ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 26

ตอนที่ 26

ตอนที่ 26 พี่เขย คุณอย่ารังเกียจว่าฉันโง่นะคะ

เกี่ยวกับเรื่องงานแต่งของพี่ใหญ่เขากับฉินอีหลินนั้น เห้อห้าวพอรู้มากกว่าเซียวน่ายอยู่บ้าง

ถึงแม้ในตอนแรกการแต่งงานครั้งนี้จะเป็นเพียงการฆ่าเวลาน่าเบื่อของพี่ใหญ่ แต่หลังจากที่ได้ใกล้ชิดกันฉินอีหลินมากขึ้น เขาพบว่า ผู้หญิงคนนี้มีอิทธิพลต่อพี่ใหญ่ของเขามากขึ้นทุกวัน

ดังนั้นเมื่อเขาพูดอะไรเรื่องนี้ ก็ไม่ใช่จะไม่มีเหตุผล

ความสุขุมของเซียวน่ายมีไม่เท่าเห้อห้าว ตอนแรกที่เขาพูดเรื่องมีลูกกับเห้อห้าวนั้น เป็นแค่การพูดไปตามน้ำตามรูปแบบความสัมพันธ์ของพี่ใหญ่เพียงเท่านั้น ไม่ได้คิดจริงจังอะไร

ตอนนี้เขาเห็นคนข้างๆใบหน้าบ่งบอกว่ากำลังตั้งคำถามกับตนเองอยู่นั้น เซียวน่ายตกใจร้องออกมา แก้วในมือเกือบจะหล่นลงพื้น ครั้งนี้เขาคงวุ่นวายจริงๆ

“เฮ้”

มองเห็นเซียวน่ายเอ่ยปากเรียก เห้อห้าวรีบเอามือมาปิดปากคนข้างๆเขาเอาไว้ เรื่องแบบนี้ยังจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ งานที่พี่ใหญ่ให้คงจะยังไม่มากพอ

ถ้ายังจะพูดเรื่องพวกนี้อีก โทรศัพท์เห้อห้าวพลันดังขึ้นมา

เหลือบตามองเบอร์ที่โทรเข้ามา หัวคิ้วพลันขมวดเข้าหากัน

“อย่าพูดมากนะ”

เตือนเซียวน่ายที่ยังปักใจกับเรื่องนี้เสร็จค่อยเดินออกประตูไปรับโทรศัพท์

ลี่โม่อวี่ชินกับการกระทำของทั่งคู่แล้ว คร้านจะสนใจ และไม่มีกระจิตกระใจจะหยอกล้อด้วยเขาแค่คิดถึงคำพูดของเห้อห้าวเมื่อสักครู่

หรือว่าเขาจะหลงงรักฉินอีหลินแล้วจริงๆ

ลี่โม่อวี่กำลังสับสนกับตัวเอง ดื่มไวน์อึกหนึ่ง ค่อยๆพ่นลมหายใจออกมา ในหัวมีแต่ภาพเหตุการณ์กับฉินอีหลิน

ในความทรงจำของเขา ภายนอกของเธอแม้จะดูเป็นค่อนอ่อนแอบอบบาง แต่ใจเธอนั้นเข้มแข็งกว่าใคร

โดนชายแปลกหน้าพรากพรหมจรรย์ไปยังไม่ร้องไห้โวยวาย นึกไม่ถึงว่าเธอจะกล้าไปตามความคนที่ร้านเหล้าด้วยตนเอง

หิ้วกระเป๋าไปคนเดียว เธอยังกล้าหนีออกจากตระกูลฉินมา แถมยังกล้ายื่นข้อเสนอการแต่งงานให้กับ ชายกลางคืนคนหนึ่ง

กลายเป็นผู้หญิงของชายกลางคืนนั้น เธอยังกล้าไปร่วมงานแต่งของฉินหลันซู แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่ามันเป็นความกล้าหรือความโง่กันแน่

แต่ตอนนี้ ตอนที่เขาเสนอจะดูแลเธอเอง เธอไม่เพียงไม่ดีใจแถมยังบอกกับเขาว่า เธอมีมือมีเท้าเลี้ยงตัวเองได้

เขาใช้เงินกับผู้หญิงมาก็ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉินอีหลินเป็นภรรยาของเขา น่าเสียดาย เป็นครั้งแรกที่เขาถูกปฏิเสธแบบนี้

เห้อห้าวที่คุยโทรศัพท์อยู่ด้านนอกไม่ได้มีท่าทีล้อเล่นเหมือนในห้องแล้ว เขามองไปยังภาพวาดฝาผนังอย่างเยือกเย็น เอ่ยถาม “มีเรื่องอะไร”

“เห้อห้าว คุณไม่ติดต่อฉันมานานเลยนะ จำฉันไม่ได้แล้วหรือไง”

“ชิวหันเยียน มีเรื่องอะไรก็พูด แต่ถ้าจะถามถึงตารางงานพี่ใหญ่ คงไม่ต้องแล้ว”

เขาหัวเราะพร้อมเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ เขาไม่อยากให้ลี่โม่อวี่ที่อยู่ในห้องได้ยิน แบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้พี่ใหญ่โกรธ ยังจะทำให้ภัยมาถึงตัวชิวหันเยียนอีก

“เห้อห้าว คุณไม่เคยบอกตารางงานลี่โม่อวี่กับฉันเลยสักครั้ง เป็นเพราะคุณอิจฉาใช่ไหม อิจฉาที่ฉันรักลี่โม่อวี่แต่ไม่ใช่คุณ”

พอได้ฟังที่เห้อห้าวปฏิเสธเธอก็ทนไม่ได้อีกต่อไป ตลอดห้าปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยห่างกายจากลี่โม่อวี่เลย แต่ตอนนี้ เธอไม่ได้เจอเขามานานมากแล้ว เธอคิดถึงเขาจนจะเป็นบ้า กระทั่งในยามหลับตาก็เห็นแต่ภาพของเขา

“หุบปาก”

ราวกับโดนเหยียบย่ำลงบนบาดแผลเขาตวาดเสียงต่ำกลับไป ตั้งแต่ชิวหันเยียนเริ่มสนใจพี่ใหญ่ เขาก็สนใจเธอ

ตลอดห้าปีมานี้ เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงของชิวหันเยียนมาตลอด ความไร้เดียงสาของเธอนั้นหายไปตั้งนานแล้ว แทนที่ด้วยคนขี้หึงเจ้าแผนการหลับหลังผู้หญิงคนอื่น

เขามองเห็นความดีที่ค่อยๆเลือนหายของผู้หญิงคนนี้ และเห็นเธอค่อยๆเติบโตงดงาม แต่น่าเสียดายถึงเธอจะเปลี่ยนไปอย่างไรมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา

ใจของเขาเจ็บปวดเหมือนโดนฉีกเป็นชิ้นๆ

“เห้อห้าว เรามาทำข้อแลกเปลี่ยนกันหน่อยไหม”

ชิวหันเยียนสงบเยือกเย็นฟังอีกฝั่งตอบกลับมา

“แค่คุณทำให้ฉันได้กลับไปอยู่เคียงข้างลี่โม่อวี่ ฉันจะยอมขึ้นเตียงเป็นคู่นอนให้คุณ”

เห้อห้าวไม่เคยคิดว่าชิวหันเยียนจะกล้าพูดแบบนี้ออกมา เธอรักพี่ใหญ่จนยอมทำอะไรได้ขนาดนี้

ชิวหันเยียน คุณลดศักดิ์ศรีของตัวเองขนาดนี้เลยหรอ

“ชิวหันเยียน ไสหัวไปไกลๆเลยนะ”

ดวงตาคู่สวยหรี่แคบอย่างอันตราย เห้อห้าวขว้างโทรศัพท์ใส่ผนังอย่างเกรี้ยวกราด โทรศัพท์แตกออกเป็นเสี่ยงๆกระจัดกระจาย สภาพแบบนั้นเหมือนหัวใจที่แตกร้าวของเขา

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็สำหรับฉินอีหลิน

จนกระทั่งถึงโรงแรมที่ซานย่า เธอค่อยดึงสติกลับมาได้ ไม่ใช่ว่าความจุสมองเธอไม่พอใช้ หลายวันมานี้ ปฏิกิริยาของลี่โม่อวี่ผิดแปลกไปจนเธออดสงสัยไม่ได้ หรือว่าพระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศเหนือซะแล้วนะ

หันไปมองลี่โม่อวี่ที่กำลังคุยกับพนักงานเคาท์เตอร์ เธออดไม่ได้คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาไม่กี่วันนี้ เขาเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทุกวันกลับคอนโดตรงเวลา เธอทำกับข้าวเขาไปล้างถ้วยล้างจานเอง บางครั้งนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่น เขายังมานั่งข้างๆปอกผลไม้ให้เธอ ตกใจจนเธอคิดว่าเขาจะวางยาในผลไม้พวกนั้น

แต่พวกนี้ยังไม่ได้สำคัญอะไร แต่ที่ทำให้เธอตกใจกลัวเป็นที่สุดคือทุกคืนเมื่อเธอไม่ยอม ลี่โม่อวี่ก็พยายามห้ามใจไม่แตะต้องเธอ

มองไปยังหญิงสาวที่กำลังเหม่อลอย สายตาฉินหลันซูเหยียดหยามอยู่เป็นนัย ท่าทางโง่ซื่อบื้อขนาดนี้ยังเป็นคุณผู้หญิงของประธานH&Jได้อีก สายตาของลี่โม่อวี่ช่างมีเอกลักษณ์

ไม่ว่าในใจจะไม่พอใจแค่ไหน หน้าเธอก็ต้องข้ามผ่านไป ตั้งใจทำปากออดอ้อน ฉินหลันซูกุมมือคนข้างๆพร้อมเอ่ยปาก

“พี่สาว ฉันอยากให้พี่เขยสอนฉันว่ายน้ำ พี่จะอนุญาตไหมคะ”

“ห๊ะ?ได้”

ฉินอีหลินที่กำลังคิดถึงเรื่องไม่กี่วันที่ผ่านมายังไม่ทันได้ดึงสติกลับก็ต้องตกใจเสียงของฉินหลันซู เผลอตอบตกลงกลับไป

ลี่โม่อวี่ที่พึ่งคุยกับเคาท์เตอร์เสร็จพลับได้ยินประโยคนั้น หรี่ตามองฉินอีหลินที่เหม่อลอย เขาทบทวนตลอดทางมานี้ ฉินหลันซูพยายามล่อลวงเขา แค่ใช้สมองนิดหน่อยก็ดูออกแล้วว่าฉินหลันซูไม่ได้มาดี แต่ผู้หญิงคนนี้กลับผลักเขาไปอยู่ข้างผู้หญิงคนอื่น

เขาใจดีกับเธอเกินไปหรือเปล่า เธอถึงกล้าทำขนาดนี้

“ขอบคุณนะคะพี่ จริงสิ พี่เขยอย่ารังเกียจว่าฉันโง่นะคะ”

พลันได้ยินคำตอบรับจากฉินอีหลิน ฉินหลันซูปลายตามองกู้เหวินเฉิงชั่วครู่ โยนกระเป๋าไปให้กู้เหวินเฉิง หันไปยิ้มและพูดกับลี่โม่อวี่ ควงแขนของเขาอย่างสนิทสนม เดินออกประตูไป

ตลอดเวลานั้น เธอไม่หันไปมองฉินอีหลินแม้แต่หางตา

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท