ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 97

ตอนที่ 97

บทที่ 97 ยังสนใจเรื่องนี้อยู่อีกหรือ?

หลังจากที่ทั้งสองคนยื่นนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่ครู่หนึ่ง ลี่โม่อวี่ที่จ้องฉินอีหลินอยู่ก็พูดทำลายความเงียบขึ้นมา : “หรือคุณคิดว่าที่พ่อคุณอยู่ฝั่งนั้นจะปลอดภัยเหมือนกันหรือ?”

พอเขาพูดมาแบบนั้น ฉินอีหลินเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี เพราะถ้ากลุ่ม K ยังไม่ถูกจับตัวได้ ต่อให้พวกเขาไปที่นั่นอย่างไรก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ขนาดตัวเธอเองมีความสามารถในการปกป้องตัวเองอยู่แล้ว พอถูกกลุ่ม K จับตัวไปเธอยังต่อต้านไม่ได้เลย แล้วกับเด็กอายุห้าขวบสองคนล่ะจะไปเหลืออะไร

ถึงแม้ในใจจะคิดแบบนี้ แต่สีหน้าของฉินอีหลินยังคงนิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา เธอแค่มองไปยังผู้ชายด้านหน้าอย่างเงียบๆ ก่อนจะพูดขึ้น

“อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่าอยู่กับฉันตรงนี้แล้วกัน ดังนั้นฉันต้องส่งพวกลูกๆ ไปที่นั่นให้ได้ ไม่มีใครมาห้ามฉันได้ แม้จะเป็นคุณก็ตาม”

ลี่โม่อวี่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะ สีหน้าของเขาเห็นได้ชัดเลยว่าไม่เห็นด้วย เขาหรี่ตามองโน้มตัวมาหาเธอข้างหน้าช้าๆ ท่าทางแบบนี้มันช่างทำให้ฉินอีหลินรู้สึกกดดันอย่างมากจริงๆ ลี่โม่อวี่ยืนมองเธอแบบนี้ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและดื้อดึง

“ผมเป็นพ่อของเด็กทั้งสองคน คุณอย่าลืมสิ ผมมีสิทธิ์ที่จะปกป้องดูแลลูกได้นะ”

“แล้วคุณก็อย่าลืมสิ ว่าคุณก็เป็นพ่อของลูกๆ ของมู่หลิงเหมือนกัน!” ฉินอีหลินเพิ่มเสียงให้ดังยิ่งขึ้น เธอคิดก่อนจะพูดคำเหล่านั้นออกมา โดยที่ตัวเธอเองไม่รู้เลยว่า คำพูดเหล่านั้นที่เธอพูดออกมา มันแฝงไปด้วยความไร้เรี่ยวแรงและใส่ใจมากแค่ไหน

“มู่เนี่ยนเจ๋น่ารักมากๆ เลยนะ” ฉินอีหลินไม่อยากให้ลี่โม่อวี่รู้ว่าอารมณ์ของเธอหลุดไป จึงพูดแบบนี้ออกมา

แต่เธอก็แสร้งทำเป็นไม่มีอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ฉินอีหลินก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่นิด

“ลี่โม่อวี่ คุณว่าเราสองคนไม่เคยป้องกันมาก่อนเลย ถ้าหากฉันอุ้มลูกของคุณจริงๆ คุณจะต้องการไหม?”

“ไม่หรอก เป็นเพราะผมไม่ใส่ใจเอง อีหลิน พรุ่งนี้คุณไปซื้อยาคุมกำเนิดมากินก่อนก็ได้นะ แล้วครั้งหน้าผมจะระมัดระวังให้มากกว่านี้ จะไม่มีเรื่องเหมือนวันนี้เกิดขึ้นอีก”

เธอจำคำพูดของผู้ชายคนนี้ ที่พูดไว้เมื่อตอนห้าปีก่อนได้แม่น เป็นเพราะเขามีมู่เนี่ยนเจ๋อยู่แล้ว เขาจึงไม่ต้องการลูกของเธอ…

แต่ก็ยังดีที่ตอนแรกเธอไม่ได้ป้องกัน ไม่อย่างนั้นเธอคงสูญเสียลูกที่น่ารักทั้งสองคนไปแล้ว แล้วแบบนี้ชีวิตของเธอจะไปมีความหมายอะไรจริงไหม?

“คุณยังเอาใจใส่เรื่องนี้เสมอเลยนะ”

สายตาของลี่โม่อวี่ไม่ได้มีความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยเอาใจใส่ผู้หญิงคนหนึ่งแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นมู่หลิงในตอนแรกก็ตาม เขาก็ไม่เคยใส่ใจแบบนี้มาก่อน

แต่เขาเองก็รับปากเธอมากกว่านี้ไม่ได้ ถึงแม้เขากับมู่หลิงจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กันก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม มู่เนี่ยนเจ๋ก็เป็นลูกชายของเขา เขาไม่มีทางที่จะไล่ให้ลูกๆ ออกไปจากบ้านได้แน่นอน

อีหลิน คุณเข้าใจสิ่งที่ผมคิดใช่ไหม? คุณคือทั้งหมดของผม และพวกเขาก็เป็นลูกๆ ของผมด้วย

คำพูดของลี่โม่อวี่ทำให้ฉินอีหลินเม้มปากแน่น พลันเธอก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องผู้ชายตรงหน้าเธอเขม็ง : “ฉันยอมรับว่าฉันก็รู้สึกใจสั่นกับคุณเหมือนกัน”

คำพูดของฉินมู่หลินนั้นทำให้ลี่โม่อวี่เบิกตาโพลงทันที เขามองไปยังผู้หญิงตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจอย่างปิดเอาไว้ไม่อยู่

เขารู้ว่าในใจของเธอมีเขาอยู่ แต่เขาคิดไม่ถึงว่า ฉินอีหลินจะเปิดใจให้เขาแบบนี้

ความสุขมันช่างมารวดเร็วเหลือเกิน ลี่โม่อวี่รู้สึกว่าตัวเองยังเตรียมตัวไม่พร้อมเลย

แต่ฉินอี้หลินขมวดคิ้วมองไปทางลี่โม่อวี่ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบสนองก่อน “พวกเราต่างก็มีอายุมากกันแล้วนะ ตอนนี้ที่ทำทุกอย่างเพื่อพ่อกับแม่ พวกเราควรจะคิดไตร่ตรองเพื่อลูกๆ ให้ดีๆ นะ แต่ไหนแต่ไรเธอก็ไม่คิดว่าพวกเด็กๆ จะต้องมาตอบแทนบุญคุณอะไรอยู่แล้ว พวกเขาเองก็มีชีวิตของพวกเขาเอง ไม่ต้องแบกรับภาระเยอะขนาดนั้นเพื่อพวกเราก็ได้”

ฉินอีหลินมองหน้าของลี่โม่อวี่ที่อารมณ์เปลี่ยนไปเป็นหดหู่ใจ ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เธอต้องกุมหน้าอกของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าการกระทำแบบนี้มันบอกอะไรกับเธอ จึงรีบปล่อยวางมันอย่างรวดเร็ว

ลี่โม่อวี่เห็นท่าทีของอีกฝ่ายแบบนั้น เขาเองก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าในใจรู้สึกอะไรอยู่กันแน่

เขาไม่รู้ว่าควรจะชื่นชมที่ผู้หญิงคนนี้ดูแข็งแกร่งและมีทิฐิแบบนี้ หรือว่าจะโกรธที่รู้ว่าในใจมีเขาอยู่แล้วแต่เธอกลับเลือกที่จะละทิ้งเขาดี

ลี่โม่อวี่ไม่มีทางหนีห่างไปจากฉินอีหลินแน่ๆ ตอนนั้นจู่ๆ ฉินอีหลินก็เข้ามาในชีวิตแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วเธอจะอาศัยอะไรที่จู่ๆ จะมาจากเขาไปแบบไม่บอกอะไรสักคำแบบนี้

สุดท้ายเขาก็อดนึกถึงตอนที่เธอหนีจากเขาไปเมื่อห้าปีก่อนไม่ได้ ตอนนั้นเป็นช่วงชีวิตที่ย่ำแย่ที่สุดของเขา เขาไม่รู้เลยว่าชีวิตมีความหมายอะไร เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตอนนั้นเขาจะเป็นเหมือนศพที่เดินได้แบบนั้น

“ในใจของคุณมีผม ผมเองก็มีคุณอยู่ในใจ เด็กทั้งสองคนเองก็ยอมรับผม ผมกับมู่หลิงก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน หมิงเจ๋อกับจิ่นเซวียนก็มีแค่พี่ชายแปลกหน้าคนหนึ่งโผล่มาเท่านั้นเอง”

ไม่รู้ว่าทำไมลี่โม่อวี่อยากจะพูดสิ่งที่เขาคิดไว้ให้จบเร็วๆ เขารู้สึกเหมือนกับว่าหากไม่ทำแบบนี้ ก็คงจะไม่มีโอกาสพูดอีกแล้ว

“เด็กๆ เองก็ปรับตัวเก่งอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าพวกเขาต้องปรับตัวเข้าหากันได้แน่นอน อย่าปฏิเสธผมเลยนะอีหลิน”

ฉินอีหลินรู้สึกเหมือนกับถูกแทงที่ปลายนิ้วจนบาดเจ็บอีกครั้ง ความรู้สึกแบบนี้เธอก็เคยรู้สึกมาก่อนตอนที่อยู่โรงพยาบาล

เรื่องลูกๆ เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนต่อคนเป็นพ่อเป็นแม่ของเขา อย่างปฏิเสธไม่ได้จริงๆ

“คุณเองก็รู้คำตอบของฉันอยู่แล้วนี่” ฉินอีหลินลอบถอนหายใจอย่างเงียบๆ เกือบเหมือนว่าจะพยายามให้ตัวเองพูดคำนั้นออกมาให้จบ เธอไม่อยากเห็นท่าทางที่อ่อนแอของลี่โม่อวี่อีกต่อไป เพราะสีหน้าท่าทางแบบนั้นมันไม่เหมือนกับลี่โม่อวี่ที่เธอเคยรู้จักเลย

ฉินอีหลินพยายามผ่อนคลายอารมณ์ลงแล้วมองดูรอบๆ ห้อง สิ่งของที่นี่ดูเหมือนว่าจะไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิด พลันความรู้สึกที่เธอเคยเป็นเจ้าบ้านที่นี่มาเมื่อห้าปีก่อนนั้น ก็ถาโถมเข้ามา

พอคิดแบบนี้ ฉินอีหลินก็คิดถึงใครคนหนึ่งทันที

“อย่าหาว่าผมไม่ได้เตือนคุณก็แล้วกัน อย่าคิดว่ามู่หลิงเป็นแม่ของมู่เนี่ยนเจ๋แถมยังวนอยู่รอบตัวผมทุกวี่ทุกวันอีก เธอก็เป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้นล่ะ”

ฉินอีหลินไม่ได้พูดอะไรมาก เธอพูดมาถึงแค่ตรงนี้เพราะเธอเชื่อว่า ทุกอย่างไม่ว่าจะมีเยอะหรือไม่เยอะมันก็ไม่ดีพอๆ กัน

และเหมือนจะคิดอะไรขึ้นได้อีกอย่าง เธอจึงยิ้มเยาะแล้วพูดออกมาว่า : “แน่นอนสิ ถ้าหากคุณคิดว่าฉันทำชั่วล่ะก็ ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วล่ะ

ตอนนี้มู่หลิงไม่เห็นสีหน้าของลี่โม่อวี่เลยแม้แต่นิด แต่พอเธอได้ยินในสิ่งที่พวกเขาพูดกันนั้น เธอก็รู้สึกเหมือนว่ามีเหงื่อไหลจนเต็มแผ่นหลังเลย

มู่หลิงไม่ใช่คนโง่ เธอรู้สึกได้ว่ามู่เนี่ยนเจ๋เป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่ทำให้ทั้งสองคนกลับมาอยู่ด้วยกันไม่ได้ ถึงเธอจะดีใจแค่ไหน แต่ก็รู้สึกยิ่งตื่นตระหนกไปด้วยเช่นกัน

เธอเข้าใจลี่โม่อวี่ดี ว่าเขาไม่มีทางทิ้งลูกชายของเขาเองแน่นอน แต่ถ้าหากมู่เนี่ยนเจ๋ไม่ใช่ลูกชายของเขาล่ะก็…

มู่หลิงคิดได้แบบนั้นก็เสียวสันหลังวาบ สีหน้าเธอดูตื่นตระหนกอย่างมาก เธอรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าเรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นสักวัน ตอนนั้นเธอไม่ควรจะให้พวกผู้ชายนั้นบีบบังคับเธอเลย เธอน่าจะเอามีดปาดไปที่คอเลยจะดีกว่า!

เดิมทีเธอกลัวว่าฉินอีหลินจะพูดข้อมูลอะไรที่มันเป็นประโยชน์ออกมา แต่เธอก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะไม่พูดอะไรที่เป็นความจริงออกมาเลย เธอจึงค่อยๆ เดินจากไปอย่างเงียบๆ ทันที

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท