ตอนที่ 23 ผมจัดเตรียมฮันนีมูนนี้เพื่อคุณ
ความเปลี่ยนแปลงของฉินอีหลินใครๆก็สามารถมองเห็นได้ชัด สายตาของคุณนายฉินซ่อนความไม่พอใจอยู่ในที แต่เธอไม่ใช่ฉินหลันซูที่จะแสดงความรู้สึกทุกอย่างออกมาทางสีหน้า
“มาถึงแล้วก็เข้าไปข้างในเถอะ อาหารได้เตรียมไว้หมดแล้ว อีหลินลองเข้าไปดูสิ เป็นอาหารที่เธอชอบทั้งนั้น ต้องทานให้เยอะๆนะ”
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉินอีหลินจะมีอนาคตที่ดีไปกว่าลูกสาวของเธอ
หันกลับไปมองกู้เหวินเฉิงที่มีไม่รู้ว่าสายตาจ้องมองไปที่ไหนแล้ว คุณนายฉินสังเกตเห็นได้พลันขมวดคิ้ว ยกลูกสาวให้แต่งงานกับคนแบบนี้ เธอไม่วางใจเลยจริงๆ
ถึงแม้ว่านายท่านฉินจะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แต่ความปิติยินดีที่ส่งผ่านทางสายตาของเขาเธอเข้าใจดีที่สุด พ่อเธอดีใจที่เธอกลับมาแล้ว
“เข้าไปข้างในเถอะ โม่อวี่ เหวินเฉิง ไม่ต้องเกรงใจ ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”
บนโต๊ะอาหาร ผู้ชายทั้งสามกำลังสนทนาธุรกิจ นายท่านฉินแกล้งเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “โม่อวี่ พวกเธอวางแผนจะจัดงานแต่งกันตอนไหน”
เดิมทีฉินหลันซูกำลังก้มหน้าก้มตาทานข้าว แต่ไม่มีสาเหตุเพียงแต่ได้ยินประโยคที่พ่อเอ่ยออกมาแค่ประโยคเดียว
ชะงักไปชั่วขณะ ฉินหลันซูไม่เพียงจินตนาการเห็นฉินอีหลินในชุดเจ้าสาวยืนเคียงข้างลี่โม่อวี่ ในใจก็ร้อนรุ่มไม่สงบ เธอไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าฉินอีหลินได้แต่งงานออกเรือนไปได้ดีกว่าเธอ ไม่พอใจที่เทียบกับฉินอีหลินไม่ติดเลยสักนิด
เดิมทีอยากเงยหน้าขึ้นไปมองปฏิกิริยาของฉินอีหลิน หางตากลับเหลือบไปเจอท่าทางทานข้าวของกู้เหวินเฉิงที่คอยแอบมองไปยังฉินอีหลิน
ฉินหลันซูเต็มไปด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ เดิมทีการแต่งงานของทั้งสองก็เหมือนละครเรื่องหนึ่ง แม้กระทั่งเรื่องที่กู้เหวินเฉิงก่อในคืนแต่งงาน ตอนนี้ยังกล้าทำตัวไม่น่าให้อภัยต่อหน้าเธออีก ฉินหลันซูกัดฟันแน่น
มองไปยังฉินอีหลินที่ก้มหน้าก้มตาทานข้าวอย่างเงียบๆ เธอพบว่าฉินอีหลินในตอนนี้ได้เปลี่ยนจากความใสไร้เดียงสาเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วให้ความรู้สึกถึงความเป็นผู้หญิงมากขึ้น
ชั่วครู่เธอคิดว่าฉินอีหลินตั้งใจแต่งตัวแบบนั้นไปร่วมงานแต่งเธอ ตั้งใจทำให้เธอต้องอับอาย แก้แค้นเรื่องที่ร้านเหล้าในคืนนั้น
ทันทีที่นายท่านฉินเอ่ยจบห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบทัน ฉินอีหลินที่กำลังทานข้าวอย่างเงียบพลันรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง หยุดชะงักทันที
เพียงแค่เธอก้มหน้า ไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้านิ่งงันของคุณนายฉิน
“พ่อคะ ฉันกับลี่โม่อวี่ตอนนี้เราก็มีความสุขกันดีอยู่แล้ว งานแต่งจะจัดไม่จัดก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
ฉินอีหลินแอบมองไปยังลี่โม่อวี่ เห็นว่าเขาไม่ได้ตอบคำถามจึงเอ่ยตอบแทนเขาไป เพียงแต่พอเอ่ยจบในใจแอบรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
งานแต่งงาน ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ใฝ่ฝันหาหรอก
“คือว่า งานแต่งงานก็แค่ชื่อเสียงจอมปลอม อีกอย่าง ถึงพี่สาวกับพี่เขยจะไม่จัดงานแต่งยังไงก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานะสามีภรรยาของทั้งคู่ได้หรอก ทำไมต้องเสียแรงไปจัดด้วย งานแต่งฉันกับกู้เหวินเฉิงยังเหนื่อยขนาดนั้น พวกพี่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้”
พอฉินอีหลินพูดจบ ฉินหลันซูก็เอ่ยสนับสนุนทันที ดูผิวเผินเหมือนว่าเธอจะใส่ใจความรู้สึกของพี่สาวตัวเองมาก แต่ลึกๆแล้วเธอแค่ไม่ต้องการให้ผู้คนรับรู้ว่าฉินอีหลินนั่นได้ดีกว่าเธอในทุกๆเรื่อง
“ฉันว่านะ งานแต่งงานมันเสียเวลา แถมยังเสียเงินด้วย แน่นอนไม่ใช่ว่าพี่จะจ่ายไม่ได้ ฉันหมายถึงแค่พี่เขยดีกับพี่สาว เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญแล้ว ใช่ไหมคะ พี่”
ฉินหลันซูหันไปถามความเห็นเห็นของพี่สาวเธอ แต่สายตาของเธอแสดงสิ่งที่อยู่ในใจของเธอออกมาอย่างชัดเจน
ความเจ็บปวดที่มี ยังมีชายที่อยู่ข้างๆนี้คอยตอกย้ำว่าเธอสู้ฉินอีหลินไม่ได้
เธอยอมไม่ได้
ทั้งหมดนี้มันควรจะเป็นชีวิตของฉินอีหลินสิ ทำไมเธอต้องมารับชีวิตที่มันควรจะเป็นของฉินอีหลิน
แถมข้างๆของผู้หญิงที่ควรจะมาลงนรกแบบนี้เธอกลับกลายเป็นคุณผู้หญิงของประธานบริหารH&Jกรุ๊ป ใช้ชีวิตเสพสุขแบบนี้
ฟังคำพูดของฉินหลันซู สีหน้าคุณนายฉินจึงกลับมาเป็นปกติ หันหน้าพร้อมส่งสายตามายังลูกสาวตัวเอง
สายตาคมมองออกว่าลูกสาวของตัวเองแปลกไป มองฉินหลันซูอย่างสงสัยแววตาเจือความเป็นห่วง
“หลันซู ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า”
ฉินหลันซูรีบส่ายหัว บอกใบ้ว่าตนไม่เป็นอะไร
แต่สายตากลับพบว่าทุกคนล้วนมองมายังเธอ มีเพียงแค่สามีที่รักของเธอเท่านั้นที่ไม่ได้มีท่าทีเป็นห่วงเป็นใยเธอเลย ตายังแอบมองไปยังฉินอีหลินอยู่เช่นเดิม
ใจของฉินหลันซูถูกเติมเต็มไปด้วยความโกรธอิจฉาริษยา มือซ้ายที่วางอยู่ใต้โต๊ะถูกกำแน่นจนบิดเบี้ยว
เล็บแหลมฝังลงไปในฝ่ามืออย่างไม่อาจควบคุม
แม้ในใจจะมีคลื่นใหญ่ซัดสาดโหมกระหน่ำ แต่ใบหน้าของหญิงสาวเก็บความอิจฉาริษยาจนแทบจะเสียสตินั้นยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มน่ารัก คิ้วยกขึ้นเล็กน้อยริมฝีปากชมพูระเรื่อจึงเอ่ย
“พี่คะ งานแต่งงานไม่จัดพี่เขยมีแผนจะพาพี่ไปฮันนีมูนไหมคะ ฉันว่าพวกพี่แต่งงานกันมาก็ครึ่งเดือนได้แล้ว ยังไม่เห็นว่าพี่เขยจะพาพี่ไปฮันนีมูนที่ไหนเลย งั้นไปด้วยกันกับพวกฉันไหมคะ”
ไม่เปิดโอกาสให้ฉินอีหลินได้เอ่ยตอบ ฉินหลันซูรีบจับมือพี่สาว พูดโน้มน้าวต่อ
“เดิมทีเราวางแผนจะไปซานย่า วางแผนจะไปเที่ยวทะเล แต่พอดีมีเรื่องนิดหน่อย เลยยังไม่ได้ไปสักที พี่แต่งงานไม่จัดงานก็ไม่เป็นไร แต่ฮันนีมูนไม่ไปไม่ได้นะ ไม่งั้นคงไม่นับว่าได้แต่งงาน พี่ ไปกับพวกเราเถอะนะคะ”
คิดถึงแต่ก่อนฉินอีหลินอาศัยอยู่ที่คอนโด เธอขมวดคิ้วอย่างนึกรังเกียจ ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมลี่โม่อวี่ถึงได้เปลี่ยนจากผู้ชายกลางคืนกลายเป็นคนร่ำรวยขนาดนั้น แต่เรื่องที่ฉินอีหลินต้องตกระกำบากนั้นคือเรื่องจริง
นึกถึงฉินอีหลินที่ต้องอยู่ในห้องราคาถูกซอมซ่อแบบนั้น ฉินหลันซูก็รู้สึกอยากอาเจียนออกมาทันที แต่เพื่อแผนของเธอจึงทำได้เพียงอดทนไว้ ความรู้สึกนี้แทบจะทำให้เธอเป็นบ้า
ก่อนจะกลับมาที่นี่ฉินอีหลินก็ทำใจมาบ้างที่ต้องมาเผชิญหน้ากับปัญหาเหล่านี้ เพียงแต่เธอนึกไม่ถึงว่าพ่อจะถามเรื่องการแต่งงาน เดิมทีนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ยากจะจัดการ แต่ว่าฉินหลันซูกลับได้เพิ่มทางให้เธออีกหนึ่งเส้น
ฮันนีมูนหรอ
ฉินอีหลินปกปิดอารมณ์ของเธอไว้ภายใต้รอยยิ้มสดใส เธอไม่รู้เลยว่าจะตอบกลับพ่อและน้องสาวของเธออย่างไรดี การแต่งงานของเธอกับลี่โม่อวี่เดิมทีก็เป็นเพียงข้อตกลงของสองคน เธอบอกออกไปไม่ได้ และจะปฏิเสธข้อเสนอของน้องสาวก็ไม่ได้ อีกทั้งคำพูดของฉินหลันซูก็สมเหตุสมผล
ค่อยๆเหลือบมองลี่โม่อวี่ที่ใบหน้าเรียบเฉย เธอค้นพบว่าเธอไม่สามารถคาดเดาความคิดของเขาได้เลย จริงๆเธอไม่เข้าใจเลยว่าเธอเฝ้ารออะไรอยู่นะ
เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น ใบหน้ายังคงรอยยิ้มเอาไว้
“ฉันยังต้องทำงานนะ ไม่สะดวกจะลาเท่าไหร่ คงจะไม่ไปกับพวกเธอ…”
ไม่รอให้ฉินอีหลินได้พูดจบ ดวงตาคู่นั้นของลี่โม่อวี่มองมา นัยน์ตาสื่อความหมายลึกซึ้ง เขาพยักหน้าเห็นด้วยกับแนวทางของฉินหลันซูด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าๆ อีหลิน น้องสาวคุณพูดก็ถูกนะ ไม่ได้จัดงานแต่งแล้วยังจะไม่ไปฮันนีมูนได้ยังไง รอน้องสาวคุณได้เวลาที่แน่นอนแล้วแจ้งผมอีกทีนะ”
คำปฏิเสธของฉินอีหลินยังติดอยู่ที่ปาก พลันได้ฟังคำพูดของ “สามี” ตัวเองแล้ว เธอได้แต่ชะงักงัน
ในตอนที่เธอมองลี่โม่อวี่อย่างสงสัยนั้น เธอพลันได้เห็นความอบอุ่นอ่อนโยนที่ถูกส่งมา แววตาราวสำนึกผิดราวกับรักและทะนุถนอมเธอมาก เหมือนเธอเป็นผู้หญิงที่เขาจะรักและดูแลให้ดีที่สุดในชีวิต
“อีหลิน ผมขอโทษที่ไม่ได้จัดงานแต่งงานให้คุณ แต่อย่างน้อย ให้ผมได้พาคุณไปฮันนีมูนนะ”