บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 1027

ตอนที่ 1027

บทที่ 1027 ต่อความยาวสาวความยืด

“ท่านอา ข้าว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของท่านนี้ช่างมอดดับไปทีละจุดๆ แล้วจริงๆ”

ซ่านเชียนหยวนหลังจากจิบชาไปหนึ่งคำ ก็บุ้ยปากพูดจาเลียนแบบเยี่ยงคนพาล

“ทำไม?” แววตาซ่านจินจื๋อเย็นเยียบ ทำเพียงบอกให้ซ่านเชียนหยวนหุบปาก

“เขาแค่อยากถามความจริงเรื่องเมื่อคืนนี้เท่านั้น” ฉีหรัวได้แต่ยืดตัวขึ้นพูดแทนซ่านเชียนหยวน เห็นซ่านจินจื๋อวางขรึมไม่ยอมพูด จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาแล้วเอ่ยถามต่อไป “นอกจากนี้ อ๋องจิ้งก็ควรดูแลสุขภาพด้วย ท่านมีบุตรแท้ๆ กับกู้อ้าวเวยแล้ว ซ้ำยังมีชิงเจ๋อเป็นบุตรบุญธรรมอีกหนึ่งคนด้วย ยามนี้ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ ข้าฉีหรัวคงไม่มีแก่ใจยืนอยู่ฝั่งท่านเป็นอันขาด”

“พูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”

“ถ้าหากอ๋องจิ้งรู้สึกผิดกับนางจริงๆ เช่นนั้นวันหน้าก็รบกวนท่านอ๋องร่วมกันกับอ๋องจงผิงผู้เป็นหลานชายด้วย” ฉีหรัวค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้นยืน ทอดมองสองอาหลานแห่งราชวงศ์ สายตาเย็นยะเยือกเล็กน้อย “เรื่องพวกนี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะตระกูลซ่านของพวกท่าน แม่ว่ายังไม่ทราบตัวคนที่อยู่เบื้องหลัง แต่จะต้องมาเพราะตระกูลซ่านของพวกท่านอย่างแน่นอน ยามนี้ขอเพียงแยกทางกับพวกท่านทั้งสอง ข้ากับกู้อ้าวเวยก็จะสามารถถอนตัวได้อย่างสมบูรณ์”

ทันทีที่คำพูดนี้กล่าวออกมา ก็ปลุกคนที่อยู่ในห้วงความฝันให้ตื่นขึ้นมา

ฉีหรัวก็สลัดแขนเสื้อออกไปเช่นเดียวกัน ซ่านเชียนหยวนแทบไม่คิดว่าฉีหรัวจะทอดทิ้งตนจริงๆ หากแต่สบสายตากับซ่านจินจื๋อแวบหนึ่ง

ไม่ว่าจะเป็นซู๋ฮองเฮาองค์ก่อนหรือฮองเฮาตงฟางในปัจจุบัน รวมถึงชาววังที่ถูกวางยาพิษจนตาย เมี่ยวหารซูพ่านเอ๋อที่อยู่นอกวังแพร่ข่าวลือเรื่องเล่าขานเพลิงสวรรค์ บอกว่าฮ่องเต่ฝึกฝนวิชาลับ ที่ทำไปคงไม่พ้นทำให้ผู้คนหันหัวหอกไปทางราชวงศ์ตระกูลซ่าน

แต่ไหนแต่ไรเป้าหมายของคนที่อยู่เบื้องหลังผู้นั้นไม่ใช่ตัวกู้อ้าวเวย แต่เป็นคนที่มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ตระกูลซ่านต่างหาก

ซ่านเชียนหยวนปั้นหน้าขรึม “เมื่อครู่ฉีหรัวบอกว่าจะแยกทางกับพวกเรา…”

“ก็คือแยกทาง มิใช่การแบ่งเขตกั้นโลกเสียหน่อย” ซ่านจินจื๋อหยัดกายลุกขึ้น แล้วตบเข้าที่ไหล่ของซ่านเชียนหยวนเบาๆ ตอนที่เดินผ่านเขา “จากนี้ไป พวกเราเพลาๆ ส่งข่าวกันจะดีที่สุด”

สายตาซ่านเชียนหยวนทอประกายเย็นเยียบ พยักหน้ารับคำ บนหน้ากลับยังคงฮึดฮัดไม่น้อย “ฉีหรัวโกรธข้าแล้วจริงๆ”

“รอให้ถึงคืนแต่งงานค่อยปลอบโยนจนเต็มที่ ช่วงนี้ก็ต้องระวังไว้ก่อน” ซ่านจินจื๋อกำชับหนึ่งประโยคแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว

หากทำตามความหมายคำพูดของฉีหรัว เกรงว่าคงอยากให้พวกเขาแต่ละคนตรวจสอบเรื่องราวที่ตนให้ความสนใจทั้งหมด อย่างไรเสียหากไม่กี่คนหารือเรื่องเดียวพร้อมกัน คงจะถูกความคิดของคนๆ หนึ่งชักจูงอย่างเลี่ยงมิได้

