บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 1076

ตอนที่ 1076

บทที่ 1076 เรื่องแปลกของเมืองเหยสุ่ย

เสียงลมเสียงนกร้อง ใจคนก็สั่นไหว

ช่วงพลบค่ำ ทหารลาดตระเวนก็เพิ่มจำนวนเท่าตัว ต่อให้เป็นค่ำคืนที่มืดมิด แต่ก็ต้องให้ทุกร้านจุดโคมไฟ ถ้ามีเรื่องไฟไหม้เกิดขึ้น ก็ต้องรายงานตามจริง

ถนนในตลาดว่างเปล่า เมื่อครู่ทหารลาดตระเวนเดินมาทางนี้ ก็มีเงาคนเข้าไปทางกำแพงนั้น

หลานเอ๋อร์ก็รีบคลุมผ้าคลุมออกมาง่ายๆ เห็นเงาคนเข้าไปบังห้องข้างๆ สิ้นเสียงต่อสู้ เหลือไว้เพียงรอยเลือดและคนชุดดำดันประตูออกมา หลานเอ๋อร์ยกคิ้วสูงขึ้น “ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็จะพบ”

เงาคนนั้นพยักหน้าให้ แล้วก็พาตัวหลานเอ๋อร์ไป

เช้าวันนั้น คนงานร้านค้ากำลังจะเปิดประตูร้าน แล้วก็เห็นซากหมูตายเปื้อนเลือดอยู่หลายตาย บนห้องนอนที่นอนของเฒ่าแก่เนี๊ยะ เหลือเพียงศพของหญิงที่ไม่มีหัว

“มีคนตาย!”

ไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร พวกทหารลาดตระเวนก็รีบเข้าไปดู

นับจำนวนคนอย่างรีบๆ แต่ก็พบว่าคนใบ้น้อยที่ควรนอนอยู่ด้านหลัง ถูกคนเอามีดแทงที่หัวใจ เลือดทีนองพื้นใกล้จะจับตัวเป็นลิ่มแล้ว ทหารมองหน้ากัน จำไม่ได้แล้วว่าเมืองเทียนเหยียนไม่ได้เกิดเรื่องราวแปลกเช่นนี้มานานแค่ไหนแล้ว

“เอาร่างของเฒ่าแก่เนี๊ยะหลานเอ๋อร์ยังที่ทำการปกครอง” ทหารสั่งการด้วยเสี่ยงเบาๆ ทำให้พวกลูกน้องที่เหลือต้องหันมา แล้วถามว่า “คนนี้คือ…..”

“นี่คือคนที่เฒ่าแก่เนี๊ยะซื้อมาก่อนหน้านี้ ไม่มีชื่อแซ่ ทุกคนเรียกเขาว่าคนใบ้น้อย แต่ว่าคนใบ้น้อยนี้ ตอนกลางวันชอบไปโรงละคร เหมือนว่าจะมีญาติอยู่ที่นั่น ใต้เท้าท่านคิดว่า………”

“เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน ทหาร ไปล้อมร้านนั้นไว้ อย่าให้เรื่องนี้มันดังออกไป ไปตรวจสอบที่โรงละครนั่นด้วยว่าคนใบ้น้อยได้ไปหาเรื่องใครหรือไม่” ทหารกวาดสายตามองคนที่เหลือ แล้วพูดสั่งว่า “ไม่มีเฒ่าแก่เนี๊ยะของพวกเจ้าแล้ว ไปหาที่อยู่ใหม่กันเอง ห้ามแตะต้องของที่อยู่ในบ้านและร้านค้าเด็ดขาด”

ทุกคนก็แต่แยกย้ายออกไป และก็มีคนร้องห่มร้องไห้ ว่าไม่รู้จะไปหาเพื่อนได้ที่ไหนของเมืองเทียนเหยียน

เพียงแต่ตอนที่พนักงานไปยังที่พักของหลานเอ๋อร์นั้น ก็ได้พบกับแม่นางเยว่คนขององค์ชายสาม เฟิงเยว่ก็ยิ้มๆ แล้วยื่นป้ายบัญชาขององค์ชายสามให้แก่ทหารผู่จัดการคดี “ก่อนหน้านี้บ้านเป็นขององค์ชายสาม”

พูดแล้วก็เอาโฉนดที่ดินออกมาด้วย เจ้าพนักงานก็ได้แต่เข้าไปค้นหาหนึ่งรอบแล้วกลับออกไป

ครั้งนี้ถือเป็นโมฆะ เยว่ก็กลับไปยังตำหนักองค์ชายสาม ก็เห็นผู้หญิงที่นั่งข้างกายของซ่านเซิ่งหาน สายตาก็จ้องไป “คนใบ้น้อยจะมีประโยชน์อะไร? ตอนนี้คนในเมืองเทียนเหยียนก็หวั่นกลัวกันไปหมด พอมีเรื่องนี้ ก็ทำให้คนนั้นนอนไม่หลับกันไปใหญ่”

“คนใบ้น้อยนั่นเป็นคนเมืองเหยสุ่ย” หลานเอ๋อร์พูดออกมาอย่างไม่พอใจ “ถ้าไม่เช่นนี้ ข้าให้ทำเรื่องที่ได้เงินมากมายแล้วไม่ทำ แต่กลับมาทำรังอยู่ที่นี่ด้วย”

“นี่เจ้า!” เยว่โมโห แต่ถูกเฟิงฉีนห้ามไว้ “เรื่องนี้เรื่องใหญ่ แม่นางหลานเอ๋อร์ทำเช่นนี้ถือว่าถูกต้องแล้ว”

เยว่สะบัดแขนเสื้อจากไป แต่ซ่านเซิ่งหานก็ส่ายหัวเอามือจับแก้ว “อารมณ์ของนางนับวันยิ่งเสียง่ายขึ้น”

เฟิงฉีนยิ้มเล็กๆ “ถ้าฝ่าบาทไม่รับตัวแม่นางหลานเอ๋อร์กลับมา ก็จะนอนอยู่กับฮูหยินที่นั่นทุกคืน เยว่ก็ไม่น่าจะรีบร้อนเช่นนั้น”

ซ่านเซิ่งหานก็มองนางไปหลายครั้ง แล้วก็วางแก้วน้ำลง “เตรียมรถ จะไปตำหนักอ๋องจิ้ง”

“รับทราบ” เฟิงฉีนพยักหน้าเบาๆ หลานเอ๋อร์ด้านตรงข้ามก็ทำสีหน้าโกรธแค้นฝังหุ่น “ข้ากำจัดคนใบ้น้อยให้ท่าน แล้วทำไมฝ่าบาทยังจะส่งตัวข้าให้กับอ๋องจิ้งอีก?”

“เจ้าสนิทสนมกับพวกเขา” ซ่านเซิ่งหานกวาดสายตาไปยังผู้หญิงด้านหน้า

เดิมทีหลานเอ๋อร์เป็นเพียงสาวรับใช้ของกู้จี้เหยา ตอนนี้ไม่เพียงมีทรัพย์สมบัติมากมาย แล้วยังมีความคิดที่ผิดมนุษย์ ไม่เพียงฆ่าสามีที่นอกใจของตนเอง และยังฆ่าภรรยาอื่นๆ ที่อยากจะให้นางตาย เหลือเพียงภรรยาที่อายุน้อยสุด บอกว่าไม่เคยทำร้ายนาง ตอนนี้ก็ยังเอานางไปไว้ที่บ้านชานเมืองและดูแลอย่างดี

รักและแค้นแยกชัดเจน ทั้งยังฝีมือร้ายกาจ

ซ่านเซิ่งหานไม่ชอบผู้หญิงเช่นนี้แต่ไรมา หลานเอ๋อร์ก็หัวเราะออกมา “ถ้าท่านส่งข้าให้อ๋องจิ้ง วันข้างหน้าข้าก็จะไม่ทำงานให้ท่านแล้ว ท่านต้องคิดให้ดีนะ”

“แต่ไรมาเจ้าไปที่ไหนก็อาศัยคนที่นั่น ทำตามใจเจ้าก็แล้วกัน”

ต่อให้เอาหลานเอ๋อร์ไว้ข้างกาย เขาก็ไม่ไว้ใจที่จะใช้งาน

หลานเอ๋อร์ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่เปลี่ยนชุดเป็นชุดผ้าป่านชองคนเก็บยา แล้วก็เอาฝุ่นมาทาๆ ที่ใบหน้า แล้วก็นั่งรถม้าตามซ่านเซิ่งหานไป

พอมาถึงตำหนักอ๋องจิ้ง ซ่านจินจื๋อก็รอที่ห้องโถงนานแล้ว

พอเห็นผู้หญิงคนข้างซ่านเซิ่งหาน สายตาของซ่านจินจื๋อก็เย็นลงไป

ซ่านเซิ่งหานก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า “ท่านอาอย่าเพิ่งรีบโมโห แต่เด็กเก็บยาคนนี้รู้เบาะแสของกู้อ้าวเวย”

“เจ้าหรือจะใจดีนำตัวนางมาให้ข้า?” ซ่านจินจื๋อหัวเราะพุ่งออกมา นิ้วมือก็เคาะโต๊ะเบาๆ อย่างมีจังหวะสองครั้ง

ซ่านเซิ่งหานก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ดันเด็กเก็บยาคนนั้นขึ้นหน้าไป

มองใบหน้าที่คุ้นๆ นั้น ซ่านจินจื๋อก็ยักคิ้วอย่างสนใจ “เรื่องที่เกิดบริเวณชานเมือง เจ้ายังไม่รู้ใช่ไหม?”

“รู้หรือไม่รู้ ก็รอว่าท่านอาจะเลือกเช่นไร”

พูดจบ ซ่านเซิ่งหานก็ไม่อยู่นาน ก่อนไปก็มองสายตาของเฉิงซาน แล้วจากไป

ซ่านเซิ่งหานกลับออกไปไม่นาน ซ่านจินจื๋อก็โมโห แล้วเอาเด็กเก็บยาตรงหน้าไปขังไว้ในคุก สิ่งที่หลานเอ๋อร์ได้กลิ่น ก็มีแต่ความชื้นและกลิ่นของราที่เกิดขึ้นในคุก ในใจก็เกลัยดมาก ใบหน้าก็พยายามทำเป็นปกติแล้วนั่งลงบนกองฟาง แล้วก็เช็ดหน้าให้สะอาด

ใบหน้าของซ่านจินจื๋อไม่มีความโกรธ “บอกเรื่องที่เจ้ารู้มาให้หมด”

“เดิมที่ข้าคิดว่า ท่านอ๋องจิ้งจะใจตรงกับพระชายาจิ้งคนเดียว” หลานเอ๋อร์อึ้งเล็กน้อย แล้วก็หันตัวไปพิงผนัง “ท่านอ๋องจิ้งและองค์ชายสามก็ใจตรงกันดีเหมือนกัน จะไม่ถามหรือว่าทำไมข้ายังมีชีวิตรอด?”

“ข้ารู้ตัวตนของคนใบ้น้อยนั่น”

ซ่านจินจื๋อนั่งยองๆ ลง สายตาดั่งคมกระบี่คู่นั่นเริ่มมีแรงฆ่า

หลานเอ๋อร์ก็ถอยหลังหลบไปเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ต่อให้ข้าเล่าเรื่องที่ข้ารู้ออกมาทั้งหมด ท่านก็จะไม่เชื่อ แต่ถ้าท่านพาข้าไปยังชานเมืองสักเที่ยวละก็ ก็จะสามารถแสดงให้เห็นว่าท่านใจร้อนอยากจะหาตัวนาง ข้าก็สามารถยืนยันในสิ่งที่ข้าพูด”

ซ่านจินจื๋อยกคิ้วสูง เฉิงซานที่ด้านหลัง ก็เดินเข้ามามัดมือนางไว้

ในคุกที่ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันนี้ หลานเอ๋อร์ได้ยินแต่เสียงของเฉิงซานกึกก้องอยู่ในหัว

“สิ่งที่เจ้ายืนยัน ทางที่ดีขอให้มีประโยชน์”

หลานเอ๋อร์กัดฟันพูด ยิ้มๆ ว่า “หรือข้าจะแอบซ่อนอะไรไว้ได้อีกหรือ?”

“ถ้าไม่แอบซ่อนไว้ แล้วทำไมตอนนั้นแม่นางหลานเอ๋อร์ถึงได้หายตัวไปจากตำหนักอ๋องจิ้งเงียบๆ ? นั่นก็เพราะว่าท่านไม่เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา เพื่อหลอกความไว้ใจจากกู้จี้เหยา เฉิงซานไม่มีทางเชื่อคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้ทั้งหมดภายในไม่กี่ปีหรอก” เฉิงซานผลักนางออกไปอย่างแรง

หลานเอ๋อร์ล้มลงที่พื้น แล้วมองเฉิงซานอย่างโมโห ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางแก้ต่างเรื่องนี้

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท