บทที่ 79 อ่อนน้อมถ่อมตนขอให้ผู้หญิงหันกลับมามอง
อานหน้าดูท่าทางที่ตกใจของหลงอี้เซวียน คิ้วขมวดเล็กน้อย:
“แกกำลังทำอะไร? โตขนาดนี้แล้ว ยังทำตัวแบบนี้ เป็นยังไง?”
หลงอี้เซวียนชำเลืองไปมองลี่โม่อวี่ ก็กวักมือเรียกแม่ของตัวเองทันที จากนั้นก็กระซิบบอกอานหน้า: “แม่ พี่สาวบอกว่าอยากจะมีแฟนแล้ว เมื่อกี้ให้ฉันเอาข้อมูลของผู้ชายที่มีคุณภาพสูงส่งไปให้เธอ”
“จริงเหรอ?”
ปฏิกิริยาของอานหน้าตื่นเต้นจนปิดไม่มิด เธอรีบจับแขนของลูกชาย จึงไปโดนแผลของหลงอี้เซวียน
“ซีด…แม่ เจ็บนะ!”
หลงอี้เซวียนทำหน้าเจ็บปวดในแผลที่ถูกกด
“พี่สาวแกไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม?”
อานหน้าคลายมือ แต่ก็ยังคงไล่ถาม ห้าปีมานี้พวกเขาบังคับยังไงก็ไม่สำเร็จ ทำไมวันนี้ถึงอยากเปลี่ยนนามสกุลแล้ว?
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ เป็นความจริง”
หลงอี้เซวียนมองอานหน้าอย่างหน่ายผู้ซึ่งตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด จึงต้องเอาใจอีกครั้ง พี่สาวเป็นลูกของเธอ หรือว่าตัวเองถูกเก็บมา? โดนบาดแผลก็ไม่ถามสักคำ
“ฉันจะไปถามหมอว่าแกออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่ ดูแกดูท่าทางมีแรงแล้ว คาดว่าตอนนี้คงออกไปได้แล้ว”
อานหน้าพบว่าอารมณ์ของเธอไม่สามารถควบคุมได้ มันทำให้เธอรู้สึกอับอาย และลุกขึ้นยืน เธอพูดไปด้วย และเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย
หลงอี้เซวียนอ้าปากอึ้งค้างนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ลืมแม้กระทั่งออกเสียง
ไม่ใช่มั้ง เพียงเพราะพี่สาวจะหาแฟน แม่ของเขาก็ไม่สนใจแล้วว่าบาดแผลของเขาจะหายดีรึยัง…
ตกลงเขาเป็นลูกชายของแม่รึเปล่าเนี่ย?
เดิมทีลี่โม่อวี่กำลังให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของทางด้านนั้น ในเวลานี้ได้ยินว่าอานหน้าจะไปถามเรื่องออกจากโรงพยาบาล จากนั้นเขาก็พูดกับมู่หลิงที่กำลังก้มหัวปอกเปลือกแอปเปิลให้เขา: “เธอไปถามให้หน่อย ว่าฉันจะออกจากโรงพยาบาลได้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“แต่ว่าแผลของคุณยังไม่หาย…”
มู่หลิงรู้ว่าเพราะหลงอี้เซวียนจะออกจากโรงพยาบาล ต่อไปจะไม่ได้เจอฉินอีหลินแล้วจึงตัดสินใจที่จะออกจากโรงพยาบาล แต่ก็ไม่สามารถพูดได้อย่างชัดเจน ความรู้สึกไร้อำนาจนี้ทำให้เธออยากจะเขวี้ยงของ
“บริษัทยังมีเรื่องให้ต้องจัดการ”
“มีเซวียวน่ายกับเห้อห้าวไม่ใช่เหรอ?”
มู่หลิงยังคงไม่ยอมแพ้ แม้ว่าเธอจะรู้ว่าการขัดขวางของเธอจะไม่มีผล
ลี่โม่อวี่ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาแค่จ้องมองมู่หลิงด้วยความไม่พอใจ ในสายตาเผยการตักเตือน
“ฉัน…ฉันจะไปหาคุณหมอ”
มู่หลิงเห็นสีหน้าของลี่โม่อวี่ รู้ว่าเธอสงสัยเกินไป หลบสายตาลง เธอพูดเสียงเบา
ลี่โม่อวี่เห็นแผ่นหลังของมู่หลิงลับตาไปแล้วต้องการจะคลุกคลีกับฉินอีหลินอย่างไม่รู้ตัว เขาคาดหวังอยากให้เป็นฉินอีหลินที่ไปช่วยเขาถาม จากนั้นทั้งสองคนก็กลับบ้านด้วยกัน ทุกอย่างเป็นจินตนาการของเขา
ที่จริงลี่โม่อวี่สามารถกลับบ้านรักษาตัวที่บ้านได้ แต่หลงอี้เซวียนอยู่ห้องผู้ป่วยเดียวกันกับเขา ถ้าหากเขาอยู่ที่นี่ อย่างนั้นก็จะสามารถเห็นฉินอีหลินได้บ่อยๆ
นึกถึงเช่นนี้ ผู้ชายที่มักไม่สนใจเหน็บแนมกระตุกริมฝีปากขึ้น เป็นจุดเปลี่ยนจริงๆ เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่ร้องไห้ขอให้เขาอย่าจากไป ในวันนี้เขาอ่อนน้อมถ่อมตนร้องขอให้ผู้หญิงหันกลับมามองเขา
เค้าโครงใบหน้าที่สว่างของฉินอีหลินก็ปรากฏขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว และเงาบางๆ
การแสดงออกของลี่โม่อวี่นุ่มนวลตราบใดที่เป็นเธอ มันก็คุ้นค่าแล้ว
มู่หลิงหลังจากออกมาจากห้องผู้ป่วยกลับไม่ได้ไปหาคุณหมอทันที เธอเดินไปที่มุมที่ไม่มีคนและกดโทรหาคนที่เธอหม่อยากโทรหาอีก
“ฉินอีหลินมีลูกแฝด น่ารักมาก และฉลาด เหมือนว่าลี่โม่อวี่จะชื่นชอบมาก”
เมื่อได้ติดต่อกับปลายสายแล้ว มู่หลิงไม่ได้สุภาพมากมาย เดิมทีเธอกับชิวหันเยียนเป็นเพียงความสัมพันธ์ที่มีผลประโยชน์ต่อกันก็เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องแกล้งถามว่าคุณสบายดีไหม ฉันเป็นแขกที่ดีมาก
หลังจากพูดจบ มู่หลิงก็ไม่รอให้ชิวหันเยียนได้พูดอะไรอีก ก็กดตัดสายทันที
ดูเหมือนว่าตั้งแต่หลังจากฉินอีหลินกลับมาชิวหันเยียนก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆอีก อยากไฟด้านอื่น หรืออยากเป็นนกปากซ่อมที่แย่งกับชาวประมง?
มู่หลิงไม่ชัดเจน เธอก็ไม่อยากชัดเจน
เธอในตอนนี้ก็แค่แปลกใจอย่างไร้เดียงสา ถ้าหากผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าฉินอีหลินคลอดลูกของลี่โม่อวี่แล้ว และยังเป็นสองคน เธอจะเป็นอย่างไร
แม้ว่าชิวหันเยียนจะไม่เคยพูด แต่ว่ามู่หลิงไม่ใช่คนโง่ เธอสามารถรับรู้ได้ถึงความรักที่เธอมีต่อลี่โม่อวี่ได้
บางครั้งเธอมักคิดว่า หากมู่เนี่ยนเจ๋เป็นลูกของลี่โม่อวี่จริงๆ ชิวหันเยียนจะให้โอกาสเขาได้ชีวิตไหม?
อีกด้านหนึ่ง ชิวหันเยียนได้ยินเสียงปลายสายดังมา การแสดงออกเพียงชั่วขณะ เธอไม่อนุญาตให้คลอดลูกของลี่โม่อวี่
“ที่รัก ใครเหรอ?”
ชายวัยกลางอ้วนคนหนึ่งกำลังสูบบุหรี่นอนอยู่บนเตียง สายตาจ้องไปที่สะโพกอันอวบอิ่มของผู้หญิงที่เดินออกประตูไป รสนิยมของผู้หญิงคนนี้ช่างดีเหลือเกิน ทำให้คิดถึงมากกว่าคนก่อนๆที่เคยผ่านมา
“ไม่มีอะไร ข้างล่างมีลูกน้องคนหนึ่งโทรอยู่ บอกว่าในสนามมีคนมีปัญหา เรื่องเล็ก ฉันจัดคนไปดูแล้ว
ชิวหันเยียนได้ยินเสียงของผู้ชาย มีร่องรอยความรังเกียจในดวงตาของเขา แต่เมื่อเขาหันกลับมา ใบหน้าเต็มไปด้วยเสน่ห์
“ที่รัก มานี่”
ผู้ชายคนนั้นถอนหายใจอย่างเห็นได้ชัด ตบข้างเตียง แสดงท่าทีให้ผู้หญิงมาตรงนี้
เธอพยายามจินตนาการเป็นลี่โม่อวี่ แต่ร่างกายที่มันแผลบ ทำให้เธอไม่สามารถสายฝันต่อไปได้ แต่ว่าเธอไม่มีทางเลือก ไม่ว่าจะรู้สึกป่วยในใจ เธอจะต้องทเป็นว่าชอบต่อไป ถึงจะสามารถเป็นคนที่สองในแก๊งค์ เธอถึงจะมีคุณสมบัติยืนอยู่ตรงหน้าของลี่โม่อวี่ได้
ค่ำคืนที่มืดมิด ฉินอีหลินนำร่างทั้งหมดจมลงไปในอ่างอาบน้ำ น้ำอุ่นๆค่อยๆสัมผัสผิวของเธอเบาๆ ความรู้สึกสบายนี้ทำให้เธอไม่อยากออกมา
ในหัวสมองปรากฏใบหน้าของลี่โม่อวี่บ่อยครั้ง เธอก็ยังไม่สามารถยอมรับเรื่องจริงที่ต้องไป “นัดบอด” หัวใจเจ็บและอึดอัด แต่ความทุกข์ของเธอก็ไม่รู้จะพูดกับใครดี
ถอนหายใจเบาๆ บางครั้งเธอหวังแค่ได้เป็นนกกระจอกเทศ ไม่ต้องสนใจเรื่องใดๆ เพียงแค่ฝังตัวเองอย่างเงียบๆก็พอแล้ว
สะบัดหัว ฉินอีหลินไม่อยากคิดมากเกินไป จึงลุกขึ้นมาจากอ่างอาบน้ำแล้วเช็ดผม เปิดการบันทึกในมือถือ เธอเพิ่งได้ยินมือถือดังขึ้น แต่เพราะกำลังอาบน้ำจึงไม่ได้ออกมา
เบอร์แปลก…
ฉินอีหลินวางมือถือลงอย่างสงสัย กำลังจะลุกขึ้น มือถือก็ดังขึ้นอีกครั้ง
กดรับสาย ฉินอีหลินยังไม่ได้เอ่ยปากพูด ในมือถือมีเสียงคุ้นเคยดังมาเป็นเสียงที่เธอแทบจะจำฝังลึกลงไปในกระดูก
“ฉินอีหลิน ไม่เจอกันนาน”