เว้นแต่ว่าซ่านเชียนหยวนสมองตื้อไปหน่อย เขากับฉีหรัวกลับเป็นพวกเจนโลกทั้งคู่

ซ่านจินจื๋อสามารถจับตามองการเคลื่อนไหวบนราชสำนักได้อย่างสมบูรณ์ คนที่สามารถทำเรื่องมากมายได้เยี่ยงนี้ย่อมไม่ได้ปราศจากอิทธิพลใดๆ แม้เพียงนิดเดียวอย่างแน่นอน

ส่วนฉีหรัวยามนี้ยังไม่ได้แต่งเข้าตำหนักอ๋องจงผิง ถ้าหากแกล้งทำเป็นทะเลาะกันแล้วออกจากวังเพื่อกลับไปที่จวน ก็ยังสามารถพาฉูห้าวกลับไปจวนฉีพร้อมกัน ใช้เส้นทางธุรกิจได้ อย่างไรเสียคนที่อยู่เบื้องหลังคนนี้สามารถบงการเรื่องราวภายในวังได้ หากต้องการแพร่งพรายข่าวสารอยู่เบื้องหลัง อาจต้องผ่านทางการคนที่ไว้ใจได้ หรือไม่กระจายข่าวในเมือง

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ตัวกู้อ้าวเวยอยู่ในวัง ต่อให้ไม่ได้รวบรวมข่าวสารของสนมวังหลัง แต่ขอเพียงคนที่อยู่เบื้องหลังยังต้องการเล่นงานกู้อ้าวเวย ฮ่องเต้ย่อมมองเห็นเบาะแสได้อยู่แล้ว

คนที่อยู่เบื้องหลังเผยพิรุธ สิ่งที่พวกเขาต้องทำ ไม่ใช่ตั้งข้อสงสัย แต่ต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ให้ได้ว่าคนๆ นี้คือใครต่างหาก และภายนอกยิ่งไม่อาจแหวกหญ้าให้งูตื่นด้วย

ซ่านเชียนหยวนคิดไปคิดมา ตัดสินใจแล้วว่าถึงอย่างไรก็ต้องไปเล่นละครกับทางฉูห้าวอยู่ดี

เขาแยกย้ายกับฉีหรัว สุดท้ายก็ต้องการจุดพลิกผันอยู่วันยังค่ำ

ส่วนซ่านจินจื๋อกลับแวบเข้ามาโผล่ที่ห้องของกู้อ้าวเวย เห็นนางกำลังถือหนังสือเล่มหนึ่งพิงอยู่บนเตียงจริงๆ ด้วย เมื่อเห็นเขาเข้ามาจึงทำเพียงกระตุกมุมปาก “ท่านรู้ว่าข้ากำลังรอท่านอยู่?”

“ดูจากท่าทางจงใจอ่อนแอของเจ้าแล้ว ก็รู้ทันทีว่าอยากเรียกให้ข้ามาเพียงลำพัง” ซ่านจินจื๋อถกชายอาภรณ์ขึ้นแล้วนั่งลงที่ข้างเตียง ยกมือขึ้นกุมมือที่เย็นเยียบเล็กน้อยของนาง “เจ้าไม่เชื่อใจซ่านเชียนหยวนกับฉีหรัวหรือ”

“ย่อมไม่เชื่ออยู่แล้ว” กู้อ้าวเวยส่ายหน้าอย่างจนปัญญา “ก่อนหน้านี้ข้าคิดไม่ออกเรื่อยมาว่าเหตุใดถึงมีคนสามารถลงมือทำสิ่งต่างๆ กับข้าวของในสำนักเยียนหยู่เก๋อได้ ซ้ำยังมีหลายต่อหลายครั้งด้วย ข้าไม่เชื่อว่าจะเป็นคนยุทธภพที่จ้างมาหรือจะเป็นคนนอกอะไรพวกนั้นหรอก”

“เจ้าจำฉีหยู่ได้หรือไม่”

“ข้าจำได้ คุณหนูใหญ่ตระกูลฉี ตอนนี้ไม่ใช่ว่า…” กู้อ้าวเวยเอ่ยถึงจุดนี้แล้วคราวนี้จึงปิดหนังสือในมือลงเสียงดังพรึ่บ ตะครุบขอบเตียงข้างตัวค่อยๆ โน้มตัวไปเบื้องหน้าอย่างสนอกสนใจ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย “ท่านเดาออกตั้งแต่แรกแล้ว ซ้ำยังไปตรวจสอบแล้วด้วย?”

“ตอนนั้นฉีหยู่ตกต่ำจริงๆ กระทั่งเกือบตายทีเดียว แต่นายท่านฉีกลับลอบพาลูกสาวคนนี้ไปกบดานในจวนนอกเมืองเทียนเหยียนอย่างลับๆ ก่อนหน้านี้หากไม่ใช่เพราะยัยไง่หงไปทำความสะอาดจวนเมิ่งที่อยู่ชานเมือง เกรงว่าคงเป็นการยากที่จะสังเกตเห็น” ซ่านจินจื๋อกระเถิบมาข้างหน้าแล้วฉุดข้อมมือนางเอาไว้ราวกับพะเน้าพะนอ

“นั่นก็ถูก ข้าก็แค่อุทิศตนเพื่องานสมุนไพรและเรื่องต้มตุ๋นกันอุดลุต ส่วนการมองสถานการณ์โยรวม และวางกระบวนทัพ กลับเป็นเรื่องของท่านทั้งหมด” กู้อ้าวเวยโน้มตัวไปข้างหน้า ซ่านจินจื๋อยื่นไหล่ไปให้นางพิงอย่างรู้งาน นางจึงเงยหน้าขึ้นมาเขา “ดังนั้นอยู่เบื้องหลังนี้คือละครจัดฉากของฉีหยู่”

“ฉีหยู่ไม่รู้ทักษะการแพทย์ และซ่อนตัวอยู่ในจวนชานเมือง มีเพียงครึ่งเดือนจึงจะกลับไปพบนายท่านใหญ่ที่จวนฉีสักหน ยามนี้ดูเหมือนจะกลับเนื้อกลับตัวใหม่แล้ว แต่ก็ยังลอบมีส่วนเกี่ยวข้องกับน้องชายน้องชายหลายคนก่อนหน้านี้ของนางอย่างลับๆ อยู่ เจ้าอย่าลืมสิ สำนักเยียนหยู่เก๋อในเมืองเทียนเหยียนตอนนั้นมอบให้น้องชายน้องสาวหลายคนนั่นไปแล้ว ยามนี้ฉีหรัวกลับมาซ้ำยังแย่งมันกลับไป แม้พวกเขาจะไม่พูด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีคำครหาต่อฉีหรัวเลย”

ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง เป็นนางเองที่ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท

ลูกชายลูกสาวของจวนฉีในปีนั้นรวมกันก็มีห้าหกคน บวกกับก่อนหน้านี้นายท่านใหญ่ยังรับลูกบุญธรรมสองพี่น้องเอาไว้อีกด้วย

ถ้าหากคนพวกนี้อยากรวมมือกันทำร้ายฉีหรัว มันก็สมเหตุสมผล

“ทำไมถึงไม่พูด” กู้อ้าวเวยย้อนถาม

“นายท่านใหญ่ชราวัย ต้องการเพียงอยู่เหย้าเฝ้าเรือนอย่างสันติ ยามนี้ไม่มีข้อพิสูจน์แม้แต่น้อย ย่อมไม่ต้องพูดอยู่แล้ว ข้าเพียงแต่บอกเรื่องนี้กับคณะทู๖เอ่อตาน ให้พวกเขาระแวดระวังตัวทุกหย่อมหญ้ายามที่อยู่ในจวนฉี” ซ่านจินจื๋อยกมือขึ้นหยิบปอยผมของนางมาม้วนเล่น “คิดไม่ถึงว่าคนที่ไว้วางใจได้ในยามนี้กลับเป็นคณะทูตเอ่อตานพวกนั้น”

“สิ่งที่ท่านกังวลย่อมสมเหตุสมผล ถึงแม้พวกเขาไม่รู้ความสลักสำคัญในนั้น แต่ขอเพียงทำเพื่อความปลอดภัยของฉูห้าว ย่อมต้องมองเรื่องนี้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว แต่ข้าจำได้ว่าเรื่องนี้นายท่านฉีเป็นคนเอ่ยออกมาเอง นายท่านฉีรู้อะไรบางอย่างแล้วใช่หรือไม่” กู้อ้าวเวยจำได้ว่านายท่านฉีเป็นฝ่ายขอร้องให้คณะทูตเอ่อตานไปพำนักในจวนฉีเอง

ซ่านจินจื๋อทำเพียงกระตุกมุมปากน้อยๆ ต่อเรื่องนี้ “รู้เรื่องนี้มันสำคัญขนาดนี้เชียวหรือ”

“ย่อมสำคัญอยู่แล้ว มีเพียงรับรู้ จึงจะสามารถแยกแยะได้ว่านายท่านฉีทำเพื่อฉีหรัวจริงๆ หรือว่า…”

ถูกซ่านจินจื๋อยกมือขึ้นปิดปากเอาไว้ กู้อ้าวเวยยิ่งมองเขาอย่างไม่เข้าใจขึ้นเรื่อยๆ

“ขอเพียงฉีหรัวคิดว่านายท่านฉีทำเพื่อนางก็พอแล้ว ไยต้องถามขุดคุ้ยถึงต้นตอด้วย” ซ่านจินจื๋อมองนางอย่างเคร่งขรึม “ไม่ว่าเรื่องใดก็ต้านทานการทดสอบไปไม่ได้”

แพขนตาของกู้อ้าวเวยสั่นระริก พยักหน้าอย่างงุนงง ก่อนดึงมือของเขาออก “เป็นข้าที่ต่อความยาวสาวความยืดเอง”

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท