บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 995

ตอนที่ 995

บทที่ 995 หลงรักทั้งชีวิต

จิตใจแจ่มใส กลับไม่มีร่องรอยใดๆบนใบหน้า

กู้อ้าวเวยไม่รู้ว่าตัวเองทำแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วก็คิดขึ้นมาได้ในเดือนนั้นที่ตนเองปิดบังพวกเขาเรื่องที่ตัวเองคิดได้ ตอนนี้ความตกใจบนใบหน้ายังไม่จางหาย นางถูกทหารอารักษ์ขวางอยู่ตรงในตำหนัก ผ้าม่านบางที่มัดอยู่ระหว่างเอวตกลงข้างเท้า

“ท่านแม่กับหยูนซีสนิทสนมกัน แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้?” กู้อ้าวเวยกัดฟันพูดประโยคนี้ออกมา

“หากเจ้าปล่อยให้นางตายไปต่อหน้าต่อตา แล้วจะเอาหน้าที่ไหนไปสู่หน้าแม่ของเจ้าที่มาเพื่อขอคนคนนี้จากแดนไกล” ซ่านต้วนโฉงยืนอยู่ใต้ชายคา สายตาที่มองดูผู้หญิงที่ตากฝนอยู่คนนั้นไม่มีความสงสารเลยสักนิด

กู้อ้าวเวยไม่รู้ว่าท่านแม่มาเมืองเทียนเหยียนเพื่อขอคน และก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างหยุนหว่านหยูนซีในตอนนั้นเป็นยังไง

ในหูได้ยินเสียงฝนตกดังสนั่น กู้อ้าวเวยสงบสติแล้วก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว หัวเราะพูดขึ้นว่า “หากข้าไม่ยอมพูด ฮ่องเต้ก็จะปล่อยให้นางตายหรือ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว” สายตาซ่านต้วนโฉงเย็นชา “ขังนางไว้ตั้งหลายปี ก็เพื่อวันนี้”

“งั้นเวยเอ๋อควรที่จะถามหนึ่งประโยค” กู้อ้าวเวยหันไปมองซ่านต้วนโฉง แล้วพูดต่อว่า “ท่านต้องการทำเพื่อตายแล้วฟื้น หรือเพื่อมีอายุวัฒนะ?”

“ต้องการทั้งสองอย่าง” ซ่านต้วนโฉงพูดขึ้นด้วยเสียงเข้ม

เช่นนี้ กลับทำให้ไม่รู้ว่าในใจซ่านต้วนโฉงคิดอย่างไรกันแน่

แต่ตอนนี้อยู่ในวังแล้ว ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ นางจึงพูดขึ้นอย่างเฉยเมยว่า “บนโลกนี้จะมียาอายุวัฒนะที่ไหนกัน มีแต่อาการผู้ป่วยที่แตกต่างกัน”

มีน้ำนองในดวงตาสีเหลืองอำพัน

ทั้งสองมองตากันอยู่เนิ่นนาน ต่างคนต่างก็ไม่ยอมกัน สุดท้ายซ่านต้วนโฉงก็สะบัดแขนเสื้อ แล้วก็พูดว่า “ตามข้ามา”

บนหัวซ่านต้วนโฉงกางไว้ด้วยร่มกระดาษ กู้อ้าวเวยเดินตามไปท่ามกลางสายฝน ขาทั้งสองข้างเจ็บปวดอย่างมาก กลับคิดไม่ถึงว่าจะมีร่มขันหนึ่งกางอยู่บนหัว หันไปมอง ก็เห็นเป็นซางนิงยืนอยู่ด้านข้าง แล้วพูดว่า “พระองค์”

ซ่านต้วนโฉงมองเมินหนึ่งที แล้วก็ไม่พูดอะไร

ซางนิงจงรักภักดีต่อพี่น้องทั้งสอง กับกู้อ้าวเวยจึงค่อนข้างดูแลเป็นพิเศษ

มีเพียงกู้อ้าวเวยที่มองดูซางนิง ในใจซาบซึ้ง ยิ้มพูดขึ้นว่า “หากไม่มีเขา วันนี้ข้าคงไม่เหลือแม้กระดูก”

อึ้งไปสักพัก แล้วซางนิงค่อยเข้าใจความหมายของประโยคนี้

ระหว่างทาง ซ่านต้วนโฉงหาเหตุผลให้หวางกงกงจากไป ขันทีนางกำนัลด้านหลังก็ค่อยๆลับหายไป แล้วก็ได้ยินซ่านต้วนโฉงถามขึ้นว่า “เขาทำร้ายเจ้าทำให้เจ้าเจ็บปวด ปกป้องเจ้าไม่ได้ แล้วทำไมเจ้ายังจะอยู่เคียงข้างกายเขา?”

“ฮองไทเฮาทำร้ายหยูนซีใส่ร้ายยู่จุน ตอนนี้กักขังยู่จือผู้เป็นน้องสาว เจ้ารู้ได้อย่างไรว่านางจะต้องเกลียดเจ้า?” กู้อ้าวเวยถามกลับ นางมองเห็นพระตำหนักที่รอบๆเงียบสงบถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง และพระตำหนักด้านหลังนี้กลับดูสะอาดสะอ้าน เหยียบขึ้นไปบนระเบียงทางเดิน ยังสามารถมองเห็นความสุขที่หาได้ยากในพระราชวัง

บนระเบียงแขวนไว้ด้วยริบบิ้นสีแดงและโคมไฟมังกร ที่สะอาดสะอ้าน

“เจ้าแล้งน้ำใจกว่าพวกเขามาก” น้ำเสียงของซ่านต้วนโฉงฟังดูอ่อนโยนขึ้นมาก พากู้อ้าวเวยเดินเข้าไปภายในตำหนัก

น้ำค้างแข็งไม่จางหายตลอดทั้งปี ใบหน้าของสตรีที่อยู่ในโลงน้ำแข็งถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็ง แต่ร่างกายยังคงสมบูรณ์ทุกอย่าง บนใบหน้านั้นสะอาดไม่มีริ้วรอย หลับตาสนิท หากดูอย่างละเอียด ก็จะเห็นว่ารูปร่างหน้าตาของนางคล้ายยู่จือ ร่างกายสวมสีขาว แต่ตรงเอวสวมเข็มขัดสีแดงสด

ซ่านต้วนโฉงเดินไปที่ด้านข้างของโลงน้ำแข็งอย่างระมัดระวัง ปลายนิ้วปัดน้ำแข็งซ้ำแล้วซ้ำเล่า

กู้อ้าวเวยค่อยๆเดินไปใกล้ มีนางกำนัลเข้ามาเช็ดหยดน้ำบนร่างกายของนาง กลับไม่ใช่นาง

กลัวว่าหยดน้ำเหล่านั้นจะตกลงบนโลงศพน้ำแข็ง หลังจากเช็ดทำความสะอาดแล้วค่อยให้นางเข้าใกล้โลงศพน้ำแข็ง มองผู้หญิงในโลงน้ำแข็ง มองผ่านๆจะไม่เห็นว่ามีอะไร แต่นิ้วมือของนางยังแตะไม่โดน ซ่านต้วนโฉงก็พูดขึ้นว่า “ตอนนั้นข้ารักนางมาก จึงทำให้นางตกอยู่ในสภาพแบบนี้”

มือหยุดค้างอยู่ในอากาศ กู้อ้าวเวยไม่ได้ปล่อยมือลง พูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “คำทำนายภัยพิบัติจากฟ้า ฮ่องเต้รู้ได้อย่างไร?”

“แค่ผู้หญิงคนเดียวก็ช่วยชีวิตกลับมาไม่ได้ ทำไมจะต้องเชื่อว่ามีภัยพิบัติจากฟ้านั่นจริง” ซ่านต้วนโฉงดูเหมือนจะเย้ยหยันเรื่องนี้

ครั้งนี้ กู้อ้าวเวยวางมือลงแล้วจริงๆ แล้วก็ถอยหลังหนึ่งก้าว

ซ่านต้วนโฉงมองดูนางอย่างไม่เข้าใจ กำลังแปลกใจว่าทำไมนางไม่ช่วยรักษายู่จุน

แต่กู้อ้าวเวยกลับส่ายหัวพร้อมพูดว่า “นางถูกเก็บไว้เป็นเวลานาน หากยังไม่มีวิธีที่มั่นใจ ข้ายังไม่อยากเปิดโลงนี้”

“เจ้าถ่วงเวลาหนึ่งวัน ข้าจะเอาคืนมาจากจินจื๋อ” สายตาซ่านต้วนโฉงโหดเหี้ยม

“ความร้อนใจของฮ่องเต้ จะเป็นการแลกกับชีวิตของยู่จุน” กู้อ้าวเวยเงยหน้ามองดูเขา หันตัวไปกลับถูกซางนิงยื่นมือมาขวางทางไว้ นางจึงพูดขึ้นว่า “เตรียมปากกาหมึกกระดาษและหินหมึกให้ข้าที่ห้องโถงด้านนอก โต๊ะพร้อมยาสมุนไพร และอุปกรณ์ต่างๆที่ครบถ้วน”

สายตาซางนิงมองผ่านกู้อ้าวเวย ต้องการคำตอบจากซ่านต้วนโฉง

“เจ้ามีวิธีจริงๆหรือ?” ซ่านต้วนโฉงตกตะลึง

“จะลองทำให้ดีที่สุด” กู้อ้าวเวยยกมือผลักซางนิง ทั้งตัวเปียกโชกไปด้วยเลือด ทำให้นางรู้สึกอึดอัดมาก

ซ่านต้วนโฉงยกมือ พวกขันทีนางกำนัลต่างก็รีบไปเตรียมของให้นาง

ที่นอนรวมทั้งเสื้อผ้า นางกำนัลจัดเตรียมให้อย่างครบถ้วน ห้องโถงด้านนอกที่ว่างเปล่ากลายเป็นที่อยู่อาศัยของนาง มีสายตาจ้องมองอยู่รอบๆ คอยดูทุกการเคลื่อนไหวของนาง

เดิมซ่านต้วนโฉงอยากที่จะดูความสามารถของนางด้วยตัวเอง แต่เรื่องขององค์ชายหก พวกขุนนางแทบจะเหยียบประตูธรณีพัง เขาจึงจำต้องไปยังห้องพระอักษร แล้วสั่งคนเฝ้าที่นี่ไว้

ซ่านจินจื๋อขอเข้าเฝ้าแล้วก็ถูกปฏิเสธอยู่นับครั้งไม่ถ้วน ฮองไทเฮาไม่ออกจากตำหนักด้วยเหตุผลว่าร่างกายไม่สบาย ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ในความเงียบสงบเช่นนี้ ซ่านต้วนโฉงกลับมายังตำหนักที่เงียบเหงาโศกเศร้านี้อย่างเหน็ดเหนื่อย

แสงไฟยังคงส่องสว่าง

เตียงและโต๊ะทำงานของกู้อ้าวเวยอยู่ตรงกลางห้องโถง โต๊ะยาวด้านข้างเต็มไปด้วยยาสมุนไพรต่างๆ มีทั้งล้ำค่าราคาแพง ธรรมดาเห็นได้ตามทั่วไป ขันทีบอกว่า ยาในโรงหมอถูกกวาดมาหมดแล้ว นางบดยาเป็นผง มือข้างหนึ่งเดินไปมาในกระดาษม้วน แม้แต่ฮ่องเต้เข้ามา ทุกคนถวายความเคารพ นางก็ไม่เงยหน้าขึ้นมา

“ต้นฉบับของนางเป็นอย่างไร?” ซ่านต้วนโฉงถาม

นางกำนัลด้านข้างรีบเอาต้นฉบับที่ยุ่งเหยิงมา บนนั้นมีเพียงรูปไม่มีตัวหนังสือ ยุ่งเหยิงอย่างมาก

“ต้นฉบับนี้ได้เคยเอาไปให้หมอหลวงดูแล้ว พวกหมอหลวงพูดเพียงว่าให้ยามากเกินไป ยังมีตัวยาหลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยได้ยิน” นางกำนัลพูดขึ้นด้วยเสียงเบา แล้วก็ยื่นสิ่งของให้

ซ่านต้วนโฉงดูสิ่งยุ่งเหยิงพวกนี้ไม่ออก สักพักก็ได้ยินกู้อ้าวเวยพูดขึ้นว่า “เหยียงซาน เอาขวดเซรามิกขวดที่สองออกมา เอายาทางด้านขวามือมาบดอีกครั้ง แล้วนำไปต้มสองชั่วโมง”

นางกำนัลที่ถูกขานชื่อผิดก็ไม่โกรธ เดินมาหยิบของอย่างเชื่องช้าแล้วก็ไปทำตามคำสั่ง

มองดูกู้อ้าวเวยที่กำลังยุ่งอยู่ ในใจซ่านต้วนโฉงดูเหมือนจะมีความหวังขึ้นมาใหม่

เขาค่อยๆเดินอ้อมด้านหน้าตำหนัก ไปยังด้านหน้าโลงน้ำแข็งที่อยู่ด้านหลัง มองดูยู่จุนอย่างใจจดใจจ่อ กระซิบพูดพำพึมเองว่า “รอเมื่อเจ้าฟื้นขึ้นมา ข้าจะชดใช้ให้เจ้าทุกอย่าง”

“แผ่นดินนี้ ข้าก็ไม่เอาแล้ว” ก้มตัวลงจูบโลงศพน้ำแข็ง

ตลอดทั้งคืน แสงเทียนในวังยังไม่ดับ ฮ่องเต้ก็ไม่กลับมา

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท