ตอนที่ 48 โดนไล่ออกแล้ว
“เพราะว่าเดินเล่นคนเดียวไม่สนุก ฉันไม่ได้ออกมาเดินเล่นแบบนี้นานมากแล้ว ขอบคุณที่เธอมาเดินเป็นเพื่อนฉันในวันนี้”
. อานหน้ายิ้มพร้อมตบหลังมือฉินอีหลิน.เดินไปตามทางถนนคนเดิน
พอดีกับฉินอีหลินกำลังจะพูดอะไรบ้างอย่าง เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น หลินเซิงเกอ
“ฮัลโหลค่ะ หัวหน้า”
“อีหลินเหรอ…..?”
หลังจากที่มีคนรับสายหลินเซิงเกอก็เรียกแค่ชื่อ อ้ำๆอึ้งๆไม่ยอมพูด
“มีอะไรเหรอคะ? ที่ร้านเริ่มยุ่งรึเปล่า หรือว่ามีคนไม่พอ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับไปค่ะ”
ฉินอีหลินได้ยินน้ำเสียงที่ลำบากใจก็คิดว่าที่ร้านคงยุ่งมาก จึงเสนอตัวจะรีบกลับไป
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
เขาได้ยินเสียงเรียบนิ่งของผู้หญิงปลายสาย รู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
จับผมอย่างกลัดกลุ้ม เขากัดฟันพูด “อีหลินขอโทษนะ เธอเป็นคนที่ขยันทำงานมาก แต่….. ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่สามารถจ้างงานเธอได้อีกต่อไป ขอโทษนะ ฉันมันไม่ได้เรื่องเอง”
ฉินอีหลินได้ยินที่หลินเซิงเกอพูดก็พอจะเดาออกได้ว่าจะเป็นยังไง คำพูดของเขาก็ยืนยันได้ว่าสิ่งที่เธอคิดไว้ไม่มีผิด
ยิ้มด้วยความข่มขื่น เธอพูดปลอบใจผู้ชายที่อยู่ในสายอย่างอ่อนโยน “หัวหน้าคะ นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง ฉันมีธุระนิดหน่อย แค่นี้ก่อนนะคะ”
ฉินอีหลินวางสายแล้วหัวเราะเยาะตัวเองออกมา ไม่รู้ว่าเธอไปทำผิดกับเทพเทวดาองค์ไหน ต้องทำให้เธอไม่มีงานถึงจะยอมหยุด
ในตอนที่เธอรับโทรศัพท์ อานหน้าก็ปลีกตัวเดินห่างออกไปอย่างมีมารยาท เมื่อเห็นว่าลูกสาววางสายแล้ว จึงเข้ามาจับแขนของเธอ “มีอะไรรึเปล่า?”
“ฉันไม่เป็นไร”
ฉินอีหลินยิ้มกลบเกลื่อน ส่ายหัวแต่ให้เห็นว่าไม่มีอะไร
แต่ท่าทางการแสดงออกแบบนี้ทำให้อานหน้า อดไม่ได้ “อีหลินไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นเพื่อนสนิทของพ่อของหนู หนูไม่ไว้ใจฉัน ก็ควรไว้วางใจพ่อของหนูนะ บอกป้ามาเถอะ ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ที่จริงแล้วฉินอีหลินไม่อยากที่จะพูด แต่ก็ทนไม่ไหวที่เห็นผู้หญิงตรงหน้าเอ่ยในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทของผู้เป็นพ่อของตัวเอง เธออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ฟังอย่างใจเย็น
“ไม่ได้เรื่องใหญ่อะไร เมื่อกี้ก็แค่หัวหน้าโทรมา บอกว่า หนูโดนไล่ออกแล้ว”
“ทำไมล่ะ”
อานหน้าได้ยินดังนั้นเลิกคิ้วถามด้วยความแปลกใจ
“ไม่ทราบค่ะ”
นี่คือสิ่งที่ทำฉินอีหลินรู้สึกหมดแรง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครต้องการทำให้เธอตกงาน
หากตอนนี้เธอไม่มีงานทำแล้ว นั้นก็หมายความว่าเธอก็ไม่มีเงิน 250,000 หยวน
“อย่างนั้นเหรอ….”
อานหน้าหันกลับไปหาพ่อบ้านที่อยู่ด้านหลังส่งสัญญาณผ่านทางสายตา ชายหนุ่มชาวอังกฤษคนนั้นเดินห่างออกไปหาที่คุยโทรศัพท์
“อย่าคิดมากเลยนะ นี่ฉันเพิ่งเลือกเสื้อผ้า หนูดูสิว่าเป็นไงบ้าง”
ผู้หญิงคนนั้นราวกับว่าต้องการให้ผู้หญิงเบี่ยงเบนอารมณ์ จงใจพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย
. ฉินอีหลินไม่คิดที่จะให้เรื่องของตัวเองมาขัดความสุข ก็พยักหน้ารับไม่คิดมากอีก
สายตากวาดมองชุดกระโปรงสวยงามที่แขวนอยู่ข้างกาย ฉินอีหลินมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าด้วยความลำบากใจเล็กน้อย
คุณป้าคะ เสื้อผ้าพวกนี้…… สีเสื้อผ้าพวกนี้ดูสวยสดงดงาม ออกแบบได้อย่างทันสมัย แต่มันไม่ค่อยเหมาะกับลักษณะของคุณเท่าไหร่
อานหน้าได้ยินเช่นนี้แทนที่จะเสียใจแต่กลับยิ้มอย่างมีความสุข “มันไม่เหมาะฉันอยู่แล้ว ชุดพวกนี้ล้วนแล้วแต่เลือกให้เธอ ถ้าฉันใส่ละก็ คงกลายเป็นพวกสัตว์ประหลาด”
“ห่ะ ไม่ได้ค่ะ คุณป้า”
ได้ยินว่าเลือกให้กับตัวเธอเอง . ฉินอีหลินตกใจตาโต โบกมือทำท่าปฏิเสธ “ฉันไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้คุณ ฉันจะรับของจากคุณได้ยังไง?”
“ทำไมจะไม่ได้ ฉันกับพ่อของหนูเป็นเพื่อนสนิทกัน เธอเป็นรุ่นน้องของฉัน พวกเราเจอกันครั้งแรก ป้าจะให้ของขวัญเล็กๆน้อยๆที่เราได้เจอกัน รับไว้เถอะ นี่คือน้ำใจเล็กน้อยจากป้า”
“อานหน้ากลัวว่าลูกสาวตัวเองจะปฏิเสธ เกลี้ยกล่อมให้เธอรับเสื้อผ้าพวกนี้ไว้ เธอถึงจะโล่งใจ
มองดูเสื้อผ้าเก่าๆที่อยู่บนตัวของลูกสาว ในใจเธอก็ยิ่งเจ็บปวด
ระหว่างที่พูดคุยอยู่นั้น โจวม่านเหวินก็โทรศัพท์เข้ามาพอดี
“ฮัลโหล เสี่ยวเหวิน
“แบบนี้มันเกินไปแล้ว มันเกินไปจริงๆ”
ทันทีที่ฉินอีหลินรับโทรศัพท์ ก็ได้ยินเสียงปลายสายที่มาอาการโกรธเป็นอย่างมาก “ใครที่กล้ามายุ่งวุ่นวายพี่น้องเรา บอกฉันมา ฉันจะไปจัดการมันเอง”
“เธอยังจะล้อฉันเล่นอีก”
โจวม่านเหวินโกรธอย่างมากพร้อมเดินไปมาอยู่ในบ้าน
“ไม่รู้ว่าเป็นใคร ไร้มนุษยธรรมขนาดนี้ จนมองไม่เห็นหัวคนอื่น มีเงินแล้วทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ มีสิทธิอะไรมาก้าวก่ายเรื่องของคนอื่น มีสิทธิอะไรมาทำให้หัวหน้าไล่เธอออก?”
เรื่องนี้นี่เอง ฉินอีหลินแม้ว่าภายในใจปวดร้าว แต่เมื่อได้ยินน้ำเสียงโมโหของเพื่อนรัก ก็ยังรู้สึกได้ถึงหัวใจที่อบอุ่น
“เสี่ยวเหวินฉันไม่เป็นไร ไม่มีงานก็หาใหม่ได้ อีกอย่างฉันก็รู้สึกว่างานที่ทำตอนนี้เงินเดือนก็ไม่เยอะเท่าไหร่ ฉันจะได้ไม่ต้องลำบากใจที่จะลาออก”
“เธอพูดจิงเหรอ?”
“จริงสิ”
ฉินอีหลินยิ้มออกมา อารมณ์เริ่มกลับมาดีขึ้นกว่าเดิม
จริงๆเธอต้องของคุณพระเจ้าที่ทำให้เธอได้เจอกับผู้หญิงที่แสนดี เป็นเพื่อนคนแรกที่ปฏิบัติกับเธออย่างจริงใจ
รอให้ฉินอีหลินวางสาย อานหน้าจ้องมองหญิงสาวอย่างประหลาดใจ เธอเห็นได้ชัดว่า อารมณ์ของเธอดีเริ่มดีขึ้น
“เมื่อกี้นี้คือเพื่อนร่วมงานของฉันเอง แม้ว่าจะไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงร่ำรวย แต่เธอก็ดีกับฉันมาก มีเรื่องอะไรก็คิดถึงฉันตลอด”
อานหน้าพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
เดินเล่นไปได้สักพัก . อานหน้ามองเห็นใบหน้าเหนื่อยล้าของฉินอีหลินก็รีบส่งเธอกลับบ้านด้วยความเป็นห่วง
ตามที่ฉินอีหลินให้ที่อยู่ พ่อบ้านคนที่เดินตามพวกเธออยู่ตลอดมาส่งเธอกลับบ้าน
จนกระทั่งหญิงสาวเดินหายเข้าไปในบ้าน เขาจึงถามด้วยความสงสัย “ทำไมคุณถึงไม่บอกคุณผู้หญิงถึงเรื่องตัวตนที่แท้จริงของคุณล่ะครับ”
“ฉันกลัวว่าเธอจะรับไม่ได้”
อานหน้าถอนหายใจออกมา ค่อยค่อยหลับตาลง
“ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า อีกอย่างที่ฉันกลับมาครั้งนี้ คิดไว้แล้วว่าจะอยู่ที่เมืองฮ่องกงนี้อีกนาน คงไม่รีบในเวลานี้ ถ้าทำไปแล้วเรื่องกลับกลายเป็นแย่ลงกว่าเดิม ฉันไม่อยากเห็นสายตาฉินอีหลินที่มองฉันเป็นคนแปลกหน้าอีก”
“อ่อใช่ ถ้านายมีเวลาช่วยสืบหาเพื่อนร่วมงานที่โทรหาอีหลินเมื่อกี้นี้หน่อย รู้สึกว่าชื่ออะไรนะโจวม่านเหวิน”
“ครับ” พ่อบ้านที่มองเห็นสายตาอันเหนื่อยล้าของผู้เป็นเจ้านาย ก็ยิ่งขับรถให้นิ่งมากขึ้น
อีกด้านหนึ่ง ฉินอีหลินถือข้าวของเข้ามาถึงหน้าประตูบ้าน ก็ถูกคนเอาผ้ามาปิดจมูกไว้
กลิ่นฉุนพุ่งเข้าไปในจมูก จิตใต้สำนึกเธออยากที่กลั้นลมหายใจ แต่ฤทธิ์ของยาสลบแรงเกินไป ทั้งสมองของฉินอีหลินเลอะเลือนว่างเปล่า ของที่เธอถืออยู่ในมือร่วงลงเต็มพื้น
เธอค่อยค่อยหมดสติไป