ตอนที่ 45 ทำแท้งไหม
นี่เป็นครั้งแรกที่เห้อห้าวได้เห็นฉินอีหลินโกรธเคือง แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้ ที่เห้อห้าวสับสนงุนงงก็คือสิ่งที่ฉินอีหลินพูดออกมาทั้งหมด
อะไรที่ว่าเขาเรียกให้มู่หลิงมาที่นี่
ดูละคร ผู้หญิงคนนี้คิดอะไรเลอะเทอะไปหมด คิดอะไรเหลวไหล
“เดี๋ยวนะ พี่สะใภ้ เดี๋ยว”
เห้อห้าวทักท้วงในขณะที่ฉินอีหลินกำลังหอบหายใจ กระซิบเบาๆ พยายามสงบสติอารมณ์ของคนในสาย “ผมไม่ได้เป็นคนเรียกมู่หลิงมา ผมแค่โทรศัพท์ไปหาคุณเท่านั้น”
“ไม่ใช่นายงั้นเหรอ?”
ฉินอีหลินทบทวนความคิดอีกรอบอย่างสับสน กัดริมฝีปากอย่างไม่เชื่อ “นายไม่ได้เรียกมู่หลิงมา แล้วทำไมเธอถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่หน้าผับได้”
“ไม่ใช่ผมจริง ๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอรู้ได้ยังไง”
เห้อห้าวอธิบายอย่างจนปัญญา ขณะเดียวกันในใจกลับเต้นแรง เขาพยายามคิด เรื่องที่เขาและพี่ใหญ่อยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่ได้บอกใคร
ฉินอีหลินได้ยินเช่นนี้ กัดเข้าที่ริมฝีปากเบาๆ พร้อมกดวางสาย
เธอจ้องมองผู้คนที่เดินถนนเริ่มลดลงเรื่อยๆ อีกทั้งไฟถนนที่อยู่หนีศีรษะ กำลังหัวเราะเยาะเธอ
ทันใดนั้น หยดน้ำหยดลงมากระทบดวงตาของหญิงสาวที่ยืนอยู่ริมถนนคนเดียว เยือกเย็นคล้ายกับความรู้สึกในใจของเธอตอนนี้
1หยด 2 หยด 3 หยด…..
ฝนเริ่มตกหนักขึ้น ดวงจันทร์ลับหายเข้าไปในก้อนเมฆ แสงไฟที่สลัว ยิ่งเพิ่มความมืดมัว ผู้คนที่เดินถนนต่างวิ่งหนีกระจัดกระจาย หลงเหลือแค่ร่างอันปล่าวเปลี่ยวของฉินอีหลิน
ฉินอีหลินไม่คิดที่จะหาที่หลบฝน สายฝนโปรยลงมากระทบทั่วร่างทั้งร่างกาย ความหนาวเย็นดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย เธอค่อยค่อยเดินตากฝนอย่างนี้กลับไปบ้านโจวม่านเหวิน
“.เสี่ยวเหวิน เปิดประตูหน่อย”
“มาแล้ว”
ทันทีที่โจวม่านเหวินเปิดประตูมองเห็นภาพตรงหน้าก็ตกใจ ฉินอีหลินเปียกโชกไปทั้งตัว ผ้าที่เปียกรัดแน่นไปทั่วร่ากาย
ผิวที่ซีดอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อโดนความหนาวเย็นก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงเล็กน้อย หยดน้ำค่อยค่อยหยดลงจากเสื้อผ้า
“พระเจ้า อีหลินทำไมเธอถึงให้ตัวเองเป็นแบบนี้ เธอไปรับคนไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลายมาเป็นลูกหมาตกน้ำได้”
โจวม่านเหวินรีบให้เธอเข้ามาในบ้าน ขณะเดียวกันก็รีบเข้าไปเปิดน้ำร้อนในอ่าง เพื่อให้ฉินอีหลินแช่น้ำอาบ ถ้าหากไม่อาบน้ำ เธอกลัวว่าฉินอีหลินจะไม่สบายเอาได้
“ฉันทำเองก็ได้”
ฉินอีหลินยิ้มออกมาอย่างอบอุ่นเมื่อเห็นเพื่อนรักดูยุ่งวุ่นวาย เธอซึ้งใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าเธอจะถูกตระกูลฉิน、ตระกูลลี่ทอดทิ้ง เธอก็ยังมีเพื่อนที่คอยเป็นห่วงเธออยู่
อาบน้ำเสร็จ . ฉินอีหลินนอนอยู่บนที่นอนทำยังไงก็นอนไม่หลับ
พวกเขาคงกลับไปแล้ว นี่ก็ดึกมากแล้ว ไม่แน่ว่าพวกเขาทั้งสองคงได้รับพรจากสวรรค์ไปแล้ว
หัวเราะเยาะตัวเอง บ้าจริง เธอจะคิดอะไรเลอะเทอะ เรื่องพวกนี้ก็ใกล้จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธออีกแล้ว
รุ่งเช้า ฉินอีหลินปิดเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังอย่างด้วยความเลอะเลือน เธอรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง แตะที่หน้าผากเบาๆ
เป็นไข้นิ
ฉินอีหลินถอนหายใจออกมาอย่างหมดแรง เธอยังคิดที่จะไปทำงานที่ร้านดอกไม้ ไม่กี่วันมานี้เธอลาหยุดเยอะเกินไป
“ฉินอีหลินเธอเป็นอะไรกันแน่?”
โจวม่านเหวิน.ตอนที่อยู่บ้าน สัมผัสได้ว่าผู้หญิงคนนี้ดูผิดปกติ แต่ตอนนั้นเธอไม่ทันได้สนใจ ถึงตอนนี้ท่าทางของฉินอีหลินคล้ายกับว่าจะล้มลงไปเมื่อไหร่ก็ได้
“ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ”
ฉินอีหลินยิ้มกลบเกลื่อน จัดดอกไม้ต่อ
“ออกมาย้ายของ”
หลินเซิงเกอส่งเสียงดังวิ่งเข้ามาในร้าน สั่งให้ทุกคนออกไปช่วยกันขนของ มีของล๊อตใหม่เข้ามาหนักไม่เบา
“พวกเธอระวังกันหน่อย”
ฉินอีหลินไม่อยากให้โจวม่านเหวินซักถาม ก็รีบวิ่งออกไปขนของ แต่ในขณะที่เธอยกลังกล่องหนึ่งขึ้นมา รู้สึกได้ทันทีว่าโลกหมุน ดวงตาทั้งคู่มืดดับ สลบลงไปนอนกับพื้น
อีหลิน,อีหลินเธอเป็นอะไรไป อย่าทำแบบนี้ฉันกลัวนะ”
อีหลินเธอตื่นขึ้นมาสิ เธอได้ยินที่ฉันพูดไหม?”
“รีบโทรหา 120 เร็ว”
หลินเซิงเกอ.ตัดสินใจตามรถพยาบาลไปของโรงพยาบาลด้วย
ยังไงเธอก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ส่วนตัวแล้วเขาเองก็ชอบสาวน้อยคนนี้มาก ดังนั้นเขามอบหมายงานในร้านดอกไม้เสร็จแล้ว ก็มาเป็นเพื่อนเธอที่โรงพยาบาล
เป็นครั้งแรกที่เห่าเทียนโหย่วได้เห็นสามีที่ประมาทเช่นนี้ แม้ว่าตัวเองจะบอกอย่างนี้แล้ว ชายตรงหน้าก็ยังมีสีหน้าท่าทางสับสนมึนงง
มองหลินเซิงเกอแวบนึง เห่าเทียนโหย่วพูดอย่างเหยียดหยาม
“ให้คนตั้งครรภ์ตากฝน คุณไม่กลัวว่าจะมีคนตายถึงสองคนเลยเหรอ แม้ว่าคุณจะไม่สนใจใยดีลูกของคุณ คุณก็ควรนึกถึงสภาพร่างกายของคนที่คุณรักด้วย ยังดีที่วันนี้ไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่อย่างนั้นคุณก็เตรียมตัวเสียน้ำตาได้เลย
หลินเซิงเกอฟังคุณหมดต่อว่าจนอับอายพูดจบ ทำได้แค่พยักหน้าตอบว่าจะระมัดระวัง กลับไปหาฉินอีหลินที่ห้องผู้ป่วย
“คุณตื่นแล้วเหรอ?”
“อืม ขอโทษด้วยนะคะ หัวหน้า ฉันสร้างความเดือดร้อนให้คุณอีกแล้ว”
สมองของฉินอีหลินค่อนข้างเลอะเลือน คอแห้งจนเริ่มปวด
“เธอทำให้พวกเราเดือดร้อนไม่เป็นไร ต่อให้ความรักของคุณไม่ราบรื่น คุณก็ไม่ควรเอาลูกของตัวเองมาล้อเล่น”
หลินเซิงเกอปวดหัวนั่งลงข้างเตียง เตรียมตัวที่จะสั่งสอนคนตรงหน้า แต่กลับถูกคนบนเตียงขัดจังหวะด้วยความประหลาดใจ
“คุณพูดว่าอะไรนะ ฉันมีลูกเหรอ?”
. ฉินอีหลินตกใจซ้ำอีกรอบ จ้องมองคนตรงหน้าอย่างกดดัน
“ใช่. คุณหมดบอกว่ายังไม่ครบ 1 เดือน โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก อ่อ คุณจะโทรไปหาพ่อของลูกไหม?”
หลินเซิงเกอมองเห็นปฏิกิริยาของฉินอีหลินเธอคงไม่รู้จริง ๆ ว่าตัวเองท้อง นึกถึงก่อนหน้านี้ที่เธอเคยพูดเรื่องหย่า จิตใต้สำนึกของเขา ขมวดคิ้วพร้อมซักถาม
“หัวหน้าค่ะ คุณช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับได้ไหม ทำเหมือนว่าไม่เคยรู้เห็นเรื่องนี้มาก่อน ฉันจะจัดการเองค่ะ”
หลังจากที่ฉินอีหลินได้รู้ว่าตัวเองท้อง กลัดกลุ้มใจเป็นที่สุด เธอพยายามปล่อยน้ำเสียงอย่างอ่อนโยน พูดกับหลินเซิงเกอพร้อมกับลุกขึ้นลงจากเตียง
“อีหลิน เธออย่าหาว่าฉันพูดมากเลยนะ เธอจะทำยังไง เอาเด็กออกงั้นเหรอ?”
หลินเซิงเกอเอื้อมมือขวางหญิงสาวที่กำลังจะลงจากเตียง คำพูดหนึ่งคำทำให้เธอหยุดชะงัก ไม่อยากได้ยินหญิงสาว ใช้ความเงียบตอบกลับ เขาพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ
“ผมจะไปซื้อข้าวมาให้คุณ คุณอย่าเพิ่งขยับตัวไปไหน”
ฉินอีหลินนอนพักอยู่บนที่นอนจ้องมองร่างหลินเซิงเกอเดินออกไป อดไม่ได้ที่จะคิด
ทำไมถึงท้องได้?
มือเลื่อนลงไปลูบหน้าท้องตัวเอง เธอนึกขึ้นได้ทันที วันนั้นตอนกลางคืนก่อนที่จะย้ายออกจากคอนโดเก่า เขาโอบกอดเธอและให้คำมั่นสัญญา หลังจากนี้จะป้องกัน ให้เธออย่าลืมกินยา
ตอนนั้นเธอตอบตกลงแล้ว แต่เพราะเกิดเรื่องของแม่ จึงทำให้ลืมซื้อยามากิน
เธอคิดไม่ถึงว่า เรื่องราวมันจะบังเอิญขนาดนี้ เป็นเรื่องที่ดันมาเกิดขึ้นอย่างประจวบเหมาะพอดี
หัวเราะเยาะตัวเอง ฉินอีหลินกระซิบกับลูกเบา ๆ “ลูกจ๋า หนูมาในเวลาที่ไม่ใช่จริง ๆ หนูจะให้แม่ทำยังไงดี?”
กำลังคิดหาวิธี โทรศัพท์ของเธอก็มีเสียงเรียกเข้า
“ฮัลโหล อีหลินเหรอลูก นี่พ่อเองนะ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงลูกว่างไหมถ้าสะดวกล่ะก็ ออกมากินข้าวด้วยกันนะ”