บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 1045

ตอนที่ 1045

บทที่ 1045 คล้ายกับชะตารัก

เจ็บมาก

กับแค่ถูกโยนกลับไปที่เตียงใหม่ก็เจ็บมากแล้ว

ก่อนที่สติจะหายไป ความทรงจำที่ผ่านเข้ามาในสมองกู้อ้าวเวยยังคงวุ่นวายเหมือนเดิม

แยกไม่ออกว่าความทรงจำพวกนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าชุดแต่งงานสีแดงนั้นจะกลายเป็นสีเลือดได้ยังไง ใบหน้าของปัญญาชนกับซ่านจินจื๋อปรากฏขึ้นพร้อมกัน ใบหน้าอื่นกลับหมุนไปมา จนกระทั่งนางเสียความทรงจำไปทั้งหมด

ก่อนที่จะเจ็บปวด นางเหมือนกลับไปในจวนเฉิงเสี้ยงในลานเล็กๆที่ตัวเองเคยอาศัยอยู่

ยู่จุนกำลังจับที่บดหมึกที่พ่อนางมอบให้มองดูอย่างละเอียด เหมือนว่าจะนำที่บดหมึกนั้นไปขายแลกเงินอย่างนั้น แต่นางแค่แกว่งขานั่งอยู่บนโต๊ะข้างหน้าต่าง แกว่งขาเหมือนเด็กที่ไร้มารยาท กระดาษที่เคยเขียนแล้วถูกขย้ำทิ้งเต็มโต๊ะ

ใบไม้สีแดงที่ร่วงหล่นเต็มถนนเล็กนอกหน้าต่าง กลับมีแค่เสียงลมพัดมาเบาๆ

“เจ้าว่าตระกูลยู่มีคำสาปอะไร ทำไมถึงบอกข้าไม่ได้? หรือข้าไม่ใช่คนตระกูลเดียวกับเจ้าเหรอ?” ในตอนนั้นกู้อ้าวเวยโยนกระดาษไปด้วยความโมโหและพูดไปด้วย แต่กลับพลิกอยู่บนอากาศจากนั้นก็ตกลงพื้น

ยู่จุนยังคงจับที่บดหมึกไว้ไม่ยอมปล่อย แต่แค่ทำท่ามือเงียบ: “ยังไงเจ้าก็ต้องตาย ข้าจะบอกเจ้าว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นไม่ได้ เดี๋ยวคนที่รับตัวเจ้าไปได้ยินเข้า จะไม่ได้การ”

“เช่นนี้ก็ช่างเถอะ เจ้าลองพูดสิ ต่อไปร่างกายของข้าจะตายหรือไม่?”

“ขอแค่เจ้าฟังคำข้าดีๆ ข้ารับรองว่าเจ้าจะมีชีวิตอยู่ถึงร้อยปี” ยู่จุนขยี้หัวนางเล่นเบาๆ สายตานั้นกลับเหมือนมองกู้อ้าวเวยที่อยู่ในความฝัน และยิ้มให้นางเบาๆ: “ของที่ขโมยมา สักวันยังไงก็ต้องคืน”

ความเจ็บปวดทำให้นางตื่นจากความทรงจำนั้น

กู้อ้าวเวยลืมตาขึ้น ทั้งตัวเหมือนถูกตักขึ้นมาจากน้ำ เสื้อผ้าเหนี่ยวติดตัวไม่สบายตัวอย่างมาก และนางแค่ยกตัวขึ้นกุมอกไว้แน่น ความขมของยาที่อยู่ในปากยังไม่หายไป

“เจ้าตื่นแล้วเหรอ?” เมี่ยวหารวางถ้วยช้อนลงตรงเก้าอี้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

เขาตกใจกับท่าทีกู้อ้าวเวย แต่ก็ยังแสดงออกอย่างเรียบเฉย: “ผงยาพวกนั้นไม่ค่อยพอเท่าไหร่”

กู้อ้าวเวยได้สติว่าเขาหมายถึงผงยาพวกนั้น ก็ยิ้มและพูดว่า: “เจ้าจะเอาสูตรยางั้นเหรอ?”

“ไม่งั้นล่ะ เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง?” เมี่ยวหารถาม

“ขนาดชีวิตข้า เจ้ายังรักษาไว้ไม่ได้ พวกเจ้าจะใช้ประโยชน์จากข้าได้ยังไงกัน”

กู้อ้าวเวยนอนลงไปช้าๆ แต่ภาพในความฝันนั้นเหมือนจะยังไม่หายไป ยังคงอยู่ในสมองวุ่นวายมาก

เมี่ยวหารยังอยากจะถามต่อ แต่ประตูหินนั่นกลับเปิดก่อน คนด้านหลังทำมือให้เมี่ยวหารออกไป เมี่ยวหารแม้จะไม่พอใจ แต่ก็ออกไปแต่โดยดี

กู้อ้าวเวยไม่หันกลับไปมองเลยแม้ประตูนั้นจะปิดลงแล้วก็ตาม

นางไม่จำเป็นต้องรู้ว่าคนที่นี่คือใคร แต่ต้องพยายามนึกความทรงจำตอนที่เป็นเพื่อนกับยู่จุนให้ได้ ตอนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก

ยู่จุนเคยสัญญาอะไรไว้กับกู้อ้าวเวยตอนนั้น แต่ความทรงจำนั้นยังไงก็ไม่ใช่ของตัวเอง

ผ่านไปสักพัก นางหลับลงไป มองรางๆยังเห็นคนยืนอยู่ข้างเตียง หยิบถ้วยยาที่ยังเหลือครึ่งหนึ่งเอาออกไป และปิดประตูหินลง

ยังได้ยินเสียงล้อจากรถเข็น

และซูพ่านเอ๋อก็เข้ามาเฝ้าแทนคนอื่น มองดูคนที่นอนหลับลึกบนเตียง ซูพ่านเอ๋อแค่ถอนหายใจเบาๆ

ตอนนั้น กู้อ้าวเวยเก็บชีวิตนางไว้ แม้ไม่รู้ว่าทำไม แต่ตอนที่ออกไป มีแต่กู้อ้าวเวยที่ทำให้นางรู้สึกสบายใจ หรือเป็นเพราะถูกคนย่ำยีบนเขา หรือเกือบจะถูกคนฆ่า ตลอดทาง กู้อ้าวเวยแม้จะพูดด้วยน้ำเสียและคำพูดเย็นชา แต่ก็ปกป้องนางมาตลอด

“ดังนั้นข้าจึงเลือดแก้แค้นซ่านจินจื๋อ เจ้าก็แค่เป็นคนน่าสงสารเหมือนข้าเท่านั้น”

นางพูดพึมพำข้างเตียง รู้ว่าตอนนี้กู้อ้าวเวยไม่ตื่นแน่นอน แค่ดึงเส้นผมนางมาจีบเล่น และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ซ่านจินจื๋อเป็นผู้ชายที่ไม่จริงใจ เจ้าก็ไม่ใช่คนฉลาดอะไร เป็นคนโง่ที่ไม่บันยะบันยัง”

ทั้งที่ซ่านจินจื๋อคิดจะหลอกใช้เจ้า ถึงทำดีกับเจ้า

ความรักสองคำนี้ เหมือนดั่งคำสาป

แต่ไม่รู้ว่า คนที่หลับนั้นได้ยินทุกคำพูดอย่างชัดเจน

คำสาปสองคำนี้ คงไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีสาเหตุ

……

“จักรพรรดิที่สามขึ้นครองราชย์ได้สามวัน หญิงสาวตระกูลหยุนก็กระโดดลงน้ำ หายไปตลอดกาล”

“จักรพรรดิที่เจ็ดครองราชย์ได้ไม่เกินสองปี ตายอยู่ในตำหนักอย่างไม่มีความสุข ในตำหนักมีรูปภาพสองรูป คือหญิงสาวตระกูลหยุน”

นับอย่างละเอียดดูแล้ว ขนาดตอนนั้นในด่านลั่วสุ่ยประวัติของสองคนที่ตาย ก็เคยมีคนบอกไว้ว่าหญิงผู้นั้นเป็นสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ส่งผลร้ายต่อประเทศ ต่อมาฮ่องเต้หรุงหม่าออกรบเพื่อเหตุนี้ สุดท้ายก็ไม่มีคนพบศพสองคนนี้ ต่อมาอีกลูกชายคนที่สองของเขาขึ้นครองราชย์ แค่แปดปีก็ตายไปเพราะป่วยหนัก

ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ตระกูลซ่านที่มีอายุถึงหกสิบเจ็ดสิบก็มีไม่มาก และคนที่ลำบากเรื่องความรัก ส่วนมากก็เกี่ยวข้องกับตระกูลหยุน

ด้านบนเป็นจักรพรรดิขึ้นครองราชย์ ด้านล่างมีองค์ชายมากมาย

ถ้าอยากรู้ล้วงลึกความลับให้แน่ชัด คงต้องไปค้นหาตำราโบราณในวังแล้ว

ดูผลลัพธ์จะทำให้รู้สึกแปลกๆ แต่ถ้ารวมกับเรื่องที่เคยเกิดขึ้นเมื่อก่อน การตายของราชวงศ์ตระกูลซ่านเหมือนจะเป็นสาเหตุที่เหมาะสม

เพราะยังไงตระกูลซ่านกับตระกูลหยุนมีพันธสัญญาการแต่งงานกันมานาน ตกระกำลำบากอยู่ในความรักก็เป็นเรื่องปกติ

“ไม่พูดเรื่องภูตปีศาจ นางบอกแค่ว่าความรักสองคำคือคำสาป เกี่ยวอะไรกับตระกูลซ่าน?”

กุ่ยเม่ยไม่ถนัดเรื่องค้นหาหนังสือโบราณพวกนี้ แต่เห็นเฉิงซานที่จดบันทึกอย่างละเอียด ก็รู้สึกไม่เข้าใจมากขึ้น

ถ้าบอกว่าตระกูลซ่านทำผิดต่อตระกูลหยุน ทำไมตอนนี้ถึงจับตัวกู้อ้าวเวยที่เป็นคนตระกูลหยุนกลับไป

ในเมื่อเปิดประตูเมืองได้โดยตรง ทำไมถึงไม่ปกป้ององค์ชายหกหรือองค์ชายเก้าไว้ ต่อไปขอแค่เปิดประตูเมือง ใช้กำลังทหารและการข่มขู่จากองค์ชายสองคน การชิงตำแหน่งมาก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว

ไม่ต้องฆ่าฮองเฮา และยังสามารถฆ่าฮ่องเต้ได้ทันที เช่นนี้ก็เหมือนทำดีตอนนี้ได้ดีตลอดไป

แต่ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน?

“ถ้าอยากรู้คำตอบ ยังมีอีกวิธีหนึ่ง”

ซ่านจินจื๋อเงยหน้าขึ้นจากหนังสือหลายชั้น: “ในวันแต่งงาน ข้าจะพากู้ซวงไป”

“พวกเขาเข้าวังไป ก็ต้องรู้ว่ากู้ซวงคือตัวปลอม” กุ่ยเม่ยขมวดคิ้ว

“แต่พวกเขาไม่รู้ว่าเวยเอ๋อเสียความทรงจำ และเรื่องรายละเอียด กู้ซวงกลับรู้” ซ่านจินจื๋อสะบัดแขนเสื้อออกไป ดูแล้วคงจะสบายกับสถานการณ์ของกู้อ้าวเวยตอนนี้มากขึ้น

กุ่ยเม่ยเบิกตาโต เข้าใจทุกอย่างขึ้นมา

เป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะแยกได้ยังไงว่าใครคือกู้อ้าวเวยตัวจริง?

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท