ประธานจอมหื่นสุดซ่า – ตอนที่ 100

ตอนที่ 100

บทที่ 100 พละกำลัง

ฉินอีหลินในตอนนี้นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่ในอ้อมกอดของลี่โม่อวี่ ผ่านไปอยู่นาน เธอจึงพูดอย่างไม่สนใจพลางหัวเราะเบาๆ : “ลี่โม่อวี่ นี่คุณอย่างไรเดียงสาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่คิดว่าพอขึ้นเตียงแล้วก็จะขึ้นได้ซ้ำๆ ไปน่ะ? แล้วคู่นอนของคุณก่อนหน้านี้หลายต่อหลายคน คุณก็อยากจะทำแบบเดิมอีกหลายครั้งด้วยเหมือนกันใช่ไหม?” พูดจบ ฉินอีหลินก็ดิ้นรนออกจากอ้อมกอดของลี่โม่อวี่ ก่อนจะมองไปที่เขาอย่างเหลาะแหละ

“ฉินอีหลิน! เรื่องนี้ผ่านมานานแค่ไหนกันแล้ว คุณจะมาคิดอะไรกันตอนนี้!” ลี่โม่อวี่ขมวดคิ้วแน่น เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่ สิ่งนั้นมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนจะมารู้จักกับเธอด้วยซ้ำ ทำไมเธอจะต้องพูดพร่ำรำพันอะไรอีกด้วย

“ใช่สิ ฉันมันก็คนชอบคิดบัญชีเก่าแบบนี้ล่ะ ทำไมล่ะ? รำคาญงั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยพวกเราไปสิ อย่ามายุ่งกับฉัน” ฉินอีหลินแทบจะไม่สนใจเลยว่าเขาจะคิดอะไรอยู่ เธอสวมชุดคลุมอาบน้ำก่อนจะเดินอ้อมลี่โม่อวี่ออกไป เพื่อเตรียมจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

“นี่คุณหมายความว่าอย่างไรกัน?” ลี่โม่อวี่รู้สึกเจ็บปวดใจทันที เขาไม่เข้าใจความคิดของผู้หญิงคนนี้เลย ถ้าหากเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา ถ้าอย่างนั้นการที่เธอปฏิเสธก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่เธอยังยอมรับเขาอยู่แบบนี้ แต่กลับไม่ยอมให้โอกาสเขาสักครั้งเลย

“ความใกล้ชิดไร้ขอบเขต” ของทั้งสองคนในที่สุดก็กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ในช่วงระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา แต่ผู้หญิงคนนี้กลับคิดว่ามันเป็นแค่คืนหนึ่งผ่านไปเท่านั้นเอง!

ความคิดของเธอกลายเป็นแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

“ทำไมจะต้องถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วล่ะ”

ฉินอีหลินเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ เธออดยิ้มไม่ได้เมื่อได้ยินลี่โม่อวี่ถามแบบนั้น : “พวกเราต่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ต่างคนต่างก็ต้องมีความต้องการเป็นของตัวเอง จะเอาจริงเอาจังไปเสียทุกอย่างไม่ได้หรอกนะ”

คำพูดของฉินอีหลินที่พูดออกมานั้น เหมือนจะบอกนัยๆ ว่าเธอไม่อยากกลับมา ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ว่าเธอไม่อยาก แต่ไม่กล้าต่างหาก

เธอไม่กล้าให้ลี่โม่อวี่เห็นสายตาที่อาลัยอาวรณ์และดิ้นรนของเธอ และยิ่งไม่กล้าให้เขาเห็นความอ่อนแอไร้กำลังของเธอด้วย จริงๆ แล้วถ้าพูดกันตามตรง เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ผู้หญิงที่มีไหล่ที่คอยเฝ้าปรารถนาหรือว่าหน้าอกที่อบอุ่นของใครๆ แต่เธอเลือกลี่โม่อวี่ไม่ได้ ถ้าหากพวกเธอทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ก็มีแต่จะทรมานด้วยกันทั้งคู่

แต่ละวันที่ผ่านมาช่วงห้าปีก่อนเธอไม่เคยลืม แต่ตอนนี้ที่อยู่ด้วยกัน พวกเธอทำได้เพียงจำเรื่องราวดีๆ ของกันและกันเท่านั้น

ถ้าหากเริ่มคบใหม่กันจริงๆ อย่างนั้นก็จะเรียกว่าเริ่มต้นชีวิตที่แท้จริง ชีวิตไม่ใช่นิยาย มันมีชีวิตความเคยชินและนิสัยที่คุ้นชินกันและกัน แต่ระหว่างเธอกับลี่โม่อวี่ มันไม่มีทางที่จะรวมด้วยกันได้

ฉินอีหลินพูดจบเธอก็มุ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ขณะที่เธอออกมานั้นเอง เธอก็พบว่าลี่โม่อวี่ยังคงยืนจ้องเธออยู่ในห้องอาบน้ำไม่ละสายตา

เพียงแต่สายตาที่มองมานั้น เต็มไปด้วยความขมขื่นและสิ้นหวัง ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก

ถึงความเจ็บปวดจะไม่ได้หนักนัก แต่ก็เหมือนใช้มีดทู่ๆ อันหนึ่งค่อยๆ ดึงเอาหัวใจออกมาช้าๆ ถึงจะไม่คมแต่ก็ทำให้รู้สึกเจ็บปวดได้อยู่ดี

“ฉันไปล่ะนะ” ฉินอีหลินไม่กล้ามองดูสีหน้าของลี่โม่อวี่อีก เธอก้มตาต่ำก่อนจะหยิบเอากระเป๋าของเธอ แล้วเดินออกจากห้องไป ฉินอีหลินเลิกคิ้วมองดูมู่หลิงที่ยืนอยู่หน้าประตู : “ฉันไม่ได้พูดอะไรผิดไปจริงๆ นะ ว่ารสนิยมของเธอนี่เด็ดจริงๆ”

มู่หลิงขณะนั้นไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะไปฟังคำพูดหยอกล้อของฉินอีหลิน เธอทำเพียงยืนมองรอยแดงที่คอของเธออย่างเหม่อลอย ซึ่งรอยเหล่านั้นทำให้มู่หลิงอดที่จะน้ำตาคลอไม่ได้

นี่เธอรอมาห้าปีเลยนะ การปกป้องที่แสนยาวนานมาห้าปี กลับแปรเปลี่ยนเป็นแบบนี้ไปเสียแล้ว

เธอหัวเราะเยาะตัวเอง มู่หลิงเหมือนจะพูดอะไรออกมา แต่เธอรู้สึกเหมือนคอแห้งผาก จนพูดอะไรออกมาไม่ได้เลยสักคำ

ฉินอีหลินรู้สึกเวทนาเมื่อมองเห็นปฏิกิริยาของมู่หลิง พลางคิดในใจว่าผู้หญิงคนนี้ช่างน่าเศร้าเสียจริง

แต่เธอก็ไม่ได้คิดที่จะปล่อยเธอให้เป็นแบบนี้ โบราณกล่าวไว้ว่า คนที่น่าสงสารมักจะมีส่วนที่รู้สึกเกลียดอยู่ด้วย

ฉินอีหลินเม้มปากยิ้ม ก่อนจะตะโกนเสียงดังเข้าไปหาลี่โม่อวี่ด้านใน ซึ่งฟังไม่ออกว่าเป็นเสียงที่ตั้งใจยั่วหรือเปล่า “ประธานลี่สุขภาพไม่ค่อยดี หวังว่าคราวหน้าพวกเราจะได้เล่นอะไรสนุกๆ นะคะ”

พูดจบ ฉินอีหลินก็มองไปยังแววตาของมู่หลิงที่เต็มไปด้วยความริษยาและความไม่เต็มใจ อีกทั้งตัวสั่นระริกเพราะความโกรธ เธอรู้ดีว่าอารมณ์แบบนี้เป็นสิ่งที่มีผลกับเธอมากที่สุด

ฉินอีหลินตั้งใจเผยท่าทางที่ดูถูกออกไป ขณะที่เธอเดินผ่านมู่หลิงนั้น มู่หลิงก็ได้ยินคำเยาะเย้ยจากเธออย่างชัดเจน “คิดไม่ถึงเลยว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ เธอจะยังไม่ได้ขึ้นเตียงกับลี่โม่อวี่เลยนะ เฮ้อ ช่างน่างสงสารจริงๆ”

ฉินอีหลินพูดจบ ก็เดินออกจากบ้านตระกูลลี่ไปทันที โดยไม่ได้รอให้อีกฝ่ายพูดขึ้น

……

“ทำไมพี่ยังไม่กลับมาอีก นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว?” หลงอี้เซวียนวิ่งไปวิ่งมาในห้องอย่างร้อนใจ ถ้าหากฉินอีหลินยังไม่กลับมาจริงๆ เขาจะพุ่งไปที่บ้านตระกูลลี่ทันที!

“พี่ก็แค่หายไปแป๊บเดียวเท่านั้น นี่นายจะร้อนใจไปทำไมกัน?” ฉินอีหลินเปิดประตูเข้ามาได้ยินคำพูดเอสักครู่นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น

“พี่!”

“อีหลิน!”

เมื่อคนในครอบครัวเห็นว่าฉินอีหลินกลับมาแล้ว ก็เข้ามาล้อมรอบเธอทันที จนดูเหมือนว่าพวกเขาไม่อยากจะอยู่ห่างจากเธอเลยแม้แต่เสี้ยววินาที

ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ฉินอีหลินรู้สึกว่าตัวเองน่าทะนุถนอมมากขึ้น ถึงแม้จะรู้สึกถึงความอบอุ่นในช่วงห้าปีที่ผ่านมา แต่เป็นเพราะเธอพบเจอความรู้สึกแบบนี้ในบ้านตระกูลฉิน เธอจึงรู้สึกว่าตัวเองน่าทะนุถนอมมากเป็นพิเศษ

“พี่ นี่มัน!” หลงอี้เซวียนเหลือบตามองเห็นรอยแดงที่คอของฉินอีหลิน เขาเองก็ไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เพราะฉะนั้นเขารู้แน่นอนว่า นี่มันไม่ใช่รอยยุงกัดอย่างแน่นอน!

“ให้ตายเถอะ ลี่โม่อวี่! ผมจะไปฆ่ามันเดี๋ยวนี้เลย!” หลงอี้เซวียนตาแดงก่ำ เขากำหมัดทั้งสองข้างแน่นจนมีเสียงดังกร๊อบแกร๊บ พลางก่นด่าอยู่แบบนั้นแล้วเดินออกจากประตูบ้านไป

“เสี่ยวเซวียน นายจะทำอะไรน่ะ? กลับมาเดี๋ยวนี้!” ฉินอี้หลินรั้งตัวน้องชายของเธอที่กำลังระเบิดโมโหอยู่ตอนนี้กลับมา : “ควบคุมอารมณ์ตัวเองหน่อยสิ พูดอะไรออกมารู้ตัวไหม?”

“จำมารยาทขั้นพื้นฐานไม่ได้หรือไง?” แอนนาเองก็ไม่พอใจที่ลูกของตัวเองสบถคำหยาบคายออกมาแบบนั้น ตระกูลหลงของพวกเธอเป็นตระกูลที่ให้ความสำคัญกับท่าทางที่สง่างาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ก็ห้ามสูญเสียการควบคุมไปเด็ดขาด

“ผะ…ผม…ผมไม่ได้ร้อนใจเสียหน่อย” หลงอี้เซวียนรู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด จึงยืนนื่งอยู่แบบนั้นอย่างว่าง่าย ไม่พูดอะไรขึ้นต่อ เพียงแต่แววตาของเขายังคงมองไปที่คอของพี่สาวตัวเองไม่ละสายตา

“หมิงเจ๋อกับจิ่นเซวียนเป็นอย่างไรบ้างล่ะคะ?” สำหรับฉินอีหลินแล้ว คนที่เธอเป็นห่วงมากที่สุดก็คือลูกทั้งสองคน

“เล่นอยู่ในห้องทั้งคู่น่ะ ลูกวางใจเถอะนะ พวกเขาไม่เป็นอะไร” แอนนาเองก็เป็นแม่คนหนึ่งเหมือนกัน เธอเข้าใจสภาพจิตใจของฉินอีหลินได้เลย ว่าที่เธอถามแบบนี้ต้องการคำตอบที่รวดเร็วขนาดไหน

แต่แอนนาเองก็มองไปยังฉินอีหลินอย่างเป็นห่วง เธอเองก็ไม่คิดว่าปฏิกิริยาตอบสนองของหลงอี้เซวียนจะรุนแรงขนาดนั้น ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร อีกทั้งไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลย

ฉินอีหลินทำท่าลูบไปที่รอยแดงๆ บนคอของเธอ พลางคิดไปว่า เขากับเขาเมื่อห้าปีก่อนช่างไม่ต่างกันเลย ไม่ว่าจะท่าทีเผด็จการกับเรื่องแบบนี้ ถึงจะยังอาลัยรักอยู่ แต่ฉินอีหลินไม่ได้แสดงมันออกทางสีหน้าเลยแม้แต่น้อย

เธอยักไหล่อย่างไม่สนใจใยดี ก่อนจะยิ้มพูดขึ้น : “ก็แค่คืนเดียวน่ะ พวกเราต่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว จะไปสนใจอะไรให้มากความทำไม อีกอย่าง แม่คะ ก่อนหน้านี้แม่ก็หาผู้ชายฝรั่งหน้าตาดีหลายคนมาให้หนูนี่นา นิสัยของพวกเขานี่เหมือนกันหมดเลยนะคะ เพราะฉะนั้นนายวางใจเถอะนะ”

ฉินอีหลินตบไหล่ปลอบใจหลงอี้เซวียนขึ้น คำพูดของเธอนั้นเหมือนกับกำลังบอกทั้งสองคน อีกทั้งกำลังเกลี้ยกล่อมตัวเองอยู่เลย

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

ประธานจอมหื่นสุดซ่า

Status: Ongoing

ยืนอยู่หน้าประตูบาร์ เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอเข้าบาร์ ตอนเช้าของวันนี้ มีข่าวซุบซิบบันเทิงดังไปทั้งเมือง คุณหนูตระกูลใหญ่ไปกับผู้ชายเมื่อคืน หน้าหนังสือพิมพ์ยังมีรูปภาพที่เธอถูกผู้ชายกอดเข้าโรงแรม

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท