บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 1094

ตอนที่ 1094

บทที่ 1094 เรียกว่าสามี

เรื่องที่พระชายาอ๋องจงผิงถูกอ๋องจิ้งตำหนิ ข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว

มีคนพูดว่าพระชายาอ๋องจงผิง ไม่ได้เฝ้าสุสานพระชายาจิ้งไว้ให้ดี ดังนั้นจึงถูกตำหนิ

และมีคนพูดว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับองค์ชายรัชทายาทของแคว้นเอ่อตานหายสาบสูญ อ๋องจิ้งกับอ๋องจงผิงจึงต่างฝ่ายต่างสงสัยซึ่งกันและกัน แค่กักบริเวณถือเป็นเรื่องเล็ก เป็นเพียงการเชือดไก่ให้ลิงดู

เรื่องต่างๆแบบนี้ เห็นมาเยอะแล้ว

ส่วนภายในพระราชวัง แม้แต่ยู่จุนกับหยูนซีต่างก็รู้เรื่องนี้ หยูนซีขมวดคิ้วครุ่นคิด เหมือนเดาความคิดของซ่านจินจื๋อไม่ออก ส่วนยู่จุนกลับนอนอยู่บนที่นอนนุ่ม พร้อมอมยิ้มไม่หุบ สุดท้ายแล้วก็ห่อตัวไว้ด้วยผ้าขนสัตว์ แล้วส่งยิ้มให้กับนาง

“เพียงแค่สองวัน อ๋องจิ้งก็แสดงถึงความจงรักภักดีต่อข้าแล้ว เห็นทีความสงสัยที่ข้ะมีนี้คงต้องลดลงแล้ว”ด้านหลังยู่จุนยังเจ็บปวดจากที่ถูกโซ่ตรวนตีในก่อนหน้านี้ จึงเอนตัวนอนตะแคง ท่าทีดูมีเสน่ห์

หยูนซียังคงนั่งอยู่บนโซฟา ตำราในมือทุกวางลงอย่างไม่รู้ตัว แล้วก็จ้องมองดูนาง

“ทำไม? อ๋องจิ้งทำเช่นนี้ เจ้าก็ไม่เป็นกังวลแล้วหรือ?”

“ทำไมข้าต้องเป็นกังวล พบเจอกันวันนั้น สิ่งที่ข้าควรพูดควรทำ เขาก็ล้วนรู้อยู่แก่ใจแล้ว แต่ตงฟางซวนเอ๋อดูน่ารำคาญมาก ครอบครองตำแหน่งคนข้างกายของเขา ต่อไปดูสิว่าเด็กคนนั้น จะได้มีความสุขอยู่กับเขาไปได้อีกนานแค่ไหน?”

เสียงหัวเราะของยู่จุนค่อยๆเสียงดังขึ้น ปลายลิ้นไล้ไปทั่วริมฝีปากแดง เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ส่งสายตาไล่ทุกคนออกไป

เมื่อภายในตำหนักกว้างใหญ่มีเพียงพวกนางสองคน นางค่อยกระซิบพูดขึ้นว่า “เจ้าคิดว่าข้าต้องการเงินทองเหล่านี้เพื่อความเพลิดเพลิน หรือคิดว่าข้าลุ่มหลงในอำนาจเกียรติยศ?”

หยูนซีเลิกคิ้วพูดขึ้นว่า “หรือไม่ใช่? เจ้าเพียงแค่ไม่อยากเห็นผู้หญิงตระกูลหยุน ใช้สามีร่วมกับผู้หญิงคนอื่น”

“บางทีก็อาจจะมีเหตุผล” ยู่จุนลุกขึ้นออกมาจากที่นอนนุ่มเป็นชั้นๆนั่น คลานมาจนถึงด้านข้างหยูนซี เอนตัวลงบนตักของนางแล้วเงยหัวขึ้น พูดขึ้นด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นว่า “แต่สิ่งที่ข้าต้องการบอกเขาก็คือ หากเขากลายเป็นฮ่องเต้ พระราชวังนี้ก็เป็นเพียงสิ่งของในกำมือของเขาเท่านั้น ข้ารู้ว่าเขาเคยโหดเหี้ยมเด็ดขาดเพื่อผู้หญิงที่ชื่อซูพ่านเอ๋อ ไม่คำนึงถึงชีวิตของประชาชน ตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น”

“เขาจะทำเพื่อนังหนู เหมือนที่เคยทำให้กับซูพ่านเอ๋อ เช่นนี้ ถึงจะถือว่าตกอยู่ในกำมือของข้า”

“และเขากับนังหนูก็มีลูกด้วยกันแล้ว มีความน่าเชื่อถือน่าไว้ใจมากกว่าองค์ชายสาม”

เช่นเดียวกับเบาะนุ่มๆ หมอนซ้อนทับกันสูงเป็นชั้นๆ ยู่จุนเพิ่งฟื้นมาเพียงไม่กี่วัน ความคิดนี้เปลี่ยนไปแล้วเป็นพันครั้ง สีหน้าหยูนซีแสดงถึงความสงสัยอย่างละอายใจ ปิดตำราในมือแล้วพูดขึ้นว่า “เขาจะเป็นไปตามที่เจ้าคิดหรือ?”

“ต้วนโฉงจะเป็นคนเลือก ขอเพียงสองคนนั้นใครคนใดคนหนึ่งยอมเอาตัวนังหนูมาให้กับข้า ข้าไม่เพียงสามารถถอนพิษต่อชีวิตให้กับนาง สลายพิษแห่งความเป็นอมตะโดยสิ้นเชิง ยังสามารถไขความลับนี้ได้อีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้ซ่านเซิ่งหานกับซ่านจินจื๋อคิดจะทรยศหักหลัง พวกเราก็สามารถล้มล้างแผ่นดินนี้ แล้วก็เริ่มต้นใหม่”

ยู่จุนจับข้อมือหยูนซี ที่ถูกตรองตรึงไว้มานานกว่าสิบปี

มองดูนาง พร้อมพูดอย่างอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อนว่า “เดิมพวกเราก็เป็นตระกูลเดียวกัน ยาอายุวัฒนะนี้มีเพียงพวกเราที่สามารถใช้ได้ ถึงตอนนั้นข้าไม่อยากอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยว เจ้ามาอยู่เป็นเพื่อนข้า ดีไหม?”

ตอนนี้หากมีใครมองเห็นดวงตาคู่นั้นของยู่จุน ก็คงจะดูอะไรออก

ส่วนภายในตำหนัก หยูนซีไม่ตอบ เพียงก้มหน้าก้มตาเงียบ

  ……

ฤดูหนาวของปีนี้ดูเหมือนจะยิ่งทรมาน

เหตุการณ์ในเมืองเทียนเหยียน เรื่องหนึ่งเกิดขึ้นแล้วยังไม่ทันสงบก็เกิดเรื่องขึ้นอีก ผ่านไปเพียงห้าหกวัน ฤดูหนาวนี้ก็ปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆภายใต้ท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ กลางวันมืดมนราวกับกลางคืน มีสายฝนโปรยปรายพร้อมลูกเห็บขนาดเท่านิ้วก้อย ตกกระทบหลังคา กระทบสิ่งของเสียหายมากมาย

ฤดูหนาวปีนี้มาอย่างรุนแรง สองวันนี้บนถนนไร้ซึ่งผู้คน หวาดกลัวว่าลูกเห็บจะตกลงมาตีหัว

เสียงรถม้าดังตุ๊บๆที่ชายคาแคร่ ซ่านจินจื๋อห่อตัวด้วยชุดแขนยาวเตรียมที่จะออกไปยังสนามฝึกนอกชานเมือง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทดสอบศิลปะการต่อสู้ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิของปีที่จะถึงนี้ บวกกับร่างกายฮ่องเต้สุขภาพไม่ค่อยดี อีกสามวันชินเทียนเจียนจะส่งคนไปยังดินแดนอันสมบูรณ์นอกชานเมือง เพื่อทำพิธีขอพรให้กับฮ่องเต้

เรื่องบรรเทาสาธารณภัยของภัยหนาวก็ถูกเลื่อนขึ้นมา ความเงียบในหลายวันนี้ทำให้ผู้คนต่างก็สงบลง พวกขุนนางในราชสำนักก็เริ่มยุ่งกับเรื่องบรรเทาสาธารณภัยของภัยหนาว ยุ่งจนไม่ได้อยู่คือเท้า

และก็มีเพียงความสงบเช่นนี้ ที่ทำให้คนหวาดกลัวที่สุด

หากมีใครสักคนโกรธแค้นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากมายเหล่านี้ ทุกคนก็จะมีวิธีหลบลีกเพื่อเอาตัวรอด

แต่ตอนนี้ทุกอย่างเหมือนเป็นอะไรก็ยังเป็นแบบนั้น มาจากไหนก็กลับไปตรงที่จากมา ไม่มีใครสนใจไม่มีใครจัดการ ทำให้คนนึกสงสัย เบื้องหลังเรื่องที่เกิดขึ้นพวกนี้ กำลังรอคอยการลงโทษ หรือทุกอย่างจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมจริงๆ อย่างไม่มีใครสนใจ แม้แต่แคว้นเอ่อตานก็เงียบสงบ เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่ใช่องค์ชายรัชทายาทของพวกเขา

ออกจากประตูเมือง ซ่านจินจื๋อหายลับตัวไป เหลือไว้เพียงตัวแทนทำหน้าที่ในการจัดการเรื่องงานต่างๆ

ในสวนดอกไม้เต็มไปด้วยดอกไม้ร่วงโรย มีเพียงดอกเบญจมากในฤดูหนาวที่ยังบานสะพรั่งเต็มพื้น รอเมื่อถึงงานเลี้ยงต้อนรับฤดูหนาวแล้วถูกส่งเข้าไปในวัง เงาร่างหนึ่งผ่านไปไม่นาน สถานที่นี้ก็กลับมาเงียบสงบ ภายใต้อากาศหนาวเย็นนี้ ไม่มีใครมองเห็นสักคน

เข้ามาข้างในทางลับแล้ว ซ่านจินจื๋อมองดูเรือนไม้เล็กหลายหลังยังอยู่ในสภาพดีไม่เสียหาย แต่ยังไงก็ไม่วางใจ

เขาไม่ได้พาคนมาด้วย มีเพียงองครักษ์ลับไม่กี่คนที่ซ่อนตัวเฝ้าอยู่ในทางลับมืดมิด ต่อให้มาตัวคนเดียว แต่ก็ยังผลักประตูเข้ามาอย่างระมัดระวัง ประตูนั้นถูกเปิดออก

กู้อ้าวเวยที่แต่งกายไว้อยู่อย่างเรียบร้อย ในมือกำลังถือถ้วยเปล่าไว้ใบหนึ่ง ไม่เหมือนกับกำลังนอนขี้เกียจอยู่ใต้ผ้าห่มเพราะอากาศหนาว เหมือนเพิ่งตื่นมาในตอนเช้าเพราะอากาศหนาวมากกว่า

ทั้งคู่สบตากัน กู้อ้าวเวยไม่แสดงอาการแปลกใจเลยสักนิด หายใจพ่นไอออกมา เอามือบังหัวแล้วก็รีบวิ่งไปยังห้องยา ซ่านจินจื๋อรีบวิ่งเข้ามา ปกป้องนางไว้อย่างมิดชิด แล้วค่อยโอบเอวนางไว้ แล้วร่างกายก็ตกไปอยู่ใต้ชายคาห้องยาแล้วครึ่งหนึ่ง

เสื้อตัวนอกของทั้งสองคนต่างก็ถูกลมหนาวพัดจนเยือกเย็น กู้อ้าวเวยอยู่ใต้หน้าผาที่มีความชื้นมาก จนเสื้อผ้าแข็งและเย็น ซ่านจินจื๋อยกมือขึ้นเพื่อลูบมือของนางให้อุ่น พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิเล็กน้อยว่า “อากาศหนาวเย็น ทำไมถึงยังตื่นเช้าขนาดนี้? ยาสมุนไพรนี้ จางเหยียงซานเอามาให้เจ้าลองทานใช่ไหม? ไม่มีเสื้อผ้าหรือ ทำไมนุ่งน้อยขนาดนี้ก็ออกมาแล้ว….”

“เอาล่ะ เอาล่ะ พูดทีก็บ่นเยอะขนาดนี้ ทำให้เซียวเซียวกับหยินซี่งตื่น เอาเรื่องเจ้าแน่”

เอาถ้วยเปล่าวางในมือของเขา แล้วก็เอามือปิดปากของเขา พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ช่วงนี้เซียวเซียวกำลังอยู่ในวัยเติบโต ข้าจึงช่วยนวดให้กับเขา ที่ไหนได้พอหยินซี่งเห็น จึงช่วยนวดเท้านวดหลังให้ข้า ทั้งๆที่อากาศหนาวแล้วสวมเสื้อผ้าเพียงชั้นเดียว ทั้งสองคนจึงต่างก็เป็นหวัด กู้ซวงดูแลอยู่ทุกวันจึงติดหวัดไปด้วย คราวนี้ ทั้งสามคนจึงนอนป่วยอยู่ในห้อง”

พูดไปด้วยยังยิ้มหัวเราะไปด้วย เดิมคิดว่าเด็กทั้งสองคนไม่รู้เรื่อง กู้ซวงแค่ถูกเซียวเซียวพูดโน้มน้าวเพียงไม่กี่คำก็หลงกลแล้ว จนนางไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี กลับก็ทำได้เพียงดูแลอยู่ตลอด

ซ่านจินจื๋อก็ยิ้มหัวเราะ เดินเข้าไปในห้องยาพร้อมกับนาง มองดูผ้าห่มบนเตียงที่ยังไม่ได้เก็บให้เรียบร้อยนั้น ก็รู้ว่าทั้งสามคนติดหวัด กู้อ้าวเวยจึงนอนอยู่ในห้องอย่างนี้คนเดียว ในเตาเผาถ่านไว้ยังไม่ดับ น่าจะอบอุ่นอยู่บ้าง แล้วก็เต็มไปด้วยกลิ่นยาที่ไม่อาจสามารถบรรยายได้

“งั้นมาข้าช่วยนวดเท้าให้กับเจ้า”ซ่านจินจื๋อนั่งรออยู่ข้างเตียง

กู้อ้าวเวยอึ้งไปก่อน แล้วก็หัวเราะพูดขึ้นว่า “แทนที่จะลดตัวลงมานวดเท้าให้กับข้า เสด็จอ๋องจิ้งไปทำเรื่องที่สำคัญดีกว่าไหม”

“เรียกว่าสามี”ซ่านจินจื๋อ ทำเป็นพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม แล้วก็ลุกขึ้นดึงตัวนางมา และตนเองก็ไปตามแม่ครัวมาเตรียมน้ำร้อน

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท