ตอนที่ 50 ตายแล้วก็ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างนี้อีกต่อไป
อานหน้ามาถึงบ้านของโจวม่านเหวินอย่างรวดเร็ว เธอหวังว่าจะพบเบาะแสร่องรอยบางอย่างที่นี่
นายหญิงครับ กล้องวงจรปิดตรงสี่แยกจับภาพมีคนรูปร่างคล้ายกับคุณผู้หญิง แต่ว่าเธอถูกลักพาตัวไปครับ”
เหล่าพีผิงได้รับโทรศัพท์จากลูกน้อง ก็รีบโทรรายงานต่อเจ้านายของเขาทันที
อานหน้า ได้ยินดังนั้นดวงตาเริ่มแดง “ตามดูต่อไป อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ฉันจะค่อยค่อยจัดการต้อนรับพวกมัน”
“ลี่โม่อวี่!”
อานหน้า ลดเสียงต่ำลง เมื่อได้เจอบุคคลที่คุ้นเคย
เธอกัดฟันตัวเองเปล่งเสียงออกมา 3 คำ เดินตรงไปข้างหน้า จ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ลี่โม่อวี่ มองเห็นอานหน้า เขาจำผู้หญิงคนนี้ได้
สายตามองไปรอบๆคนที่อยู่ตรงหน้า จู่จู่ ลี่โม่อวี่ก็รู้สึกเจ็บปวดที่ใบหน้า ด้วยความประหลาดใจ เขาหรี่ตาจ้องมองบุคคลที่อยู่ตรงหน้า นัย ตาบ่งบอกถึงการตักเตือนโดยไม่พูดออกมา
“ลี่โม่อวี่ฉันจะบอกอะไรนายให้นะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับอีหลิน ฉันจะทำให้นายไม่มีที่ยืนในเมือนฮ่องกงแห่งนี้แน่”
เห้อห้าว.ที่เดินตามลี่โม่อวี่ เข้ามา มองเห็นคำพูดสบประมาทของผู้หญิงตรงหน้า ดูเหมือนว่าเมืองฮ่องกงแห่งนี้คงเป็นอาณาบริเวณของพวกเขา
เหลือบตามองเล็กน้อย เขาวิเคราะห์คำพูดด้วยความโกรธเคืองของผู้หญิงตรงหน้าอย่างระวังตัว ประวัติความเป็นมาของผู้หญิงคนนี้ลึกลับเกินไป เขาใช้เครือข่ายที่เกี่ยวข้องทุกเครือข่าย ก็ตรวจสอบไม่เจอข้อมูลอะไรเลย
อานหน้า ฟาดฝ่ามือออกไปข้างหนึ่งแต่ยังรู้สึกว่าระบายความโกรธไม่พอ ฟาดฝ่ามือลงไปอีกครั้ง
แต่กลับถูก ลี่โม่อวี่จับข้อมือเอาไว้ได้
“เมื่อวานคุณพาฉินอีหลินไปไหน?”
ลี่โม่อวี่ ลูบใบหน้าตัวเองที่โดนตบ ยังไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับเขา
แต่วินาทีนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาถกเถียงกันเรื่องนี้ ภาพฉินอีหลินแวบเข้ามาในสมองของเขา เขาจึงถอยออกไปทันที
อานหน้า ได้ยินดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น ดิ้นเล็กน้อย โดยที่ข้อมือของเธอก็ยังถูกล็อคไว้ไม่สามารถขยับไปได้
“แกมีคุณสิทธิ์อะไรมาถามฉัน ยังโชคดีที่แกเป็นสามีของอีหลิน แกถามตัวเองก่อนไหม ว่าได้ทำหน้าที่ของแกในฐานะสามีเต็มที่แล้วรึยัง?”
. เหล่าพีผิงมองเห็นนายหญิงถูก.ลี่โม่อวี่จับข้อมือไว้แน่น หรี่สายตามอง ยกข้หมัดขึ้นราวกับจะชกเข้าที่ชายหนุ่มคนนั้น
ลี่โม่อวี่เห็นการกระทำของผู้ชายคนนั้น ก็ปล่อยมือลง
แต่ไม่มีใครสังเกตเห็น ในขณะที่ลี่โม่อวี่ได้ยินอานหน้าพูดว่าเขาไม่ได้ทำหน้าที่สามีอย่างเต็มที่ มือของเขานั้นสั่นเทา
อานหน้า เงียบไป ไม่สนใจผู้ชายที่ทำให้เธออึดอัดใจอีกต่อไป หันหลังกลับไปขึ้นรถ
ในขณะที่เธอนั่งอยู่บนรถ สายตายังคงจับจ้องลี่โม่อวี่ ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยไร้ความรู้สึก ดวงตาจ้องลึกลงไป
อีกด้านหนึ่ง ฉินอีหลินเห็นว่าโดยรอบไม่มีเสียงก็ค่อยค่อยลืมตาขึ้นอย่างระมัดระวัง และพิจารณาสถานการณ์ขณะนี้ด้วยความรอบคอบ
โกดังอันว่างเปล่าเต็มไปด้วยเศษไม้เก่า ๆ อากาศในห้องมีฝุ่นละอองปกคลุม อีกทั้งกระเป๋าที่เธอถือไว้ในมือก็หายไปแล้ว
จริงๆเมื่อวานโดนยาสลบไปไม่นาน ก็ฟื้นขึ้นมา แต่เพื่อปกป้องตัวเอง ก็เลยแสร้งทำเป็นสลบไป
นึกขึ้นได้ จึงลุกขึ้น ตรวจสอบบริเวณโดยรอบไม่มีแม้ประตูหน้าต่าง ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงพวกโจรดังมาจากหน้าประตู
แต่สิ่งที่ทำให้ ฉินอีหลินประหลาดใจก็คือ เสียงของพวกโจรทั้ง 3 เสียงที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น มันบังเอิญเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
สมองของฉินอีหลิน.เหมือนกำลังจะระเบิด ตอนนี้เธอไม่เข้าใจ ฉินหลันซู ชิวหันเยียน และยังมีมู่หลิง ทำไมพวกหญิงสามคนนี้ถึงได้มาอยู่ด้วยกัน?
“พวกเธอไม่รู้สินะ ว่าตอนนี้ ฉินอีหลินไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว”
“ไม่ได้ตัวคนเดียว เธอรู้ได้ยังไง?”
ฉินหลันซูหัวเราะออกมา ทำไมเธอถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
“เมื่อกี้นี้มีคนบอกลี่โม่อวี่ รับประกันได้ว่าข้อมูลนี้เป็นเรื่องจริง 100%”
ได้ยินผู้หญิง 3คน สนทนาถึงความลับสุดท้ายของเธออย่างไม่เกรงกลัว ฝ่ามือของเธอลูบลงบนหน้าท้อง ตอนนี้เธอได้แค่ภาวนา และขอร้องพวกเขาอย่าทำร้ายลูกของเธอ
“โอ๊ะ ตื่นแล้วเหรอ?”
ฉินหลันซูมองเห็นสายตาประหลาดใจของพี่สาวตัวเอง ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที
ก้มตัวเล็กน้อย เธอค่อยค่อยยื่นมือบีบเข้าที่คางของคนตรงหน้า หัวเราะพร้อมกล่าว “พี่สาว ดูท่าทางพี่เหมือนกับแปลกใจอยู่นะ ”
.ฉินอีหลินขมวดคิ้วมองไปยังน้องสาว พยายามแกะฝ่ามือออกจากคาง แต่กลับถูกบีบแน่นกว่าเดิม ไม่สามารถขัดขืนได้
“แกจะจองหอง ถือดีอะไรนักหนา ตอนนี้จะแสแสร้งให้ใครดูหะ? ฉินอีหลินฉันจะบอกอะไรแกให้นะ ตอนนี้แกคือนักโทษที่อยู่ในกำมือของพวกเรา”
ฉินหลันซู แสะยิ้มให้พี่สาวใช้คำพูดอย่างเหี้ยมโหด และเพื่อพิสูจน์คำพูดของตัวเอง ลากฝ่ามือตบเข้าที่ใบหน้าของเธอ
ฉินอีหลินคิดไม่ถึงว่าน้องสาวที่เติบโตมาด้วยกัน จะกล้าลงไม้ลงมือกับเธอเช่นนี้ ตบหน้าเธอโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว
กัดริมฝีปากแน่น เธอจ้องเขม็งใบหน้าที่ดุร้ายนั้นกับท่าทีการตอบสนองอันรวดเร็วของเธอ
“แกมองอะไร”
ทุกครั้งที่ฉินหลันซูมองเห็นสีหน้าท่าทางแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกว่ามันเยอะเกินไป
“พอเถอะ หยุดตีได้แล้ว ยังไงก็พี่สาวของเธอ ทำไมเธอถึงได้ลงมือรุนแรงเช่นนี้ อีกอย่างเธอก็กำลังตั้งท้องอยู่ด้วย”
. มู่หลิงมองเห็นแก้มบวมๆของฉินอีหลินภายในใจกลับมีความสุขอย่างพูดไม่ออก แต่ก็แสร้งทำเป็นเอื้อมมือไปหยุดการกระทำของผู้หญิงตรงหน้าไว้
ชิวหันเยียนจ้องมองมู่หลิงด้วยความประหลาดใจ ทำไมอยู่ๆเธอถึงได้เปลี่ยนไป กลับเห็นรอยยิ้มเล็กน้อยของมู่หลิงแล้วพูดต่อ “ใช้มือตัวเองตบเจ็บมือเปล่า”
พูดแล้วใบหน้าของ มู่หลิงปรากฏความดุร้าย เธอก้มตัวลงไปที่ตรงคางของฉินอีหลินมองดูแก้มที่มีรอยมือตบ
“ดูสิ หน้าบวมเหมือนหัวหมูเลย แต่ร่างกายยังใช้ได้นิ พวกเราอย่าทำให้เสียทรัพยากร”
พูดจบก็กวาดสายตามองไปยังกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เต็มไปด้วยความต้อง พร้อมที่จะลิ้มลองและรังแกเรือนร่างของเธอ ก้มกระซิบข้างหูของฉินอีหลิน
“ฉินอีหลินลูกของโม่อวี่ มีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้ เธอไม่มีเธอไม่มีสิทธิ์”
“พวกเรากลับกันเถอะ เมื่อวานฉันเพิ่งได้ชุดมาใหม่ พวกเธอมาช่วยฉันดูหน่อยสิว่าเป็นยังไงบ้าง”
ไม่สนใจหญิงสาวที่ตัวสั่นตัวเทาแม้แต่น้อย มู่หลิงปล่อยมือออกจาก.ฉินอีหลินหันหลังเดินจากไป
ฉินอีหลินมองเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่รวมตัวกันใช้แรงดึงแขนเธอออกมามัดไว้ด้านหลัง หมดหนทางต่อต้าน
“พวกแกออกไปให้พ้นนะ”
แม้ว่าตอนที่เธอเผชิญหน้ากับกู้เหวินเฉิง เธอไม่ได้หวาดกลัวจนตัวสั่นแบบนี้
ตอนนั้นมีเธอแค่คนเดียว แต่ตอนนี้มีลูกที่เธอต้องปกป้อง
“สาวน้อย อย่าตื่นกลัวไปเลย เดี๋ยวพวกพี่จะดูแลเธออย่างดี บอกพี่มาสิว่า เธอชอบท่าแบบไหน เดี๋ยวพวกพี่จะจัดให้ตามใจชอบ”
หัวหน้าโจรผู้นั้นมองสายตาของสัตว์เลี้ยงตรงหน้าที่จ้องเขม็งเขาด้วยสายตาที่โกรธแค้น มือใหญ่มาก ลูบไล้ไปตามต้นขาของเธอ
คิ้วขมวดอย่างไม่ชอบใจ เขาไม่ชอบเวลาสัมผัสเข้าที่กางเกงยีน
“ฉีกกางเกงเธอออกไปซะ”
เสียงกางเกงถูกฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆ กระตุ้นเส้นประสาทของฉินอีหลินน้ำตาไหลออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ เธอรู้สึกได้ถึงบนร่างกายของเธอโดนฝ่ามือสัมผัสเล่นอย่างไม่หยุด ยกขาถีบอย่างเต็มแรง แต่กลับถูกชายอีกคนจับเอาไว้ได้
“ลื่นไหลจริงๆ”
ฉินอีหลินดิ้นรนสุดชีวิตจนกระทั่งตรงที่โดนเชือกมัดไว้เป็นรอยแผลเริ่มมีเลือดไหลออกมา แต่เธอก็ไม่สามารถขัดขืนบนร่างกายที่เสื้อผ้าค่อยค่อยเหลือน้อยลง
ลี่โม่อวี่ คุณมีอำนาจมากมายไม่ใช่เหรอ ได้โปรดช่วยฉันหน่อยได้ไหม?
ขอร้องช่วยฉันด้วย……
หลับตาลงด้วยร่างที่สั่นเทา เธอไม่เคยอ่อนแอขนาดนี้มาก่อน
ฉินอีหลินค่อยค่อยวางลิ้นลงบนฟันของเธอ
บางทีการตาย ก็ไม่ต้องรับรู้ถึงเรื่องราวอัปยศพวกนี้?