บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 996

ตอนที่ 996

บทที่ 996 ตอบแทนคืนหนึ่งครั้ง

ถูกขังอยู่ภายในวังเย็นรกร้าง เงยหน้ามองดูท้องฟ้ารอบๆด้วยสายตาเฉียบคม

ฮองไทเฮานั่งอยู่ภายในตำหนักเงียบเหงานี้คนเดียว คิดถึงตอนนั้นตอนที่นางยังเป็นพระสนมแล้วถูกใส่ร้าย แล้วเคยได้มาอยู่ที่นี่หลายครั้ง แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้น นางมองดูทหารองครักษ์ทั้งยี่สิบคนที่อยู่ในลานด้านนอก

นางไม่คิดเลยว่า ตอนเองจะพ่ายแพ้อยู่ในมือลูกชายของตัวเอง

“ข้าทำเพื่อฮ่องเต้ทุกอย่าง ต่อให้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ก็เลี้ยงดูเขาจนได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์….”

น้ำเสียงฮองไทเฮาเยือกเย็น คิดเพียงว่ายังหาตัวยู่จือไม่เจอ ฮ่องเต้ถึงยังไว้ชีวิตนาง

กำลังคิดอยู่อย่างเพลินๆ ประตูวังเย็นก็ถูกเปิดออก

ชุดคลุมลายหงส์กว้างนั้นปรากฏตรงหน้า เส้นด้ายทองถักทอประดับตรงชายเสื้อ ท่าทีสง่าสูงส่ง สมกับเป็นแม่ของแผ่นดิน แต่คนตระกูลตงฟางหน้าตางดงาม ตอนนี้ไม่แต่งหน้าแต่สวมด้วยชุดคลุมลายหงส์หรูหรา ทำให้ดูไม่เข้ากัน

ผู้หญิงสองคนที่มีอำนาจที่สุดในตอนนี้ ตอนนี้มาเจอหน้ากันทั้งคู่กลับหัวเราะ

สายตาฮองไทเฮาหรี่ลง หัวเราะเสียงดังหลายที แล้วพูดว่า “ข้ายุ่งกับเรื่องในวังหลังน้อยมาก ตอนนี้ก็คิดไม่ถึงว่าจะถูกเด็กคนหนึ่งหัวเราะเย้ย”

ตงฟางฮองเฮาเดินมาข้างมาอย่างไม่เกรงกลัว ถวายความเคารพอย่างเรียบร้อย สีหน้าขาวซีดไม่มีเลือดฝาดเลยสักนิด เพิ่งได้สวมชุดหงส์ยังไม่นาน ตอนนี้กลับดูย่ำแย่มาก

“เสด็จแม่ วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่จะได้มาเยี่ยมท่านแล้ว” น้ำเสียงตงฟางฮองเฮาเบาอ่อนโยน

ฮองไทเฮามองดูนาง แล้วก็จำหญิงงามอมยิ้มในตอนนั้นได้ อาศัยดูแลวังหลังจนมาถึงตำแหน่งในทุกวันนี้ คนอื่นมักมองดูตอนที่นางเป็นฮุยเฟยแล้วเป็นที่โปรดปรานยังไง มีเพียงคนเก่าในพระราชวังที่รู้ว่า ลูกชายลูกสาวทั้งคู่ของนางไม่ใช่ลูกแท้ๆ เป็นลูกที่ฮ่องเต้ไปมั่วกับคนอื่นมา

นางกลับรักและดูแลเป็นอย่างดี ประคบประหงมดั่งแก้วตาดวงใจ

ตอนนี้ได้เป็นฮองเฮาแล้ว แต่ฮ่องเต้ก็เห็นแก่อำนาจตระกูลตงฟางที่คอยหนุนหลังนางอยู่เท่านั้น

“หากเจ้าไม่ได้เกิดอยู่ในตระกูลที่ดี ก็จะไม่เป็นเช่นนี้” ฮองไทเฮาโบกมือมองดูนางอย่างขมขื่น

ตงฟางฮองเฮานั่งลง เอาสายเชือกธรรมดาวางบนมือนางอย่างไม่ได้ตั้งใจ พร้อมยิ้มพูดว่า “ชะตาชีวิตเป็นเช่นนี่”

พูดเสร็จ นางก้มหัวคำนับฮองไทเฮาสามครั้ง แล้วก็เดินจากไป

รอเมื่อดึกดื่นค่ำเงียบสงบ วังเย็นมีเสียงดิ้นรนดังขึ้น สุดท้ายรถขนน้ำคันหนึ่งก็เดินทางออกไปจากวัง

แสงไฟในตำหนักฮองเฮายังสว่างอยู่ นางเอนพิงอยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟยอย่างเกียจคร้าน ไม่ใช่คนที่คอยถามว่าคืนนี้ฮองเต้ไปตำหนักไหน พูดขึ้นเพียงว่า “ทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว…แต่ฮองเฮาเหนียงเหนียง หากฮ่องเต้รู้เรื่อง….”

“ชีวิตของข้านี้ ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว” ตงฟางฮองเฮาวางหัวลง แล้วก็นอนหลับไป

……

ซ่านจินจื๋อถูกปฏิเสธให้อยู่ด้านนอกพระราชวัง คืนวันที่สองแล้วก็ยังนอนไม่หลับ

ตงฟางซวนเอ๋อที่ไม่ได้เจอมานานยืนอยู่ด้านหลังเขาไม่ไกล กำหมัดแน่นจนเลือดไหล เอ่ยปากพูดขึ้นว่า “เสด็จป้านาง…”

“ชีวิตของนาง ไม่ว่ายังไงก็จะมีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้ว” น้ำเสียงซ่านจินจื๋อแหบแห้ง

ตอนนั้นนางสมรู้ร่วมคิดกับฮองเฮาองค์ก่อน ตอนนี้จะต้องไม่ยอมปล่อยฮองเฮาคนใหม่คนนี้ไปแน่ เขาคิดถึงหวางกงกงที่เป็นไส้ศึกถูกเปิดเผยแล้ว ฮ่องเต้ไม่เชื่อถืออีกแล้ว แต่ก็ยังสามารถติดต่อกับฮองเฮาได้

เสด็จพี่ เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?

วังที่กว้างใหญ่ในตอนนี้กลายเป็นสถานที่ที่ไปมาได้ตามใจ เขาไม่สนใจสถานการณ์ในตำหนักอื่น และก็ไม่สนใจคนสนิทที่หักหลัง แม้แต่คนข้างหมอนก็วางไว้ที่ที่อันตรายที่สุด

“ท่านอ๋องจิ้งรู้จักคำว่ารักอย่างลึกซึ้งได้อย่างไร” ตงฟางซวนเอ๋อเดินตรงเข้ามา พูดด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “เสด็จป้าของข้าแม้จะกลับบ้านไปหลายวัน ก็คิดถึงแต่ฮ่องเต้ เห็นลูกที่เขาไปมั่วเกิดกับคนอื่นเป็นเหมือนลูกในไส้ ตอนนี้เจ้ากลับให้เสด็จป้าไป….”

“รักอย่างลึกซึ้งผิดคน แล้วยังไง?” ซ่านจินจื่อหันหน้าไปด้วยคิ้วขมวด

ตอนนี้ตามที่เขาเห็น ความทรงจำที่มีกับซูพ่านเอ๋อในตอนนั้นกลายเป็นความเจ็บปวดที่ไม่มีวันหาย

ตอนนั้นนึกว่ารักมากแค่ไหน จริงใจแค่ไหน หลังจากนั้นก็จะยิ่งเจ็บปวด

เขาจ้องมองตงฟางซวนเอ๋อ มองดูอายุของเด็กคนนี้เท่ากับตอนที่กู้อ้าวเวยแกล้งตายในตอนนั้น จึงผ่อนเสียงลงพูดขึ้นว่า “ไม่รู้จักรักที่ลึกซึ้ง ก็ไปให้เสด็จป้าของเจ้าสอน”

ตอนนี้ตงฟางซวนเอ๋อยิ่งเกลียดท่าทีแบบนี้ของท่านอ๋องจิ้ง

ตอนนั้นคิดเพียงว่าเขามีความเด็ดขาดแค่ไหน ศิลปะการต่อสู้ล้ำเลิศ ไม่เคยคิดว่าเขาก็มีด้านมืดของชีวิต ยิ่งรู้จักแยกแยะผลประโยชน์ ยอมแพ้ง่ายๆกับสิ่งที่คนอื่นไม่เต็มใจที่จะปล่อยไป ทำให้ดูเหมือนคนแล้งน้ำใจ

“แม้แต่คนที่รักที่สุดก็ยอมปล่อยเขาไปเสี่ยง ข้าช่างตาบอดไปแล้วจริงๆ” ตงฟางซวนเอ๋อนั่งลงด้วยดวงตาแดงก่ำอย่างโกรธเคือง ยังไงก็ลืมไม่ลงเรื่องที่หลายวันก่อนที่อ๋องจิ้งกดดันตระกูลตงฟางของพวกนาง

ซ่านจินจื๋อไม่เถียงกับนาง รอเพียงข่าวภายใต้เม็ดฝนที่ตกหนัก

คนอื่นต่างก็พูดว่าความรักที่ลึกซึ้งคือการปล่อยวางทุกอย่างเพื่อคนรัก แต่กู้อ้าวเวยกลับมักมองเพียงตาของเขา พูดกับเขาทีละคำทีละประโยค

คนที่ข้ารักคือเจ้า ไม่ใช่คนที่รักข้าคนนั้น

ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก้ำกึ่งระหว่างมิตรภาพกับศัตรู เป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกัน กู้อ้าวเวยกำลังท้องอยู่แต่ก็ไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นตัวถ่วง เขาเป็นห่วงเป็นใยนางทุกอย่างแต่ก็ไม่ยอมที่จะขังนางไว้ในกรงทองด้วยตัวเอง

ภายใต้ม่านฝนก็ขาดจากกัน ฮองไทเฮาถูกห่อด้วยชุดคลุมสีดำไว้แน่นแล้วส่งไปที่จวน

ตงฟางซวนเอ๋อกัดฟันไม่กล้าเข้าใกล้ มีเพียงซ่านจินจื๋อประคองเสด็จแม่ขึ้นมาอย่างช้าๆด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ฮองไทเฮายังไม่ทันยืนมั่นคง ก็ยกมือตบหน้าซ่านจินจื๋อไปหนึ่งที ตบดั่งสนั่นภายใต้ความเงียบ จนแทบไม่กล้าหายใจ

ซ่านจินจื๋อโดนตบจนหน้าหงาย หันหน้ากลับมามองดูเสด็จแม่อย่างเฉยเมย

ฮองไทเฮาไม่มีความสง่างามเหมือนดั่งในอดีตแล้ว ตอนนี้แม้แต่จะออกจากวังก็ต้องระมัดระวังขนาดนี้ ชุดคลุมยาวสีเทาที่เปื้อนไปด้วยเลือดถูกน้ำดินโคลนสาดโดนจนสกปรกมอมแมม ดวงตาคู่นั้นยิ่งแดงก่ำ แขนสั่นเทาอย่างไม่หยุด

“ตอนนี้เสด็จแม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ก็สมควรแล้ว” ซ่านจินจื๋อมองดูด้วยสีหน้าเย็นชา เขายกมือเอาฮองไทเฮาให้กับเฉิงซาน พูดสั่งด้วยเสียงต่ำว่า “ดูแลให้ดี”

“จินจื๋อ เจ้าเป็นลูกแท้ๆเพียงคนเดียวของข้า” ฮองไทเฮามองดูลูกแท้ๆเพียงคนเดียวของตนเองอย่างไม่อยากเชื่อ

“ไม่เพียงแค่นี้ ข้าไม่เพียงเป็นลูกของท่าน ข้ายังเป็นน้องของเสด็จพี่ด้วย” ซ่านจินจื๋อส่ายหัว ยกมือเอามือทั้งคู่ที่เย็นเฉียบของฮองไทเฮาวางบนฝ่ามือ ระงับอารมณ์โกรธภายในใจไว้ แล้วก็คิดถึงคำพูดทุกคนของกู้อ้าวเวยในตอนนั้น แล้วก็พูดกับนางทุกคำทุกประโยคว่า “วังหลังสงบสุข เท่ากับว่าท่านฮองไทเฮากับฮองเฮาดูแลได้เป็นอย่างดี แคว้นชางหลานแข็งแกร่ง ถือเป็นผลงานของเสด็จพี่ พวกเราสามคนแม่ลูก ไม่เคยทำเสียชื่อเสียงราชวงศ์ตระกูลซ่าน”

พูดถึงตรงนี้ ซ่านจินจื๋อระงับคำสั่งสอนอยู่ในลำคออย่างเงียบๆ น้ำเสียงยิ่งต่ำลง

“ต่อให้เป็นเช่นนี้ เจ้ากับเสด็จพี่ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องตาย ก็ควรที่จะชดใช้ด้วยตัวเอง”

เมื่อพูดถึงคำสุดท้าย สีหน้าซ่านจินจื๋อดำทมิทจนสามารถเห็นมีน้ำไหลออกมา อ๋องจิ้งที่ปกติฮึกเหิม ตอนนี้กลับเพียงค่อยๆยืดหลังตรง มองดูเฉิงซานพาฮองไทเฮาไปจากที่นี้ พร้อมสายฝนด้านนอกหน้าต่าง

กู้อ้าวเวยที่ยังคงเคร่งเครียดกับการขีดเขียนอยู่ในพระราชวัง ก็หยุดลง

สายเชือกสีแดงภายในแขนเสื้อเส้นนั้นก็เผยออกมาให้เห็น นางนวดขมับที่เจ็บปวดพร้อมมองดูด้านนอกหน้าต่าง แล้วก็หัวเราะ

เจ้ากำลังคิดถึงข้าไหม?

ซ่านจินจื๋อยืนอยู่ตรงหน้าต่างเนิ่นนาน

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท