ตอนที่ 4 การผมแตะต้องตัวคุณ มันก็ไม่ได้ผิดกฎหมาย
ฉินอีหลิน เห็นลี่โม่อวี่มีทีท่าที่ไม่พูดอะไร สายตาจ้องมองผู้ชายคนนั้นอยู่ ไม่รู้ว่าด้วยความโกรธหรือเครียด หล่อนใช้สองมือปิดปาดเอาไว้ไม่กล้าพูดอะไร
พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ไม่ใช่ว่าฉินอีหลินจะไม่ยอมปล่อยไป พวกเราสองคนก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทำอะไรกันมาก่อน มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร
หล่อนเพียงรับสามีของตัวเองไม่ได้ แค่สามีในนามชั่วคราว ตอนที่ทำเรื่องอย่างว่า ปากก็เอาแต่พูดถึงแต่เชื่อผู้หญิงคนอื่น
พอพูดถึงตรงนี้แล้ว การที่หล่อนกลายเป็นผู้หญิงคนอื่น มันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ได้ยังไงล่ะ
“คุณเป็นผู้หญิงของผม ผมไม่มีสิทธิ์แตะต้องตัวคุณเหรอ?”
ลี่โม่อวี่ที่ดึงสติกลับมาก็เห็นภรรยาของตนยืนกัดฟันกรอดๆจ้องมาที่ตนด้วยท่าทางที่ดูเหมือนจะเข้ามาขย้ำเขากะให้ตาย
“ถ้าผมแตะต้องตัวคุณ มันก็ไม่ได้ผิดกฎหมายนี่”
ลี่โม่อวี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย สายตาจ้องมองไปยังผู้หญิงด้านหน้าด้วยสายตาเหลาะแหละ สายตาคู่นั้นดูเหมือนจะจ้องไปยังเรือนร่างของฉินอีหลินที่อยู่ในชุดนอนบางๆ
“นายกำลังมองอะไร”
ฉินอีหลินพอถูกสายตาที่กำลังกวาดมองเรือนร่างของหล่อน ทำให้หน้าแดง ก็เอามือขึ้นมาปิดเรือนร่างของหล่อนทันที
หล่อนพูดตะคอกออกมา: “นั่นมันแค่ธุรกิจ! นายก็รู้ดีว่างานแต่งงานของพวกเรามันเป็นเพียงแค่สัญญาที่ทำขึ้นมาเท่านั้น เชื่อถือไม่ได้!”
เนื่องด้วยความโกรธ ทำให้หน้าอกของฉินอีหลินสั่นอย่างแรง สองมือที่พยายามจะปิดของบางอย่างอยู่ กลับกลายเป็นไม่ได้ดั่งที่ใจต้องการ มันดูเหมือนยั่วยวนแทน
ฉินอีหลินรู้สึกเสียดายที่แต่งงานกับลี่โม่อวี่ในตอนแรก
หล่อนรู้สึกว่าหล่อนควรจะคุยกับเขาให้ดีหรือไม่ก็ทำสัญญาที่แบ่งความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคนให้ชัดเจนขึ้นมาสักฉบับหนึ่งก่อน
พอลี่โม่อวี่เห็นหญิงสาวที่มีท่าทางยั่วยวนตรงหน้า ในหัวก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
แม้ว่าเขาจะเมาแล้ว แต่ว่าความรู้สึกพอใจที่อยู่บนร่างกายของเขามันทำให้เขารู้สึกเหมือนได้เติมเต็มอะไรบางอย่าง บนมือราวกับว่ายังคงรู้สึกถึงสัมผัสที่ละเอียดนั่น
ความรู้สึกที่ทำให้หวนคิดถึงนี้ เขาถึงกับไม่เคยสัมผัสได้จากร่างกายของมู่หลิงมาก่อน
“ลี่โม่อวี่ฉันรู้สึกว่าเราต้องเซ็นสัญญากันสักฉบับ ข้อแรก นายไม่สามารถเข้ามาห้องของฉันได้ตามอำเภอใจ”
“ข้อสอง นายไม่สามารถมองฉันด้วยสายตาที่ลามปาม ใช่ ห้ามมองด้วยสายตาแบบนั้น ข้อสาม ห้ามแตะ……”
ลี่โม่อวี่ไม่ได้ฟังคนที่ยืนพูดอยู่ด้านหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงมองหล่อนเท่านั้น ในใจก็เต้นด้วยความตื่นเต้นเป็นระยะๆ
จริงๆแล้วลี่โม่อวี่ก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย สองสามปีมานี้ สิ่งที่เขาไม่เคยขาดเลยก็คือผู้หญิง เขามั่นใจในด้านของการควบคุมอารมณ์ของตัวเองมาก
แต่ว่าเขาก็เริ่มไม่แน่ใจ ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงทำให้เขารู้สึกเติมเต็มความรู้สึกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ได้ลิ้มรสชาติของหล่อนแล้ว ถึงขนาดที่ว่าลี่โม่อวี่รู้สึกไม่อยากออกห่างเลย
ตอนนี้ฉินอีหลินใส่ชุดนอนที่แทบจะไม่เซ็กซี่เลย แถมยังเป็นชุดนอนที่ดูหน่อมแน้มน่ารักด้วยซ้ำ และเป็นเสื้อโคร่งๆแทบจะไม่เห็นส่วนโค้งเว้าของผู้หญิงเลย
แต่ว่าเขาก็ยังคงไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อยู่ดี
ลี่โม่อวี่ไม่ใช่คนที่โกหกต่อความรู้สึกตัวเอง ถ้าอยากทำ ก็ต้องได้ทำ
ฉินอีหลินที่ยังไม่รู้ถึงอันตรายที่กำลังมาก็ยังคงพูดพล่ามถึง “สัญญาหลังแต่งงาน” อยู่ต่อ ไม่ทันไรก็ถูกลี่โม่อวี่เข้ามาสวมกอด หันตัวของหล่อนกดเข้ากับโซฟา
หล่อนไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับอยู่ชั่วขณะหนึ่ง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สองตาก็เหม่อมองลี่โม่อวี่ที่อยู่ใกล้มากๆ
พอมองเข้าไปในตาของเขาที่เต็มไปด้วยความพิเรนทร์ หล่อนก็ได้สติกลับมาทันที
“ลี่โม่อวี่! เรื่องของเมื่อคืนช่างมัน แต่ตอนนี้นายไม่ได้เมา จะมาทำตัวคลุ้มคลั่งอะไรอีก!”
ฉินอีหลินจ้องมองชายที่อยู่บนตัวหล่อนด้วยความตกใจกลัว หล่อนบิดตัวไปอีกด้านอย่างสุดแรง ไม่อยากจะทำเรื่องอย่างว่ากับเขาอีกแล้ว ตอนนี้หล่อนปวดไปทั้งตัวแล้ว
“นายดูชัดๆ ฉันไม่ใช่แขกของนายนะ!”
ลี่โม่อวี่ที่กะจะ “เปลื้องผ้า” ของฉินอีหลิน ริมฝีปากก็ยิ้มอย่างมีเสน่ห์น่าดึงดูด
ดวงตาที่มีเสน่ห์เจ้าเล่ห์คู่นั้นทำให้ชายคนนี้กลายเป็นปีศาจอย่างสมบูรณ์แบบ
ลี่โม่อวี่มองดูสีหน้าอาการที่หวาดกลัวของฉินอีหลิน มือก็ถอดเสื้อของหล่อนอย่างไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“ไม่ใช่ เมื่อคืน พวกเราสองคนก็……กันมาแล้ว แล้วตอนนี้นายเริ่มมีอารมณ์อีก ถ้าเกิดหมดแรงขึ้นมาจริงๆ คืนนี้นายจะทำให้พวกแขกของนายพอใจได้ยังไงล่ะ? แบบนี้จะทำให้นายเสียเครดิตนะ”
ฉินอีหลินพบว่าลี่โม่อวี่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ก็เริ่มพูดโน้มน้าวด้วยสีหน้าที่กระวนกระวายใจ
จริงๆหล่อนพูดออกมาจากใจจริง ที่หล่อนพูดมันก็คือความจริง
“คุณอยากจะบอกว่า ฉันไม่ไหว?”
ลี่โม่อวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาพิเรนทร์ของเขาทำให้หน้าของฉินอีหลินแดงขึ้นราวกับมีเลือดฝาด
บนกายของฉินอีหลินสวมใส่แค่ชุดนอน ข้างในไม่ได้สวมใส่ชุดชั้นใน ในเวลานี้กระดุมทุกเม็ดถูกปลดออกจนหมดแล้ว ผิวขาวๆของหล่อนถูกแสงแดดส่องมาเหมือนมีออร่าสีทองปกคลุมอยู่
“สวยจริงๆ”
ลี่โม่อวี่มองผลงานชิ้นเอกของเขาอย่างพึงพอใจ จนถึงขนาดเปิดปากชื่นชม
“ปล่อยฉันไป!”
ถึงแม้ว่าเมื่อคืนสองคนจะทำเรื่องอย่างว่ากันมาแล้ว แต่ตอนนั้นมันมืดสนิท ตอนนี้หล่อนก็เปลือยกายให้ผู้ชายสำรวจอย่างละเอียดขนาดนี้แล้ว จะปล่อยให้ผ่านไปได้ยังไง
“ปล่อยไป? ปล่อยไปแบบนี้เหรอ?”
หลังจาพูดเสร็จ ลี่โม่อวี่ก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย เขาแก้ผ้าของฉินอีหลินจนหมดราวกับปอกเปลือกไข่ เผยให้เห็นผิวขาวๆรูปร่างอ้อนแอ้นของหญิงสาว
ผิวพรรณเนียนอย่างกับไข่ไก่
ลี่โม่อวี่บังเอิญหันไปเห็นใบหน้าแดงๆของฉินอีหลิน เขาก็ต้องทำให้ผู้หญิงที่กล้าดูถูกเขาได้รู้ว่าเขาไหวจริงหรือเปล่า
“นี่!”
ถึงแม้ว่าฉินอีหลินไม่หยุดที่จะดิ้น แต่หล่อนก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งจะไปสู้ลี่โม่อวี่ที่แรงเยอะขนาดนั้นได้ยังไง ไม่ว่าจะไม่เต็มใจเพียงใด ตอนนี้หล่อนก็ได้มา “สบตาอย่างซึ่งๆหน้า” กับลี่โม่อวี่แล้ว ในขณะนั้นฉินอีหลินคิ้วขมวดสีหน้าโกรธจริงจัง: “ลี่โม่อวี่ นายรีบลุกออกไปจากตัวฉันเลยนะ”
ถึงแม้ว่าจะเป็นคำพูดที่ปฏิเสธ แต่ตอนที่ฉินอีหลินพูดออกมานั้น มันยังให้ความรู้สึกยั่วยวนอยู่ด้วย
แม้ว่าพวกเขาสองคนรู้ดีว่า ฉินอีหลินไม่มีเจตนาที่จะยั่วลี่โม่อวี่อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในเรื่องอย่างว่า
“ผม ‘ลุกขึ้น’ มาตั้งนานแล้ว คุณอย่ามากล่าวหาผมแบบนี้สิ”
ลี่โม่อวี่มองไปยังผู้หญิงที่โกรธสุดๆด้วยสายตาเหมือนถูกเอาเปรียบ รู้สึกดีสุดๆ
“นายออกไปนะ!”
ฉินอีหลินทนคำยั่วยุของลี่โม่อวี่ได้ที่ไหนกันล่ะ สีหน้าแดงเดือด กัดริมฝีปาก หล่อนใช้แรงถีบชายคนนั้นออกจากตัวเอง แต่ดันถูกมืออีกมือหนึ่งจับเอาไว้
“คุณอดใจรอไม่ไหวขนาดนี้เลยเหรอ”
ลี่โม่อวี่พูดขึ้น ภายในตาของเขามีความรู้สึกต้องการมากขึ้นกว่าเดิม
“ลี่โม่อวี่นายรีบออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”
“คุณต้องบอกผมก่อนว่า สรุปแล้วผมยังไหวอยู่หรือเปล่า”
“นายไหว นายยังไหว! ลี่โม่อวี่ นายมันไอ้คนสารเลว!”
“คุณบอกว่าผมยังไหวอยู่ งั้นผมต้องออกแรงให้เห็นสักหน่อยแล้วล่ะ”
แดดสาดส่องผ่านหน้าต่างลงบนโซฟา เพื่อให้คนสองคนที่กำลังได้รับความเจ็บปวดอยู่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น