บทที่ 1078 ทายสิว่าใครคือแม่บุญธรรม
กลุ่มหมอกลอยปกคลุมพื้นที่ มองไม่เห็นแสงจันทร์ และไม่มีความสงบในใจ
ใต้หุบเขามีเสียวลมหวนมา แฝงไปด้วยพลังการฆ่าฟันที่ไม่ได้เป็นของเมืองใหญ่ ถึงแม้ผนังของบ้านไม้จะมีกำแพงอิฐอีกชั้นหนึ่ง แต่ก็กลับได้ยินเสียงลมที่พัดมากระทบกำแพง ยิ่งทำให้ใจคนยากจะสงบใจ
เสี่ยวฮัวและเสี่ยวป๋ายก็ทำท่าเหมือนไม่ได้ยินเสียงลมนั้น เสี่ยวป๋ายมานอนขดตัวอยู่บนขากู้อ้าวเวย เหมือนจะคุ้นเคยกับกลิ่นยาสมุนไพรพวกนี้ เสี่ยวฮัวก็ไปเดินเหยียบอยู่บนชั้นวางของด้านหลัง ส่งเสียงร้องไปมาเบาๆ
กู้อ้าวเวยก็รอให้หลังจากที่เซียวเซียวและหยินซี่งหลับไป แล้วค่อยมาที่ห้องยา ส่วนกู้ซวงก็หลับไปนานแล้ว เพราะเหนื่อยที่ต้องจัดของมาทั้งวัน แต่ว่าเสียงลมพัดนั้น มันช่างทำให้ผู้ใหญ่อย่างนางนอนไม่หลับ
ในตอนนั้นเอง หน้าต่างที่ก้าวเวยปิดไว้กลับถูกลมพัดเปิดออก นางก็ตกใจ เอามือทับกระดาษที่วางบนโต๊ะไว้ไม่ทัน ลมจากหน้าผาก็พัดจนกระจายไปทั่ว เสี่ยวฮัวกระโดดจับกระดาษในอากาศ เสี่ยวป๋ายก็ตกใจไปหลบหลังกู้อ้าวเวย
“ตกใจหมดเลย” กู้อ้าวเวยลุกขึ้นอย่างใจสั่น แล้วปิดหน้าต่างลง
พอปิดหน้าต่างแล้ว ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู
นางก็เลยเดินไปเปิดประตูต่อเลย ด้วยกลัวว่าเซียวเซียวจะนอนไม่หลับ เลยฝ่าลมมาที่นี่
“ทำไมไม่ไปนอน……..”
ตอนที่เปิดประตู ก็ได้เข้าไปสู่อ้อมกอดที่มีแต่ฝุ่น
ซ่านจินจื๋อก็โอบนางเข้าห้อง แล้วก็เอาเท้าเตะประตูให้ปิดลง
“เจ้ามาได้อย่างไร?” เงยหน้าออกมาจากอ้อมกอดของผู้ชาย กู้อ้าวเวยก็มีความรังเกียจอยู่เล็กน้อย ถูกเขากอดตอนอ้าแขน “ทำไมถึงได้ขี้อ้อนยิ่งกว่าเซียวเซียวอีก”
“ปกติแล้ว เขาก็กอดเจ้าอย่างนี้หรือ?” คิ้วของซ่านจินจื๋อตั้งขึ้น
กู้อ้าวเวยก็ยิ้มแล้วเอามือลูบหลังเขา “จะมาหึงอะไรตอนนี้?”
ซ่านจินจื๋อก็ยิ้มออกมาอย่างเบื่อๆ หน้าอกก็สั่นไปด้วยเบาๆ กู้อ้าวเวยก็เลยถือโอกาสขยับเข้าไปในหน้าอกเขาอีก สองมือวางลงที่ข้างเอวทั้งสอง แล้วพูดว่า “ว่ามา มีเรื่องอะไรถึงมาหาข้า?”
“ก็แค่ไม่อยากจะปรึกษากับพวกนั้นก็เท่านั้นเอง”
ซ่านจินจื๋ออุ้มนางไปยังเตียงนอนที่เรียบง่ายๆ ก็เห็นว่าที่นอนหมอนผ้าห่มบนเตียงนั้น มันบางมาก แล้วก็โทษลูกน้องตนเองทำงานไม่ได้เรื่อง กู้อ้าวเวยก็เดาได้ว่าในใจของเขาคิดจะทำอย่างว่า ก็เลยตีเขาเบาๆ “ข้าเอาผ้าห่มไปเพิ่มให้กับหยินซี่ง ยังไม่ได้เปลี่ยน”
สายตาของซ่านจินจื๋อก็ดีขึ้นมาหน่อย พอปูที่นอนเสร็จ ก็เล่าเรื่องที่เจอมาหลายวันนี้
กู้อ้าวเวยถูกบังคับให้นอนในอกเขา ได้แต่นอนตะแคงเอามือค้ำหัวไว้ นิ้วมือก็เอามาลูบสันจมูกซ่านจินจื๋อเล่น พร้อมพูดว่า “ข้าก็ยังเลือกที่จะเชื่อใจเขา”
“เพราะอะไร?” ซ่านจินจื๋อเอานางมากอดอย่างไม่พอใจ
“เรื่องนี้ดูเหมือนจะวุ่นวาย แต่ถ้ารู้จุดประสงค์เบื้องหลัง ก็จัดการง่ายแล้ว” ก้าวเวยชอบที่ซ่านจินจื๋อทำหน้าโกรธเช่นนี้ มันดูน่ารักดี แล้วก็ยิ้มพร้อมเอามือบีบจมูกเขา “ถ้าฮ่องเต้จะยกทั้งแคว้นชางหลานให้คนอื่น เพียงเพื่อยู่จุนคนเดียว เช่นนั้นต่อให้วันข้างหน้าซ่านเซิ่งหานเป็นฮ่องเต้ ก็เป็นได้แค่ฮ่องเต้หุ่นเชิด จากนั้นถูกลดอำนาจ ซ่านเซิ่งหานก็จะไม่ญาติดีกับเขาแน่นอน”
“แต่นั่นคือพ่อของเขานะ ส่วนเรื่องลดอำนาจก็ไม่ใช่เรื่องในวันสองวัน” ซ่านจินจื๋อขมวดคิ้ว
“เจ้าลืมเรื่องรัชทายาทไปแล้วหรือ ยู่จุนอยู่ในโลงน้ำแข็งตั้งนาน ตื่นขึ้นมาก็ไม่มีทางจะตั้งท้องได้แล้ว แต่ตอนนี้ยู่จือยังอยู่ในเมืองเทียนเหยียน ถ้ายู่จือแต่งกับซ่านเซิ่งหาน แล้วให้กำเนิดรัชทายาทละก็ กว่าจะลดอำนาจได้ ก็ต้องใช้เวลาเป็นร้อยปี จะเปลี่ยนสายเลือดกันเลยก็ย่อมทำได้ ถึงแม้จะไม่ได้ใช้ตระกูลหยุนตระกูลยู่ แต่ตามหลักแล้วก็ถือว่าเป็นการกอบกู้”
กู้อ้าวเวยพูดไป พอก้มหน้าลงมาก็เห็นซ่านจินจื๋อทำหน้านิ่งไป นางก็สงสัย
“ดูเหมือนว่า ช่วงนี้เจ้าก็ไม่ได้ว่างเหมือนกันนะ”
ซ่านจินจื๋อก็เอาตัวนางนอนหงายไป เห็นนางรีบหลบสายตา ซ่านจินจื๋อก็ตัดอารมณ์ด้วยการจี้ที่เอวของนาง แล้วพูดว่า “ยู่จือถูดท่านแม่และซ่านเซิ่งหานซ่อนไว้อย่างดี อีกอย่าง การคาดเดาของเจ้าก็ใกล้เคียงกับข้า มีเพียงเรื่องของท่านพี่ ข้าคิดว่าเขายังมีไม้เด็ดอยู่อีก”
เห็นซ่านจินจื๋อจะลงโทษที่นางคิดมาก ก้าวเวยก็รีบเตะที่หน้าแข้งเขา “เจ้าก็คิดออกแล้วนี่ ยังจะมาถามข้าอีก!”
“ถ้าไม่หลอกเจ้า เจ้าก็คงจะเอาเรื่องไปคิดวนไปวนมากอยู่ในหัว” ซ่านจินจื๋อเอามือมาเคาะที่หน้าผากของนาง พอเห็นนางขมวดคิ้ว แล้วก็ดึงตัวนางมา “เรื่องนี้ วันข้างหน้าค่อยให้ข้าคิดเอง”
“สมองข้าจะต้องคิด มันจะคิด ข้าจะทำอะไรได้?” กู้อ้าวเวยก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมา ที่นางต้องเสียเวลาและแรงกายมากมายที่จะต้องช่วยเขาคิดหลายเรื่อง
“เช่นนั้นก็ไปเพ่งเล็งกับเรื่องอื่น” ซ่านจินจื๋อก็ยังเอามือจี้เอวนางไม่ปล่อย อีกมือก็เอามือมาจับผ้าห่ม เพื่อคลุมร่างทั้งสองให้อยู่ด้านใน ด้านนอกผนังก็มีแต่เสียงลม ก็ยิ่งทำให้เขากังวล “นอนที่นี่คนเดียว นอนหลับไปไหม?”
“เจ้าบอกมาก่อน ว่าฮ่องเต้มีไม้เด็ดอะไร” กู้อ้าวเวยก็จับเอวเขาไม่ปล่อย
ทั้งสองคนยกคอมองหน้ากัน สุดท้ายซ่านจินจื๋อก็ยอม “บอกไม่ถูก แต่ถึงตอนนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำร้ายฮองเฮาทั้งสองพระองค์ ข้าคิดว่ามาตลอดว่าซ่านเซิ่งหานเป็นคนบงการ แต่ตอนนี้ เหมือนว่าท่านพี่จะทำเองมากกว่า”
“แล้วทำไมเขาต้องลงมือกับภรรยาตนเองด้วย” กู้อ้าวเวยก็สงสัย ถ้าฮ่องเต้อยากจะกดอำนาจฮองเฮาจริง เหตุใดต้องใช้วิธีนี้ด้วย
“ข้าก็ไม่รู้ เพียงแต่ได้ยินว่าฮองเฮาไกล้จะฟื้น อีกสองวัน ข้าจะพาตงฟางซวนเอ๋อเข้าวังไปถามเสียหน่อย บางที่อาจจะรู้อะไรบ้าง”
พูดจบ มือของซ่านจินจื๋อก็มาจับที่หลังคอของนาง แล้วก้มหัวจูบไปที่หัวของนาง
“นอนเถอะ”
ได้ฟังเรื่องมากมาย กู้อ้าวเวยก็ขยับตัวหาตำแหน่งนอนที่สบาย แล้วหลับไป
ตื่นเช้าวันต่อมา กู้อ้าวเวยพบว่าตนเองเหลือเพียงชุดชั้นในบางๆ ส่วนกระดาษต่างๆ ในห้อง ก็ถูกวางงบนโต๊ะแล้ว ส่วนซ่านจินจื๋อก็หายตัวไปแล้ว เพียงแต่ได้ยินเสียงของเซียวเซียวขอให้ซ่านจินจื๋อสอน นางยิ้มๆ แล้วก็พลิกตัว อยากจะนอนอีกหน่อย แต่กลับได้ยินเสียงอะไรดังขึ้น
แล้วเห็นหยินซี่งก็ใส่เสื้อผ้าบางๆ เช่นกัน เดินใส่รองเท้าเกี๊ยะทำจากไม้ แล้วกระโดดเข้ามาในผ้าห่มนาง
แล้วก็กวักมือเรียกกู้ซวงด้านนอก “น้าซวงรีบเข้ามาสิ ด้านนอกมันหนาว!”
กู้อ้าวเวยก็จับหยินซี่งไว้ แล้วก็กวักมือเรียกกู้ซวงเช่นกัน กู้ซวงก็รีบเข้ามา และนั่งลงในผ้าห่มอุ่นๆ ดูเสียมารยาทอยู่ “นางตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงท่านอ๋อง จึงรีบมาดูเจ้า”
“ไม่มีอะไร ไปอุ่นเท้าเสียก่อน เดี๋ยวให้สองพ่อลูกไปเอาเสื้อผ้ามา” กู้อ้าวเวยดึงกู้ซวงนั่งลง แล้วมองใบหน้าที่เหมือนกันทุกอย่าง ก็มีความคล้ายว่าทั้งสองเป็นแฝดกัน
กู้ซวงก็นั่งลง เปลี่ยนตำแหน่งกับก้าวเวย หยินซี่งก็หัวเราะขึ้น
สักพักซ่านจินจื๋อจะพาเซียวเซียวที่กำลังซนเข้ามา เห็นบนเตียงมีผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนกัน หยินซี่งก็นั่งตรงกลาง โผล่หัวออกมา “ทายสิว่าใครคือแม่บุญธรรม”