ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 81

ตอนที่ 81

บทที่ 81 โง่กว่าห้าปีที่แล้วอีก

เมื่อคำพูดของชิวหันเยียนจบลง เสียงดนตรีรอบข้างจึงหยุดชะงัก ชายหญิงบนฟลอร์เต้นถูกขับไล่ให้ออกไปจากบาร์

เสียงกรีดร้องเริ่มบางเบา เหล่าสมุนพวกนั้นถือมีดอยู่ในมือยืนล้อมรอบฉินอีหลินเอาไว้จนแม้น้ำก็ยังผ่านไม่ได้

แต่ฉินอีหลินเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีทุกอย่างแล้ว วันนี้เธอตั้งใจออกมาโดยไม่สวมรองเท้าส้นสูง เสื้อผ้าก็เลือกสวมเสื้อผ้าสบายๆ สามารถยืดเส้นยืดสายได้อย่างเต็มที่

เธอมองดูชิวหันเยียนซึ่งกำลังเดินถอยหลังเข้าไปอยู่ข้างๆเหล่าสมุน รอยยิ้มเยือกเย็น ยังคิดว่าเธอยังคงเป็นเหมือนเมื่อห้าปีก่อนอีกหรอ วันนี้เธอเปลี่ยนไปแล้ว ทั้งหมดนี้ก็เพราะผู้หญิงพวกนี้บีบบังคับเธอทั้งนั้น

โยนกระเป๋าในมือทิ้ง ถอดชุดคลุมออกอย่างสบายๆ ใบหน้าของฉินอีหลินไม่มีแววหวาดกลัวเลยสักนิด

ท่าทางแบบนี้ของฉินอีหลินนี้ทำให้ชิวหันเยียนรู้สึกกลัว แต่เธอไม่อยากยอมรับความกลัวที่เกิดขึ้นภายในใจ ไม่รีรออะไรอีก เธอขมวดคิ้วพร้อมส่งสัญญาณมือ “ลุย” ให้กับลูกสมุน

หึ ตอนนี้เธอไม่เกรงกลัวที่จะเล่นกับหล่อนเลยสักนิด เดี๋ยวอีกไม่นานจับตัวผู้หญิงคนนั้นได้ เธอจะให้หล่อนมาคุกเข่าขอร้องตรงหน้าเธอให้ได้

“ชิวหันเยียน เธอยังโง่เหมือนเมื่อห้าปีที่แล้วอยู่เลยนะ”

ฉินอีหลินยักคิ้ว ปากบางเอ่ยประโยคนั้นช้าๆ หลังจากนั้นเธอก็ต้องพอใจกับความโกรธที่ปรากฏขึ้นในดวงตาของคนๆนั้น ในขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้ตั้งสติ บางอย่างได้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วจากปลายเท้าของฉินอีหลินพุ่งตรงปะทะกับชายที่เข้าใกล้เธอที่สุด ในเวลาเดียวกันก็แย่งกระบองจากมือมาได้ด้วย

พลั๊ก……….

เสียงจากการปะทะของร่างกายกลายเป็นฉากของตอนนี้ ราวกับอสูรที่ถูกเรียกออกมาจากนรก

ชายหนุ่มคนนั้นฟันหลุดไปหนึ่งซี่ ต่อมาจึงแสยะยิ้มให้หญิงสาวที่กำลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง

ผลัวะ…..

การโจมตีเกิดขึ้นอีกครั้ง

ชายคนนั้นควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เท้าถีบไปยังท้องน้อยของฉินอีหลิน และในตอนนั้นเอง คนอื่นที่ล้อมอยู่รอบๆก็ฟาดกระบองเข้าที่ไหล่ของฉินอีหลิน

ฉินอีหลินก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างรวดเร็ว กระบองในมือยื่นออกไปต่อสู้กับเหล่าอาวุธที่พุ่งเข้ามาทำร้ายเธอ เธอออกแรงสุดชีวิตหมุนตัวอย่างคล่องแคล่ว จนกระทั่งพาส่วนท้องน้อยหลบหลีกจากการปะทะได้

ชายคนนั้นเห็นว่าตนเองถีบไปครั้งเดียวนั้นไม่ได้ผล มือกำหมัดแน่น สวนขึ้นไปยังปลายคางของฉินอีหลิน นั่นเป็นจุดอ่อนของร่างกาย ถ้าหากถูกทำร้ายตอนนี้ ด้วยกำลังของชายหนุ่มคนนั้น ฉินอีหลินคงสูญเสียกำลังและการต่อสู้

แต่สิ่งที่ทำให้ชิวหันเยียนต้องผิดหวังก็คือ ผู้หญิงคนนั้นเบี่ยงหน้าหลบ หมัดจึงเฉียดเพียงผิวแก้มของหล่อน แต่เพราะผู้ชายคนนั้นเข้าใกล้เธอมากเกินไปทำให้ถูกเข่าแหลมคมแทงเข้าจุดกลางใจของชายหนุ่ม

แม้แรงนั้นจะไม่ได้มากมายอะไรแต่ก็ทำให้ชายหนุ่มคนนั้นหมดหนทางต่อสู้อีกต่อไป

เธอไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้หายไปห้าปี จะไปฝึกความสามารถมาได้ดีขนาดนี้

ดวงตาฉายแววร้ายกาจ ชิวหันเยียนแสยะยิ้มสั่ง “ฉาน แกไป”

ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าฉานขยับร่างกายกวัดแกว่งลำคอ ยืดเส้นยืดสายข้อมือ ได้ยินเสียงดังโครมครามส่งมา เขาถุยน้ำลาย หยิบยกทวนบนโต๊ะที่เตรียมเอาไว้ก่อนแล้วมุ่งตรงเข้าไปในกลุ่มคน คมมีดฟาดฟันไปที่ฉินอีหลินหมายจะเอาชีวิต

ชิวหันเยียนที่มองหญิงสาวหลบหลีกจากคมมีดนั้นอย่างคล่องแคล่วในใจเริ่มไม่สงบ เธอยอมรับคำพูดที่ฉินหลันซูกับมู่หลิงบอกในที่สุด ผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งขึ้นมาก

แต่ยิ่งเป็นแบบนั้น เธอยิ่งจะเก็บหล่อนเอาไว้ไม่ได้ ชิวหันเยียนห้าปีหลังจากนั้นเธอถึงได้เข้าใจหลักการนี้ ถอนรากถอนโคน

“แม่ง!ใครกล้ามาก่อเรื่องที่บาร์เสน่ห์หา ให้ฉันดูสิว่าชีวิตใครมันน่าเบื่อเกินไป”

ในตอนนั้นเองประตูทางเข้าบาร์เสน่ห์หาที่เต็มไปด้วยผู้คนมามุงดูเหตุการณ์ นานมากแล้วที่ไม่มีใครกล้ามาก่อเรื่องที่นี่ ใครๆต่างก็อยากรู้อยากเห็น ตอนนี้พวกเขาไม่สนอะไรทั้งสิ้น พากันสอดส่องเข้าไปด้านใน

เห้อห้าวได้ยินว่ามีคนก่อเรื่องที่บาร์เสน่ห์หาเขายังคิดว่าตัวเองฟังผิดด้วยซ้ำ ที่แท้ก็มีคนกล้ากินหัวใจหมีนี่เอง กล้าก่อเรื่องในถิ่นของพวกเขา เขาไม่ปล่อยมันไปง่ายๆแน่ เห้อห้าวชื่อของเขาลองเขียนกลับหัวดูสิ

ลูกน้องของเขาสั่งผู้คนที่มามุงนั้นแยกย้าย เสียงตะโกนดังกึกก้องของเขาทำให้ทั้งสองฝ่ายหยุดชะงัก

ในตอนใบหน้าเกรี้ยวกราดของเขามองไปยังจุดศูนย์กลางของความวุ่นวาย เขากลับพบว่าคนตรงกลางที่กำลังถูกห้อมล้อมเอาไว้นั่นเป็นหญิงสาวร่างระหง ผู้หญิงคนหนึ่ง?

รูปร่างของคนๆนั้น……..ทำไมยิ่งดูยิ่งคุ้น?

เห้อห้าวกะพริบตาซ้ำๆ เดินเข้าไปใกล้อย่างไม่แน่ใจ เขาเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นก็กำลังจ้องมองมาที่เขาเช่นกัน จึงลองเอ่ยเรียกออกไป “พี่….พี่สะใภ้?”

ถ้าหากพี่ใหญ่รู้ว่าพี่สะใภ้ถูกรังแกในถิ่นฐานของตนเองล่ะก็ เขาจะไม่โดนลี่โม่อวี่ตัดเอ็นถลกหนังเลยหรอ?

“หลีกทางให้ฉัน!”

เห้อห้าวอดไม่ได้ถีบเข้าที่ก้นของผู้ชายที่อยู่ใกล้ที่สุด แล้วรีบร้อนวิ่งเข้าไปยืนอยู่ข้างกายหญิงสาวคนนั้น

“พี่สะใภ้ คุณมาได้ยังไง? มาแล้วก็ไม่บอกผมสักคำ คุณมาหาพี่ใหญ่หรอ? เขาอยู่บริษัท เอางี้ไหมคุณขึ้นไปพักบนตึกสักครู่ ผมจะรีบโทรหาพี่ใหญ่ให้”

เห้อห้าวบอกพร้อมหยิบโทรศัพท์ออกมา แต่ถูกฉินอีหลินกดมือเอาไว้ “ขอโทษด้วยนะคะ คุณจำคนผิดแล้ว”

ฉินอีหลินเห็นว่าคนรอบๆไม่ได้มีท่าทีจะทำอะไรแล้ว จึงปัดเสื้อผ้าบนตัว หลังจากนั้นก้มลงหยิบกระเป๋าและเสื้อคลุมที่ถูกทิ้งลงบนพื้น เตรียมมุ่งตรงไปยังประตู

ในตอนนั้นเห้อห้าวจะยื้อก็ไม่ใช่ ไม่ยื้อก็ไม่เชิง เดินตามฉินอีหลินไปที่ประตู “พี่สะใภ้ คุณอย่าไปเลย ถ้าคุณไปแบบนี้ พี่ใหญ่กลับมาต้องฆ่าผมตายแน่ๆ”

“คุณจำคนผิดแล้วจริงๆค่ะ”

ฉินอีหลินไม่หยุดเดิน ตอนนี้เธอไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับลี่โม่อวี่อีกแล้ว ตั้งใจว่าจะหนีกลับไปเลย

ขณะที่เดินผ่านชิวหันเยียน แววตาเยือกเย็นมองไปยังผู้หญิงคนนั้นที่มีความหวาดกลัวเล็กน้อย มุมปากยกยิ้มเย้ยหยัน “ขอโทษด้วย เมื่อกี้ฉันพูดผิดแล้ว คุณไม่ได้โง่เหมือนห้าปีที่แล้ว คุณโง่กว่าเมื่อห้าปีที่แล้วอีก”

ไม่แม้จะมองใบหน้าดุร้ายของชิวหันเยียนเลยสักนิด ฉินอีหลินก็เปิดประตูเดินออกไป

เห้อห้าวมองฉินอีหลินเดินจากไป พลันนึกถึงที่พี่ใหญ่เคยบอก เธอเปลี่ยนไปมากจริงๆ

รอจนร่างของผู้หญิงคนนั้นหายลับไป เห้อห้าวจึงเก็บสีหน้าเดิมเอาไว้ กลับมาเป็นในแบบที่ทุกคนคุ้นเคย

ใบหน้าเย็นชาหันกลับมา น้ำเสียงเข้ม “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ลิ่วจี่ที่อยู่ข้างๆเห้อห้าวมาตลอดเล่าถึงความเป็นมาของสถานการณ์ให้ฟังแล้ว ตอนที่ได้ยินคำถาม จึงรีบวิ่งเข้ามาแล้วกระซิบ “พี่เยียนเป็นคนจัดการครับ”

“พี่เยียน?”

เห้อห้าวยิ้มเยาะพร้อมเอ่ยทวนคำเรียกขานของลิ่วจี่ หลังจากนั้นหรี่ตามองหญิงสาวอีกคนที่อยู่ไม่ไกล ตอนนี้ชิวหันเยียนใบหน้ายโสโอหังกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เขาอดไม่ได้หัวเราะเสียงดังออกมา

เวลาห้าปีเปลี่ยนอะไรไปเยอะมาก ฉินอีหลินสามารถเปลี่ยนจากผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งมาแข็งแกร่งได้เหมือนทุกวันนี้ และชิวหันเยียนที่เป็นเพียงผู้หญิงจิตใจทะเยอทะยานกลับกลายมาเป็นคนเย็นชาและโหดเหี้ยมขนาดนี้

หยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน ลิ่วจี่จุดไฟให้อย่างรู้หน้าที่

เห้อห้าวดูดบุหรี่เฮือกใหญ่ หันไปพ่นควันออกมาใส่ชิวหันเยียนช้าๆ ต่อมาใช้มืออีกข้างตบเบาๆไปที่ศีรษะของลิ่วจี่

“ปกติฉันบอกว่าแกเซ่อ แต่แกกลับกระด้างกระเดื่องไปโง่ซะงั้น พวกแกเริ่มฟังคำพูดของโสเภณีคนหนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท