บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 992

ตอนที่ 992

บทที่ 992 พูดเตือนสองครั้ง

พักรักษาตัวอยู่หลายวัน โดยไม่ได้ติดตามเรื่องภายนอกเลย

กู้อ้าวเวยรวบกอดชุดยาวสีขาวแนบกาย ถือตำราไว้แล้วก็สอนเด็กในเรือนอยู่อย่างคุ้นเคย

หลายวันนี้ฮ่องเต้บอกว่าร่างกายไม่สบายจึงไม่ขึ้นว่าราชการเช้า ประสานราชการทั้งหมดจึงมอบให้ซ่านจินจื๋อกับซ่านเซิ่งหานอาหลานทั้งสองเป็นคนจัดการ ซ่านเชียนหยวนส่งสาส์นนกพิราบไปยังไม่ได้คำตอบ

อากาศค่อยๆเย็นลง ฝนกลับไม่ลดน้อยลง

“วันนี้เรียนถึงแค่นี้ก่อน” กู้อ้าวเวยพูดจนคอแห้ง มองดูพวกเด็กๆเก็บข้าวของ แล้วก็มองดูท้องฟ้ามืดครึ้มที่ไกลออกไปผ่านหน้าต่าง เฉิงซานยกน้ำยารสข่มมาให้ “คุณหนู ถึงเวลาทานยาแล้ว”

วางตำราในมือลง กู้อ้าวเวยไอสองที แล้วมองดูเฉิงซาน “เรื่องเล็กพวกนี้ให้พวกสาวใช้ทำก็ได้ เจ้าทำเองทุกวันเช่นนี้ ไม่รู้ว่าคนในเมืองเทียนเหยียนจะเอาเรื่องของข้าไปพูดว่าอย่างไรบ้าง”

เฉิงซานไปมาระหว่างทั้งสองจวน ไม่หวั่นลมฝน แม้แต่ไปมาซื้อของตามร้านค้าเล็กๆด้านนอก และไปจวนฉูลับหลังอ๋องจิ้งอย่างไม่ปิดบัง นักเล่าเรื่องในเมืองเทียนเหยียน ก็ได้เล่าเรื่องของนางออกมาจริงๆ มีคนพูดว่านางเป็นพระชายาอ๋องจิ้งที่ยังไม่ตาย และมีบางคนพูดว่านางเป็นลูกสาวคนรวยที่แต่งงานมาจากแดนไกล ที่เหลวไหลที่สุดคือ พูดว่านางเป็นหญิงปีศาจที่มาจากเขาหยินซาน ทำให้อ๋องจิ้งหลงใหล และทำให้ฮ่องเต้ป่วยหนัก เป็นดาวเคราะห์ร้ายของประเทศ

คำร่ำลือที่ไม่สิ้นสุดนี้ ปกตินางสอนหนังสือให้กับผู้คน ช่วยเหลือผู้ประสบภัย จึงไม่มีใครกล้าทำอะไรนางจริงๆ

เฉิงซานฟังแล้ว กลับหัวเราะพูดว่า “ช่วงนี้ท่านอ๋องไปมาหาสู่กับพวกขุนนาง ที่กระหม่อมมา ก็เพื่อให้ท่านอ๋องได้วางใจ”

พวกเด็กๆแสดงท่าทีจูบนางอย่างสนิทสนม หอบหนังสือ กระดาษกระเป๋าแล้วก็วิ่งออกไปอย่างไม่เห็นแม้แต่เงา กู้อ้าวเวยหน้าแดง ยื่นรับถ้วยยามาแล้วก็ดื่มจนหมด เพื่อปกปิดใบหน้าที่แดง แล้วก็พูดขึ้นว่า “เขาหาวิธีที่จะให้ข้าเข้าวังได้หรือยัง?”

“ท่านอ๋องบอกว่า ช่วงนี้ฮองไทเฮาไปชินเทียนเจียนค่อนข้างบ่อย ไม่แน่ว่าหลายวันนี้อาจจะมีอะไรเกิดขึ้น” เฉิงซานกระซิบพูดขึ้น เอาถ้วยยาที่ว่างเปล่าวางกลับไปในกล่องอาหาร เตรียมพร้อมที่จะนำกลับไปรายงาน

กู้อ้าวเวย กลับมาครุ่นคิดดูให้ดี

ในชินเทียนเจียนขังยู่จือไว้ ขุนนางทูตเย่นเจียงเดือดร้อนอยู่ตั้งนานก็ไม่เห็นพวกเขาปล่อยคน ตอนนี้ฮองไทเฮาก็ไปบ่อยขนาดนี้ เป็นไปได้ว่าฮ่องเต้กำลังคิดกระทำอะไรสักอย่าง ฮองไทเฮาคงค่อนข้างร้อนใจ จึงคิดที่จะใช้ยู่จือเป็นสิ่งต่อคน

หากเป็นเช่นนี้ ฮองไทเฮาก็ต้องอยากได้ส่วนที่มีอยู่ในมือของตนแน่

ในใจกำลังครุ่นคิดอยู่ หลี่ซินกลับวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบแล้วพูดว่า “คุณหนู มีคนในวังมา บอกว่าฮองไทเฮาไม่ค่อยสบาย รู้ว่าจวนฉูมีหมอหญิงมีฝีมือ และก็เป็นสนมของท่านอ๋องจิ้ง จึงมีรับสั่งให้ท่านเข้าวัง”

กู้อ้าวเวยกับเฉิงซานมองตากัน แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “เจ้าออกไปแจ้งว่า ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วจะตามไป”

หลี่ซินออกไปแจ้ง เฉิงซานถือตะกร้าอาหาร แล้วก็เดินออกไปทางหน้าประตู

มองเห็นคนที่นำคนมาคนนั้นคือกุ้ยมามา เฉิงซานจึงรีบเร่งฝีเท้ากลับไปรายงาน

กู้อ้าวเวยเปลี่ยนสวมชุดสีเขียวยาวที่ค่อนข้างหนา ให้สาวใช้ช่วยเกล้าผมให้อย่างเรียบง่ายแล้วก็เดินไปยังนอกประตู ตอนที่เห็นกุ้ยมามา ก็แค่แสดงสีหน้าเย็นชา แล้วก็เดินขึ้นรถม้าไป

กุ้ยมามาเดินขึ้นรถมาพร้อมรอยยิ้ม แล้วก็ได้ยินกู้อ้าวเวยพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้ที่เข้าวังก็ใช่ว่าไม่เคยเห็น วันนี้ยกชื่อเสียงทั้งสองมากดขี่ เห็นทีฮองไทเฮาคงกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้สถานะของข้า”

“เสด็จพูดอะไรอย่างนั้น ตั้งแต่จากการที่อารามไป๋หม่านั้น ฮองไทเฮาเหนียงเหนียงก็คิดถึงท่านตลอด” กุ้ยมามาพูดเสร็จ กู้อ้าวเวยก็มองเห็นตรวนในมือของนาง

สายตาหดลงเล็กน้อย ถึงนางจะจำไม่ได้ว่าตอนนั้นได้พูดอะไรกับฮองไทเฮาไปบ้าง

แต่ตอนนี้นางรู้ว่าการเข้าวังไปในครั้งนี้ อาจจะเพื่อเป็นสิ่งของแลกเปลี่ยนอย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งครั้งนี้นางจะขึ้นไปไม่ได้

ในขณะเดียวกัน เฉิงซานก็รับมารายงานเรื่องนี้ให้ซ่านจินจื๋อรับรู้ ซ่านจินจื๋อลังเล แล้วก็สั่งคนไปตามโม่อีมาอย่างกระวนกระวายใจ “ไส้ศึกของเขาที่อยู่ในวัง ยังไงก็น่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”

ราชโองการของฮองไทเฮา ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก

รอเมื่อโม่อีมาถึงแล้ว ด้านหลังยังมีเมิ่งซู่ที่ไม่เห็นหน้ามานานตามมาด้วย

โม่อีรู้แผนการของกู้อ้าวเวยแต่แรกแล้ว จึงควรที่จะแจ้งไส้ศึกที่อยู่ในวังแต่แรกแล้ว

แต่เมิ่งซู่กลับทำความเคารพแล้วก็พูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “ไส้ศึกของใต้เท้าโม่ที่อยู่ในวัง กระหม่อมได้เปลี่ยนจนหมดแล้ว ท่านอ๋องจิ้งอย่ากระทำผิดเหมือนองค์ชายหกดีกว่า”

ไร้วี่แววของความเป็นผู้เรียน เมิ่งซู่ดึงปีกหมวกลงและมองดูเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลัก แววตาฉายแววตักเตือน

“ปัง…”

ฝ่ามือทั้งสองตบลงบนโต๊ะอย่างแรง แขนเสื้อสะบัดปลิวไหว

รอบตัวซ่านจินจื๋อเต็มไปด้วยแรงแค้น มองด้วยดวงตาที่โกรธจัดพร้อมว่า “เจ้ากล้าหรือ”

“เทียบกับท่านแล้ว ตอนนี้ที่ที่ปลอดภัยที่สุดก็คือพระราชวัง” เมิ่งซู่ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไร้วี่แวว ถึงแม้เหงื่อจะไหลเหมือนดั่งฝน อัดอันตันใจ แต่เขาก็ยังของกัดฟันไว้แน่น แล้วก็พูดทุกอย่างที่เตรียมไว้แล้วก่อนหน้านี้ว่า “ท่านควรทำอะไร ท่านต้องไปทำอะไร สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของนาง”

เพิ่งพูดเสร็จ ซ่านจินจื๋อยกมือขึ้น ชายเสื้อกว้างตีเข้าหากันจนเกิดเสียงดัง

แล้วด้านหลังเมิ่งซู่ ลูกธนูหน้าไม้สิบดอกพร้อมลุย ต่างก็จ่ออยู่ตรงหัวของเมิ่งซู่

โม่อีที่อยู่ด้านข้างก็ยกมือขึ้น คนกับลูกธนูหน้าไม้ด้านหลังค่อยหายลับไปกับความมืด

“เจ้ามีความมั่นใจอะไร” ความโกรธของซ่านจินจื๋อค่อยๆเบาลง

“ข้าไม่มีความมั่นใจอะไร วันนี้ที่มาก็เพื่อหวังอยากให้ท่านอ๋องจิ้งรู้สถานะของตัวเอง” เมิ่งซู่พูดประโยคนี้เสร็จแล้วก็รีบเดินออกไป

ซ่านจินจื๋อขมวดคิ้วแน่น หลังจากนั้นเนิ่นนานแล้วค่อยทั้งตัวนั่งลง

“โม่อี พาคนเอาทองที่เอามาก่อนหน้านี้ไป” ซ่านจินจื๋อเอนหลังพิงเก้าอี้ แววตาเยือกเย็น “เอาทองพวกนี้ไปทำเป็นเครื่องประดับเรียบง่ายๆ ขายแล้วเอาเงินเข้าคลังทหาร”

“ท่านอ๋องท่าน….”

“มีคนคิดไม่ซื่อกับเสด็จพี่ น้องเองก็จะไม่ทำเพื่อปกป้องตนเอง” ซ่านจินจื๋อมองดูท้องฟ้ามืดครึ้มด้านนอกหน้าต่าง แล้วก็เข้าใจอะไรขึ้นมาในที่สุด

โม่อีก็ออกไปตามคำสั่งอย่างเข้าใจแล้วทุกอย่าง

ภายในเวลาสองชั่วโมง กองกำลังทหารของซ่านจินจื๋อ รวมถึงค่ายทหารที่อยู่ด้านนอกเมือง ต่างก็ถูกแบ่งไปประจำในสถานที่ต่างๆอย่างเงียบๆ

และเมื่อซ่านต้วนโฉงที่อยู่ในวังรู้ข่าวแล้ว ก็ขมวดคิ้ววางถ้วยตะเกียบลง ถามหวางกงกงว่า “เมื่อกี้ เจ้าบอกว่าฮองไทเฮาเรียกใครเข้าวังมา?”

“คุณหนูใหญ่ตระกูลจวนฉู” หวางกงกงรีบตอบ แล้วก็ถามขึ้นว่า “ตอนนี้ท่านอ๋องจิ้งพาทหารไปประจำอยู่ที่….”

ซ่านต้วนโฉงมองดูด้วยสายตาเยือกเย็น หวางกงกงจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก ถอยออกไปยืนด้านข้าง

รอเมื่อซ่านต้วนโฉงทานเองแล้วก็ลุกขึ้นมาจากที่นั่ง พูดสั่งขึ้นว่า “ไปพระตำหนักฮองไทเฮา”

หวางกงกงตะโกนพูดขึ้น เสียงฟ้าร้องตรงขอบฟ้าท้องฟ้า แล้วสักพักฝนก็ตกลงมาสู่พื้น

ส่วนซ่านจินจื๋อก็เพิ่งรู้ข่าวการเคลื่อนย้ายค่ายทหารด้านนอกเมือง ในมือกำถือเอกสารราชการไว้แน่นแล้วก็เหม่อลอย สักพักแล้วก็พูดขึ้นมาเองอย่างอดทนไม่ว่า “เป็นแบบนี้นี่เอง”

สิ่งที่ทุกคนพูดเตือน พูดแต่เพียงประโยคนั้น

ยังไงฮ่องเต้ก็อยู่เหนือทุกคน

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท