บทที่ 82 ผมกำลังจีบคุณอยู่
คำพูดของเห้อห้าวทำให้ชิวหันเยียนทนไม่ได้อย่างยิ่ง แม้เธอรู้ว่าโดยส่วนตัวหลายคนจะเรียกเธอแบบนี้ อย่างน้อยในนาม ทุกคนยังเรียกอย่างให้เกียรติเธอว่า “พี่เยียน” เธอก็ทำได้เพียงหลับตาหนึ่งข้าง ไม่สนใจ
แต่เธอไม่คิดว่าจะมีคนที่เอ่ยสองคำนี้ออกมาต่อหน้าเธอ อีกทั้งยังถูกสองคนเอ่ยถึงต่อเนื่องกัน
ชิวหันเยียนใบหน้าบิดเบี้ยวมองไปยังเห้อห้าว ตอนนี้เขาเอ่ยสองคำนี้ออกมาโดยไม่มีความเกรงกลัวใดๆ จะให้เธอเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เธอทำได้เพียงโยนความผิดไปให้ฉินอีหลิน ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนั้น เธอไม่มีวันตกต่ำแบบทุกวันนี้แน่ ยิ่งไม่มีใครมาดูถูกเธอต่อหน้าผู้คนได้แบบนี้
ฉินอีหลินไม่รู้ตัวว่าตนเองไปขัดใครเข้าอีกโดยไม่รู้ตัว ตอนนี้เธอเสร็จงานที่บริษัทแล้ว ก็ต้องไปดูตัว
หลงอี้เซวียนน้องชายคนนี้ไม่เคยทำให้เธอต้องผิดหวัง เบื้องหลังของผู้ชายคนนี้ ครอบครัว นิสัย ความชอบ ถูกน้องชายของเธอตรวจสอบมาอย่างละเอียด
คาดไม่ถึงว่าจะมีชื่อเสียงดีงามอีกด้วย เพื่อลดเวลาการสืบเสาะค้นหาของผู้ใหญ่ จึงตั้งคุณภาพและประสิทธิภาพของคู่ดูตัวให้สูงขึ้น
นึกถึงน้องชายที่น่าตลกของเธอแล้ว ฉินอีหลินส่ายหน้าเบาๆ เธอยังไม่แก่สักหน่อย ทำไมต้องทำยังกะเธอจะขายไม่ออกแบบนั้นก็ไม่รู้
แต่การดูตัวที่ผ่านมาถือว่ายังไม่เป็นที่น่าพอใจ อีกฝ่ายถ้าตระกูลดี แต่ตัวของอีกฝ่ายก็ไม่เท่าไหร่ ไม่ก็ตัวตนของอีกฝ่ายไม่เลวที่บ้านก็ไม่ยอมรับผู้หญิงที่เคยแต่งงานแล้ว โดยเฉพาะมีลูกอีกถึงสองคนด้วย
สูดหายใจเข้าลึก ฉินอีหลินเงยหน้ามองร้านกาแฟที่เป็นสถานที่นัดหมาย อดที่จะขำไม่ได้ คาดไม่ถึงจะมีชื่อแบบนี้ “ให้คุณได้พบกับคนที่คาดไม่ถึง”
เป็นร้านที่มีรูปแบบที่ดีทีเดียว แม้เวลานี้ฉินอีหลินจะยังไม่ได้พบหน้าอีกฝ่าย แต่เธอก็เริ่มรู้สึกพึงพอใจ
ในตอนที่เธอรวบรวมความกล้าผลักประตูเข้าไป ก็มองหาห้องวีไอพีที่จองเอาไว้ทันที ฉินอีหลินรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
เธอนึกถึงลี่โม่อวี่ เธอเจอกับเขาที่บาร์เสน่ห์หาก็เป็นเหตุการณ์บังเอิญ แต่เธอไม่รู้ การหวนกลับมาเจอกันแบบนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่
หัวใจว่างเปล่า ใบหน้าของฉินอีหลินประดับด้วยรอยยิ้มมีมารยาท ยื่นมือมาจัดระเบียบเสื้อผ้า ผลักประตูเปิดเข้าไปเบาๆ “สวัสดีค่ะ……ลี่โม่อวี่!”
เธอไม่คิดว่าเมื่อเปิดประตูเข้าไป จะเจอลี่โม่อวี่นั่งอยู่ด้านใน ไฟในห้องวีไอพีนั้นไม่ค่อยสว่าง ดวงไฟสลัวส่องไปยังแผ่นหลังของผู้ชายคนนั้น พลันเกิดความรู้สึกเดียวดายขึ้นมา
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ฉินอีหลินจ้องมองชายตรงหน้าอย่างตระหนก เธอจำได้ว่าคนที่นัดเธอคือผู้อำนวยการของบริษัทแห่งหนึ่ง
“ทำไมผมจะอยู่ที่นี่ไม่ได้?”
ลี่โม่อวี่ไม่ได้ตอบคำถามของฉินอีหลิน เขาแค่ขมวดคิ้วสังเกตการณ์แต่งตัวของฉินอีหลิน “นี่คือชุดที่คุณแต่งไปดูตัวหรอ? ถ้าไม่รู้ว่าไปดูตัวผมคงคิดว่าคุณไปประกวดนางงาม”
วันนี้ฉินอีหลินสวมชุดเดรสสีดำ กระโปรงอยู่เลยเหนือเข่าขึ้นมาประมาณห้าเซนติเมตร คอเสื้อปาดไหล่ เผยให้เห็นลำคอระหงและกระดูกไหปลาร้าเย้ายวน สายรัดเอวทำให้เห็นทรวดทรงเด่นชัด รองเท้าส้นสูงเผยให้เห็นขาเรียวสวย ความจริงฉินอีหลินเหมาะกับสีดำมากๆ แบบนี้ยิ่งขับให้ผิวของเธอนั้นโดดเด่นและงดงาม
เดิมฉินอีหลินก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่คำพูดของลี่โม่อวี่ทำให้เธอต้องก้มลงสำรวจตัวเอง และในตอนนั้นเอง ลี่โม่อวี่ได้ขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้น
“คุณทำอะไร?”
ฉินอีหลินเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ชายคนนั้นก็มายืนอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว และในตอนที่เธอเปิดปากพูด ประตูห้องวีไอพีก็ถูกลี่โม่อวี่ปิดลงอย่างคุ้นมือ
สวรรค์รับรู้ว่าตอนนี้ลี่โม่อวี่อยากจะกดผู้หญิงคนนี้ไว้ภายใต้ร่างของเขามากเพียงใด แต่เขาทำไม่ได้
เขากักเธอไว้ชิดประตูอย่างขัดเคือง ใบหน้าของเขาเกือบจะแนบชิดไปกับใบหน้าของฉินอีหลิน มือนั้นลูบไล้อยู่ส่วนเอวของเธออย่างไม่รู้ตัว “ไม่คิดว่าคลอดลูกแล้วรูปร่างของคุณจะยังดีขนาดนี้ ผู้หญิงแบบคุณนี่ก็โหดร้ายใช่ย่อย ทิ้งผมไว้ที่โรงพยาบาล ตัวเองกลับมาดูตัวข้างนอก”
เพราะความใกล้ชิดแบบกะทันหันของลี่โม่อวี่ ส่งผลให้ใบหน้าขึ้นริ้วแดงอย่างห้ามไม่อยู่
กลิ่นของผู้ชายคนนี้ยังคงเหมือนเมื่อห้าปีที่แล้ว เธอจดจำมันได้อย่างชัดเจน
และในตอนนั้นเอง สองมือใหญ่นั้นได้ลูบไล้เอวคอดของเธอ ความคุ้นเคยนั้นทำให้ลำคอของเธอแดงเถือก
“ออกไป”
ลมหายใจของลี่โม่อวี่และฉินอีหลินผสมผสานเข้าด้วยกัน บวกกับแสงสีนวลสลัว เธอมัวเมาอยู่กับบรรยากาศแบบนั้น
แต่ใบหน้าของมู่หลิงก็ปรากฏเข้ามาในใจของเธอ เธอมีสติขึ้นมาทันทีจ้องมองไปยังชายหนุ่มตรงหน้า มือก็เริ่มผลักไสแผ่นอกกว้างของเขา
“อย่าขยับ”
ลี่โม่อวี่จับยึดมือที่ปัดป่ายคู่นั้นไว้ ลมหายใจติดขัด น้ำเสียงของเขาแหบต่ำ “อีหลิน ผมคิดถึงคุณ ทำไมคุณถึงใจร้ายขนาดนี้ หนีไปตั้งห้าปี”
ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นราวกับเด็กน้อยที่ได้รับบาดเจ็บ ฉินอีหลินสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าตัวเขาสั่นระริก
กัดริมฝีปากล่างเบาๆ ในที่สุดเธอก็เปล่งเสียงออกมา “ลี่โม่อวี่……อื้อ….”
ลี่โม่อวี่ไม่เปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสปะทะอะไรอีก เขารีบปิดยึดริมฝีปากของคนที่ทำให้เขาคิดถึงมาตลอดห้าปี
ไม่รู้กี่ค่ำคืน เขาล้วนฝันถึงผู้หญิงคนนี้…….
ลี่โม่อวี่สะดุ้งตื่นกี่ครั้ง แต่ด้านข้างของเตียงก็ยังคงหนาวเหน็บ ความเดียวดายและความคิดถึงนี้บีบเขาจนแทบบ้า
ดังนั้นในตอนนี้เขาได้จูบปากนั้นที่เฝ้าฝันถึง เลือดในกายของลี่โม่อวี่วิ่งวุ่น
“ออกไป!”
ฉินอีหลินเผลอไปกับจูบนั้นอยู่ชั่วขณะ แต่เธอก็รีบดึงสติกลับมาได้
เท้าเล็กกระทืบแรงๆลงไปยังหลังเท้าของลี่โม่อวี่ ตวัดพลิกแขน หลุดออกจากพันธนาการทันใด
ฉินอีหลินจ้องลี่โม่อวี่ที่กำลังเจ็บปวดด้วยแววตากรุ่นโกรธ ทว่าไม่รู้ว่าในสายตาของเขาแล้วท่าทางแบบนี้ยิ่งกระตุ้นมีอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
เธอเช็ดริมฝีปากหนักๆ พร้อมทั้งชี้ตะโกนใส่ลี่โม่อวี่ “ลี่โม่อวี่ คุณรู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่?”
ลี่โม่อวี่เห็นท่าทางเกรี้ยวกราดของฉินอีหลิน ดวงตามีเพียงเงาของตัวเอง มุมปากยกขึ้น อารมณ์ดี
เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม ทุกครั้งที่เห็นผู้หญิงคนนี้อารมณ์แปรปรวนเพราะเขา อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ
ขมวดคิ้วเล็กน้อย ลี่โม่อวี่เพ่งมองดวงหน้าเล็กที่ยังแดงก่ำ “แน่นอนว่ารู้”
ชะงักไปเล็กน้อย ผู้ชายคนนั้นก็ขยับมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แต่ยังทิ้งระยะปลอดภัย “ฉินอีหลิน คุณดูไม่ออกหรอกหรอ? ผมกำลังจีบคุณอยู่”