บทที่ 1007 เลื่อนงานแต่งเร็วขึ้น
“งานแต่งของข้าไม่ใช่เรื่องเล่นของใคร!”
ซ่านเชียนหยวนได้ยินดังนั้น ก็ตบโต๊ะลุกขึ้น
เรื่องวางยาพิษครั้งก่อน ฉีหรัวก็จะจัดการหลายวัน ไม่หลับไม่นอน คนที่เข้ามาค้นร่องรอย ก็ไม่พบอะไรเลย ช่วงนี้ก็เลยต้องเอาเข็มเงินของจางเหยียงซานมาตรวจของที่เหลือ ส่วนเขาก็วุ่นวายกับคณะราชทูต ยังไม่มีหนังสือมาจากแคว้นเอ่อตาน เขาไม่อาจให้กู้อ้าวเวยไปรับมีดแทน
หวางกงกงที่มาจากวังหลวงก็กลัวจนเก็บอาการ ต่างก็รู้ว่าช่วงนี้ไม่ควรไปยุ่งกับอ๋องจงผิง แล้วพูดเสียงเบาๆ ว่า “งานแต่งเลื่อนเข้ามา ทำอะไรไม่ได้ ขอให้ท่านอ๋องจงผิงคิดเพื่อส่วนรวมด้วย”
พูดออกไปเช่นนั้น หวางกงกงก็พาคนที่เหลือรีบนั่งคุกเข่าลง ขออ๋องจงผิงอย่าได้ก่อเรื่องเลย
แต่กลับไปได้ยินเสียงมาที่ข้างหู แล้วก็มีเลือดไหลออกมาจากหู ส่วนพู่กันที่หักออก ก็ปักลงไปที่พรม ทำให้เขาตกใจตนตัวแข็งทื่อ ไม่ขยับตัว
ซ่านเชียนหยวนเอามือเท้าโต๊ะ แล้วเงยหน้าขึ้น “ก่อนหน้านี้ ท่านพ่อเลื่อนออกไปเรื่อย ตอนนี้มาบอกว่าจะเลื่อนเข้ามา เห็นข้าผู้เป็นลูกคนนี้ เป็นหมากตัวหนึ่งหรืออย่างไร!”
คำพูดที่ร้ายแรงเช่นนี้ทำให้คนรอบข้างตกใจต้องนั่งคุกเข่าลง โย่วหลีก็ขนลุก แต่ก็อยากจะเข้าไปห้าม
แต่ก็ได้ยินเสียงมาทางประตู
“พูดไม่คิด ระวังอันตรายจะเข้าตัว” คนที่เข้ามาใส่ชุดสีชมพู แต่งหน้าสวยงาม ถือกระโปรงข้ามประตูเข้ามา แล้วก็มองขวางมาที่หวางกงกง แล้วก็เดินมาทางโต๊ะแล้วมองขวางซ่านเชียนหยวน
ซ่านเชียนหยวนอายจนโกรธ พอเห็นสายตาของฉีหรัวเหมือนจะโกรธ ทั้งโกรธ ทั้งทนไม่ไหว พร้อมกับนั่งลง แก้วเปล่าด้านข้างก็ถูกปัดจนตกพื้น
ถอนหายใจลึกๆ ฉีหรัวก็หันไปมองหวางกงกง “ต่อให้เป็นคำสั่งของฮ่องเต้ ลูกๆ ทุกคนก็ต้องรับฟัง แต่งานแต่งใกล้จะเข้ามาถึงแล้ว เช่นนั้นก็ให้ข้าเข้าวังไปกับท่านอ๋องเสียหน่อย”
“ฉีเสี่ยว……พระชายาอ๋องจงผิงจะเข้าวังด้วยเหตุอันใด?” หวางกงกงนึกคำที่นางพูดเมื่อครู่ว่า “พวกลูกๆ” ก็เลยเปลี่ยนสรรพนาม
“หวางกงกงก็รู้ตัวตนของข้า ถ้าก่อนที่ข้าจะแต่งงาน แล้วได้รับการดูแลจากในวัง บางที ท่านพี่อาจจะดีใจ” คำว่าท่านพี่ ทำให้นางพูดได้ไม่เต็มปาก ซ่านเชียนหยวนก็หน้าบึ้งตามไปด้วย
ถ้าฉีหรัวนับฉูห้าวเป็นพี่ชาย เช่นนั้นนางก็เป็นพี่น้องกับกู้อ้าวเวย
แต่กู้อ้าวเวยเป็นพระชายาของท่านอาของนาง
แล้วมีลูกกันแล้วด้วย
คิดไปคิดมา ใบหน้าซ่านเชียนหยวนก็เปลี่ยนไปมา พอฉีหรัวเอามือมาโบกผ่านหน้าไปมา ถึงจะดึงสติกลับมา “เป็นอย่างไรบ้าง?”
“หวางกงกงแค่เอาคำของข้าไปบอกฮ่องเต้ แต่เจ้า มาฝันกลางวันเช่นนี้หรือ?” หวางกงกงคิดว่าที่เขาเหม่อลอยเพราะช่วงนี้เหนื่อยมาก จากนั้นก็ถูกซ่านเชียนหยวนจับมือไว้ แล้วยิ้มพูดว่า “หรัวเอ๋อร์ หลังจากแต่งงานแล้ว พวกเราก็มีลูกด้วยกันดีไหม?”
โย่วหลีด้านข้างก็ตกใจจนก้มหน้า
ฉีหรัวก็หน้าแดงไปทั้งหน้า ก็ผลักออก แล้ววิ่งออกไป
ซ่านเชียนหยวนก็ทำอะไรไม่ถูก แล้วมองโย่วหลี “ดูเหมือนว่ากู้อ้าวเวยจะเด็กกว่าหรัวเอ๋อร์สองปี ข้ารีบมีลูก มันไม่ควรหรือ?”
โย่วหลีคอยรับใช้ทุกวัน เป็นคนซื่อสัตย์ แต่ตอนนี้ได้แต่แกล้งไอ แล้วพูดเตือนว่า “พระชายาน่าจะอาย”
ซ่านเชียนหยวนก็ครุ่นคิด แล้วก็ตามไปดีกว่า
ใครจะรู้ว่าพอมาถึงประตู เขาก็หาฉีหรัวไม่พบ แต่เห็นคนของตำหนักท่านอาเดินเพ่นพ่านไปมา แล้วก็เลยเรียกเข้ามาถาม
คนพวกนั้นมองเขา “เมื่อครู่ ท่านอ๋องจิ้งส่งคนมาเชิญคุณหนูฉีหรัวไปที่ตำหนัก บอกว่างานแต่งต้องการคนช่วย ก็เลยให้นางไปที่นั่น”
ตัวเองดูแลเมียตัวเองไม่ได้ ตอนนี้ยังจะมาเรียกฉีหรัวไปอีก
ซ่านเชียนหยวนก็ไม่พอใจ แล้วก็รีบไปยังตำหนักอ๋องจิ้งแต่ก็หาไม่พบ พวกลูกน้องจูงม้าให้เขา แล้วยังใส่หน้ากากและป้ายประจำตัว แล้วก็ไปยังเขาหยินซาน
แค่คำพูดเดียว เขากลับหาตัวฉีหรัวไปหนึ่งวันเต็มๆ
พอมาถึงกระโจมข้างๆ เขาหยินซาน พอซ่านเชียนหยวนเข้าไป ก็เห็นฉีหรัวคลุมผ้าคลุมหนาๆ อยู่ กำลังนั่งจิบชาอยู่บนโต๊ะในกระโจม พอเห็นซ่านเชียนหยวน ก็หน้าแดง “เจ้ามาได้อย่างไร?”
“คำถามหน้าข้าควรจะถามเจ้ามากกว่า” ซ่านเชียนหยวนรีบเดินเข้าไป แต่ก็ถูกนางมองตาขวาง เขาก็ได้แต่ยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ที่เดิม
ซ่านจินจื๋อถือบางอย่างเข้ามา แล้วเห็นทั้งสองคนมีสีหน้าเคอะเขินกันอยู่
“เกิดอะไรขึ้น?” กุ่ยเม่ยที่ตามมาก็ตะลึง แล้วก็รีบทำความเคารพฉีหรัว ยิ้มพูดว่า “กระหม่อมได้ตระเตรียมเรียบร้อยแล้ว ถ้าพรุ่งนี้ท่านเข้าวัง กระหม่อมตามไปด้วยก็ได้”
ฉีหรัวพยักหน้า แล้วก็ตั้งใจหลบสายตาของซ่านเชียนหยวน แล้วก็เรียกกุ่ยเม่ยเข้าไปคนเดียว
พอทั้งสองคนเดินออกไปไกลแล้ว ซ่านเชียนหยวนก็รีบนั่งลง แล้วก็บ่นออกมา แต่ถูกความเย็นชารอบกายของซ่านจินจื๋อทำให้ตกใจ ซ่านเชียนหยวนที่ไม่ได้ถูกท่านอาตัวเองสั่งสอนมานานแล้ว ก็ตกอึ้ง เขานั่งตัวแข็ง “ท่านอา….ท่าน……”
“ถ้านับตามศักดิ์ ตอนนี้ฉีหรัวก็นับว่าเป็นพี่สาวของกู้อ้าวเวย เจ้าทำไมพูดไม่คิด?” ซ่านจินจื๋อเอากล่องไม้วางลงบนโต๊ะ
ซ่านเชียนหยวนก็ลูบคออย่างขลาดกลัวตกใจ แล้วว่า“ท่านอา ท่านรักคนที่รัก จนลามไปรักพี่น้องนางด้วยเกินไปไหม ข้าเป็นหลานท่านแท้ๆ นะ”
มองขวางไป ซ่านเชียนหยวนก็ก้มหน้าแกล้งไม่รู้เรื่อง แล้วรอซ่านจินจื๋อสั่งการ
ช่วงนี้ซ่านจินจื๋อเหนื่อยมาก ไม่เป็นร่องรอย ได้แต่เก็บความโกรธไว้ในใจ แล้วก็เปิดกล่องนั้นออก ด้านในมีกรงที่เล็กประมาณครึ่งฝ่ามือ ในกรงมีแมลงบินว่อน ข้างๆ มีเข็มเงินวางอยู่ และยาผงต่างๆ สิบกว่าถุง แล้วเรียกให้ซ่านเชียนหยวนมาเอาไป
ซ่านเชียนหยวนเห็นของในกล่อง ก็ตกใจ “สิ่งได้ยินได้เห็นนั้นไม่ผิดแน่ ท่านอา ท่านเป็นหมอแล้วหรือ?”
เส้นเอ็นที่หัวกระตุก ซ่านจินจื๋อพูดว่า “นี่คือของที่กู้อ้าวเวยเอาไว้ให้พวกเจ้า สามารถเอามาตรวจพิษได้ รอถึงช่วงเช้าของวันงานแต่ง เจ้าใช้ให้คนที่เชื่อใจได้เอาเจ้านี่ไปลองพิษ”
“แต่งานแต่งมันมีผลต่อสองแคว้นนะ จะมีคนโง่กระทำเช่นนั้นหรือ?” ซ่านเชียนหยวนเริ่มมีสายตาจริงจัง
“คนโง่ในโลกนี้มีมากมาย ถึงแม่ท่านพี่จะไม่วางยา เจ้าก็คิดดูเอาเองแล้วกัน ว่ามีขุนนางมากมายแค่ไหนที่อยากจะเลียนแบบเย่นเจียง” ซ่านจินจื๋อควบคุมความโกรธในใจไว้ แล้วพูดสั่งการเสียงต่ำว่า “เข้าวังครั้งนี้ ไปหานางแทนข้าหน่อย”
“ท่านอาวางใจ หรัวเอ๋อร์มองนางเป็นน้องสาวแท้ๆ” ซ่านเชียนหยวนก็เลยเดินออกไปอย่างมั่นใจ
ซ่านจินจื๋ออยู่คนเดียวในความเปล่าเปลี่ยวของกระโจม
ถ้ากู้อ้าวเวยเป็นอันตราย เขาก็อยากจะทำตามใจตนเองบ้างสักครั้ง
ด้านนอกกระโจม ฉีหรัวมองตากับซ่านเชียนหยวน พอเห็นกุ่ยเม่ยจากไป ก็พูดเบาๆ ขึ้นว่า “ท่านอาเจ้าสั่งการอะไรมาบ้าง?”
พอได้ยินคำว่า ท่านอา ตาของซ่านเชียนหยวนก็เป็นประกาย
“สั่งให้พวกเราไปเยี่ยมดูนางหน่อย แล้วก็สั่งข้าว่าอย่าพูดจาพล่อยๆ ทำให้เจ้าเขินอาย” ซ่านเชียนหยวนเดินยิ้มเข้าไป แล้วก็สวมกอดผู้หญิงที่แก่กว่าตนเองมาก กอดไว้อย่างแน่น
ฉีหรัวไม่เหมือนลี่วาน งานแต่งมันเร่งด่วน เขาต้องให้สิ่งที่ดีกับนางถึงจะถูก