ์

“ใต้เท้า” สาวรับใช้ในผ้าม่านเรียกตักเตือน

“น่าเบื่อสิ้นดี” หญิงสาวคนนั้นหัวเราะแห้งๆ แล้วมองสาวรับใช้ที่กำลังออกแรงเอาผ้าไปปิดหน้าของตนเองดังเดิม แม้แต่เส้นผมก็ยังถูกพันเก็บไว้ในผ้านั้น โซ่ตรวนที่หนัก เกือบจะทำให้ข้อมือนางหัก ในวันที่เหน็บหนาวก็เจ็บปวดสุดทรมาน

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็ยังจับพู่กันเขียนหนังสืออยู่ทุกวัน ทุกปี

“นี่คือสิ่งที่เขาและข้าควรได้รับ…..”

เสียงถอนหายใจของนางดังก้องไปทั้งตำหนัก

……

เฉิงซานเข้ามาในห้อง บนโต๊ะยังมีสิ่งของที่กู้อ้าวเวยและซ่านจินจื๋อเหลือทิ้งไว้

สิ่งของในหีบทั้งสอง ถูกกู้อ้าวเวยหยิบออกมาดูทีละอัน และวางอยู่ด้านข้าง ส่วนหนังสือโบราณที่ถูกอ่านแล้ว ก็วางอีกด้าน เหมือนไม่สนใจว่าเขาจะมองเห็น

เฉิงซานจัดของจนเรียบร้อย แต่ก็พบเชือกถักอยู่ในหีบที่เก็บหนังสือ

“ลุงซาน จัดเสร็จหรือยัง? ข้าได้ขนหีบเหล็กมาแล้ว” หลี่ซินยืนเรียกตรงประตู แล้วก็มีเสียงหีบเหล็กถูกลากเข้ามา

“เข้ามาเอาของจัดลงไปให้ดี ส่วนเสื้อผ้าและเครื่องประดับเอาใส่กลับลงไปในหีบไม้” เฉิงซานเอาเชือกถักนั้นใส่ไว้ในอก แล้วก็สั่งให้หลี่ซินจัดของแล้วเอาไปไว้ที่อาคารหลัก เพื่อที่จะให้กู้อ้าวเวยเปิดอ่านตามต้องการ

หลี่ซินจัดหนังสือลงไปอย่างระมัดระวัง แล้วก็ถามเฉิงซานว่า “ท่านอ๋องและคุณหนูอยู่ไหน?”

“เหมือนว่าคุณหนูจะกลับห้องไปแล้ว ท่านอ๋องก็น่าจะอยู่ด้วย”

“เจ้าให้คนมาคอยดูไว้ ข้าจะออกไปข้างนอกหน่อย” เฉิงซานสั่งการหน้านิ่งๆ ส่วนหลี่ซินก็กลังจากที่จัดของแล้ว ก็รีบมายังอาคารหลัก พอเข้ามาก็เห็นซ่านจินจื๋อนั่งที่โต๊ะ ส่วนกู้อ้าวเวยก็นอนพิงที่เบาะหลังไป บนไหล่ก็มีผ้าห่มบางๆ

ทันใดนั้นก็หลบจากทางฝั่งกู้อ้าวเวย แต่หันมาทำความเคารพซ่านจินจื๋อ “ท่านอ๋อง เมื่อครู่ลุงซานเหมือนจะหยิบอะไรบางอย่างไป เหมือนว่าจะพบอะไรบางอย่าง?”

“เขาได้บอกไหมว่าไปที่ไหน?” ซ่านจินจื๋อวางสิ่งที่กำลังเขียนลง

“ไม่ได้บอก จะให้กระหม่อมส่งคนติดตามไปไหม?” หลี่ซินส่งสายตา

ซ่านจินจื๋อก็ไม่พูดอะไร แต่กู้อ้าวเวยที่นอนบนเบาะกลับได้ยินบทสนทนาเมื่อครู่หมดแล้ว แล้วก็ลุกเอามือขยี้ตาพูดว่า “ไม่ต้องตาม ส่วนเรื่องทางกู้ซวง จัดการไปถึงไหนแล้ว”

ลุกขึ้นอิงตัวที่เบาะ นางเพิ่งเอนหลังไปไม่นาน นอนน้อย ยังคงล้าจากการลุกขึ้นมาอ่านหนังสือตอนดึก

ซ่านจินจื๋อก็มองนาง ฟังหลี่ซินบอกว่า “พอกินยาไปก็สงบลงแล้ว ตอนนี้นอนบนเตียงยังยากเลย พูดก็ไม่รู้เรื่อง”

“เช่นนั้นก็ดี เจ้าไปทำเรื่องของเจ้าเถอะ” กู้อ้าวเวยลุกขึ้นจากเบาะที่นอน แล้วใส่รองเท้าเดินมายังซ่านจินจื๋อ เอามือเท้าไหล่เขาแล้วเอนมาทางข้างเก้าอี้ โดยไม่มีความง่วงแล้ว นางดึงคิ้วสูง “เจ้าทำกับลูกน้องเช่นนี้หรือ?”

“เมืองเทียนเหยียนสู้ที่อื่นไม่ได้ จะต้องระวังตัวตลอด แม้แต่เฉิงซานเองก็ยังรู้ว่าข้าส่งคนติดตามไป ยังจะต้องกังวลอะไรอีก?” ซ่านจินจื๋อเอามือโอบนางเข้ามาในอก แล้วเงยหน้ามองนาง “ดูเหมือนว่าเจ้าจะสนใจเรื่องนี้มากนะ?”

“จะใช้คนก็ไม่ต้องสงสัย ถ้าสงสัยก็ไม่ใช้คน เรื่องแค่นี้ ท่านอ๋องจิ้งก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว” นางออกมาจากอ้อมกอด กู้อ้าวเวยเดินอ้อมออกไปทางตูข้างๆ

ซ่านจินจื๋อก็เอามือลงไปเขียนจดหมายลับอีกครั้ง

ในเมื่อกู้อ้าวเวยตื่นขึ้นมา ก็คงจะนอนไม่หลับแล้ว และนางก็เอาหนังสือขึ้นมานั่งอ่านบนเบาะอีกครั้ง แล้วก็หาวนอนพร้อมกับเปิดหน้าหนังสืออ่าน

ทั้งสองต่างสนใจคนละเรื่อง ในใจก็ยังรอคอยเรื่องของเฉิงซาน

ไม่รู้ว่าเฉิงซานออกไปด้วยเรื่องอะไรกันแน่ ถึงได้ไปโดยไม่บอกกล่าว

สองชั่วยามให้หลัง เฉิงซานก็กลับมา ในมือก็มีห่อผ้าใบใหญ่ หลังเข้ามาทำความเคารพ ซ่านจินจื๋อก็พูดกับเขาว่า “เจ้าไปไหนมา?”

“กระหม่อมเห็นในหีบมีเชือกถักหนึ่งเส้น เมื่อครู่ได้ไปหาช่างปักผ้าที่ออกจากวัง” เฉิงซานเอาเชือกถักที่พบในหีบออกมาวางบนโต๊ะ แล้วก็เปิดห่อผ้าออก ด้านในมีแต่สิ่งของของช่างปักผ้าเต็มไปหมด

ซ่านจินจื๋อก็สังเกตมองเชือกถักพวกนั้น ในใจก็คิดได้คำหนึ่งลางๆ

“เชือกถักพวกนั้น ข้าเคยให้เจ้าดูแล้ว เจ้าดูไม่ออกหรือ?” กู้อ้าวเวยรีบเดินขึ้นมา พอเห็นเขาหน้านิ่งไม่พูดจา นางก็เอาคางไปเกยบนไหล่ของซ่านจินจื๋อ พร้อมกับมองเชือกถักนั้น “แล้วเชือกถักนี้ มันเกี่ยวอะไรกับชักปักผ้าในวัง?”

“ลูกหลานตระกูลซ่าน ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ทั้งเขยทั้งสะใภ้ที่แต่งเข้าตระกูลมา จะมีการถักเชือกให้กับป้ายหยกที่ต่างกัน” ซ่านจินจื๋อก็จับป้ายหยกที่เอวไว้แน่น แล้วก็เอาป้ายหยกที่เอวตนเองออกมาเทียบดู มันเหมือนกันมาก

“นี่มันมีเพียงราชนิกุลสายหลักเท่านั้นที่มีสิทธิ์ใช้” กู้อ้าวเวยตกใจ

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท