บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 991

ตอนที่ 991

บทที่ 991 สนับสนุน

คนที่รักเดียวใจเดียวอย่างจดจ่อ ถือเป็นภัยต่อตนเอง

กู้อ้าวเวยมองดูเลือดที่ไหลนองเต็มพื้นด้วยสายตาพร่ามัว หน้าอกเจ็บปวดขึ้นมาเป็นพักๆ

ซ่านจินจื๋อประคองไหล่ของนางไว้ มองดูจางเหยียงซานด้วยสายตาโกรธจัด พร้อมพูดขึ้นว่า “อีกเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ต่อให้ความร้อนใจรุมเร้าหัวใจ ก็ไม่ควร…”

“ท่านอ๋องอย่าร้อนใจ” จางเหยียงซานพูดดักซ่านจินจื๋ออย่างโมโห ทำให้ซ่านเชียนหยวนที่เพิ่งมาถึงอย่างรีบร้อนตกใจจนต้องเข้ามาดึงตัวจางเหยียงซานถอยไปด้านหลัง กลับได้ยินจางเหยียงซานพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “พวกนี้เป็นแค่เลือดคั่ง ช่วงหลายวันนี้ดูแลตัวเองให้ดีๆก็พอแล้ว ท่านอ๋องใจเย็นๆบ้างได้ไหม”

เป็นใครที่อดหลับอดนอนมาทั้งคืนแล้วถูกเรียกขึ้นมาด่า ก็ล้วนต้องโกรธเช่นนี้

กู้อ้าวเวยอ้วกออกมาเป็นก้อนเลือดอีกสองครั้ง นิ้วมือจับแขนซ่านจินจื๋อไว้ พูดขึ้นอย่างอดทนไม่ได้ว่า “อย่าใจร้อน”

หัวใจเต้นอยู่อย่างรุนแรง ชุดสีดำของซ่านจินจื๋อเปื้อนไปด้วยเลือด เห็นกู้อ้าวเวยในสภาพแบบนี้ ทำให้จิตใจของเขาเป็นกระวนกระวายอย่างมาก ตอนนี้ทำได้เพียงลูบหลังให้นาง แล้วพูดว่า “จะนอนลงไหม?”

กู้อ้าวเวยรีบโบกมือ ท้องไส้ปั่นป่วน เกรงว่าคงจะไม่จบไม่สิ้น

จางเหยียงซานกลับตากฝนจะไปจี้ซื่อถาง เพื่อไปปรึกษาท่านเห้อ ซ่านเชียนหยวนพาฉีหรัวออกไปจากห้อง ไม่ฟังเสียงไอภายในห้อง เพียงฟังเฉิงซานเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้อย่างละเอียด ซ่านเชียนหยวนยิ่งโกรธ พร้อมพูดขึ้นว่า “ตอนนี้เสด็จพ่อไม่อนุญาตให้พวกเราเขาวัง ที่แท้ก็เพื่อสังหารน้องหก”

ฉีหรัวดึงแขนของเขาไว้ รู้ว่าหลายวันนี้เขายุ่งอยู่กับงานของขุนนางทูตเย่นเจียงอย่างหัวร้างข้างแตก จึงพูดขึ้นอย่างอ่อนโยนว่า “องค์ชายหกสิ้นพระชนม์แล้ว แทนที่จะไปขอคำอธิบายอย่างใจร้อน คิดหาวิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ดีกว่าหรือ”

สองคนมองตากัน สั่งเฉิงซานดูแลกู้อ้าวเวยให้ดีแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็ว

ออกมาจากจวนฉู ยังไม่ทันเดินพ้นสุดซอย ก็เห็นเยว่ยืนถือร่มอยู่กลางถนน ขวางทางพวกเขาไว้แล้วพูด “องค์ชายสามสั่งให้พวกเรามาบอกเรื่องสำคัญ”

ฉีหรัวกดจับซ่านเชียนหยวนที่อารมณ์เสียอย่างที่สุดให้อยู่บนม้า ตนเองเปิดม่านแล้วถามว่า “ความว่าอย่างไร?”

“สิ่งที่ห้องแต่ไม่อนุญาต ก็อย่าไปทำ” หางตาเยว่ฉายแววเป็นประกาย แล้วก็หลีกไปยืนด้าน เปิดเส้นทางกว้างให้ได้เดินผ่าน

ฉีหรัวกลับเข้าไปภายในรถม้า และก็รู้ดีก่อนที่องค์ชายหกจะเข้าวัง แล้วก็ได้มาพบองค์ชายสามที่ร้านอาหารป่ายเว่ย

กลับคิดไม่ถึงว่า พวกเขายังไม่ทันได้เข้าประตูไปพูดอะไร องค์ชายสามกลับพูดขึ้นมาเองก่อนแล้ว

องค์ชายสามคนนี้ คิดจะทำอะไรอีก?

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเรากลับไปดีกว่า” ซ่านเชียนหยวนพูดขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึม

ฉีหรัวไม่เข้าใจ “เจ้าเชื่อคำพูดขององค์ชายสามหรือ?”

“ไม่เชื่อ แต่ไม่มีประโยชน์อะไรที่ท่านพี่สามจะทำให้น้องหกต้องตาย” ซ่านเชียนหยวน ส่ายหัวกับเรื่องนี้อย่างหนักใจ คนเราทำอะไรก็ล้วนต้องมีเป้าหมาย อย่างแรกน้องหกไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยต่อตำแหน่งของท่านพี่สาม อย่างที่สองก็ไม่ได้เป็นการแย่งคนรัก ไม่มีความขัดแย้งกัน แล้วจะทำเรื่องเช่นนี้ทำไม

ยิ่งไปกว่านั้น การที่ส่งเยว่มาดักรถม้า ก็ยิ่งเหมือนการเตือนมากกว่า

หลังจากที่พาคนกลับไปแล้ว กู้อ้าวเวยก็ได้อ้วกเอาเลือดคั่งออกมาจนหมด แล้วก็นอนหลับไป ซ่านจินจื๋อเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่แล้วก็นั่งอยู่ข้างเตียง จับมือที่เย็นของนางวางไว้ในอุ้งมือแล้วก็นวดไปมา ได้ยินเสียงของซ่านเชียนหยวนกับฉีหรัว เขาก็แค่พูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ไม่ว่าเขาจะต้องการอะไร ตอนนี้สิ่งที่เสด็จพี่กระทำเป็นสิ่งที่ไม่สมควรแล้ว เจ้าไปจัดการเรื่องของขุนนางทูตให้ดีเถอะ”

ซ่านเชียนหยวนทำได้เพียงถอนหายใจหนึ่งที มองดูกู้อ้าวเวยที่นอนอยู่บนเตียง แล้วพูดว่า “เจ้าไม่รู้ ตอนนี้กู้เฉิงยังอยู่ในมือของข้า คิดอยากตายหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่เป็นผล หากขุนนางทูตเอ่อตานยังคิดที่จะมาหาเรื่อง เก่งว่าข้าคงต้องปล่อยกู้เฉิงไป…..”

“เขียนจดหมายไปถาม” ซ่านจินจื๋อกวาดสายตามองดูเขา

ซ่านเชียนหยวนรีบถอยหลังไปอย่างระมัดระวัง แล้วก็เพิ่งคิดได้ว่าซ่านจินจื๋อไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้กู้อ้าวเวยฟัง และตอนนี้ความหมายของกู้อ้าวเวยคือยกกู้เฉิงให้หยุนหว่านจัดการ เขาพูดจาผิดไปแล้วจริงๆ

มองดูผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงยังไม่ตื่นอย่างระมัดระวัง เขาจึงยกมือขึ้นประสานอย่างรู้สึกผิดแล้วพูดว่า “จะไม่มีครั้งหน้าอีก”

พูดเสร็จแล้วก็รีบจากไป ฉีหรัวเอากล่องไม้อันเล็กวางไว้ข้างมือของซ่านจินจื๋อ ข้างในมีตั๋วเงินอยู่ไม่น้อย “ถือว่าข้าอวยพรให้พวกเจ้าทั้งสองมีความสุข ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นหรือตาย”

มองดูตั๋วเงินมากมายภายในกล่องนั้น ซ่านจินจื๋อมองสบตาฉีหรัว แล้วก็มองเห็นสายตาที่ค่อนข้างตื่นเต้นของตรงข้าม

เหมือนกับขององค์ชายหกในวันนี้

บางทีวันต่อไปอาจจะเป็นการตายของพวกเขา

“ขอบใจ” ซ่านจินจื๋อเอากล่องนั้นวางไว้ข้างหมอนกู้อ้าวเวย

ฉีหรัวโบกมือแล้วจากไป ตัดสินใจกลับจวนไปกับซ่านเชียนหยวน

ด้านนอกประตูจางเหยียงซานกำลังพาท่านเห้อมาอย่างรีบร้อน เพื่อตัวดูอาการกู้อ้าวเวยอย่างละเอียด มองดูผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงค่อนข้างผอมลง เห้อจิ้นหล่างยิ่งดูไม่ชอบหน้าซ่านจินจื๋อขึ้นมาทันที หันไปลากตัวจางเหยียงซานออกไปด้านนอกประตูแล้วพูดว่า “ก่อนหน้านี้ที่นางมองไม่เห็นได้เคยฝังเข็ม คงอาจจะส่งผลกระทบ เดี๋ยวเจ้าไปฝังเข็มตามที่ข้าสอน”

จางเหยียงซานยังอยู่สักพัก ยิ่งคิดไม่ถึงว่ากู้อ้าวเวยอาศัยพวกเขาที่เป็นนักรบผลักดันเส้นลมปราณเริ่นและเส้นลมปราณตู อาศัยการฟังเปลี่ยนตำแหน่งการฝังเข็ม บังคับขับเคลื่อน ผลักดันให้อวัยวะในร่างกายทำงาน จนทำให้สามารถได้ยินและมองเห็น เป็นการกระทำที่ค่อนข้างอันตราย

ซ่านจินจื๋อที่อยู่ในห้องได้ยินอย่างชัดเจน แล้วก็คิดถึงกู้อ้าวเวยเคยอยู่ในห้องหนังสือของเขาระยะหนึ่ง และหนังสือทั่วไปพวกนั้นก็อ่านแล้วไม่น้อย หลังจากนั้นก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ

จนถึงกลางดึก กู้อ้าวเวยค่อยๆฟื้นขึ้นมา ม่านตาสีเหลืองอำพันคู่นั้นดูจางลงเมื่อตื่นขึ้นมา มองดูใบหน้าที่ฉายแววเป็นกังวลของซ่านจินจื๋อ กะพริบตาเล็กน้อย กำลังจะเคลื่อนไหวมือเท้ากลับถูกผู้ชายกดไว้ แล้วพูดว่า “ไปเอาของกินมาหน่อย”

คำพูดนี้เหมือนเป็นการสั่งพวกองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ด้านนอกประตู

กู้อ้าวเวยจับฝ่ามือที่อบอุ่นของเขาไว้ แล้วถามว่า “แค่ระงับอารมณ์ไม่ได้แค่นั้นเอง จึงทำให้อ้วกออกมาเป็นเลือด ไม่ได้เป็นอะไรมาก”

“ข้ารู้” น้ำเสียงซ่านจินจื๋อแหบแห้ง จับมือกู้อ้าวเวยไว้แน่นยิ่งขึ้น

หลังจากนั้นก็เงียบสงบอยู่เนิ่นนาน คนใช้เอาอาหารน่ารับประทานมาส่งให้ถึงที่ประตู ซ่านจินจื๋อยังอยากที่จะเปิดประตูออก กลับถูกกู้อ้าวเวยจับมือไว้แน่น น้ำเสียงใสๆของนางนั้นก็ดังเข้าหูให้ได้ยินว่า “พวกเราจะรออยู่เฉยๆอย่างนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว”

“ข้ารู้” ซ่านจินจื๋อกลับมานั่งลงข้างเตียง

“งั้นก็ให้ข้าเข้าวังไปสักครั้ง ยู่จุนกับหยูนซียังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว แค่รู้เรื่องนี้ ก็จะรู้ว่าเป็นความทะเยอทะยานของฮ่องเต้ หรือเป็นเพราะความรักครั้งเก่า” กู้อ้าวเวยปล่อยมือของเขาแล้วก็ลุกขึ้นมาจากเตียง อาศัยแสงสว่างจากฟ้าผ่าส่องให้เห็นใบหน้าขาวซีดใบนั้น “ข้ากลับกลัวว่าเจ้าจะไม่ยอมวางมือ”

“หากข้าไม่วางมือ แล้วจะแตกต่างอะไรกับพวกเขา?” ซ่านจินจื๋อกลับหัวเราะขึ้นมา นิ้วมือสัมผัสสายเชือกสีแดงตรงข้อมือของนาง แล้วก็พูดขึ้นอย่างโศกเศร้าว่า “คนบนโลกต่างก็คิดว่าข้าเป็นคนเอาแต่ใจ กลับไม่รู้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเอาแต่ใจมากกว่าข้าหลายเท่า”

ฟังคำพูดของซ่านจินจื๋อแล้ว กู้อ้าวเวยก็หัวเราะขึ้นมา

ตั้งแต่โบราณมาผู้ชายเป็นเหมือนดั่งฟ้า ผู้หญิงเป็นเหมือนดั่งดิน ผู้ชายเห็นใจยินยอมผู้หญิงดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่สมควร

แต่ซ่านจินจื๋อกลับเป็นผู้ชายที่เอาแต่ใจมาแต่แรก แล้วกลายมาเป็นแบบนี้ จ้องมองดูนางภายใต้ความมืด แล้วพูดว่า “ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย เจ้าอยากจะไปทำอะไร ก็ไปทำเถอะ”

“แล้วเจ้าล่ะ?”

“ข้าจะทำอะไร ไม่มีใครห้ามได้อยู่แล้ว”

ภายใต้ความมืด เงาร่างของทั้งสองคนพัวพันกันอยู่มุมหนึ่ง บ่าวใช้ที่อยู่ด้านนอกประตูรออยู่เนิ่นนาน แล้วเสียงฟ้าร้องที่ดังอยู่ข้างหูก็ค่อนข้างดังขึ้น

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท