บุบผาร้อยเสน่ห์ – ตอนที่ 1126

ตอนที่ 1126

บทที่ 1126 ยังมีความเป็นมนุษย์เล็กน้อย

“เริ่มกันเถอะ”

เมื่อยู่จุนพูดขึ้น ทุกคนต่างก็เร่งรีบกันขึ้นมาทันที

ซ่านต้วนเฟิงถูกบังคับให้ถอดชุดชาวฮั่น ในฤดูหนาวที่หนาวเย็นเช่นนี้กลับมีเพียงเสื้อคลุมบางๆ ยืนอยู่บนแท่นหิน ปล่อยให้แม่น้ำเจิ้งสุ่ยที่เย็นฉ่ำไหลรินมาจากช่องทางเข้า หนาวเย็นจนคนที่ฝึกวรายุทธอย่างเขายังสั่นเทา และก็ทำให้ทุกคนเห็นรอยร้าวสีดำบนคอของเขาอย่างชัดเจน

กู้เฉิงยังคงอยู่ด้านข้าง มองดูอย่างเงียบๆ

มีคนเอามีดเล่มเล็กกับยาลูกกลอนมาให้ คุกเข่าอยู่ด้านข้างแท่นหิน เอาสิ่งของทั้งหมดยกสูงเหนือหัว มองไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น

ความดีใจภายในดวงตาของยู่จุน แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน กู้อ้าวเวยกลับเอนพิงอยู่ด้านข้างอย่างง่วงนอน ก่อนพิธีการจะเริ่มขึ้นไม่นาน นางก็หาวแล้วก็ลุกขึ้นมา บอกมืออย่างเกียจคร้านให้กับยู่จุน พร้อมพูดว่า “เลือดเปื้อนแม่น้ำเจิ้งสุ่ย มีอะไรน่าดู ข้าไปให้อาหารม้า”

“เจ้าได้เคยสัมผัสกับมันด้วยตัวเองแล้ว ไม่มีอะไรต้องดูอีกจริง”สายตาของยู่จุนยังคงจ้องมองอยู่บนแท่นหิน แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะสั่งคนตามไปเฝ้าดู

ซ่านจินจื๋ออยากที่จะลุกขึ้นมาตามนางไป กลับถูกกู้อ้าวเวยกดไหล่เขาไว้ตอนที่เดินผ่าน พร้อมพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “เจ้าต้องดูไว้ ดูว่าชีวิตของข้านี้เป็นการยืมมาหรือเปล่า”

พูดเสร็จ นิ้วมือกู้อ้าวเวยก็ผละไปจากไหล่ของเขา แล้วก็คว้าดึงแขนเสื้อของซ่านเชียนหยวนที่อยู่ด้านข้าง ใช้แรงดึงเขาให้ลุกขึ้นมาจากที่ตรงนั้น พร้อมหัวเราะพูดขึ้นว่า “เจ้าไปเป็นเพื่อนพร้อมกับข้า”

“ข้ากำลังแปลกใจว่ายาอายุวัฒนะเป็นอะไรกันแน่…”ซ่านเชียนหยวนมองดูบนแท่นที่เต็มไปด้วยค่ายกล

“ไม่ เจ้าไม่แปลกใจ”

กู้อ้าวเวยกระชากเขาลุกขึ้นมา ซ่านเชียนหยวนร้องโอดโอย สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับสายตาซ่านจินจื๋อที่หันมามองอย่างข่มขู่ จึงตามกู้อ้าวเวยจากไปอย่างเศร้าสร้อย ด้านหลังมีคนตามมาอย่างมากมาย ทำให้เขาหงุดหงิด พร้อมพูดขึ้นว่า “ก็แค่ไปให้อาหารม้าไม่ใช่หรือ จะตามมามากมายขนาดนี้ทำไม”

“แม่นางยู่มีรับสั่ง จะให้คุณหนูกู้เล่นอะไรตามอำเภอใจไม่ได้ จะต้องคอยติดตามเหมือนอย่างเงา”

ทุกคนพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่รู้ว่าคำพูดประโยคนี้ท่องมาแล้วกี่รอบ

ซ่านเชียนหยวนยังอยากจะพูดอีก กู้อ้าวเวยกลับกระชากดึงแขนเสื้อของเขา มองดูเขาพร้อมพูดว่า “พวกเขาอยากตามก็ให้พวกเขาตาม ยังไงพวกเราก็ไม่พูดอะไร?”

ซ่านเชียนหยวนอ้าปากค้าง ในใจกำลังคิดว่า ไม่ควรพูดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้หรือ?

ส่วนกู้อ้าวเวยกลับแอบกลอกตามองบนอยู่ในใจ ถึงแม้ซ่านเชียนหยวนจะไม่ถึงขั้นซื่อบื้อ แต่สถานการณ์ตอนนี้ เขาเป็นเพียงคนที่ไร้ประโยชน์ไม่มีพิษไม่มีมีภัยคนหนึ่ง รู้มากไปจะกลายเป็นภัยต่อเขา

“ไปเถอะ” กู้อ้าวเวยกระชากดึงเขา พร้อมพูดว่า “หากไม่อยากดึงฉีหรัวเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าไม่ต้องถามมาก และก็อย่าคิดมาก”

“ข้าไม่ได้โง่” ซ่านเชียนหยวนดึงแขนของนางไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอเพียงเจ้าไม่ตกอยู่ในมือยู่จุน เรื่องยาอายุวัฒนะก็จะไม่ถูกพวกคนนอกอย่างพวกเรารับรู้ แต่ตอนนี้มีคนตั้งเท่าไหร่ที่คอยแอบจับตาดูยู่จุน เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่รู้ว่าวันหน้าจะมีคนรู้เรื่องนี้อีกมากมายขนาดไหน ถึงตอนนั้นจะไม่โกลาหลไปทั่วโลกหรือ”

“เจ้า….ไม่โง่จริงๆ”

กู้อ้าวเวยหยุดฝีเท้า ทำเป็นมองดูซ่านเชียนหยวนอย่างตกตะลึง

ซ่านเชียนหยวนสะบัดนางออกแล้วเดินไปข้างหน้าอย่าโกรธเคือง กู้อ้าวเวยได้แต่ตามไปพูดขึ้นว่า “ที่เจ้าพูดใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล แต่เจ้าก็อย่าลืม เดิมบนโลกนี้ก็ไม่มียาอายุวัฒนะอยู่แล้ว วันนี้หรือวันหน้า หากยังมีคนต้องการพิสูจน์เรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้วก็จะเจ็บปวดเองอย่างที่สุดเท่านั้น”

“เจ้ายังพูดเพื่อปกป้องเสด็จอา หากไม่ใช่เพราะเขา สิ่งนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นบนโลกนี้”ซ่านเชียนหยวนพูดขึ้นอย่างโมโห

“ไม่ได้พูดเพื่อปกป้องเขา แต่ก่อนหน้านี้เมื่อหลายร้อยปีก็ไม่เคยมีสิ่งนี้ คนเหล่านั้นก็ยังคงโลภจากรุ่นสู่รุ่น แต่สูตรยาอายุวัฒนะไม่ได้ผิดอะไร ที่ผิดคือใจคน”กู้อ้าวเวยพูดขึ้นอยากจริงจัง พร้อมทั้งดึงเขามาตรงหน้าคอกม้า แล้วเอาหญ้าแห้งยื่นให้กับเขา

ซ่านเชียนหยวนยังนิ่งอึ้งไม่รู้เรื่อง กู้อ้าวเวยจึงเขย่งเท้าขึ้นมาตีหัวเขาหนึ่งที

จนเขาตกใจก้าวถอยหลังไปสองก้าว หญ้าแห้งในอ้อมแขนตกลงไปตั้งเยอะ เบิกตาทั้งคู่กลมโตมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าตีข้าทำไม?”

“ถ้ารู้สึกว่าเจ้าเป็นผู้ชายตระกูลซ่านที่ดีที่สุด” กู้อ้าวเวยก็คว้าหญ้าแห้งมาหนึ่งกำ เห็นท่าทางยิ้มแย้มของเขา ก็ส่ายหัวพูดขึ้นอย่างจนใจว่า “แต่ทำไมฉีหรัว ถึงได้ชอบผู้ชายอย่างเจ้า”

“เว้ย”ซ่านเชียนหยวนร้องขึ้น

ทั้งสองคนมองตากัน แล้วก็หัวเราะคิกคัก ช่วยกันยื่นหญ้าให้ม้าทางซ้ายขวา

กู้อ้าวเวยยื่นหญ้าให้ม้าสีดำของซ่านจินจื๋อตัวนี้ และพูดว่าม้าดำตัวนี้มีนิสัยอารมณ์ร้าย ตอนอยู่ในจวนเคยถีบคนเลี้ยงม้า ตอนนี้อยู่ต่อหน้าของนางกลับแลดูอ่อนโยนว่าง่าย ดวงตาดำจ้องมองดูนางอยู่เนิ่นนาน สุดท้ายแล้วก็ร้องเสียงฝ่อแล้วก็กินหญ้าอย่างว่าง่าย

“ว่าง่ายดี”กู้อ้าวเวยลูบหัวม้าเบาๆ ม้าดำตัวนั้นเหมือนฟังรู้เรื่อง เคี้ยวหญ้าพร้อมกับยื่นหัวมาข้างหน้า กีบเท้าข้างหน้าขยับถูพื้นอย่างไม่สงบ

“ไอ๊หยา” ซ่านเชียนหยวนที่อยู่ด้านข้างรีบหลบหัวของม้าตัวนั้น ถอยไปด้านข้างแล้วโยนหญ้าแห้งให้กับคนเลี้ยงม้า ตบฝุ่นบนตัว พร้อมพูดว่า “ม้าบ้านเสด็จอาทำไมถึงล้วนนิสัยดุร้าย…”

กู้อ้าวเวยหัวเราะ แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก

หัวใจที่หนักอึ้งค่อยๆสงบลง

ทั้งๆที่เมื่อกี้ซ่านเชียนหยวนเป็นคนพาหยินเอ่อมา กลับทำไมถึงเข้าไปหาซ่านจินจื๋ออย่างว่าง่าย

ซ่านเชียนหยวนถอยหลังไปหนึ่งก้าว ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องแหลมสูงก็ดังขึ้นในหู กู้อ้าวเวยหยุดชะงัก ลดสายตาลงและยกมือขึ้นลูบปลอบใจม้าดำที่อยู่ไม่สุขสงบตรงหน้า ไม่ไกลจากด้านหลังก็มีเสียงอุทานจากแท่นสูงเหมือนกัน นางทำได้เพียงอกกลั้นกับความหวาดกลัวนั้นไว้ กำนิ้วมือที่สั่นเทาไว้แน่น ทำเหมือนให้หญ้าม้าต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แท่นหินบนแม่น้ำเจิ้งสุ่ย ซ่านจินจื๋อมองดูซ่านต้วนเฟิงใช้มีดกรีดรอบๆร่างกายตัวเอง เลือดไหลเป็นทาง จนน้ำในแท่นหินนองไปด้วยเลือดสีแดงในทันใด และเขาเองก็เซจนเกือบถูกน้ำซัดพัดไป ภายใต้ภาพสถานการณ์ที่ดวงตาทั้งคู่ไร้ชีวิตชีวา แล้วก็ล้มไปด้านข้างแท่นหิน

ยู่จุนลุกขึ้นมาพร้อมดวงตาทั้งคู่เบิกโต ความเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้นในเวลานี้

เมี่ยวหารที่ถูกส่งไปยังด้านข้างแท่นหินเมื่อกี้กระโจนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แย่งมีดมาจากคนใช้แล้วก็แทงลงไปตรงหน้าอกของซ่านต้วนเฟิง ยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งถูกยัดเข้าไปในปากของเขา แล้วก็เห็นซ่านต้วนเฟิงชักกระตุกร้องกรีดออกมา เมี่ยวหารดึงมีดที่แทงเข้าไปแล้วค่อนข้างลึกออกมา ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด

“ห้ามเลือด ใส่ยา”ยู่จุนตะโกนพูดขึ้น

มีคนเอาแขนที่ขาดของกู้เฉิงโยนลงไปในแท่นหิน มีคนเอาผ้าผืนหนายัดตรงบาดแผลซ่านต้วนเฟิงไว้ แล้วก็กดเขาลงน้ำอย่างแรง มองดูคาบเลือดในน้ำภายในแท่นหินค่อยจางไป จนกลายเป็นน้ำใส ยู่จุนค่อยพาคน ล้วงเอาเขาขึ้นมาจากแท่นหินด้วยตัวเอง

โต๊ะยาวบนป้อมสูงหักล้มลงกับพื้น

ยู่จุนหันมาดู ก็เห็นมือที่เปื้อนเลือดของซ่านจินจื๋อกำลังปล่อยถ้วยกระเบื้องที่แตก สะบัดแขนเสื้อแล้วก็เดินไปยังคอกม้า

“แม่นางยู่ จะให้หยุดเสด็จอ๋องจิ้งไว้ไหม?” มีคนถามขึ้น

“ไม่ต้อง เขาควรที่จะรู้อยู่แล้ว ดีที่เขากระทำในตอนนั้น ทำให้นังหนูต้องทุกข์ทรมานขนาดนี้” ยู่จุนสั่งคนเอาตัวซ่านต้วนเฟิงไปยังห้องพักรับรองเพื่อรอให้ฟื้นขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “เขายังรู้จักโกรธ เท่ากับว่ายังพอมีความเป็นคนอยู่เล็กน้อย”

บุบผาร้อยเสน่ห์

บุบผาร้อยเสน่ห์

Status: Ongoing

ฟิ้ววว นางข้ามพภแล้ว!!!แพทย์โดดเด่นทันสมัยกู้อ้าวเวยข้ามภพกลายเป็นลูกสาวคนโตของเฉิงเสี้ยง อยากฆ่าข้าหรือ?มีดผ่าตัดของข้าสามารถทำให้เจ้าพิการทั้งตัวเลยนะ เปิดร้านยา ช่วยชาวบ้าน ถึงจะเป็นฮ่องเต้ก็อยากมาคบหาข้า นี่ท่านอ๋องชายเลว เจ้ากำลังแกล้งข้าอยู่รึ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท